วิถีตลาดรถยนต์
ความโศกเศร้ายังคงปกคลุมเหนือผืนแผ่นดินไทย
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2016/2015
ตลาดโดยรวม,-15.3 % รถยนต์นั่ง,-11.6 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),-63.0 % รถอเนกประสงค์ (MPV),92.9 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,8.4 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,-13.3 % อื่นๆ,11.3 %เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2016/2015
ตลาดโดยรวม,-2.3 % รถยนต์นั่ง,-3.5 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),-14.3 % รถอเนกประสงค์ (MPV),25.1 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,2.8 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,-12.4 % อื่นๆ,-0.3 % [/table] บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจจากการสูญเสียพ่ออันเป็นที่รักยิ่งของคนไทย ยังคงปกคลุมอยู่ทั่วทุกตารางนิ้วของผืนแผ่นดินไทย ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างหลั่งไหลไปรอถวายสักการะพระบรมศพในพระบรมมหาราชวังอย่างเนืองแน่น ถึงแม้ว่าจะต้องเข้าคิวรอข้ามวันข้ามคืนก็ไม่ย่อท้อ ขณะที่หลายภาคส่วนต่างยื่นมือเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกแก่พสกนิกรชาวไทย ที่ประสงค์จะเดินทางมาเพื่อการนี้กันอย่างมากมายหลายหน่วยงาน รวมถึงบริษัทรถยนต์ต่างๆ ที่จัดหายานพาหนะมารับส่งผู้คน, การบริจาคข้าวสารเพื่อนำไปประกอบอาหารแจกจ่ายแก่ประชาชน, การจัดโครงการทำความดีต่างๆ ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่บริษัทต่างๆ เหล่านี้ได้เข้ามาทำธุรกิจต่างๆ บนผืนแผ่นดินของพระองค์ท่านมาอย่างยาวนาน ซึ่งบรรยากาศแห่งความโศกเศร้าและการทำความดีเพื่อพ่อเหล่านี้จะยังคงอยู่ไปอีกอย่างยาวนานแน่นอน สำหรับบรรยากาศของการซื้อขายรถยนต์ใหม่ในประเทศ เดือนพฤศจิกายน 2559 โดยรวมยังคงปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับในเดือนพฤศจิกายน 2558 นอกเหนือจากการชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปก่อน เพราะยังอยู่ในช่วงเวลาของความเศร้าโศก ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากกระบวนการเร่งการตัดสินใจซิ้อที่บริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์นำเสนอต่อผู้บริโภคในช่วงปลายปี 2558 ก่อนที่จะมีการปรับราคารถยนต์ขึ้นตามการคิดอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ ที่จะเริ่มใช้ในปี 2559 อีกสาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากการเป็นที่รับรู้กันว่าเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่บริษัทรถยนต์ต่างๆ เตรียมตัวเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนถัดไป นอกจากจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เปิดตัวเข้าสู่ตลาดเป็นระลอกสุดท้ายของปีแล้ว ช่วงระยะเวลาการจัดงานใหญ่งานนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่บริษัทรถยนต์จะนำเสนอแคมเปญพโรโมชันพิเศษสุดส่งท้ายปีอีกด้วย จึงทำให้ผู้ที่จะซื้อรถใหม่ส่วนหนึ่ง ยืดเวลาการตัดสินใจซื้อออกไปเพื่อรอดูข้อเสนอสุดพิเศษแบบทิ้งทวนเหล่านั้นกันเสียก่อน เหตุทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้จึงทำให้ยอดการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 64,771 คัน ลดลง 15.3 % จากตัวเลขยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2558 ซึ่งเมื่อนำไปรวมกับยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม เป็นต้นมา ได้ตัวเลขออกมาเป็น 681,930 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2558 แล้ว 11 เดือนแรกของปี 2559 ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศปรับตัวลดลง 2.3 % เหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนเท่านั้นก็จะปิดปัญชียอดจำหน่ายของปี 2559 แล้วจะเข้าเป้าหรือหลุดเป้า 4 WHEELS ฉบับต่อไปมีคำเฉลย จากยอดจำหน่ายรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายน 2559 รถยนต์ใหม่ป้ายแดงที่ได้รับการจับจองเป็นเจ้าของมากที่สุดในสัดส่วนร้อยละ 36.3 เป็นรถยนต์ที่ติดโลโก โตโยตา สามารถจำหน่ายได้รวมทั้งสิ้น 23,494 คัน รองลงมาเป็นรถยนต์รุ่นต่างๆ ของค่าย อีซูซุ 12,010 คัน คิดเป็นร้อยละ 18.5 ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 3 ได้แก่ ฮอนดา 7,389 คัน เท่ากับ 11.4 % ของตลาดทั้งหมด อันดับ 4 มิตซูบิชิ จำหน่ายรวมกันได้ 4,417 คัน คิดเป็น 6.8 % ของตลาดรวม และอันดับ 5 ฟอร์ด จำหน่ายได้ 3,843 คัน เท่ากับ 5.9 % ของตลาดรวม สำหรับรถยนต์ที่ยอดจำหน่ายสะสมมากสุดเมื่อผ่านพ้นไป 11 เดือน อันดับ 1 โตโยตา 216,360 คัน ส่วนแบ่งตลาด 31.7 % อันดับ 2 อีซูซุ 127,654 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 18.7 % อันดับ 3 ฮอนดา 97,000 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.2 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 49,535 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.3 % และอันดับ 5 มาซดา 38,043 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.6 % พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยอดจำหน่ายรวมกันทุกยี่ห้อในเดือนพฤศจิกายน 2559 มีทั้งสิ้น 27,395 คัน ถือว่าเป็นตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด เมื่อเทียบกับตลาดรถยนต์ประเภทเดียวกันในปี 2558 โดยเดือนพฤศจิกายน 2559 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.4 % ส่วนยอดจำหน่ายรวม 11 เดือนที่ผ่านมา ปี 2559 มีทั้งสิ้น 274,089 คัน เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2558 อยู่ 2.8 % เฉพาะเดือนพฤศจิกายน ยอดจำหน่ายสูงสุดเป็น โตโยตา จำหน่ายได้ 9,851 คัน ส่วนแบ่งตลาดเท่ากับ 36.0 % ส่วนคู่แข่งสำคัญ อีซูซุ จำหน่ายได้มากสุดเป็นอันดับ 2 ยอดจำหน่ายรวมทุกรุ่นอยู่ที่ 9,415 คัน มีส่วนแบ่งตลาดที่ 34.4 % ขณะที่ ฟอร์ด พิคอัพมาแรงประจำปี 2559 เดือนพฤศจิกายนนี้จำหน่ายไปได้อีก 2,632 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.6 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 2,095 คัน รับส่วนแบ่งตลาดไป 7.6 % ซึ่งพิคอัพทั้ง 4 ยี่ห้อนี้มียอดจำหน่ายที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่เคยทำได้ในเดือนพฤศจิกายน 2558 ทั้งสิ้น ขณะที่พิคอัพของค่าย นิสสัน ออกจะแผ่วไปหน่อย ถึงจะมียอดจำหน่ายสูงเป็นอันดับ 5 แต่ก็เป็นยอดจำหน่ายที่ปรับตัวลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2558 โดยจำหน่ายได้ 1,345 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 4.9 % สำหรับพิคอัพที่มียอดจำหน่ายรวมสูงสุดเมี่อ 11 เดือนแรกของปี 2559 ผ่านไป ยังเป็นพิคอัพของค่าย อีซูซุ มียอดสะสมอยู่ที่ 102,780 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37.5 % จากยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาด 274,089 คัน ตามมาแบบยังพอมีลุ้นตำแหน่งแชมพ์อยู่บ้างเล็กน้อย โตโยตา จำหน่ายแล้ว 92,465 คัน ส่วนแบ่งตลาด 33.7 % อันดับ 3 ฟอร์ด ยอดจำหน่ายรวม 11 เดือน 23,398 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.5 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 18,553 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 6.8 % และอันดับ 5 นิสสัน 14,879 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.4 % พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนพฤศจิกายน 2559 มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งหมด 2,870 คัน ลดลง 13.3 % เมื่อเทียบกับพฤศจิกายน 2558 ยอดจำหน่ายสูงสุดเป็น โตโยตา 1,667 คัน คิดเป็น 58.1 % ของส่วนแบ่งตลาดทั้งหมด อันดับ 2 อีซูซุ 510 คัน เท่ากับ 17.8 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาด อันดับ 3 ฟอร์ด จำหน่ายได้ 366 คัน ส่วนแบ่งตลาด 12.8 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 207 คัน ส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 7.2 % และอันดับ 5 นิสสัน 71 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.5 % รวม 11 เดือนของปี 2559 จำหน่ายไปแล้วทั้งสิ้น 24,222 คัน ลดลง 12.4 % เบอร์ 1 ของตลาดเซกเมนท์นี้เป็น โตโยตา จำหน่ายไปแล้ว 13,494 คัน ส่วนแบ่งตลาด 55.7 % อันดับ 2 อีซูซุ 4,322 คัน ส่วนแบ่งตลาด 17.8 % อันดับ 3 ฟอร์ด จำหน่ายแล้ว 3,466 คัน เท่ากับ 14.3 % ของตลาดทั้งหมด อันดับ 4 มิตซูบิชิ 1,909 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.9 % และอันดับ 5 นิสสสัน 676 คัน เท่ากับ 2.8 % ของยอดจำหน่ายตลาดนี้ทั้งหมด รถเอสยูวี ที่ครึ่งปีแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ 2-3 เดือนที่ผ่านมาพร้อมใจกันปรับตัวลดลงแทบทั้งตลาด เดือนพฤศจิกายนนี้ก็ยังออกอาการเดิมโดยมียอดจำหน่ายรวมที่ 6,854 คัน ลดลง 63.0 % เมื่อเทียบกับพฤศจิกายน 2558 โดยที่ยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับ 1 เป็น โตโยตา จำหน่ายได้ 2,050 คัน ส่วนแบ่งตลาด 29.9 % ตามมาเป็นอันดับ 2 ฮอนดา จำหน่ายได้รวม 1,209 คัน คิดเป็นสัดส่วนการตลาด 17.6 % อันดับ 3 อีซูซุ ยึดไปด้วยยอดจำหน่าย 847 คัน ส่วนแบ่งตลาด 12.4 % อันดับ 4 ฟอร์ด ได้ไปจากยอดจำหน่าย 787 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.5 % อันดับ 5 มิตซูบิชิ 784 คัน ส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 11.4 % ยอดรวม 11 เดือน มีทั้งสิ้น 87,621 คัน ลดลง 14.3 % เป็นตัวเลขที่ลดลงจากช่วง 11 เดือนของปี 2588 รถเอสยูวีที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย โตโยตา 24,882 คัน ส่วนแบ่งตลาด 28.4 % ฮอนดา 16,537 คัน ส่วนแบ่งตลาด 18.9 % มิตซูบิชิ 13,917 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.9 % ฟอร์ด 8,242 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.4 % และอีซูซุ 7,633 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.7 % รถเอมพีวี เดือนพฤศจิกายนมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 1,771 คัน เพิ่มขึ้นถึง 92.9 % ความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรกเป็น โตโยตา 1,020 คัน ส่วนแบ่งตลาด 57.6 % ฮอนดา 627 คัน ส่วนแบ่งตลาด 35.4 % ซูซูกิ 57 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.2 % เกีย 41 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.3 % และฮันเด 15 คัน ส่วนแบ่งตลาด 0.8 % ยอดจำหน่ายรวม 11 เดือนของตลาดนี้ 15,637 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.1 % ยอดสะสมสูงสุด ฮอนดา 10,166 คัน ส่วนแบ่งตลาด 65.0 % ของตลาดทั้งหมด โตโยตา 3,618 คัน ส่วนแบ่งตลาด 23.1 % ซูซูกิ 742 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.7 % เกีย 351 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.2 % และนิสสัน 330 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.1 % รถยนต์ประเภทอื่นๆ เดือนพฤศจิกายนนี้ 3,830 คัน เพิ่มขึ้น 11.3 % แต่รวม 11 เดือนจำหน่ายได้ 36,389 คัน ลดลง 0.3 %เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2560
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/159855