พิเศษ(4wheels)
MOTOR EXPO PROFESSIONAL SEMINAR
บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33" จัดสัมมนาภายใต้โครงการ MOTOR EXPO PROFESSIONAL SEMINAR หัวข้อ "ประเทศไทยพร้อมก้าวสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าแล้วหรือยัง ?" โดยมีวิทยากรภาครัฐและเอกชนมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ณัฐพล รังสิตพล ผู้ตรวจราชการ กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รถพลังงานไฟฟ้า หรือ บีอีวี (BEV: BATTERY ELECTRIC VEHICLE) เป็นกระแสที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ ซึ่งไทยก็จะต้องเดินไปในเส้นทางนี้ด้วยเช่นกัน โดยการจะผลักดันให้มีรถบีอีวีเกิดขึ้น และได้รับความสนใจจากนักลงทุน จะต้องกำหนดกรอบการส่งเสริมที่ชัดเจนและดึงดูดเพียงพอ ซึ่งเห็นว่าการใช้เงื่อนไขทางด้านภาษีอย่างเดียวไม่เพียงพอ อีกทั้งโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่เพิ่งบังคับใช้ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเท่านั้น จึงไม่ควรจะไปยุ่งกรอบภาษี แต่ควรหามาตรการส่งเสริมด้านอื่นๆ เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพิเศษด้านต่างๆ ซึ่งเป็นแนวทางที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วกับรถอื่นๆ เช่น รถพิคอัพ
การเสริมรถบีอีวี นั้นควรมี 3 กลุ่มหลัก คือ 1. รถเดิมที่พัฒนาขึ้นเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 2. รถพลังงานไฟฟ้า รุ่นใหม่ๆ โดยดึงนักลงทุนเข้ามาผลิตในประเทศ และ 3. กลุ่มรถบัสโดยสาร รถใช้งานเฉพาะ เช่น รถท่องเที่ยว รถสามล้อ ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นการให้โอกาสกับกลุ่มธุรกิจของไทยที่สามารถพัฒนาได้
ในส่วนที่ 2 หรือการลงทุนผลิตรถบีอีวี จะต้องดึงกลุ่ม พลัก-อิน ไฮบริด (พีเอชอีวี-PHEV) เข้ามาร่วมด้วย เพราะรถทั้ง 2 กลุ่ม ใช้ชิ้นส่วนสำคัญพื้นฐานร่วมกัน เช่น แบทเตอรี มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยทำให้การเติบโตเร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ พีเอชอีวี จะต้องได้สิทธิประโยชน์ที่น้อยกว่า บีอีวี
ธนวัฒน์ คุ้มสิน นายกสมาคมยานยนต์ไทย กล่าวว่า การเข้าร่วมประชุม OICA GENERAL ASSEMBLY ล่าสุดที่มอสโกว์ สหพันธรัฐรัสเซีย พบว่าผู้บริหารค่ายรถหลายค่ายมีความคิดเห็นเหมือนกันว่า แม้รถบีอีวีจะเป็นกระแสใหม่ของโลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารถประเภทนี้จะเหมาะสมกับทุกประเทศ ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมในด้านต่างๆ ของแต่ละประเทศ และที่สำคัญการจะผลักดันให้เกิดขึ้นได้จะต้องมีมาตรการส่งเสริมที่เข้มข้นอย่างมาก
ทั้งนี้รัฐจะส่งเสริมรถบีอีวีอย่างไรนั้น ควรจะต้องศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้รอบด้าน ถึงความเหมาะสมของตลาด รวมถึงผลกระทบต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมในปัจจุบันที่มีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจ เห็นได้จากปีที่ผ่านมาเราส่งออกสินค้ากลุ่มยานยนต์กว่า 8.63 แสนล้านบาท
สุพจน์ สุขพิศาล รองเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย กล่าวว่า การส่งเสริมรถบีอีวี ควรจะต้องคำนึงถึงผลกระทบกับอุตสาหกรรมในปัจจุบันด้วย เพราะรถบีอีวีจะลดการใช้ชิ้นส่วนลงจำนวนมากจากเฉลี่ย 3 หมื่นชิ้นในรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) เหลือประมาณ 1,500 ชิ้น ในรถบีอีวี ซึ่งชิ้นส่วนที่จะได้รับผลกระทบหลัก คือ เครื่องยนต์ ระบบหล่อเย็น ระบบไอเสีย ระบบส่งกำลัง ระบบเบรค เป็นต้น
"เราคงไม่สามารถคัดค้านนโยบาย แต่ว่าการประชุมร่วมกันของผู้ผลิตชิ้นส่วน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็มีข้อเสนอ 5 ประเด็น ที่อยากให้รัฐพิจารณา"
5 ประเด็นดังกล่าว ได้แก่ 1. ให้ศึกษาผลกระทบกับผู้ผลิตชิ้นส่วนและบุคลากร 2. ผลกระทบกับความมั่นใจของนักลงทุนในปัจจุบัน ซึ่งมีหลายบริษัทที่มีแผนลงทุนในเฟสต่อๆ ไป อาจจะไม่มีความมั่นใจในการลงทุน 3. ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน บีอีวี 4. ผลกระทบกับการส่งเสริมอื่นๆ ก่อนหน้านี้ เช่น ไบโอดีเซล เอธานอล และ 5. แนวทางการกำจัดขยะอีเลคทรอนิคส์
ยศพล ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า กล่าวว่า ปัจจุบันมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและคัดค้านรถบีอีวี ซึ่งจะต้องเร่งสร้างความเข้าใจ รวมทั้งชี้ให้เห็นว่า แม้รถบีอีวีจะเข้ามา แต่ก็จะเติบโตอย่างช้าๆ และมีเวลาให้ผู้ผลิตปัจจุบันปรับตัว
นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคที่สำคัญอีกประการ คือ เทคโนโลยีของแต่ละค่ายที่ไม่เหมือนกัน เช่น ระบบชาร์จ ซึ่งมีหลายมาตรฐานที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทั้งในญี่ปุ่น จีน ยุโรป หรือสหรัฐฯ ซึ่งภาครัฐของไทยยังไม่ระบุว่าจะใช้มาตรฐานใด
อย่างไรก็ตามเห็นว่ารถไฟฟ้าจะต้องเดินหน้าต่อไปตามทิศทางของโลก และในอนาคตอุปสรรคหลายอย่างจะลดลง เช่น ต้นทุนของชิ้นส่วนหลัก คือ แบทเตอรี ที่ในอดีตมีราคาสูงมาก ก็ลดลงในขณะนี้ และเชื่อว่าช่วงปี 2563-2568 ต้นทุนอาจลดลงมาใกล้เคียงกับรถสันดาปภายใน ซึ่งถึงเวลาดังกล่าว แม้ไม่มีการส่งเสริมจากภาครัฐ รถบีอีวี ก็อาจอยู่ได้ด้วยตนเอง
ทั้งนี้สมาคมตัองการเห็นแนวทางการส่งเสริมที่ชัดเจนเกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งหากมาตรการส่งเสริมนำเข้าที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ได้ ก็น่าจะได้เห็นรายละเอียดของมาตรการได้เร็วยิ่งขึ้น
อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ ปตท.จะเป็นผู้ผลิตน้ำมัน แต่ก็เห็นความสำคัญของเทคโนโลยีใหม่ อย่างรถบีอีวี จึงต้องเตรียมความพร้อมเช่นกัน โดยเฉพาะการศึกษาเรื่องของระบบชาร์จไฟ โดยศูนย์วิจัยที่วังน้อย และขณะนี้ประสบความสำเร็จในการออกแบบระบบดังกล่าว โดยมีต้นทุนที่แข่งขันกับตลาดได้ และจะดำเนินการผลิตในอนาคต
ทั้งนี้ยังได้ติดตั้งระบบชาร์จในสถานีบริการต่างๆ เพื่อศึกษาตลาด โดยเบื้องต้นตั้งเป้ารวม 20 สถานี
ยุทธพงษ์ ภาษี นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย กล่าวในฐานะตัวแทนของสื่อมวลชนจะทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวสารในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจว่ารถไฟฟ้าไม่ได้มาทดแทนรถยนต์ เพราะถ้าไม่สร้างความเข้าใจจะเกิดความกังวล และการคัดค้านเรื่องความไม่ชัดเจน ซึ่งสื่อมวลชนจะเป็นสื่อที่จะหาความจริง ที่เหมาะสม ถูกต้อง นำเสนอ และช่วยกันสร้างความเข้าใจ
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2560
คอลัมน์ Online : พิเศษ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/156044