รายงาน(formula)
รถใหม่ 2560 รุ่นไหนมาแรง !?!
HONDA CR-V
ฮอนดา ซีอาร์-วี เจเนอเรชันที่ 5 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ที่ถูกปรับปรุงทั้งหน้าตา ประโยชน์ใช้สอย รวมถึงขุมพลังเครื่องยนต์ให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มิติตัวถังภายนอก มีขนาดใหญ่กว่าเจเนอเรชันที่ 4 ฝากระโปรงหน้าและกระจังหน้า ถูกปรับให้มีเส้นสายโค้งเสมอกัน รับกับแนวโคมไฟหน้า ที่ฝังไฟ DAYTIME RUNNING LIGHT LED อยู่ภายในโคมเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น ส่วนไฟท้ายดีไซจ์นใหม่ แยกออกจากกันระหว่างฝากระโปรงท้ายและตัวถัง ภายในกว้างขวาง ติดตั้งเบาะนั่ง 5 ที่นั่ง โครงเบาะดูแข็งแรงและขึ้นลวดลายสลักเบาะเห็นเป็นรูปทรงเด่นชัด เบาะหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 ใช้พวงมาลัยแบบเดียวกันกับ ซีวิค รุ่นปี 2016 ติดตั้งจอทัชแพด ระบบสัมผัสขนาดทัชสกรีน 7 นิ้ว ด้วยระบบปฏิบัติการ ANDROID รองรับบริการระบบนำทาง HONDA LINK ที่สนับสนุนระบบแผนที่โดย GARMIN และรองรับการเชื่อมต่อกับ APPLE CAR PLAY และ ANDROID AUTO คันเกียร์อยู่ชิดกับคอนโซลหน้า ใกล้เคียงกับสวิทช์ควบคุมระบบปรับอากาศ มาตรวัดความเร็วรอบเป็นแนวนอนสวยงามแปลกตา ส่วนความเร็วรถแสดงเป็นตัวเลขดิจิทอลทันสมัยยิ่งขึ้น ซีอาร์-วี เจเนอเรชันนี้ แบ่งรุ่นย่อยเป็น แอลเอกซ์, อีเอกซ์, อีเอกซ์-แอล และทัวริง ในรุ่นมาตรฐาน แอลเอกซ์ ใช้เครื่องยนต์เดิม 4 สูบ 2.4 ลิตร แต่ปรับทูนใหม่ ได้กำลัง 184 แรงม้า ส่วนรุ่นอื่นเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ บลอคเดียวกับที่ประจำการใน ซีวิค แต่ปรับทูนใหม่ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ระบบความปลอดภัย มาพร้อมสัญญาณเตือนการชนด้านหน้า ระบบช่วยเตือนการเปลี่ยนเลน ระบบเตือนจุดอับสายตาMAZDA CX-5
มาซดา ซีเอกซ์-5 รุ่นปี 2017 หน้าตาคมเข้ม ทันสมัยกว่าเดิม พัฒนาบนโครงสร้างตัวถังจาก ซีเอกซ์-5 รุ่นปัจจุบัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าลายตาข่ายขนาดใหญ่ ฝังลึกเข้าไปจากฝากระโปรงด้านหน้า ทำให้ดูมีมิติ พร้อมแถบโครเมียมพาดยาวอยู่ด้านล่างของกระจังหน้าไปจนถึงไฟหน้า เสาเอ ถูกร่นถอยไปด้านหลังเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ทำให้ตัวรถด้านหน้ามีความปราดเปรียว และยังใช้สีแดงทับทิม เป็นจุดขายเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ ภายในออกแบบให้มีความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยมาดสปอร์ท ช่องแอร์ปรับเปลี่ยนเป็นรูปทรงห้าเหลี่ยม คอนโซลหน้าและตำแหน่งคันเกียร์อยู่สูงกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย ด้านท้ายรถมีพื้นที่เก็บสัมภาระความจุ 505 ลิตร (กรณีไม่ได้พับเก็บเบาะ) ติดตั้งระบบเชื่อมต่อ MZD CONNECT ระบบเครื่องเสียงของ BOSE พร้อมลำโพงถึง 10 ตัว ส่วนทางด้านเครื่องยนต์คาดว่ายังใช้บลอคเดียวกับรุ่นที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 และ 2.5 ลิตร และ SKYACTIV-D ขนาด 2.2 ลิตร แต่เพิ่มเทคโนโลยีระบบควบคุมการทรงตัว G-VECTORING CONTROL แปรผันแรงบิดให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ขณะเข้าโค้งNISSAN MARCH
อีโคคาร์รุ่นแรกในเมืองไทยอย่าง นิสสัน มาร์ช กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง กับการเปลี่ยนโฉมครั้งใหม่ โดยถอดแบบมาจาก นิสสัน สเวย์ คอนเซพท์ ออกมาได้อย่างลงตัว นิสสัน มาร์ช รุ่นปี 2017 ออกแบบใหม่หมด ลดความโค้งมนของตัวถัง เน้นความเฉียบคม ล้ำสมัยมากขึ้น กระจังหน้ายังคงเอกลักษณ์ V-MOTION เอาไว้ ซึ่งรับกับเส้นสายฝากระโปรงหน้าที่ลาดลงมาจรดได้อย่างเฉียบคม กันชนหน้าด้านล่าง เป็นสันเหลี่ยมกระดกขึ้นมาทั้ง 2 ข้าง (คล้ายกับติดสปอยเลอร์) หากมองจากด้านข้างหลังคาเทลาดเอียงตั้งแต่เสาบี เสริมเติมแต่งวัสดุสีดำระหว่างกระจกผู้โดยสารตอนหลัง เชื่อมต่อไปยังกระจกประตูหลังรถ ทำให้รถดูมีมิติที่ยาวขึ้น ประตูหลังซ่อนมือเปิดประตูไว้ที่กรอบกระจก (คล้ายกับ นิสสัน จูค) ไฟเบรครูปทรงบูเมอแรง ภายในถอดแบบจาก นิสสัน สเวย์ คอนเซพท์ จัดวางองค์ประกอบอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถได้ใกล้เคียงกัน แต่ลดความล้ำสมัยลงไป ตั้งจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว ระบบนำทาง รองรับ APPLE CAR PLAY เครื่องเสียงคุณภาพ ติดตั้งลำโพง 6 จุด ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 73 แรงม้า และคาดว่าอาจมีเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า เข้ามาประจำการด้วยSUZUKI SWIFT
รถเล็กขนาดกะทัดรัดอย่าง ซูซูกิ สวิฟท์ ถึงเวลาเปลี่ยนโฉมใหม่ โดยมีรูปร่างหน้าตาที่คมเข้มมากขึ้น เครื่องยนต์ และระบบความปลอดภัย ยกระดับให้เหนือชั้นมากกว่าเดิม รูปลักษณ์ภายนอกปรับเปลี่ยนใหม่เกือบทั้งหมด แต่ยังทิ้งกลิ่นอายของรุ่นเดิมเอาไว้เล็กน้อย เสาเอด้านหน้าตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ เช่นเดียวกับเสาซีที่ตกแต่งด้วยเส้นสายแถบสีดำลากยาวต่อเนื่องไปสู่กระจกด้านท้ายรถ ไฟหน้าแบบใหม่ กระจังหน้ารังผึ้งขนาดใหญ่แบบหกเหลี่ยม ไฟหน้าพโรเจคเตอร์มาพร้อมไฟ DAYTIME RUNNING LIGHT น้ำหนักรถโดยรวมลดลงเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว เครื่องยนต์มีทั้งดีเซล DUALJET 1.2 ลิตร 4 สูบ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ CVT และเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร 3 สูบ BOOSTERJET TURBO ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า และคาดว่าในรุ่นทอพ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ใส่เข้ามาเพิ่มเติม ด้วยระบบเบรค RADAR BRAKE SUPPORT (RBS) ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และไฟหน้าเปิด/ปิดอัตโนมัติด้วยTOYOTA CH-R
หลังจากปล่อยให้คู่แข่งอย่าง ฮอนดา เอชอาร์-วี มาซดา ซีเอกซ์-3 นิสสัน จูค และฟอร์ด อีโคสปอร์ท ออกทำตลาด สร้างยอดขายไปก่อนหน้านี้ ในปีนี้ก็ถึงเวลาของพี่ใหญ่ โตโยตา ที่ต้องทวงคืนยอดขายรถครอสส์โอเวอร์ โตโยตา ซีเอช-อาร์ ได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้วในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา 2016 ด้วยรูปทรงที่เป็นรถครอสส์โอเวอร์ท้ายลาด คล้ายกับสไตล์คูเป ด้านหน้ายังใช้การออกแบบ KEEN LOOK DESIGN ที่มีไฟคาดยาวต่อเนื่องตั้งแต่เหนือซุ้มล้อ ลากยาวมาจนถึงบริเวณกระจังหน้า ช่องดักอากาศติดตั้งอยู่ด้านล่างของกันชน ส่วนด้านข้างเน้นความโค้งมนสะดุดตา ด้วยการออกแบบประตูคู่หลัง ให้ดูคล้ายกับรถคูเป แนวเส้นหลังคาด้านบนถูกพ่นด้วยสีดำตั้งแต่ด้านหน้า ยาวมาจนถึงสปอยเลอร์ด้านหลัง ซุ้มล้อคาดด้วยคิ้วกันกระแทกสีดำ ดูแข็งแกร่ง ระบบความปลอดภัย มีมาให้ครบ อย่างระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบแจ้งเตือนรถออกนอกเลน ระบบปรับลดไฟสูงอัตโนมัติ ระบบตรวจจับคนเดินเท้า และระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติ ช่วงล่างถูกปรับเซทให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ลดการโคลงตัว ควบคุมรถได้แม่นยำ ระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระ มัลทิลิงค์ หัวใจหลักที่อยู่เหนือคู่แข่ง คือ เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร เทอร์โบ ทำงานควบคู่กับขุมพลังไฮบริด จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และอัตโนมัติ CVT มีทั้งในเวอร์ชันขับเคลื่อน 4 ล้อ และ 2 ล้อหน้า และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร มาให้เลือกใช้กันเรื่องโดย : พีรพัฒน์ อินทมาตย์
ภาพโดย : อินเตอร์เนท
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2560
คอลัมน์ Online : รายงาน(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/153703