ชีวิตคือความรื่นรมย์
รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ
ตามธรรมดาของเดือนธันวาคม สิ่งที่เรามักจะคำนึงถึงบทประพันธ์เกี่ยวกับวันพ่อ เพราะเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แต่ในวาระที่คนไทยทั้งชาติ ทั้งในประเทศและนอกประเทศต่างมีความรู้สึกและสำนึกในสิ่งเดียวกัน คือ ความเศร้าโศกเสียใจ ทั้งๆ ที่ทำใจเตรียมรับเพราะข่าวเสด็จเข้าโรงพยาบาลศิริราชเพื่อรักษาอาการพระประชวร คนไทยต่างก็เป็นห่วงพระอาการตลอดถึงกับไปเฝ้าฟังพระอาการ ไปเฝ้าสวดมนต์ขออำนอาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดดลบันดาลให้ทรงหายพระประชวร กลับมีพระพลานามัยดังเช่นพสกนิกรปรารถนาสุดจิตสุดใจ
แต่ชาวไทยทั้งโลกก็ต้องร่ำไห้ เสียดาย เสียใจ โศกสลดรันทด สุดแสนยากจะทำใจรับสถานการณ์ที่เป็นไปได้ ได้แต่ระลึก-สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ที่จะช่วยคลายความโศกเศร้าเสียใจด้วยน้อมนำเอาพระราชดำรัส ตามรอยพระราชดำริมาปรับใช้ให้เป็นคุณประโยชน์แก่สังคม คนรอบข้าง และประเทศชาติ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าตามรอยพระบาทในเรื่องภาษามาตลอด ในวาระนี้จึงขอแทนคุณแผ่นดินในเรื่องภาษา ซึ่งเหมาะกับกาละ ด้วยเรื่อง “ราชาศัพท์บางคำที่ควรรู้”
คำแรก “พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ “ที่หลายคนเพิ่งได้ยิน เมื่อผู้อ่านข่าว อ่านซ้ำๆ แทบทุกประโยค ก็ทำให้ผู้รู้ รู้สึกแทบทนไม่ได้ เพราะที่เคยได้เรียนรู้มา คำนี้จะใช้เมื่อทางราชการได้ประกาศเป็นทางการว่ามีกษัตริย์พระองค์ใหม่แล้ว ในสภาพที่เป็นจริง คือ มีกษัตริย์ 2 พระองค์ ในช่วงเวลานั้น จึงได้เอ่ยนามพระมหากษัตริย์องค์เก่าว่าดังนั้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติการ-ข้าราชบริพาร-ข้าราชการ หรือประชาชนทั่วจะได้เข้าใจตรงกัน ว่าที่เอ่ยพระนามว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” นั้นคือ พระองค์ใด
ตามประเพณีสากลที่ว่า “แผ่นดินต้องไม่ไร้กษัตริย์” (อ้างตามโพสต์ของอาจารย์
ดร. สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ที่ฝรั่งกล่าวว่า “THE KING IS DEAD, LONG LIVE THE KING.” คือ โดยถือว่าเมื่อกษัตริย์พระองค์เก่าสวรรคตแล้ว ก็ถือว่ามีกษัตริย์องค์ใหม่โดยอัตโนมัติ จึงอวยพรพระองค์ใหม่ไปพร้อมกับข่าวสวรรคต ซึ่งอาจาย์บอกว่า นั่นมันประเพณีฝรั่ง ส่วนของไทยยังมีขั้นตอนอื่นๆ (อาจารย์ใช้คำว่า PROCESS OF CHANGE) อีกมาก
แต่ที่สำคัญ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นองค์รัชทายาท ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ หรือที่รัฐธรรมนูญของไทยมีบัญญัติไว้ชัดแจ้ง พระองค์ทรงมีรับสั่งว่า พระองค์ทรงมีความรู้สึกเหมือนกับประชาชนคนไทยทั้งมวล คือ (ขอใช้ภาษาธรรมดาๆ ว่าทรงมีความทุกข์โศก ความเศร้าเสียพระทัย ความอาลัย ความรู้สึกรัก และผูกพันในบรรยากาศเดิมๆ เฉกเช่นประชาชนทั่วไป ทรงรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนตั้งพระสติไม่ทัน) จึงมีพระราชบัณฑูรว่า ยังไม่ต้องรีบร้อน ขอให้งานพระราชพิธีผ่านไปก่อน นี่จึงเป็นที่มาของการตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งใช้คำวา “ผู้สำเร็จราชการชั่วคราวไปพลางก่อน”
แล้วคำบ่น-คำปรารภก็มีผู้บ่นผ่านทางสื่อต่างๆ (เช่น เฟศบุค ฯลฯ) ออกไปให้คนของรัฐถึงรัฐและรัฐบาล ความรู้สึกอันไม่สบายใจของปวงชนทั่วทั้งประเทศ และคนไทยที่จงรักภักดีทั้งหลายที่อยากได้ยินสื่อช้ำเรียกด้วยความรัก “สุดหัวใจ” ดุจเดิม ก็ได้รับการตอบสนอง เป็นการเยียวยาความรู้สึกของพลเมืองของ “พ่อของแผ่นดินผู้เป็นที่รักและเคารพยิ่ง” ระดับหนึ่ง เช่น สถาบันบัณฑิตยสภา ก็ออกมาให้ความเห็นในการเรียกพระนามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้หลายๆ แนวทาง โดยไม่จำเป็นต้องเรียกให้แปลกหูเพราะคนทั้งหลายยังแนบแน่นในพระนามอันที่เคยเอ่ยมามากกว่า 70 ปีที่ทรงครองราชย์เสียอีก เป็นการผ่อนคลายความเร่าร้อนใจปวงชนได้ไม่น้อย
คำที่สอง คำว่า “บัณฑูร พระบัณฑูร พระราชบัณฑูร” ซึ่งประชาชนก็ไม่สู้จะได้ยินนัก เพราะเราไม่มีตำแหน่งบุคคลที่เกี่ยวกับการใชัคำนี้มานาน นอกจากในหนังสือเก่า หรือในประวัติศาสตร์
คำนี้ พจนานุกรมให้คำอธิบาย “บัณฑูร” (ราชาศัพท์) ใช้ว่า พระบัณฑูร พระราชบัณฑูร) คือ คำสั่ง คำสั่งของกรมพระราชวังบวร (ตำแหน่งนี้มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น มาเลิกและเปลี่ยนเป็น “พระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 นี่เอง
น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ
สรวมชีพพระบารเมศปกเกศเกล้า ไทยทุกเหล่าน้อมถวายชัยทรงศรี เชิญสยามเทวราชธิบดี
บารมีบรรพกษัตริย์จรัสกาล พร้อมพระศรีไตรรัตน์พิพัฒน์ผล บันดาลดลพระทรงชัยเพริศไพศาล เสด็จสรวงเทพสถิตไพสิฐญาณ แด่ภูบาล “พระพลังแห่งแผ่นดิน” อธิษฐานวารพระครรไลล่วง เสด็จห้วงทิพสถานพิมานถวิล หลังขจัดพิบัติภัยในธรณิน ให้สุดสิ้นมิคสัญญีเบียนบีฑา กำจัดทุกข์เข็ญชาติราษฎร ให้หายเหือดเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า กว่าสี่พันโครงการสานบุญญา หวังประชาสิ้นทุกข์สุขชีวี ด้วยพระเดชคุ้มคนดีพลีเพื่อชาติ จุ่งอำนาจคุณธรรมนำสุขศรี ขอคนที่ยุติธรรมมั่นกรรมดี นำทั้งชาติประชาชีผาสุกใจ ล่วงเจ็ดสิบฉนำกาลทรงผ่านภพ ครองระบบทศธรรมนำสุกใส พระเสโททุกหยาดหยดรดไผท พระพลีให้ไทยทุกคนเพื่อพ้นทุกข์ ตราบใดที่ทวยชนทนลำบาก เหนือเกล้าฯ ยากจักปรีดิ์เปรมเกษมสุข ทุกก้าวบาททั่วไผทให้ร่มรุกข์ ปองปลดปลุกปวงชนพ้นลำเค็ญ แปดสิบเก้าพรรษามหาราช ยังนำชาตินำประชาฝ่าขุกเข็ญ เจริญวัตรปฏิบัติธรรมบ่มบำเพ็ญ ทุกประเด็นเน้น “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาทฤษฎีที่เลิศล้ำ ดุจพุทธธรรมจำรัสใจไร้สุ่มเสี่ยง “มัชฌิมปฏิปทา” อ่าสำเนียง หล่อชีพเลี้ยงเรียบง่าย “ทางสายกลาง” อธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกทิศา น้อมนำพาพระประสบ-สงบ-สว่าง ราษฎร์พร้อมพลีกุศลถวายไม่เว้นวาง ตามแนวทาง ธ สร้างสรรค์
เรื่องโดย : ประยอม ซองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2559
คอลัมน์ Online : ชีวิตคือความรื่นรมย์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/152299