ร่มไม้ชายศาล
ต้องอย่างนี้สิน่า
ใช้เวลาพักผ่อนตอนหัวค่ำ เปิดยูทูบผ่านจอทีวี ตามที่ลูกหลานให้ใช้ เจอรายการ "รถโดยสาร" ของ "บริษัท ขนส่ง จำกัด" แล้วอดชมเชยไม่ได้ "เออต้องอย่างนี้สิน่า"
บขส. ถือเอาวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ครบรอบ 86 ปี เปิดตัวรถโดยสารรุ่นใหม่ ยี่ห้อ "MAN" จากเยอรมนี โดยบริษัทบ้านเราตกแต่งทั้งหมด มาบริการคนไทยในมาดหรูหรา แบบใช้เข็มขัดไม่ได้ เพราะอลังการจนคาดไม่ถึง
เท่าที่เห็นแม้จะหรู แต่เชื่อไหม เราไล่ตามหลัง บรูไน กว่า 15 ปี เคยไปที่นั่น เขาควบคุมรถบัสน้อยใหญ่ ด้วย GPS กำหนดความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ผมนั่งใกล้ๆ คนขับเห็นอุปกรณ์ควบคุมคนขับเต็มตา
เมื่อมาบ้านเรา เคยเขียนเคยตั้งความหวังว่า เราจะควบคุมรถบัส รถใหญ่ ให้ชาวบ้านปลอดภัยอย่างเขา เพราะเกิดอุบัติเหตุ ประชาชนสังเวยชีวิตมากมายก่ายกอง ไม่ควบคุมความเร็ว แล้วยังมีคนขับตีนผี "ซิ่ง" กันปานรถแข่ง ที่แย่อีกอย่าง ดันใช้ "รถโดยสาร 2 ชั้น" บนถนนในไทย แบบขึ้นเขาลงห้วย เอาชีวิตผู้โดยสารเป็นเดิมพัน ทุกรัฐบาลไม่เคยใส่ใจ พวกสูตายได้ตายไปสิว่ะ ที่แย่ คือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พลอยรับเคราะห์ เอาชีวิตมาทิ้งเมืองไทยไม่รู้เท่าไร
รถบัสยุคใหม่ของ บขส. คนขับต้องใช้คาร์ดรูด จึงจะขับได้ ศูนย์ควบคุมของ บขส. ทำงาน 24 ชั่วโมง ทราบทันทีว่าใครขับ ความเร็วถูกควบคุม ต้องไม่เกิน 80 กม./ชม. อย่างที่ผมเคยใฝ่ฝันมายาวนาน เพิ่งสำเร็จ ถ้าเจ้าอื่นเอาด้วย ผมก็อนุโมทนา สาธุ
สิ่งที่ผมประทับใจ บขส. ยุคนี้ คือ หันมาใช้รถโดยสารทันสมัย มีแค่ "ชั้นเดียว" เบาะนั่งทำเป็นแคพซูล ผู้โดยสารเป็นอิสระ ไม่กระทบกระทั่งกันเวลาเอนนอน ห้องคนขับแยกเด็ดขาด ไม่ยุ่งกับลูกค้า ไม่ทะลึ่งเปิดวีดีโอลามกตามใจกู มีช่องเก็บของ มีห้องน้ำ เหมือนเครื่องบิน ไม่ต้องโดดลงไปอาศัยปั๊ม มีไว-ไฟ ที่ชาร์จมือถือ และปุ่มบังคับด้วยไฟฟ้าทั้งหมด แถมด้วยผู้บริการสาวสวยในชุดมาตรฐาน พร้อมอาหาร
รายละเอียดเส้นทางต่างๆ ให้บริการอย่างไร เมื่อใด คงหาได้ไม่ยาก ส่วนใหญ่ออนไลน์อยู่แล้ว
ครับถึงเวลาไทยเราต้องปรับปรุงอะไรต่อมิอะไรให้ก้าวหน้าเสียที ปล่อยเนื้อปล่อยตัวล้าหลังเขาเหลือเกิน อ้อ รถไฟจีนก็เข้ามาวิ่งแล้ว กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ แจ๋วเลยละ เสียดายรางแคบเท่าเดิม ตบท้ายด้วยคดีความให้ครบเครื่องนะครับ
"บริษัท คล้ายเทพ ประกันภัย จำกัด" ตั้งตัวเป็นโจทก์ฟ้องไล่เบี้ย "นายขั้นหรู" เป็นจำเลย ระบุในคำฟ้องให้บังคับ นายขั้นหรู จ่ายค่าเสียหาย 1 ล้านบาทเศษ พร้อมดอกเบี้ย เกี่ยวกับคดีรถ
นายขั้นหรู จำเลยให้การปฏิเสธ ขอให้ยกฟ้องซะ
ศาลชั้นต้นนั่งหน้าตึงบนบัลลังก์ ให้ดูเป็นกลาง พิจารณาแล้วตัดสิน ให้ นายขั้นหรู จ่าย 563,700 บาท พร้อมดอกเบี้ย
โจทก์และจำเลย ไม่พอใจคำตัดสิน จึงพากันยื่นอุทธรณ์ เพื่อให้ได้ดังใจ
ศาลอุทธรณ์อ่านสำนวนสบายๆ ในห้องทำงาน แล้วพิพากษา นายขั้นหรูจ่าย 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
ยังเป็นหนังชีวิต นายขั้นหรู จำเลย ยื่นฎีกา
ศาลฎีกาชี้ว่า จำเลยอุทธรณ์ อ้างว่าศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษา ในคดีหมายเลขแดงที่ 229/2557 ซึ่งเป็นมูลเหตุเดียวกัน คำพิพากษาคดีนี้จึงซ้อนกับคำพิพากษาคดีดังกล่าว แล้วศาลอุทธรณ์ว่าเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชัด ไม่รับวินิจฉัยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย เห็นสมควรวินิจฉัยปัญหานี้ไป โดยไม่ย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์จัดการ
ศาลฎีกาเห็นต่อไปว่า ไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ฎีกาของ นายขั้นหรู จำเลยฟังไม่ขึ้น และลุยต่อว่า เหตุเกิดจาก นายขั้นหรู เปลี่ยนช่องเดินรถมาทางซ้าย ซึ่งเป็นช่องเดินรถของ นาย อ. และ นายขั้นหรู ขับรถด้วยความเร็วสูง ฝนตก ทัศนวิสัยไม่ดี เมื่อมีต้นไม้ล้มกีดขวาง นายขั้นหรู เปลี่ยนช่องเดินรถ โดยไม่ดูว่ามีรถอยู่ด้านนั้นไหม นาย อ. คนขับรถที่บริษัทโจทก์รับประกันภัย จึงไม่มีส่วนประมาทด้วย
ปัญหาที่ศาลฎีกาต้องขบต่อไป คือ ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของ นายขั้นหรู ที่อ้างว่า รถบริษัทรับประกันไว้ เสียหายเล็กน้อย เกิดจากติดตั้งระบบแกสผิดกฎหมาย บริษัท คล้ายเทพ ประกันภัย จำกัด จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องจาก นายขั้นหรู เป็นการชอบหรือไม่ ศาลฎีกาแทงว่า คำให้การของจำเลย มิได้ให้การต่อสู้ไว้อย่างนั้นเป็นการอุทธรณ์ในข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลย ชอบแล้ว
อีกอย่าง รถที่บริษัทโจทก์รับประกันภัย พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้เสียหายทั้งคัน มีสภาพพังยับเยินยากแก่การซ่อมแซม บริษัทโจทก์จ่ายให้เจ้าของเต็มวงเงิน 1 ล้านบาท แล้วรับซากรถยนต์มา ฟังได้ว่าเป็นการชดใช้ค่าเสียหายที่เหมาะสม ศาลฎีกาตีราคาซากรถ 2 แสนบาท ดังนั้นจึงพิพากษาแก้ให้ นายขั้นหรู จ่าย 8 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย
สรุปแล้วจำเลยงัดทุกดอก มาปัดความรับผิด เล่นเอาผู้พิพากษาเวียนหัวพอสมควร ต้องตัดไปทีละประเด็น จนจำเลย คือ นายขั้นหรู ดิ้นไม่หลุด เป็นผู้พิพากษาก็เหนื่อย กว่าจะแงะเปลือกทิ้ง แล้วตัดสินถึงแก่น ทั้งๆ ที่นอนอยู่บ้าน ไม่ได้ไปเห็นตอนรถเกิดอุบัติเหตุเลย
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10884/2558
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2559
คอลัมน์ Online : ร่มไม้ชายศาล
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/141383