ชีวิตคือความรื่นรมย์
บุคคลสำคัญของไทยและของโลก
ผู้เขียนได้เขียนถึง “เจ้าหญิงนักคิด” คือ พระฉายานามที่ “องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก”(WIPO หรือ WORLD INTELLECTUAL PROPERTY ORGANIZATION) ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญรางวัลความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์ แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งองค์การฯ ถือเป็นพระองค์แรกของโลกที่ทรงมีพระอัจฉริยะ มีผลงานทรัพย์สินทางปัญญาได้รับการจดข้อมูลด้านลิขสิทธิ์ 534 ผลงาน โดย ฟรานซิส เกอร์รี (FRANCIS GURRY) ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ได้เข้าเฝ้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเหรียญรางวัล
“ความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์” หรือ WIPO หรือ (AWARD FOR CREATIVE EXCELLENCE) เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2558 ด้วยองค์การฯ ได้ตระหนักถึงการสร้างสรรค์ผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งทรงเป็นเจ้าหญิงพระองค์แรกของโลกที่ได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเหรียญรางวัลดังกล่าว (ข้อมูลทั้งหมดนี้ ขอขอบคุณ EXITE ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 4-5 สิงหาคม 2558)
เขียนถึง “เจ้าหญิงนักคิด” ที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกถวายรางวัลและประกาศยกย่องแล้ว ทำให้คิดถึงบุคคลสำคัญอื่นๆ ของไทยในสายตาของโลกที่คิดว่ายังมีอีกมากที่มีความสำคัญ เช่น องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ (ยูเนสโก) ประกาศยกย่องว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลกยังมีอีกมากมาย นอกจากที่ปรากฏ 27 พระนาม และนามที่ค้นได้ในอินเตอร์เนท ว่ามีพระมหากษัตริย์ไทย 6 พระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ 7 พระองค์ เชื้อพระวงศ์-ขุนนาง และสามัญชนคนสำคัญไทยอีกหลากหลายแล้ว ก็รู้สึกว่าน่าจะได้นำมาเสนอให้คนไทยได้ชื่นชมทั่วกัน
ล่าสุดทราบว่า เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์ เปีย มาลากุล) ซึ่งคนไทยคุ้นในเกียรติประวัติและผลงานของท่านมานาน ได้รับประกาศยกย่องจากองค์การยูเนสโกในวาระครบ 140 ปีแห่งชาตกาลของท่านให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกอีกท่านหนึ่ง (จากคอลัมน์ “คนดังคนเด่น” โดย “สกนธ์กาญจน์” สกุลไทย ฉบับ 3226-16 สิงหาคม 2559)
เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์ เปีย มาลากุล) เป็นนามที่คนไทยคุ้นเคยมานานมาก ท่านเกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2410 ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นบุคคลสำคัญที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงไว้วางพระราชหฤทัยมากถึงกับให้เป็นผู้อภิบาล พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ เจ้าพระยาพระเสด็จฯ ได้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตพิเศษไทยประจำอังกฤษและยุโรป ระหว่างปี 2440-2442 ทำให้ท่านได้เห็นการศึกษาของนักเรียนในต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี ท่านได้กราบทูลเสนอให้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงปรับปรุงระบบการศึกษาของไทย ร่างเป็น “โครงแผนการศึกษาในกรุงสยาม” เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2441 และโครงการสร้างสถานศึกษาในระดับอุดมศึกษาเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2453 นับว่าเป็นคุณูปการต่อการศึกษาของชาติที่คนไทยควรรู้และระลึกถึงเป็นอย่างยิ่ง
ท่านเข้ารับราขการในกรมศึกษาธิการ ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ให้เป็น หลวงไพศาลศิลปศาสตร์ จากนั้นได้ย้ายไปรับราชการอยู่กระทรวงมหาดไทย เป็น พระมนตรีพจนกิจ ก่อนตามเสด็จไปเป็นผู้อภิบาล สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ต่อมาได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็นพระยาวิสุทธิสุริยศักดิ์ ดำรงตำแหน่งปลัดทูลฉลองกระทรวงธรรมการ (ปัจจุบัน คือ กระทรวงศึกษาธิการ) ได้เลื่อนเป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ ในสมัยรัชกาลที่ 6 และได้รับสถาปนาเป็น เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดีฯ ท่านมีบุตร-ธิดา 8 คน บุตรคนที่ 6 คือ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุลรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ผลงานที่เป็นคุณูปการที่ท่านมีต่อชาติไทยที่ควรจดจำอย่างยิ่ง คือ เพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสามัคคีชุมนุม (ท่านประพันธ์คำร้องภาษาไทย โดยใช้ทำนองเพลง AULD LANG SYNE) ซึ่งท่านสามารถสอดใส่คำร้องให้สอดคล้องทำนองเดิมได้อย่างเหมาะเจาะ เนื้อความมีความหมายลึกซึ้ง ให้ความรู้สึกถึงความสามัคคีอันดีของหมู่คณะ (เพลงที่นำมาเปิดนำรายการ “คืนความสุขให้ประชาชน” ทุกเย็น น่าเสียดายที่เยาวชนและคนรุ่นใหม่น่าจะได้ฟังและเห็นเนื้อร้องที่ถูกต้องทั้งหมด แทนที่จะตัดมาเพียงตอนสุดท้ายของท่อนแยกที่ว่า “ทุกสิ่งประสงค์จงใจ จะเสร็จสมได้ด้วยสามัคคี” เท่านั้น
ท่านได้ประพันธ์หนังสือไว้หลายเล่ม แต่เล่มสำคัญที่มีคุณค่าที่ท่านให้ไว้สมบัติของชาติไทย แต่คนรุ่นใหม่แทบไม่สนใจ คือ หนังสือ “สมบัติผู้ดี” แม้เด็กชาวบ้านลูกชาวนาบ้านนอกอย่างผู้เขียน ก็เคยได้เล่าเรียนรู้และจดจำบทที่ควรรู้ 10 ประการนั้น
เคยเห็นกรมส่งเสริมวัฒนธรรมเคยนำมาพิมพ์ประกอบการ์ตูน (แม้มีคำเติมเข้ามาว่า “สมบัติของผู้ดี”) ไม่แน่ใจว่าเผยแพร่ไปได้ผลแค่ไหน เพราะเรายังเห็นดารานักแสดงละครยืนค้ำศีรษะผู้ใหญ่ แม้ญาติเหล่านั้นเป็นหม่อมเจ้า-พระองค์เจ้า หรือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ (เสด็จ-พระราชโอรส หรือพระราชธิดาของกษัตริย์) ก็ตาม
หรือที่เห็นบ่อยๆ คือ พวกคนรับใช้ (ตัวสร้างสีสันในละคร-เขาอ้างกันอย่างนั้น-หรือภาษาที่ไม่สำรวมเรียกว่า “ขี้ข้า”) สอดปากพูดโพล่งมาเสนอความเห็นขณะผู้ใหญ่ หรือเจ้านายกำลังพูดเรื่องสำคัญอยู่ (ก็ตาม) ซึ่ง เจ้าพระยาพระเสด็จฯ ได้นิพนธ์ไว้ใน “สมบัติผู้ดี” ไว้แล้ว สมบัติของชาติเหล่านี้ ท่านได้สร้างไว้ให้ชาติไทย กระทั่งยูเนสโกยังมองเห็นความสำคัญ แม้กาลเวลาจะผ่านวาระชาตกาลของท่านมาแล้ว 150 ปีแล้ว ยังไม่ลืมที่จะนำมายกย่อง
แล้วเราคนไทยล่ะ...ควรจะละลืมมรดกอันทรงคุณค่านี้ละหรือ
เรื่องโดย : ประยอม ซองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2559
คอลัมน์ Online : ชีวิตคือความรื่นรมย์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/136380