วิถีตลาดรถยนต์
ตลาดโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2016/2015
ตลาดโดยรวม,+16.0 % รถยนต์นั่ง,+11.7 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+29.6 % รถอเนกประสงค์ (MPV),-50.4 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+28.8 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,-18.8 % อื่นๆ,-15.6 %เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2016/2015
ตลาดโดยรวม,-2.0 % รถยนต์นั่ง,-14.5 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+35.3 % รถอเนกประสงค์ (MPV),-65.5 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+2.3 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+22.6 % อื่นๆ,-11.0 % [/table] ดูเหมือนว่าบรรดาฝ่ายขายของโชว์รูมรถยนต์ต่างๆ ในบ้านเราจะดูดีมีสง่าราศี ไม่หน้าดำคร่ำเครียดกับเป้ายอดจำหน่ายที่ตั้งไว้มากขึ้น ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาจนถึงเดือนพฤษภาคมนี้เพราะช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาการซื้อการขายเหมือนจะไหลลื่น ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้น จนทำให้ยอดการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศกลับมาเป็นตัวเลขสีน้ำเงิน 2 เดือนติดต่อกันแล้ว การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ปี 2559 ปรากฏให้เห็นครั้งแรกในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 54,907 คันเพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนปี 2558 มาถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2559 ทีแรกคิดว่าท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังทรงตัว ปัญหาภัยแล้งคุกคามในหลายพื้นที่ และความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย น่าจะทำให้การซื้อขายรถใหม่ป้ายแดงในเดือนนี้ถดถอยกลับไปเหมือนก่อนเดือนเมษายนแต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เดือนพฤษภาคม 2559 ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่เกิดขึ้นพุ่งกระฉูดแซงหน้าเดือนเมษายนเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะในส่วนของรถยนต์นั่งที่ยอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 36 เดือน สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เป็นยอดจำหน่ายที่ปรับตัวเพิ่มมากขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้ว โดยเดือนพฤษภาคม ปี 2559 มีการซื้อขายรวมกันอยู่ที่ 66,035 คัน เทียบกับเดือนพฤษภาคม ปี 2558 แล้วเป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นถึง 16.0 % โดยรถยนต์นั่งเดือนพฤษภาคม ปี 2559 มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 24,742 คัน เพิ่มขึ้น 11.7 % เมื่อเทียบกับพฤษภาคม ปี 2558 ในส่วนของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เดือนพฤษภาคม 2559 มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 41,293 คัน เพิ่มขึ้น 11.8 % เมื่อเทียบกับพฤษภาคม 2558 อย่างไรก็ตาม เมื่อดูในส่วนที่เป็นยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2559 พบว่ายอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นในปีนี้ รวมกันแล้วยังไม่สามารถเปลี่ยนผ่านเป็นยอดจำหน่ายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ แต่หากพิจารณาจากยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนสองเดือนนี้ เทียบกับความแตกต่างของตัวเลขยอดจำหน่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2559 กับปี 2558 แล้วมีความเป็นไปได้มากเหมือนกันที่ครึ่งปีแรกของปี 2559 ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศจะเป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่สูงกว่าตัวเลขยอดจำหน่ายครึ่งแรกของปี 2558 เพราะตั้งแต่มกราคมถึงพฤษภาคม 2559 รถยนต์ใหม่ในประเทศรวมทั้งหมดมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 302,581 คัน น้อยกว่ายอดจำหน่ายรวม 5 เดือนแรกของปี 2558 อยู่ 2.0 % หรือห่างกันอยู่เพียง 6,206 คันเท่านั้น ถ้าทิศทางการซื้อขายรถใหม่ป้ายแดงในเดือนมิถุนายน ยังไม่เปลี่ยนเป็นลบ 6,000 กว่าคันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนักขายมือทองของบริษัทรถยนต์ต่างๆ สำหรับเดือนพฤษภาคม ปี 2559 รถยนต์ที่อยู่ในกระแสความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรกเป็น โตโยตา มียอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่รวมทุกประเภท 22,244 คัน คิดเป็น 33.7 % ของยอดจำหน่ายรวมทั้งหมด อันดับ 2 เป็นรถยนต์จากค่าย อีซูซุ มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 12,757 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 19.3 % อันดับ 3 ฮอนดา จำหน่ายได้ทั้งหมด 9,812 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 14.9 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 4,336 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาด 6.6 % และอันดับ 5 นิสสัน 3,856 คันส่วนแบ่งการตลาด 5.8 % ซึ่งเมื่อรวมยอดจำหน่าย 5 เดือนแรกของปี 2559 นี้แล้ว รถยนต์ที่จำหน่ายได้มากสุด 5 อันดับแรกเป็น โตโยตา กวาดยอดจำหน่ายไปแล้ว 87,368 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 28.9 % จากยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาด 302,581 คัน อันดับ 2 อีซูซุ 61,119 คัน ส่วนแบ่งตลาด 20.2 % อันดับ 3 ฮอนดา 43,949 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.5 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 24,906 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.2 % และอันดับ 5 นิสสัน 19,488 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.4 % ทั้งนี้ยอดจำหน่ายรวมของ อีซูซุ และมิตซูบิชิ เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายของทั้ง 2 ยี่ห้อที่เคยทำไว้ใน 5 เดือนแรกของปี 2558 โดย อีซูซุ เพิ่มขึ้น 4.6 % และมิตซูบิชิ เพิ่มขึ้น 21.8 % ในส่วนของรถพิคอัพ 1 ตัน เดือนพฤษภาคม 2559 ยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นในเดือนนี้ของ ไฮลักซ์ รีโว ส่งผลให้ โตโยตา กลับมาผงาดในตำแหน่งหัวแถวอีกครั้ง แต่ก็เฉือนชนะคะแนนความนิยมของพิคอัพ ดี-แมกซ์ ค่าย อีซูซุ ไปแบบฉิวเฉียดเท่านั้น โดยเดือนพฤษภาคม โตโยตา จำหน่าย ไอลักซ์ รีโว ขับเคลื่อน 2 ล้อได้รวมทั้งสิ้น 10,000 คัน ขณะที่ อีซูซุ จำหน่าย ดี-แมกซ์ ได้ 9,982 คัน น้อยกว่าเพียง 18 คันเท่านั้น โดยจากยอดจำหน่ายรวมทั้งหมดของตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนพฤษภาคม ปี 2559 ที่มีทั้งสิ้น 27,117 คัน (เพิ่มขึ้น 28.8 % เมื่อเทียบกับพฤษภาคม 2558) โตโยตา มีส่วนแบ่งตลาด 36.9 % อีซูซุ 36.8 % สำหรับ ฟอร์ด ยังคงยึดติดอยู่กับความเป็นพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 3 มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 1,973 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 7.3 % อันดับ 4 นิสสัน 1,833 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.8 % อันดับ 5 มิตซูบิชิ 1,561 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.8 % รวม 5 เดือนแรกของปี 2559 พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ มียอดจำหน่าย 123,947 คัน เพิ่มขึ้น 2.3 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ถึงแม้ยอดจำหน่ายของ โตโยตา จะแซง อีซูซุ ได้ในเดือนพฤษภาคม แต่เมื่อรวมยอดจำหน่ายทั้ง 5 เดือนแล้วยังเป็น อีซูซุ ที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดโดย อีซูซุ จำหน่ายไปแล้ว 50,716 คัน ฟันส่วนแบ่งการตลาดไป 40.9 % ขณะที่ โตโยตา จำหน่ายแล้ว 37,709 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 30.4 % ตามหลังอยู่ห่างพอสมควร อันดับ 3 ฟอร์ด จำหน่ายแล้ว 9,786 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 7.9 % นิสสัน อยู่อันดับ 4 จากยอดจำหน่าย 8,112 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.5 % มิตซูบิชิ อันดับ 5 จำหน่ายได้ 7,983 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.4 % พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนพฤษภาคม 2559 จำหน่ายได้ 2,140 คัน ลดลง 18.8 % รวม 5 เดือนแรกของปี 11,346 คัน เพิ่มขึ้น 22.6 % 5 มหานิยมของตลาดนี้ประกอบด้วย โตโยตา, อีซูซุ, ฟอร์ด, มิตซูบิชิ และนิสสัน โดยมียอดจำหน่ายและส่วนแบ่งการตลาดในเดือนพฤษภาคม รวมถึงยอดจำหน่ายสะสมไล่เรียงกันไปดังนี้ โตโยตา 1,010 คัน ส่วนแบ่งตลาด 47.2 % รวม 5 เดือน 6,527 คัน ส่วนแบ่งตลาด 57.5 %, อีซูซุ 567 คัน ส่วนแบ่งตลาด 26.5 % รวม 5 เดือน 2,081 คัน ส่วนแบ่งตลาด 18.3 %, ฟอร์ด 306 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.3 % รวม 5 เดือน 1,272 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.2 %, มิตซูบิชิ 186 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.7 % รวม 5 เดือน 1,060 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.3 % และนิสสัน 54 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.5 % รวม 5 เดือน 317 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.8 % รถเอสยูวี ที่ใครมีไว้ในครอบครอง นาทีนี้ต้องถือว่าอินทเรนด์อย่างแรง เดือนพฤษภาคม 2559 จำหน่ายรวมกันไปได้ 8,695 คัน เพิ่มขึ้น 29.6 % ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 ยี่ห้อแรก ได้แก่ ฮอนดา เดือนนี้จำหน่ายไป 2,635 คัน เท่ากับ 30.3 % ของยอดจำหน่ายทั้งหมด ตามด้วย โตโยตา 1,832 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 21.1 % มิตซูบิชิ 1,203 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาด 13.8 % อีซูซุ 1,100 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.7 % และมาซดา 776 คัน ส่วนแบ่ง 8.9 % 5 เดือนแรกของปี โกยยอดจำหน่ายรวมกันไปแล้ว 47,795 คัน สูงกว่าปี 2558 ถึง 35.3 % ฮอนดา ยังอยู่ในตำแหน่งหัวแถว แต่ โตโยตา ไล่กวดเข้ามาตัวเลขหลักหมื่นและหลักพันเป็นตัวเดียวกัน ต่างกันที่หลักร้อยหลักสิบและหลักหน่วย โดย ฮอนดา จำหน่ายแล้ว 12,680 คัน ส่วนแบ่งตลาด 26.5 % โตโยตา 12,598 คัน ส่วนแบ่งตลาด 26.4 % เกมชิงแชมพ์สำหรับคู่นี้ยังคงดำเนินต่อไป ยังไม่รู้ว่าสุดท้ายใครจะเป็นแชมพ์ สำหรับ มิตซูบิชิ มียอดจำหน่ายอยู่ในอันดับ 3 เดือนนี้จำหน่ายได้ 8,983 คัน ส่วนแบ่งตลาด 18.8 % มาซดา อยู่ในอันดับ 4 จำหน่ายได้ 3,842 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.0 % อันดับ 5 อีซูซุ 2,972 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.2 % รถเอมพีวี ทำตัวสวนกระแสเส้นกราฟยอดจำหน่ายปักหัวลงต่อเนื่อง เดือนพฤษภาคมจำหน่ายได้เพียง 526 คัน ลดลงถึง 50.4 % เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ปี 2558 ขณะที่ยอดจำหน่ายรวมตั้งแต่เดือนแรกมาจนถึงเดือน 5 มีทั้งสิ้น 2,294 คัน ลดลง 65.5 % จำหน่ายได้มากสุดในเดือนพฤษภาคมเป็น โตโยตา 209 คัน ส่วนแบ่งตลาด 39.7 % ซูซูกิ 79 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.0 % ฮอนดา 78 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.8 % นิสสัน 74 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.1 % ฮันเด 42 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.0 % รวม 5 เดือน ยอดจำหน่ายสูงสุดเป็น โตโยตา 764 คัน ส่วนแบ่งตลาด 33.3 % ฮอนดา 554 คัน ส่วนแบ่งตลาด 24.1 % ซูซูกิ 379 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.5 % นิสสัน 262 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.4 % และเกีย 129 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.6 % รถยนต์ประเภทอื่นๆ ยกเว้นรถยนต์นั่ง เดือนพฤษภาคมมียอดจำหน่าย 2,815 คัน ลดลง 15.6% รวม 5 เดือน 15,222 คัน ลดลง 11.0 %เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2559
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/131947