มุมมองนักออกแบบ
มาซดา 2 สกายแอคทีฟ
มาซดา 2 สกายแอคทีฟ ซับคอมแพคท์ น้องใหม่ล่าสุด เทคโนโลยีสกายแอคทีฟอันลือลั่น ตามแนวคิด KODO DESIGN เช่นเดียวกับรุ่นพี่ทั้ง มาซดา ซีเอกซ์-5 และมาซดา 3 แต่ได้ปรับปรุงรายละอียดให้เหมาะกับลักษณะของรถ โดยเน้นเส้นสายที่ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหว พร้อมใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรถกับผู้ขับ และตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบถ้วน แต่ทั้งหมดนี้จะประทับใจทีมนักออกแบบของเราหรือไม่ ติดตามได้ต่อไปนี้
อภิชาต : ตัวนี้ผมว่าไปเอาสโตรคของ บีเอมดับเบิลยู มาใช้
ภัทรกิติ์ : และทำได้ดีด้วย
ฟอร์มูลา : ภาพรวมเป็นอย่างไรครับ
อภิชาต : โคโดะ สไตล์
ภัทรกิติ์ : SOUL IN MOTION วากุโดกิ เรามาสนุกกันเถอะ ดีไซจ์นไดเรคชันมาก่อน เพราะไม่งั้นจะไม่สามารถบอกทีมดีไซจ์นได้ว่าเราต้องการอะไร มาซดา ทำเหมือนตัวที่สัญญาไว้ ด้วยแนวทางเดียวกันหมด แตกต่างกันที่องค์ประกอบ
อภิชาต : สไตล์แบบนี้อยู่ในซีรีส์ตัวเล็กก็มี ซีรีส์กลางก็เป็นแบบนี้ แม้แต่ในเอสยูวีก็เป็นแบบนี้ ดีไซจ์นมันมีภาษา ถ้าเรากำหนดดี ผลงานที่ออกมา คือ คำตอบ ฉะนั้นดีไซจ์เนอร์จึงมีส่วนสำคัญ
ภัทรกิติ์ : ถ้ากำหนดอะไรหรูหรามากเกินไปก็ไม่ประสบความสำเร็จ ผมรู้สึกว่าดีไซจ์นที่เขาใช้อยู่ตอนนี้มันถูกใช้เฉพาะรถบางแบบเท่านั้น นั่นคือแบบสากล แต่รถที่ขายในบ้านเราในญี่ปุ่นอาจไม่มี มาซดา มีการควบคุมโมเดลรถใหม่ไม่กระจัดกระจาย รถบางเซกเมนท์ไม่ทำเลย เช่น ไซซ์ใหญ่อย่าง โมเดล 9 ตัดออกไปเลย การคอนทโรลดีไซจ์นแบบนี้มันจะดูเป็นรถที่มาจากโซนยุโรป
อภิชาต : ตอนนี้ยอดขายของ มาซดา ที่ยุโรปดีวันดีคืน
ภัทรกิติ์ : ในเมืองไทยยอดขายดีมากเป็นอันดับ 3 เลย
อภิชาต : มีข่าววงในบอกว่า ทางญี่ปุ่นปลื้มทีมการตลาดเมืองไทยมากจนจะยกเป็นกรณีศึกษา
ภัทรกิติ์ : แล้วทีมออกแบบไม่มีความหมายเลย ?
อภิชาต : บอดีดีไซจ์น มันมีกริลล์ต่อตรงไฟด้านหน้าที่ผมชอบ จริงๆ แล้วออริจินัล คือ บีเอมดับเบิลยู แต่คนที่หยิบยืมมาใช้แล้วประสบความสำเร็จ กลับเป็น มาซดา
ภัทรกิติ์ : คาแรคเตอร์การเจาะทะลุไฟหน้า โตโยตา และ ฮอนดา ก็นำมาใช้เพราะมันเป็นทเรนด์ กระจังหน้ากับไฟหน้าแยกกันมันหมดยุค เชยไปแล้ว รูปแบบนี้ถือเป็นใบหน้าร่วมสมัย
อภิชาต : ผมพยายามชี้ประเด็นว่า จุดดีของรถแต่ละคันที่สามารถหยิบยืมกันได้ ไม่ใช่กอพพีมาเลย อาจจะหยิบเพียงสไตล์ แล้วมารีดีไซจ์นให้เหมาะกับตัวเอง
ภัทรกิติ์ : กระจังหน้า มาซดา แบบ 5 เหลี่ยม ใช้มาหลายเจเนอเรชันแล้วแต่ดูไม่ออก ตัวอย่างเช่น อาร์เอกซ์-8 ดูไม่ออกเลย
อภิชาต : บริเวณส่วนล่างของกระจังหน้าแบบนี้ ถ้าเป็นรถสีขาวทำให้ดูเหมือนฟันหลอ ฉะนั้นทีมดีไซจ์เนอร์ต้องคิดให้กว้าง ไม่งั้นจะมาตายในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ลองเอาป้ายทะเบียนเมืองไทยมาติดสิ ฟันหลอเลย
ภัทรกิติ์ : เราเริ่มจากฝากระโปรงก่อน ผมว่ามันมีการปรับ มาซดา 2 รุ่นที่แล้ว ดูเป็นรถคอมแพคท์สั้นๆ แต่รุ่นใหม่นี้ดูโอเวอร์แฮงมันยาวพิเศษ ด้านในเปิดมาไม่มีอะไร แต่โอเวอร์แฮงยาว ทำให้ดูเป็นรถสปอร์ทมากขึ้น
อภิชาต : ยอมรับว่าการออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ลงตัวดี
ฟอร์มูลา : นี่พูดกันเฉพาะครึ่งคันหน้าอยู่ใช่ไหม
ภัทรกิติ์ : ครึ่งคันหลังก็สวยนะ เป็นรถที่ดูเป๊ะมาก ดูมีราคากว่ารถในคลาสส์เดียวกัน ถามว่าดูอนุรักษนิยมหรือไม่ ขอตอบว่าคันนี้เป็นรถที่ดูเป็นรถยนต์ทั่วไป ไม่มีนวัตกรรมเรื่องการพัฒนาฟังค์ชันการใช้งาน แต่มีนวัตกรรมทางวิศวกรรมจากเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ
ส่วนภายในห้องโดยสารถ้าพูดเรื่องการพับเบาะถือว่าธรรมดามาก พับเบาะตัวนี้ไม่เรียบด้วยเป็นขยัก แถมคันนี้ยังมีซุ้มล้อโผล่ขึ้นมาเยอะ แต่ซุ้มล้อนี้อาจทำให้รถแข็งแรงขึ้น
ภาพรวม มาซดา 2 มีสไตลิงสวยงาม แต่เรื่องฟังค์ชันดูธรรมดา ยกเว้นเรื่องจอ HUD (HEAD-UP DISPLAY) เพราะเป็นรถรุ่นแรกในเซกเมนท์นี้ที่มีติดตั้งมา จอแบบนี้อาจไม่แตกต่างจากจอที่ใส่ในรถคันอื่นหรอก แต่ว่าพัฒนาคุณภาพมาให้ร่วมสมัยมากขึ้น สามารถสู้แสงแดดได้ดี เท่มาก ดูสปอร์ท รุ่นก่อนหน้านี้เทียบไม่ติด
อภิชาต : แค่การจัดวางก็อึ้งแล้ว เป็นแบบดไรเวอร์โฟคัสเลย แจ๋วจริง
ภัทรกิติ์ : มาตรวัดรอบเป็นหลัก ความเร็วไม่สำคัญ รถเกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ดีเซล วัดรอบเป็นหลักเพื่ออะไร ?
ฟอร์มูลา : เมืองนอกมีรุ่นเกียร์ธรรมดา
ภัทรกิติ์ : เครื่องยนต์ดีเซลใช้รอบเครื่องน้อย แต่ภาพหลักมันออกมาเท่มาก รสนิยมในการออกแบบ กราฟิคบนจอสวย ฟอนท์ต่างๆ สวยหมด การให้ตัวหนังสือละเอียด ภาพละเอียดขนาดนี้ จอต้องมีความละเอียดสูงมาก วัตถุที่ใช้ดีมาก ผมให้ 9 คะแนน หัก 1 คะแนนเรื่องนวัตกรรม
อภิชาต : เดี๋ยวนี้ในชีวิตการทำงานเขาใช้สมาร์ทโฟนกันหมดแล้ว ดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ ทั้งเพลง หนัง หรือคลิพวีดีโอมาเก็บไว้ในเครื่องกันหมด โทรศัพท์เครื่องเดียวจบ ดูหนัง/ฟังเพลงได้ สมัยนี้ต้องถามว่าสั่งงานด้วยเสียงได้หรือไม่ มีบลูทูธไหม มีระบบนำทางหรือเปล่า
ฟอร์มูลา : การแบ่งเป็นรุ่น 4 ประตู กับรุ่น 5 ประตู ทำได้ดีหรือไม่
ภัทรกิติ์ : มาซดา 2 เขาใช้การแปลงโฉมจากโมเดลเดียวกัน เลยต้อง "คีพ ดีไซจ์น" คือ เก็บด้านหน้าให้เหมือนกัน เพราะปัญหาหลายรุ่นที่มีลักษณะนี้ คือ ไม่ได้คิดมาก่อนตั้งแต่แรก เลยทำให้กลายเป็นอีกรุ่นไปเลย แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อ แต่สำหรับคันนี้ดีไซจ์นดีนะ ไม่กระดก มันลงตัวทุกอย่าง แถมใช้ประตูตัวเดียวกันด้วย คิดมาดีแล้ว สุดยอด
อภิชาต : ต้องชมพโรเจคท์แมเนเจอร์ ถือว่าทำงานมาดีมาก รอบคอบ เรียกว่าสวยทั้ง 2 แบบ ไม่เคอะเขิน ดูแล้วสวยทั้งคู่
ภัทรกิติ์ : อาจารย์ให้คะเเนนภายใน และภายนอกเท่าไร
อภิชาต : ถูกใจมากครับ ให้ 9 คะแนนเลย ทั้งภายในและภายนอก
ภัทรกิติ์ : ในแง่การพัฒนาเรื่องดีไซจ์นถือว่าพัฒนาได้รอบคอบมาก จนได้รถที่คอนทโรลต้นทุนได้ดี อย่างประตูใช้พาร์ทเดียวกันกับ 4 ประตู นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เรียกว่าทำการบ้านมาดีทีเดียว คิดมาดีตั้งแต่แรก ผมให้ 9 คะแนนเช่นกันครับ
ฟอร์มูลา : ถ้าให้เลือกระหว่างรุ่น 4 ประตู กับรุ่น 5 ประตู จะเลือกแบบไหน
อภิชาต : ผมเลือก 4 ประตู เพราะผมชอบรถใหญ่ แต่ไดเมนชันมันเท่ากัน ส่วนตัวแล้วผมชอบรถมีท้าย ไม่ชอบรถท้ายตัด
ภัทรกิติ์ : มาซดา 2 ผมเลือก 5 ประตู เพราะเป็นรถยนต์ที่เหมาะกับเซกเมนท์ เรื่องของการใช้งานที่คล่องแคล่ว รถมันสั้นกว่า แต่ถ้าพูดถึงความสวย รุ่น 4 ประตู ดูสวยกว่า
อภิชาต : บอดี 4 ประตู มันมีเนื้อที่ให้จังหวะของเส้นสายด้านหลังได้ทำงานเต็มที่
ฟอร์มูลา : นิยามรถคู่นี้ว่าอย่างไร
ภัทรกิติ์ : แฝดมหาภัยที่คู่แข่งต้องรับมือให้ดี
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2558
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/12954