การเจรจาระหว่างประเทศถือเป็นทางออกทางหนึ่ง ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง แต่มรรคานี้ก็ใช้ได้เพียงบางครั้ง บางพื้นที่ บางกรณี มิใช่เป็นหลักตายตัวของการแก้ปัญหาเสียทีเดียว
ประเทศไทยของเรา หลังสุดก็เปิดโต๊ะเจรจา เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบของ 3 จังหวัดชายแดนในภาคใต้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จจนเปลี่ยนรัฐบาลใหม่แล้ว นโยบายดังกล่าวยังไม่ถูกนำกลับมาปฏิบัติ
ความขัดแย้งของคนในชาติ ก็อยู่ในบริบทเดียวกัน คนที่มองโลกสวยงามมักจะอ้างว่า การตั้งโต๊ะเจรจากันย่อมเป็นทางออกที่สันติและควรกระทำ ขณะกำลังบันทึกอยู่นี้ การยกร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการ ฯ กำลังเข้าสู่โหมดว่าด้วยความปรองดองของคนในชาติ
มีผู้เสนอความคิดเห็นกันตามธรรมเนียม เช่น วันชัย สอนศิริ สมาชิก สปช. เสนอให้ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งโต๊ะเจรจากับ ทักษิณ ชินวัตร และรองประธาน สปช. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่าง ฯ ก็เดินสายไปคุยกับแกนนำเสื้อแดงถึงเมืองอุดร
ข้อเสนอของ วันชัย ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะนายกรัฐมนตรีของประเทศ จะลงไปคุยกับผู้ร้ายข้ามแดน ก็ผิดหลักไปไกลโข
มีตัวอย่างกรณีดังกล่าวนี้ในต่างประเทศ เห็นค่อนข้างชัดเจน นั่นคือ การแก้ปัญหาวิกฤตของยูเครน โดยมี อังเกลา เมร์เคิล ผู้นำเยอรมนีเป็นแกนนำ จัดการประชุมสุดยอด 4 ฝ่าย เยอรมนี รัสเซีย ยูเครน และ ฝรั่งเศส ที่
มินสก์-เมืองหลวงของเบลารุส
นี่เป็นการประชุมครั้งที่ 2 หลังจากตกลงกันไปในครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว มีฝ่ายละเมิดไม่ยอมหยุดยิง
การประชุมครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ ตกลงจะหยุดยิงตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 15 ผลปรากฏว่า ถึงวันอังคารที่ 17 ยังไม่มีฝ่ายใดถอนอาวุธหนักที่ใช้ในสงครามสู้รบออกจากแนวรบ เขตที่ตกลงกันให้เป็นเขตปลอดอาวุธ
วิกฤตยูเครน ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลยูเครน กับกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน เริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2014 นับมาถึงวันที่บันทึกเรื่องนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5,486 ราย และมีประชาชนชาวยูเครนต้องระเห็จจากบ้านเกิดเมืองนอนลี้ภัยแห่งความไม่สงบไม่ต่ำกว่า 978,482 ราย (รวมทั้งเด็ก 119,832 ราย)
ตัวเลขนี้ องค์การสหประชาชาติบันทึกว่า ฮิวแมน ไรท์ มิชชัน ของสหประชาชาติ กับองค์การอนามัยโลก ลงความเห็นเป็นสถิติผู้เสียชีวิตที่สูงมาก
มีการเกี่ยงงอนกันว่า ฝ่ายใด ควรจะเริ่มการถอนอาวุธหนัก ซึ่งใช้เวลาขนย้าย 2 สัปดาห์ ต่างฝ่ายต่างก็ตึงเครียด พร้อมที่จะใช้อาวุธหนักเพื่อการสู้รบ
กองบัญชาการภาคพิเศษของยูเครน กล่าวว่า กลุ่มกบฏ โปร-รัสเซีย ยิงกระสุนปืนไม่ต่ำกว่า 112 ครั้งใส่เมืองเดบอลต์เซเวตั้งแต่เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ อันเป็นวันที่ 4 ฝ่ายตกลงหยุดยิงแถมยังมีการยิงที่ มาริอูโปล-เมืองท่า อีกต่างหาก
ฝ่ายกบฏกล่าวหาว่า กองทหารยูเครนโจมตีสนามบินเมืองโดเนสก์ อย่างหนัก ในขณะที่ อียู เริ่มมาตรการแซงชันรัสเซียเป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่อย่างน้อย 19 คนอยู่ในบัญชีแซงชันของอียู ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดน ขณะที่ฝ่ายรัสเซียโดนไป 3 คน คือ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ 2 คน กับ โจเซพ คอบซอน วัย 77 ปี นักร้องดังเสียงขยี้ฟองเบียร์ ซึ่งเล่นการเมืองเป็น สส.
ตัวอย่างที่ยูเครนจะเป็นบทศึกษาประการใดกับ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ทราบ เห็นจะต้องพึ่งปรัชญาเดิม คือ WAIT AND SEE !!!!
Model | Start Price (THB) |