ยางรถจักรยานแพงโคตร

เป็นเรื่องที่เข้าใจได้นะคะว่า คนที่ชอบ และรัก การขับขี่จักรยาน และคลั่งไคล้หลงใหลในการขี่เอามากๆ นั้น จะต้องพิถีพิถันกับทุกส่วนประกอบของตัวรถ โดยเฉพาะยางมากๆ แต่ครั้งนี้ก็ไม่น่าที่จะต้องลงทุนถึง 2 แสนบาท กับยางล้อรถจักรยานสักคู่หนึ่ง แต่ไม่ใช่พี่น้องจากแดนปลาดิบตระกูล คอนโดะ คู่นี้ ที่ชื่อ ยูตากะ และ โนบุโอะ ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการชื่อ “คอนโดะเครื่องจักรกล” ที่มีพนักงานเพียง 30 คน ล้วนแล้วแต่เป็นวิศวกรฝีมือดีจับงานใหญ่ อย่างทำชิ้นส่วนเครื่องยนต์ยี่ห้อ โรลล์ส-รอยศ์ ของเครื่องบินเจท และเครื่องจักรที่ใช้ทำชิ้นส่วนของรถยนต์ โตโยตา ทั้งสองพี่น้องมีงานอดิเรก คือ การขี่จักรยาน ดังนั้นเขาจึงไม่อยู่เฉย โดยนำเอาความเป็นเลิศเข้ามาไว้ในจักรยานด้วย เขาใช้ไททาเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์มาเป็นวัสดุประกอบยางล้อรถจักรยาน ซึ่งทำให้มันขับขี่นุ่มนวลมากอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อย่างเช่นเวลาที่จะหยุดรถ ขณะขับขี่ด้วยความเร็ว 28.8 กม./ชม. บนเทสต์ทแรค และจะใช้เวลาถึง 6 นาที กว่าจะหยุดนิ่ง เมื่อเทียบกับจักรยานไฮเอนด์ยี่ห้ออื่นๆ ที่ใช้เวลาเพียง 90 วินาที เพื่อหยุดนิ่ง ขี่นุ่มนวลขนาดนี้ ใครๆ ก็อยากได้ แต่เมื่อเห็นราคาแล้วก็ต้องถอยหลังกันเป็นแถว แต่สองพี่น้องก็ไม่รีบร้อน เพราะนี่คืองานพิเศษ ไม่ใช่งานหลัก ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ขาย ภายใน 4 ปี ยางระดับพรีเมียมราคาคู่ละ 2 แสนกว่าบาทขายได้แค่ 30 คู่ และที่ราคาย่อมเยาลงมาหน่อย คือ คู่ละ 75,000 บาท ขายไปทั้งหมดได้ 1,000 คู่ คนญี่ปุ่นชอบทำของ LIMITED EDITION ผู้บริโภคบางกลุ่มชอบเป็นเจ้าของ อย่างเช่น ชาร์ป เคยผลิตตู้เย็นขนาดเล็กราคา 1,300 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือ ประมาณ 41,600 บาท ที่สามารถทำก้อนน้ำแข็งใสแจ๋ว แทนที่จะขุ่น ส่วน พานาโซนิค ก็ขายเครื่องซักผ้าราคา 1,800 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือ 58,600 บาท ที่สามารถบอกปริมาณผงซักฟอกได้หลังจากคุณกรอกยี่ห้อลงไปใน APP และกวาดโทรศัพท์ของคุณไปที่เซนเซอร์บนเครื่องแทนที่จะต้องอ่านบน PACKAGING นับถึงวันนี้ สมาร์ทโฟน ก็จะให้แอพพลิเคชัน เนวิเกชัน ฟรี ส่วน ไพโอเนียร์กำลังขาย GPS แบบ STAND ALONE ในราคา 2,000 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือ ประมาณ 64,000 บาท ที่สามารถส่งภาพไปที่กระจกหน้ารถ ฟังดูก็น่าสนใจใช่ไหมค่ะ ชะรอยเราจะต้องทิ้ง GPS แบบเก่าที่เพิ่งซื้อมาไม่นานเสียแล้ว เกือบจะลืมกันไปแล้วใช่ไหมว่าญี่ปุ่น คือ ชาติแรกที่สร้างมือถือ สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เนทได้ แต่แล้วก็กลับกลายเป็นผู้นำเข้ามือถือที่เชื่อมต่ออินเตอร์เนทจากต่างประเทศรายใหญ่ นักวิเคราะห์บอกว่า ข้อเสียของญี่ปุ่น คือ เก่งแต่ด้านวิศวกรรม ไม่เก่งการตลาด แต่แท้ที่จริงแล้วการตลาดต่างหากที่ผลักดันยอดขาย บางทีก็ผลิตของที่ดีเลิศออกมา และหวังว่าผู้ซื้อจะมาซื้อ แล้วเขาซื้อไหมล่ะ เจ้ายางจักรยานราคาแพงนี้ก็เหมือนกัน ขายได้แค่ 30 คู่ พี่น้อง คอนโดะ บอกว่าไม่เป็นไร แล้วเล่าว่าวันหนึ่งพี่ชาย คือ โนบูโอะ ท้าน้องชาย คือ ยูตากะ แข่งขี่จักรยานทรหด น้องชายชะรอยจะแพ้ ก็โทษยางล้อรถ โดยจับล้อหลังขึ้นมาแล้วแยกชิ้นส่วน ซึ่งหลังจากขี่ไปแล้ว 4 ชั่วโมงก็มีบางส่วนหักงอ (พอดีช่วงนั้นเป็นช่วงเศรษฐกิจถดถอย) สองพี่น้องจึงมีเวลาเหลือเฟือ โดย ยูตากะ ก็ใช้เวลา 6 เดือนพัฒนาซี่ล้อจักรยาน ให้สามารถคงเส้นตรงได้ ด้วยการใส่ปลอก เพื่อให้เฉลี่ยน้ำหนัก และดูดซับแรงกระแทก สองพี่น้องบอกว่า เขาแค่อยากจะทดสอบเทคโนโลยีเท่านั้นเอง สร้างเสร็จก็ถึงเวลาทดสอบ สองพี่น้องก็นำมันขึ้นทดสอบบนล้อและเซนเซอร์ เขาหมุนมันที่ความเร็ว 300 กม./ชม. เกือบจะเร็วเท่ารถไฟหัวกระสุน แล้วต่อด้วยการทดสอบความทนทาน โดยให้มันวิ่ง 100 กม./ชม. เป็นเวลา 10 ชม./วัน เป็นเวลา 100 วัน ซึ่งสองพี่น้องบอกว่า หลังการทดสอบหนักมันยังวิ่งเหมือนใหม่ เมื่อปี 2555 สองพี่น้องจ้างยอดนักขี่จักรยานทางชัน ชื่อ มากาโตะ โมริโมโตะ ให้เป็นพรีเซนเตอร์ โดยใช้ยางของเขาในการแข่งขัน โมริโมโตะ ชนะ แต่ยางล้อจักรยานก็ยังไม่เป็นที่รู้จัก คนคิดว่า ก็คนขี่เก่งถึงชนะ ขณะนี้ โนบูโอะ พี่ชายเลยใช้ตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์ โดยเลิกทำงานหันมาขี่จักรยานเพียงอย่างเดียว ด้วยความหวังว่าเมื่อคนเห็นผู้ชายสูงวัยอายุ 58 ปี ขี่จักรยานได้ทน ก็จะพากันนึกว่า โอ้โห อายุขนาดนั้น ทำไมขี่ได้โคตรเร็วเลย เขาก็จะตอบว่า “ก็ฉันใช้ยางโคตรแพงคู่นี้ไงล่ะ”