ปอง ยวกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอพีอาร์เทค จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ CTEK เครื่องชาร์จแบทเตอรีอัจฉริยะ ให้สัมภาษณ์รายการโลกรถยนต์ ช่วง "ฟอร์มูลา ฟอรัม" ทางเนชันแชนแนล (TTV 1) ถึงเหตุผลในการนำผลิตภัณฑ์ CTEK เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยว่า เนื่องจากตนมีธุรกิจอพาร์ทเมนท์ที่ต่างจังหวัด ต้องนำรถไปจอดทิ้งไว้นานๆ เกิดปัญหาแบทเตอรีหมด สตาร์ทรถไม่ติดบ่อยๆ จึงพยายามหาวิธีดูแลแบทเตอรี โดยมีผู้แนะนำให้ใช้ตู้ชาร์จแบบที่ใช้ตามเทนท์รถ แต่มันมีขนาดใหญ่เกินไป ใช้งานไม่สะดวก จนกระทั่งมาเจอ CTEK ซึ่งผู้ที่เคยใช้ต่างรีวิวว่าดีมาก เลยทดลองสั่งซื้อมา พบว่าใช้ง่าย และดีจริง จึงเริ่มนำเข้ามาจำหน่าย
CTEK ทำงานโดยการเสียบปลั๊กไฟบ้าน แล้วนำหัวจัมพ์ไฟสีแดงคีบกับขั้วบวก สีดำคีบกับขั้วลบของแบทเตอรี โดยไม่ต้องยกแบทเตอรีออกไปชาร์จ จากนั้นเครื่องก็จะทำงานโดยแสดงไฟสีส้มขึ้น
การชาร์จมี 7 ขั้นตอน เริ่มจาก 1. ตรวจสลายตะกรันซัลเฟทที่เกาะแผ่นตะกั่วก่อน 2. ค่อยๆ ปล่อยกระแสไฟ 3. ปล่อยกระแสไฟเต็มระบบ 4. พอเริ่มเต็ม 80 % จะค่อยๆ ลดกระแสไฟลง 5. ไฟเต็ม 100 % เครื่องจะคอยดูว่าเก็บไฟอยู่หรือไม่ ถ้าเก็บไม่อยู่ จะมีไฟสีแดงเตือน 6. ฟื้นฟูสภาพสำหรับแบทเตอรีที่ประจุไฟต่ำมากหรือหมด 7. สิ้นสุดการชาร์จแล้วถอดเครื่องจะรักษาค่าโวลท์ของแบทเตอรีให้เต็มคงที่ ขั้นตอนนี้เป็นโหมด MAINTENANCE หากชาร์จจนเต็มแล้ว ยังไม่เอาเครื่องชาร์จ CTEK ออก หลังจากผ่านไป 10 วัน ในโหมดนี้ CTEK จะรักษาประจุไฟไว้ที่ 95-100 % โดยเครื่องจะคอยดูค่าโวลท์ของแบทเตอรีแล้วส่งไฟกระตุ้นให้แบทเตอรีเต็มตลอด
การชาร์จของ CTEK จะไม่ส่งผลกระทบกับระบบกล่อง ECU เพราะรถหรูชั้นนำจากทั่วโลกที่มีระบบกล่อง ECU ทันสมัยและละเอียดอ่อน ก็สั่งผลิตเครื่องชาร์จจาก CTEK เพื่อให้ลูกค้าชาร์จเหมือนกัน ยิ่งรถทันสมัยมากเท่าไรยิ่งต้องใช้ไฟมากเท่านั้น และยิ่งจำเป็นต้องชาร์จ เพราะถ้าปล่อยให้แบทเตอรีหมด อาจทำให้ระบบอีเลคทรอนิคส์ทำงานผิดปกติได้
"คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าการชาร์จแบทเตอรีต้องรอให้ไฟหมดก่อนแล้วจึงชาร์จ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะถ้าปล่อยให้แบทเตอรีหมด แบทเตอรีก็จะเสื่อมไปแล้ว อายุการใช้งานจะสั้นลง วิธีที่ถูกต้อง คือ ชาร์จด้วย CTEK ทิ้งไว้แต่เนิ่นๆ เลยถ้ามีรถที่ไม่ค่อยได้ขับ"
การจอดรถไว้นานๆ จะทำให้แบทเตอรีเสื่อมเร็ว เพราะแบทเตอรีจะมีอายุการใช้งานนานที่สุด เมื่อมีไฟเต็มตลอด หากรถไม่ได้ใช้งาน ตัวแบทเตอรีจะคายประจุไปเรื่อยๆ อายุการใช้งานจะสั้นลงอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นถ้าจอดรถนานควรชาร์จ CTEK ไว้ จะส่งผลดีช่วยยืดอายุการใช้งาน
"ลูกค้าของผมใช้ CTEK มา 7 ปี ยังไม่เคยเปลี่ยนแบทเตอรีเลย เนื่องจากพอจอดรถที่บ้านก็ใช้ CTEK ชาร์จตลอด เครื่องจะช่วยยืดอายุให้ยาวนานขึ้นเหมือนรถที่ใช้ทุกวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแบทเตอรีด้วย"
ปอง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "CTEK เป็นเครื่องชาร์จแบทเตอรีที่ใช้ได้ทั้งรถเก๋ง และมอเตอร์ไชค์ โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ยิ่งแพงยิ่งจำเป็น เพราะพอแบทเตอรีหมด บางทีตัวกล่อง ECU จะลอค ยิ่งเครื่องใหญ่ไม่ค่อยได้ขี่ บางทีซื้อมาจอด เราจะมีอุปกรณ์ตัวเชคแบทเตอรีที่เรียกว่า "อินดิเคเตอร์" ติดไว้กับมอเตอร์ไซค์ เวลาเดินผ่านจะเห็นไฟที่ตัวอุปกรณ์ว่าแบทเตอรีเต็ม ไฟสีเขียว หรือเหลือง แต่ถ้าไฟสีแดง ก็ชาร์จ ง่ายๆ แค่เสียบสายชาร์จเข้ากับอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ที่ตัวรถ เหมือนเสียบสายโทรศัพท์มือถือ และยังปลอดภัย รับรองได้ว่าจะไม่ระเบิดเหมือนที่เคยมีข่าวว่าโทรศัพท์มือถือระเบิดขณะชาร์จ เนื่องจาก CTEK ไม่มีแบทเตอรีในตัว เป็นเพียงแค่เครื่องแปลงไฟจาก 220 เป็น 12 โวลท์ ตามสเปคของแบทเตอรีทั่วไป เพราะฉะนั้นจึงไม่มีโอกาสระเบิด และหากคีบขั้วผิดพลาด ระบบป้องกันจะทำให้เครื่องไม่ทำงาน พร้อมโชว์ไฟแดงว่าไม่สามารถชาร์จไฟได้จนกว่าจะสลับขั้วให้ถูกต้อง"
ผลิตภัณฑ์ CTEK มีสินค้าจำหน่ายหลากหลายรุ่น โดยแต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติตามความต้องการของรถ เช่น รถยนต์ทั่วไปที่ใช้แบทเตอรีแบบตะกั่วกรด จะใช้รุ่น MXS 5.0 ใช้ได้ตั้งแต่ 1.2-110 A สำหรับรถเครื่องเสียงใช้รุ่น MXS 25 ถ้าเครื่องเสียงชุดใหญ่มากๆ CTEK ก็มีรุ่น 40 และ 70 แอมพ์
นอกจากนี้ CTEK ยังมีผลิตภัณ์ที่สามารถใช้ชาร์จไฟในรถโชว์เครื่องเสียงได้ โดยเป็นรุ่นที่จ่ายกระแส 25 แอมพ์ ซึ่งสมัยก่อนใช้หม้อแปลงที่ใหญ่มาก หาที่วางลำบาก แต่ของ CTEK ขนาดเล็ก สามารถซ่อนใต้ท้องรถได้เลย ส่วนถ้าเครื่องเสียงใหญ่มากๆ CTEK ก็มีรุ่น 40 และ 70 แอมพ์
ปัจจุบัน CTEK ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้รถทั่วไป โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ รุ่น MXS 5.0 ซึ่งชาร์จได้ทั้งมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ รับประกันคุณภาพสินค้านานถึง 5 ปี นอกจากนี้ บริษัท ฯ ยังมีเครื่องจัมพ์สตาร์ทอัจฉริยะ ที่ชื่อว่า SPARK ใช้แบทเตอรีแบบลิเธียม โพลีเมอร์ ระดับคุณภาพมาตรฐานยุโรป ลักษณะเหมือนเพาเวอร์แบงค์ ใช้จัมพ์สตาร์ทเมื่อเวลารถแบทเตอรีหมด ไปจนถึงรถบรรทุกสิบล้อ หรือหัวลากทเรเลอร์ และยังสามารถชาร์จ สมาร์ทโฟน/โนทบุค ได้อีกด้วย
สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท เอพีอาร์เทค จำกัด เลขที่ 5/9 ถนนสุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ ฯ 10110 โทร. 0-2662-4245, 08-1407-7310 www.jumpandcharge.com และ aprtechco@gmail.com Line ID : jumpbkk
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2558
คอลัมน์ Online : โลกรถยนต์สนทนา(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/12249