ประสาใจ
นิทานข้างหมอน
สวัสดีปีใหม่ครับ ก่อนจะเล่านิทานข้างหมอนประจำปี ผมมีเรื่องของเพื่อนรักคนหนึ่ง รับหน้าที่พาเพื่อนตระเวนราตรีถนนแห่งอารมณ์ของกรุงเทพ ฯ เรื่องมีดังต่อไปนี้ ฉิ่ง เพิ่งเข้ากรุงเทพ ฯ เพื่อนชายของเขาที่กรุงเทพ ฯ พา ฉิ่ง ตระเวน พบความงามจำนวนมากของผู้หญิงกรุงเทพ ฯ “คนนั้น สวยบาดใจเหลือเกิน แกรู้จักหล่อนไหม ?” “รู้จักสิ อัปสรสวาท 2,000” “แล้วคนที่สวมเสื้อสีแดง เดินข้างๆ หล่อนล่ะ ?” “อ๋อ...นั่น กรกฎาภรณ์ 5,000” “เหรอ ? โน่นล่ะ คนที่ยืนมุมถนนนั่นน่ะ ภูเขาน้ำแข็งของหล่อนน่าปล้นจัง แกรู้จักเธอไหม ?” “รู้จัก นั่น สยบคีรี 10,000” “อุบ๊ะ...!” ฉิ่ง ชักโมโห “นี่เราจะหาผู้หญิงดีๆ ในเมืองนี้สักคนไม่ได้เทียวหรือเพื่อน ?” “ได้” เพื่อน ฉิ่ง ตอบ “แต่ฉันเกรงว่า แกจะสู้ราคาไม่ไหวน่ะสิ...!!” ............................................................................................. กิรดัง ได้ยินมา ตทา กาเล...กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว...ณ ตำบลหนึ่งในแคว้นหนึ่งของอินเดียโบราณกาล มีช่างไม้หนุ่มคนหนึ่ง บังเอิญได้ภรรยาเป็นผู้หญิงสวย ความสวยของภรรยาย่อมเป็นที่หมายปองของชายอื่นตามหลักธรรมชาติ และนางก็รับชะตากรรมนี้ไปตามความสวย เพื่อนบ้านต่างรู้เช่นเห็นชาติ “ร้อยพิศวาส” ของนาง เล่าขานกันฟังตั้งแต่หัวคุ้งถึงท้ายคุ้ง จนกระทั่งทะลุเข้าถึงหูช่างไม้ ฟังแต่แรก ชายหนุ่มช่างไม้ก็รู้สึกแคลงใจ ต้องการทราบแบบลึกๆ เพื่อพิสูจน์ข้อมูลจากปากของผู้คนในตำบลนั้น จริงหรือที่ภรรยาของตน มีชายอื่นนอกจากตนที่เป็นสามี ? ช่างไม้หนุ่ม เฝ้าวางแผนการ เพื่อหาทางพิสูจน์คำนินทาว่าร้ายภรรยาที่น่ารักของเขา ท่ามกลางเสียงนินทาที่ประดังมาทุกทิศทาง วันหนึ่ง ความคิดอันเฉียบแหลมของเขาก็บังเกิดขึ้น และเขาถือว่าได้มาเพราะ “ผีบอก” เขาเดินเข้าไปหาภรรยาด้วยสีหน้าเศร้า “ที่รัก” เสียงของเขาสั่นเครือผิดธรรมชาติ “ฉันได้งานใหม่ในตำบลถัดไปจากที่นี่ และฉันต้องจากบ้านของเราเป็นเวลานาน โปรดช่วยทำกับข้าวใส่ถุงให้ฉันรอนแรมไปได้ตลอดทางหน่อยเถอะ” ศรีภรรยาได้ฟัง รู้สึกตื่นเต้นด้วยความลิงโลด พยายามปกปิดซ่อนเร้นความดีใจมิให้ปรากฏออกมาจาก 4 ห้องหัวใจ ลงมือเก็บข้าวของ และปรุงอาหารใส่ภาชนะเดินทางให้ชายผู้เป็นสามีด้วยความเร่งรีบ เสร็จแล้วก็เร่งรีบให้สามี เริ่มต้น THE LONG JOURNEY ในเวลาอันไม่ชักช้า ก่อนหน้านี้เล็กน้อย นางแอบส่งข้อมูลออนไลน์ไปถึงคนรัก ให้รู้ว่าสามีจะลงบันไดเรือนจากไปนาน ดังนั้น คืนนี้ขอเชิญมาพบกันที่บ้านหน่อยนะ อนิจจา...หารู้ไม่... ช่างไม้หนุ่มออกจากเคหาของตนแล้วก็เข้าป่า แฝงตัวอยู่ถึงเวลาพลบ กลับออกจากป่ามา และแฝงตัวเข้าบ้านของตนโดยไม่มีใครเห็น เขาแฝงตัวอีกครั้ง คลานเข้าไปอยู่ใต้เตียงนอนในห้องนอน ที่เขานอนกับเมียเมื่อคืนนี้อย่างเงียบๆ ไม่นาน เสียงที่เขาได้ยินก็ยืนยันความคาดหมายของตน คนรักของภรรยาเข้ามาในห้อง ทำอะไรกับเสื้อผ้าทุกชิ้นราวกับว่า เขากำลังอยู่ในห้องนอนของเขาเอง ไม่นานเท่าไร เมียรัก หรือเมียที่เขาเคยรักก็นวยนาดเข้ามาในห้อง เปลื้องผ้าออกแต่ละชิ้นต่อหน้าคนรัก แบบไม่กลัวถ่ายคลิพลับเก็บไว้แชร์ภายหลัง เพราะอินเดียสมัยนั้นไม่รู้จักว่า “คลิพลับ” คืออะไร กินได้หรือเปล่า เปลือยร่างแล้วก็จะเหินตัวก้าวขึ้นเตียงนอนไปหาคนรัก...นาทีนั้น ช่างไม้หนุ่มเกือบยั้งความแค้นอกแค้นใจไม่ได้ เกือบจะพุ่งตัวเองออกมาจากใต้เตียงเพื่อกระทำการ เป็นข่าวพาดหัว แต่บังเอิญหยุดยั้งไว้ได้เหลือเชื่อ... แม้แต่คนเล่านิทานเรื่องนี้ ก็แทบไม่เชื่อเหมือนกัน... อย่างไรก็ดี ฟ้ายังมีดวงตาสวรรค์ ช่วยให้เท้าเปลือยเปล่าของนางไปสะดุดส่วนหนึ่งของสามีที่อยู่ใต้เตียง ตกใจหลังอาการสะดุ้งสุดตัว สัญชาตญาณบอกนางว่า นั่นมันสามีของนางชัดๆ นึกไม่ออกว่า เรื่องมันมายังไง และจะเป็นยังไงต่อไป... ภรรยาที่มีรูปทรงสวยงามแบบผู้หญิงสาว ขึ้นถึงเตียงนอน เมื่อร่างต่อร่างกระทบคนรักสนิทแล้ว มายาพิศวาสของนางแล่นพล่านไปทั่วเรือนกาย จนความคิดอันแยบยลเกิดขึ้นมาในพริบตาเดียว นางกระซิบถ้อยคำเสียงแผ่วเบากับ ยอดชายนายทึ่ม...เอ้ย...ชายยอดรักของนางว่า “นิ่งก่อน...ปล่อยให้ฉันพูดคนเดียว ผัวฉันเข้ามาซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงนี้ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้...” คนรักฟังแล้ว ตกสวรรค์ทันที หัวใจที่เบ่งบานหดเหลือเท่าเม็ดบัว นางร้องขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า “อย่าเพิ่งทำอะไร ขอให้ฉันเล่าอะไรให้ฟังก่อนเถอะ” “อะไรรึ ?” เสียงกระเส่าชอบกลแฮะ “คืออย่างนี้” นางเล่าขาน “เมื่อเช้านี้ ฉันเข้าไปสวดในโบสถ์ เทพธิดา กัวรี ได้ส่งเสียงเข้ามาถึงหัวใจของฉันว่า... “โธ่เอ๋ย...สาวน้อยผู้น่าสมเพช เจ้าจะต้องเป็นม่ายภายในหกเดือนนี้” ด้วยอารามตกใจ และด้วยความหวาดกลัว ฉันจึงอ้อนวอนเทพธิดา เพื่อเห็นแก่อายุวัฒนาของชายผู้เป็นสามี มีสิ่งไรที่ฉันพอจะทำได้บ้าง ฉันยินดีทำทุกประการเพื่อขออย่างเดียว ขอให้สามีอย่าด่วนจากฉันไปเช่นที่ว่าเลย... เทพธิดา ก็สุดแสนเมตตา ชี้ทางฉันว่า “ก็ได้...เจ้าต้องหลับนอนกับชายอื่นด้วยความสมัครใจ แล้วนั่นแหละ สามีของเจ้าอายุจะยืนยาวถึงร้อยปี” ถึงตอนนี้ นางหยุดไปพักหนึ่ง แล้วเล่าต่อว่า “เพื่อบรรลุความประสงค์ของฉัน ขอท่านโปรดให้ความเอ็นดู ขอให้เห็นแก่สามีของฉันเอง เพื่อสามีฉันจะได้อายุยืนยาวกว่าชายใดในจักรวาล” “เรื่องเท่านี้น่ะหรือ ?” ชายคนรักร้องระคนเสียงหัวร่ออย่างครื้นเครง แล้วก็เริ่มบทอัศจรรย์ไปตามความประสงค์ของสาวสุดสวย กระทั่ง ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ เกือบที่ช่างไม้จะคลานออกมาอยู่แล้ว เสียงอันเป็นองค์ประกอบของบทอัศจรรย์กลับดังขึ้นมาอีกรอบ รอบนี้ นานกว่ารอบแรก แต่ก็จบลงด้วยความเงียบเหมือนกัน นานเท่านาน จนช่างไม้หนุ่มมั่นใจว่า ทั้งสองคงฝังร่างอยู่บนเตียงด้วยความนิ่ง จึงคลานออกมาจากใต้เตียง แล้วคำรามลั่นห้อง “เมียฉัน ไฉนน่ารักน่าบูชาเช่นนี้หนอ...” ทั้งสองคนบนเตียงลืมตา เห็นรอยยิ้มกว้างของช่างไม้ก็โล่งใจ นอนนิ่ง รอฟังประโยคถัดไปของช่างไม้หนุ่ม “และก็...สูเจ้าจะมาจากแห่งหนตำบลใดก็ตาม...มาเถิด เรามาฉลองกันให้เต็มคราบ เพื่อความสุขอันยิ่งใหญ่ของคืนวันนี้...!!!”
เรื่องโดย : ข้าวเปลือก
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2559
คอลัมน์ Online : ประสาใจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/112686