X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
โค้งอันตราย
2 Dec 2015
งวดเข้ามาทุกที
ใกล้จะสิ้นปีแล้ว แม้ว่ายอดการขายรถยนต์ 9 เดือนแรกของปี จะยังคงลดลงถึง 15.1 % ขายกันได้เพียง 537,945 คัน เท่านั้น แต่จากตัวเลขการขายของเดือนกันยายน เดือนเดียว น่าจับตามองว่า ยอดที่ลดลงเพียง 10.4 % ขายกันได้ 59,947 คัน น่าจะเป็นยอดที่ค่อนข้างเป็นการปรับตัวของตลาด ตามสภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริงแล้ว ก็ขนาดยักษ์ใหญ่ยังออกมายอมรับว่า คาดว่าตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2558 คงไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 8 แสนคัน อาจเหลือประมาณ 7.6-7.7 แสนคัน หากเทียบกับปี 2557 ในส่วนของยักษ์ใหญ่เอง ก็มีแนวโน้มว่าจะปรับลดเป้าหมายยอดขายรถ จากเดิม 2.8 แสนคัน เหลือ 2.65 แสนคัน เพราะแม้ว่าเศรษฐกิจไทยทางรัฐบาลกำลังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คงต้องรอดูผล แต่ในส่วนของเศรษฐกิจโลกแย่กว่าที่คิด แต่ในอนาคตก็ยังมีความเชื่อมั่นในตลาดประเทศไทยว่ามีศักยภาพ สามารถมียอดจำหน่ายระดับ 9 แสน-1 ล้านคัน/ปี ได้เหมือนในอดีตได้ไม่ยาก แม้ว่าปี 2559 จะยังไม่ดี ตลาดรถยนต์อาจจะลดลงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นจะดีขึ้น เชื่อว่าประเทศไทยจะกลับไปสู่ประเทศที่มียอดจำหน่ายระดับ 1 ล้านคัน/ปี ได้ภายใน 3 ปีต่อจากนี้ เนื่องจากเรามีพื้นฐานอุตสาหกรรมยานยนต์เข้มแข็ง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้น แม้จะเหนื่อย แต่ต้องอดทน อีกเพียง 3 เดือน วงการรถยนต์เมืองไทย ก็จะถึงการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 สรรพสามิตประกาศใช้ โครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ ที่จัดเก็บจากการใช้เชื้อเพลิง และปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เริ่มบังคับใช้นั้น อันจะทำให้รถหลากหลายรุ่น ต้องเสียภาษีในอัตราใหม่ ซึ่งจะทำให้รถยนต์ราคาแพงขึ้น ขึ้นอยู่กับแบบ และรุ่นรถ และการปล่อยค่าไอเสีย กรมสรรพสามิตท่านก็ออกมาระบุว่า ปัจจุบันบริษัทรถยนต์ได้ทยอยส่งราคารถยนต์ให้แก่กรม ฯ พิจารณาปรับอัตราภาษีใหม่แล้ว 90 % ส่วนอีก 10 % เป็นรถยนต์หรูราคาแพง ทั้งผลิตภายในประเทศ และนำเข้า คาดทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น จะส่งราคารถยนต์ให้กรม ฯ ครบภายในสิ้นปีนี้ สำหรับอัตราภาษีใหม่ที่ค่ายรถยนต์ได้เริ่มทยอยส่งราคาใหม่ให้แก่กรม ฯ พิจารณาแล้ว พบว่า ราคารถยนต์ที่เสนอมาใหม่ มีราคาขายสูงกว่าราคารถยนต์ที่ผลิต และจำหน่ายในปัจจุบัน โดยสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ บริษัทรถยนต์พัฒนาคุณภาพของเครื่องยนต์ดีขึ้น จึงมีต้นทุนสูงขึ้น และผู้ผลิตได้ออกรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดมากขึ้น ส่งผลให้ราคารถยนต์ปี 2559 แพงขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2558 กรมสรรพสามิตมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีรถยนต์ประมาณ 85,000 ล้านบาท และคาดว่าปี 2559 จะมีรายได้เพิ่มเป็น 95,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10,000 ล้านบาท โครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่นี้ รถยนต์ประเภทประหยัดพลังงาน อย่างเช่น อีโคคาร์ ไม่เสียภาษีเพิ่ม จะเท่าเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างภาษีเดิม เนื่องจากเป็นรถยนต์ขนาดเล็กและประหยัดพลังงานอยู่แล้ว ส่วนรถกระบะหรือพิคอัพ เสียภาษีแพงขึ้น คันละ 10,000-30,000 บาท ขณะที่รถยนต์ราคาหลักล้านบาท แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท เสียภาษีประมาณ 40,000-100,000 บาท แต่รถยนต์หรูราคาหลายล้านบาท เสียภาษีตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท ประเมินกันว่า รถยนต์ยี่ห้อ โตโยตา จะต้องเสียภาษีแพงขึ้น 12,000-450,000 บาท, ฮอนดา เสียภาษีแพงขึ้น 5,000-120,000 บาท, มาซดา 85,000-140,000 บาท, มิตซูบิชิ 8,000-140,000 บาท, เชฟโรเลต์ 20,000-120,00 บาท, บีเอมดับเบิลยู 100,000-500,000 บาท และเมร์เซเดส-เบนซ์ 289,000-1,000,000 บาท เป็นต้น แต่นักการตลาดก็ยังประเมินตลาดรถยนต์ว่ายังทรงตัว แม้จะเข้าสู่ฤดูกาลขายในไตรมาส 4 ชี้กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้น-ภาคเอกชน ยังมีความกังวลกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่าการผลักดันนโยบายจากภาครัฐ และการเปิดตัวรถใหม่พร้อมกับแคมเปญจะช่วยกระตุ้นตลาดให้คึกคักได้ แต่งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” ต้นเดือนธันวาคมนี้ น่าจะเป็นตัววัดภาวะเศรษฐกิจได้ดีระดับหนึ่ง เพราะจะเป็นเดือนสุดท้ายที่มีการแสดงรถยนต์ เกือบทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ที่มารวมตัวกันให้ผู้บริโภคได้พิจารณาเลือกซื้อหาไปใช้ ตามแต่ความจำเป็น และความต้องการ ซึ่งแน่นอนว่า ปีนี้ผู้บริโภคต้องใช้การตัดสินใจที่เพิ่มขึ้น เมื่อทราบดีอยู่แล้วว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่ คิดตามการปล่อยค่าไอเสีย จะทำให้รถยนต์ราคาแพงขึ้น ขึ้นอยู่กับแบบและรุ่น ปีนี้ เราน่าจะได้เห็นตัวเลข “นิวไฮท์” กันอีกครั้ง ส่งท้ายเศรษฐกิจที่อึมครึม เชื่อไหมเอ่ย
อ่านต่อ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2558
คอลัมน์ Online : โค้งอันตราย
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/111889
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
โค้งอันตราย
โค้งอันตราย
9 Apr 2018
ชื่นหัวใจ
โค้งอันตราย
8 Mar 2018
ทุกอย่างดีไปหมด
โค้งอันตราย
9 Feb 2018
บอกแล้วว่าจะโต
โค้งอันตราย
10 Jan 2018
ยิ้มได้ เมื่อขายดี
โค้งอันตราย
12 Dec 2017
แน่ใจว่าฟื้นแล้วหรือ
ดูต่อในคอลัมน์ โค้งอันตราย