ทั่วไป
อ่านหนังสือพิมพ์ระยะนี้ มักจะเห็นบทความ คอลัมน์เกี่ยวกับการดูแลรักษาสภาพยานพาหนะ ที่บังเอิญเกิดผลกระทบจากน้ำหลาก ที่มากมายเยอะแยะ บางคันอาจถึงกับจมน้ำไปเลยก็มี
อ่านหนังสือพิมพ์ระยะนี้ มักจะเห็นบทความ คอลัมน์เกี่ยวกับการดูแลรักษาสภาพยานพาหนะ ที่บังเอิญเกิดผลกระทบจากน้ำหลาก ที่มากมายเยอะแยะ บางคันอาจถึงกับจมน้ำไปเลยก็มี
อันที่จริง เชื่อว่าท่านเจ้าของรถทุกท่าน ก็คงดูแลรักษายานพาหนะกันไม่ให้ถึงกับจมน้ำ เพราะสายน้ำไม่ได้มาเพียงชั่วข้ามคืน แต่ค่อยๆ สูงขึ้นๆ จนสามารถสังเกตได้
แต่สิ่งที่อยากบอกเพิ่มเติม ก็คือ ถ้าเป็นไปได้ สำหรับรถที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ก็ลองติดต่อกับผู้แทนจำหน่ายของยี่ห้อนั้นๆ ดูดีกว่า ก่อนที่จะเสียบกุญแจทดลองสตาร์ท เพราะน้ำที่ท่วมขัง อาจเข้าไปทำอันตรายกับระบบไฟฟ้าภายในเครื่องยนต์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ การทดลองสตาร์ท อาจทำอันตรายกับเครื่องยนต์ได้
ส่วนรถที่ลุยน้ำมาเป็นระยะทางไกลๆ ก็อย่าลืมลองวัดระดับน้ำมันเครื่องดูด้วย เพราะน้ำอาจเข้าไปปนเปื้อนกับน้ำมันเครื่อง ทำให้น้ำมันหมดสภาพของการหล่อลื่น
เรียนเตือนมาด้วยความหวังดีนะครับ
เห็นข่าวรถยนต์ที่ถังแกสระเบิด แล้วลุกไหม้รถทั้งคันจนเรียบร้อย ก็อยากเตือนบรรดาท่านเจ้าของรถที่ยอมเสียเงินเพิ่มเติม เพื่อติดตั้งแกส ทั้งระบบ ซีเอนจี หรือระบบ แอลพีจี อย่าลืมทดสอบจนแน่ใจว่าจะไม่มีอันตรายใดๆ ก่อนจะรับรถออกจากอู่ที่ติดตั้ง ส่วนมาตรฐานผลิตภัณฑ์ถังแกส สำหรับใช้ในยานพาหนะ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพิ่งตื่นตัว หลังตรวจสอบพบว่า มีผู้ประกอบการบางราย นำเข้าถังบรรจุแกส แอลพีจี ที่ไม่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายภายในประเทศ เกรงว่าจะส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้มงวดต่อผู้ประกอบการมากขึ้น
ท่านเลขาธิการของ สมอ. ให้สัมภาษณ์ว่า
"ปัจจุบันมีผู้บริโภคจำนวนหนึ่งที่นำถังบรรจุแกส แอลพีจี รูปทรงยางอะไหล่รถยนต์ หรือรูปทรงโดนัท ซึ่งไม่ได้มาตรฐานไปติดตั้งภายในรถ โดยใช้วิธีการติดตั้งแทนที่ในช่องยางอะไหล่ที่อยู่ส่วนท้ายของรถยนต์ ซึ่งในทางปฏิบัติที่ถูกต้อง ตามมาตรฐานและความปลอดภัย จะต้องใช้ถังแกสรูปทรงแคพซูล โดยติดตั้งบริเวณช่องเก็บสัมภาระส่วนท้ายรถยนต์ ทำให้ สมอ. เกรงว่าผู้บริโภคจะหันมานิยมใช้ถังบรรจุแกส แอลพีจี ที่ไม่ได้มาตรฐาน และเป็นการติดตั้งที่ไม่ปลอดภัย แม้ว่าวิธีการติดตั้งดังกล่าวจะประหยัดเนื้อที่ก็ตาม"
พร้อมกับเตือนว่า หากเลือกใช้ถังแกสรูปทรงโดนัท อาจไม่สามารถนำรถยนต์ไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้
แถมท่านยังบอกอีกว่าสำหรับผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปในสถานที่ผลิต เก็บ หรือจำหน่าย เพื่อตรวจสอบ หรือนำผลิตภัณฑ์ไปเป็นตัวอย่างเพื่อทดสอบ จะมีโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อันนี้หมายถึงอู่ที่รับติดตั้งนะครับ ส่วนรถคันที่ติดเรียบร้อยแล้วน่ะ ไม่เกี่ยวกัน จะเกี่ยวก็แค่เรื่องจดทะเบียนเท่านั้น
ก็สนุกดีน่ะครับ รถแทกซีที่วิ่งกันอยู่บนถนนทุกวันนี้ ร้อยละ 99 ติดตั้งแกส มีทั้ง ซีเอนจี และ แอลพีจี วิ่งกันเกลื่อนกรุงมานมนาน แต่ฟากราชการ เพิ่งจะตื่นตัวเรื่องมาตรฐานของถัง เรื่องมาตรฐานของการติดตั้ง แต่ไม่ยักมีบทบาทอะไรมาตั้งนาน
ชีวิตคนไทยนี่ ก็อยู่กันแบบไทยๆ ไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน
เรื่องถัดไปขอมอบสำหรับคนกรุงเทพมหานครสักเรื่อง ว่าขณะนี้ สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ที่อยู่ใกล้ๆ กับสะพานพระราม 9 กรมทางหลวง เปิดให้ได้ใช้กันแล้ว มีจุดขึ้นลงอยู่ 3 จุด
จุดแรก ทางขึ้น/ลงด้านถนนปู่เข้าสมิงพราย สามารถวิ่งตรงไปลงที่ถนนพระราม 3 ซอย 61 โดยตรงจุดทางลงจะเป็นสามแยกสามารถเลี้ยวซ้ายไปคลองเตย หรือเลี้ยวขวาไปสาธุประดิษฐ์ หรือใช้แยกต่างระดับกลางสะพาน เลี้ยวซ้ายไปลงถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 56 จุดที่สอง ด้านถนนพระราม 3 ซอย 61 ลงได้ 2 จุด ลงที่ที่ถนนปู่เจ้าสมิงพราย บริเวณสถานีไฟฟ้าย่อยท้องคุ้ง โดยจุดบริเวณทางลงนั้น สามารถเลี้ยวซ้ายไปท่าเรือพระประแดงได้
อีกจุดหนึ่งถนนสุขสวัสดิ์ บริเวณซอย 56 โดยบริเวณกึ่งกลางสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีทางแยกต่างระดับ สามารถเลี้ยวขวาลอดใต้สะพาน ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา วิ่งตรงไปลงที่ถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 56 แล้วเลี้ยวซ้ายไปพระประแดงได้ทันที
จุดที่สาม ทางขึ้นลงด้านถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 56 วิ่งตรงขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อถึงต่างระดับบริเวณกึ่งกลางสะพานสามารถเลี้ยวซ้ายไปถนนพระรามที่ 3 หรือวนขวาลอดใต้สะพานวิ่งไปลงถนนปู่เจ้าสมิงพราย บริเวณสถานีไฟฟ้าย่อยท้องคุ้ง ได้เช่นกัน
มีเรื่องประเภทรู้ไว้ใช่ว่ามาฝากอีกเรื่องหนึ่ง
คงเห็นในท้องถนนทุกวันนี้ ว่าบรรดารถที่วิ่งๆ กันอยู่นั้น ชักมีสีแปลกๆ ออกมาวิ่งกันเยอะขึ้น ผู้รู้ด้านสีรถยนต์เลยออกมาให้ความรู้พอเป็นสังเขป
จากผลการสำรวจของดูปองต์ เมื่อปี 2005 ผลสำรวจเรื่องสีของรถยนต์ พบว่า สีเงินยังคงได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถอยู่ โดยยานยนต์ในเอเชีย 30 % มีสีเงิน ใกล้เคียงกับในยุโรป ที่ 29 % มีสีเงิน
สำหรับรถที่ราคาแพง และมีมูลค่าสูง มักจะมีสีสันที่ไม่สดใส แต่ดูคลาสสิค แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้าง เช่น รถแฟร์รารี มักออกแบบและผลิตออกมาในโทนสีแดงคลาสสิค แต่คุณจะไม่เห็นเลยว่ารถราคาแพง จะมีสีส้มหรือสีเขียวสด
ขณะที่บรรดาองค์กรต่างๆ ซึ่งแต่ละปีซื้อหรือเช่ารถกว่าล้านคันในสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้เป็นรถบริษัท จะนิยมเลือกซื้อรถที่มีโทนสีกลางๆ ไว้ก่อน เพราะยังคงราคามูลค่าไว้ได้ดีกว่า หรือแม้แต่ลูกค้ารายย่อยก็ไม่อยากจะซื้อรถที่ไม่สามารถขายต่อในราคาดี
สำหรับแนวโน้มสีรถยนต์ในปี 2009 เชื่อว่า นักออกแบบน่าจะปรับเปลี่ยนสีเงินไปเป็นสีโทนใหม่ โดยมีการเจือสีฟ้าเย็น หรือเขียวเย็น เข้าไปในสีเงิน หรือเพิ่มลูกเล่นด้วยสีน้ำตาลอ่อนเมทัลลิค นอกจากนี้ แม้แต่สีเทายังจะผสมกับเฉดสีแดง น้ำเงิน หรือม่วง
ส่วนสีน้ำเงินอ่อน น้ำเงินกลาง และน้ำเงินเข้ม จะได้รับความนิยมมากกว่าเดิม ขณะที่สีแดงสดจะผสมกับสีส้มเพื่อสร้างทเรนด์สีใหม่ นอกจากนี้ สีน้ำตาลเข้ม จะถือเป็นสีที่มักใช้กับรถยนต์หรูหรา เป็นช่วงๆ ไป แต่ก็จะมีการเพิ่มไฮไลท์ใหม่ๆ หรือลูกเล่นที่ไม่ใช่สีเทา จนกลายเป็นสียอดนิยมสำหรับรถยนต์หลากหลายรูปแบบ
ขณะที่สีเหลืองสด และสีส้มก็กลายเป็นสียอดฮิทเช่นกัน ดูเหมือนว่า ผู้คนกำลังชื่นชอบรถยนต์สีสดใสเตะตา เช่นเดียวกับรถขนาดเล็กที่ประหยัดพลังงาน ในยุคที่น้ำมันราคาแพงอย่างนี้
ส่วนครอบครัวที่มีทรัพย์สินรวมกันมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาทนั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ารถนับ 10 คัน ในครอบครัว จะมีสีสันฉูดฉาดสักกี่คัน เพราะเท่าที่เคยเห็นในโทรทัศน์นั้น รู้สึกจะเป็นสีเรียบๆ เกือบทั้งหมด
แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเห็นรถครอบครัวนี้มาวิ่งบนถนนสักเท่าใด เพราะหัวหน้าครอบครัวยังเที่ยวอยู่ที่อังกฤษโน่น
เอ เลี้ยวไปทางนั้นได้ยังไงก็ไม่ทราบนะครับ พบกันที่เมืองทองธานี 30-11 ธันวาคม นี้ครับ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8670