ทั่วไป
เมื่อก่อนคำว่าชั่วคราว หรือถาวร เป็นคำที่มีความหมายดี ลึกซึ้ง แต่มาถึงสมัยใหม่ในปัจจุบัน ไม่นึกเลยว่าความหมายจะตกต่ำเพราะเขาเอาไปใช้กับบุคคลประเภทที่ไม่น่าไว้วางใจว่า
เมื่อก่อนคำว่าชั่วคราว หรือถาวร เป็นคำที่มีความหมายดี ลึกซึ้ง แต่มาถึงสมัยใหม่ในปัจจุบัน ไม่นึกเลยว่าความหมายจะตกต่ำเพราะเขาเอาไปใช้กับบุคคลประเภทที่ไม่น่าไว้วางใจว่า
"ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวรในวงการเมือง" คนเลยมองเห็นว่า นักการเมืองเป็นอย่างนี้นี่เอง ทั้งๆ ที่ความจริงน่าจะเป็นการแยกกัน
การไม่มีมิตรแท้นั้น โดยทั่วไปไม่ดีแน่ เพราะคนเรา ต่อให้โกรธกันอย่างไร ก็ควรอภัยให้กันได้ ถ้าการอภัยนั้นเป็นการดีต่อทุกฝ่าย (ที่สมัยนี้เขามักใช้ว่า "วิน-วิน" หรือ "WIN-WIN" คือ ได้ประโยชน์เป็นที่พอใจทุกฝ่าย)
ส่วนการไม่มีศัตรูถาวรนั้น พูดไปแล้วน่าจะเป็นการดีต่อสังคม ถ้าคนเราไม่เป็นศัตรู...โดยเฉพาะการเป็นศัตรูอย่างถาวร ย่อมไม่เป็นการดีต่อใครทั้งนั้น
ผู้เขียนเกิดเป็นน้องรัฐธรรมนูญฉบับแรกของเรา (27 มิถุนายน 2475) เพียง 2 ปี แต่กว่าจะโตพอรู้เรื่อง รัฐธรรมนูญฉบับนั้น (ที่เรียกกันว่า "รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว") ก็มีแต่เพียงชื่อปรากฏในวิชาประวัติศาตร์ให้รู้ไว้ให้ตอบเอาคะแนนเท่านั้น
แม้กระทั่งฉบับที่สองที่เรียกว่า "รัฐธรรมนูญฉบับถาวร" ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ทรงลงพระปรมาภิไธย ประกาศใช้เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2475 มีชื่อที่เรียกเป็นทางการว่า "รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475" รัฐธรรมนูญฉบับที่เรียกว่าถาวรนี้ มี 68 มาตรา อายุ 13 ปี 4 เดือน 29 วัน (จาก 10 ธันวาคม 2475-9 พฤษภาคม 2489) ปัจจุบันนี้ก็มีคุณูปการเพียงว่าให้เราได้รำลึกถึง โดยการหยุดราชการ 1 วัน ตอนนั้นเรียกว่า "วันรัฐธรรมนูญ" งานฉลองรัฐธรรมนูญนั้น ครั้งแรกที่สุดมีขึ้นที่หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งคณะราษฎร-ผู้ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง (ซึ่งตามหลักรัฐศาสตร์ควรเรียกว่า "ปฏิวัติ" เพราะเป็นการเปลี่ยนระบบการปกครอง นอกนั้น ต่อๆ มาน่าจะเรียกว่า "รัฐประหาร" คือยึดอำนาจ ยกเลิกรัฐธรรมนูญเก่า
ส่วนที่ยึดอำนาจไม่สำเร็จ เช่น เมื่อ วันที่ 10-25 ตุลาคม 2476 โดยผู้นำทำการ คือ นายพลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช อดีตเสนาบดีกระทรวงกลาโหม เรียกนามว่า "คณะกู้บ้านกู้เมือง" ทำการยึดอำนาจไม่สำเร็จ จึงถูกเรียกว่า "กบฏ" หรืออีกครั้งที่ผู้เขียนจำได้ คือเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2528 ที่นำโดยพันเอกมนูญ รูปขจร (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น มนูญกฤต เป็นสมาชิกวุฒิสภาชุดเลือกตั้งครั้งแรก 2543-2549) นำคณะรัฐประหารรัฐบาล พลเอกเปรม ติณสูลานนท์แล้วไม่สำเร็จ ก็ถูกเรียกว่ากบฏเช่นกัน ดีแต่สมัยหลังๆ นี้ มีการนิรโทษกรรม จึงยังชูคออยู่ในสังคมได้
ที่น่าคิดยิ่งกว่านั้น ช่วงหนึ่งก็ไม่หยุดราชการให้ เพียงแต่พูดถึงว่าเป็น "วันที่ระลึกรัฐธรรมนูญ" เท่านั้น ทั้งๆ ที่สมัยที่ผู้ร่วมก่อการยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงการปกครอง (นายพันโทหรือพท. หลวงพิบูลสงคราม ต่อมา คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม-ผู้มีนามเดิมว่า แปลก ขีตตะสังคะ ) ยังเรืองอำนาจนั้น งานฉลองรัฐธรรมนูญซึ่งย้ายไปจัดที่สวนลุมพินี ถือเป็นงานฤดูหนาวที่ขึ้นหน้าขึ้นตาประจำปี มีวัสดุเหลือใช้...เอ๊ย..อนุสรณีย์เดินได้เป็นที่ระลึกที่น่าชื่นใจ คือ นางสาวสยาม-ที่ต่อมาเป็นนางสาวไทย เมื่อประเทศชาติที่รักของเราถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ประเทศไทย" ให้ดูเป็นประเทศที่ศิวิไลซ์ (CIVILIZE) นับแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2482 เป็นต้นมา
"นางสาวไทย" กลายเป็นสมบัติ หรือมรดกทางวัฒนธรรม (?) สืบเนื่องจากงานฉลองรัฐธรรมนูญมาจนบัดนี้ ดังนี้แล
ขอรวบรัดตัดตอนมาถึงเรื่องรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ซึ่งบางครั้งก็คราวละนานๆ ปี เช่น สมัยที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นำคณะยึดอำนาจจากรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม (ครั้งสุดท้ายของนายก ฯ คนนั้น คือ เมื่อ 16 กันยายน 2500 เพราะเป็นนายก ฯ ที่ครองอำนาจหลายสมัยที่สุด คือ 8 ครั้ง รวมเวลาทั้งสิน 15 ปี 23 วัน)
แต่ยึดอำนาจแล้ว จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยังไม่ยอมเป็นนายกรัฐมนตรีเอง โดยให้นายพจน์ สารสิน เป็นนายก ฯ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ มีการเลือกตั้งก็ให้จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายก ฯ อยู่ได้ 9 เดือน 19 วัน จอมพลสฤษดิ์จึงยึดอำนาจอีกครั้งเมื่อ 20 ตุลาคม 2501 และเป็นนายก ฯ ที่ใช้ (ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ) เวลาร่างรัฐธรรมนูญยาวนานมาก ระหว่างที่ร่างรัฐธรรมนูญอยู่นั้น ก็ใช้ "ธรรมนูญการปกครอง" ฉบับชั่วคราวที่ให้อำนาจนายก ฯ มากที่สุด ที่ขึ้นชื่อลือชามาก ก็คือ มาตรา 17 ที่สามารถสั่งการได้เด็ดขาดมาก สามารถสั่งจับกุมคุมขังผู้ที่ "ประกาศคณะปฏิวัติ" อ้างว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ มาตรานี้ศักดิ์สิทธิ์มาก สามารถสั่งยิงเป้าผู้ที่ถูกตำรวจอ้างว่าเป็นผู้ทำให้ไฟไหม้ให้คนเห็นที่ข้างหอสมุดแห่งชาติ (เดิมที่ข้างสนามหลวง) จนต่อมา คนระมัดระวังเรื่องไฟไหม้มากจนเรียกได้ว่า เป็นนายก ฯ ที่สามารถสั่งหยุดไฟไหม้ได้
มาตรา 17 นี้ถูกคณะสักวา "สโมสรสยามวรรณศิลป์" ของผู้เขียนนำมาอ้างมากที่สุด และต่อๆ มา เมื่อมีรัฐประหาร (หรือที่เรียกว่า "คณะปฏิรูปการปกครอง" เมื่อคณะพลเรือเอกสงัด ชะลออยู่เป็นหัวหน้าคณะเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 หรือเรียกว่า "คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ" (รสช.) นำโดยพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ยึดอำนาจรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อ ปี 2535-เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ก็เพิ่มมาตรามากขึ้น มาตราศักดิ์สิทธิ์มหาศาล สั่งยิงเป้า หรือจับกุมคุมขัง ใครที่อ้างว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ก็กลายเป็นมาตรา 20 บ้าง มาตรา 21 บ้าง
ขณะที่เรียบเรียงต้นฉบับนี้ คณะยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร (๒) ซึ่งนำโดยหัวหน้าคณะ (ด้วยความจำเป็นและไม่ตั้งใจมาก่อน) คือ พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ได้ใช้ชื่อคณะว่า "คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" ซึ่งเข้าใจว่าเป็นชื่อคณะยึดอำนาจที่มีชื่อยาวที่สุดในโลก เป็นการยึดอำนาจที่ไม่มีเสียงปืนแม้แต่นัดเดียว มีประชาชนพอใจ(ทราบจากโพลล์) ถึง 83 % มีประชาชนไปถ่ายรูปกับรถถัง (ทั้งชาวต่างประเทศด้วย) ไปมอบข้าวปลาอาหาร และมอบดอกไม้ ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านๆ มาและไม่เหมือนที่ใดๆ ในโลก แต่มีสัญญาว่า
จะพยายามแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์
จะประกาศรัฐธรรมนูญชั่วคราว (ได้ยินว่ามีร่างเสร็จแล้ว ให้คณะนักวิชาการลองอ่านวิจารณ์ และแก้ไขอยู่ มี 39 มาตรา) ให้เร็วที่สุด
ให้ได้คณะรัฐมนตรีที่ประชาชนได้ยินชื่อแล้วไม่ร้อง "ยี้" หรือ "ว้า" 35 คน รวมกับนายก ฯ เป็น 36 คน คณะรัฐมนตรีนี้ มีอายุ ประมาณ 1 ปี
รัฐมนตรีชุดนี้มีหน้าที่หลัก 2-3 ประการ คือ ช่วยดูแลการร่างรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปการบริหารราชการ และฟื้นฟูเศรษฐกิจ หรือทำให้ทั่วโลกเข้าใจประเทศไทย และเชื่อมั่นต่อประเทศไทยโดยเร็ว
จะให้ร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นขบวนการภายในเวลาประมาณ 6-8 เดือน หลังจากนั้นให้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์ทรงเป็นประมุข
ส่วนผู้เขียนได้แต่ตั้งจิตอธิษฐาน ขอพระเดชพระสยามเทวาธิราชและพระบรมบารมีบุรพกษัตริยาธิราช โปรดคุ้มครองประเทศชาติให้พ้น "อำนาจธนาธิปไตย" "กังฉินวงศาคณาญาตยาธิปไตย" ปลอดจากเผด็จการสภา และมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรจริงๆ และขอให้เป็นการยึดอำนาจนอกรัฐธรรมนูญครั้งสุดท้ายจริงๆด้วยเทอญ
เรื่องโดย : ประยอม
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8648