ฉบับที่แล้วเราข้ามไปอธิบายเรื่องประกันประเภท 3 และ 2 กันก่อน ซึ่งมีส่วนที่อ้างอิง และเกี่ยวข้องถึงประกันประเภท 4 อยู่ด้วย เพื่อความเข้าใจ ผมขอย้อนกลับมาพูดถึงประกันประเภท 4 ก่อนครับ ประกันภัยประเภท 4 หรือประกันชั้น 4 ตามภาษาที่ชาวบ้านเรียกกัน มีความหมายเพียงใด หรือพูดง่ายๆ ว่าวัตถุประสงค์ของการประกันภัยประเภทนี้คืออะไร โดยเจตนารมณ์ของการประกันภัยรถยนต์นั้น คือ เน้นให้ความคุ้มครองความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกเป็นพื้นฐาน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ชีวิตร่างกายบุคคลภายนอกจะถูกกำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันผู้ประสบภัยจากรถ (หรือประกันภัยตาม พรบ.) เป็นพื้นฐาน ส่วนของทรัพย์สินบุคคลภายนอกยังไม่มีกฎหมายบังคับทุกคนต้องทำ อย่างเช่น ประกันภัยตาม พรบ. เป็นเพียงแค่การสมัครใจทำประกัน หรือที่ภาษากฎหมายจะเรียกว่ากรมธรรม์ภาคสมัครใจ ซึ่งจะเริ่มต้นที่ประเภท 4 (ชั้น 4) เป็นพื้นฐานให้ความคุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินบุคคลภายนอกอย่างเดียว

ฉบับที่แล้วเราข้ามไปอธิบายเรื่องประกันประเภท 3 และ 2 กันก่อน ซึ่งมีส่วนที่อ้างอิง และเกี่ยวข้องถึงประกันประเภท 4 อยู่ด้วย เพื่อความเข้าใจ ผมขอย้อนกลับมาพูดถึงประกันประเภท 4 ก่อนครับ ประกันภัยประเภท 4 หรือประกันชั้น 4 ตามภาษาที่ชาวบ้านเรียกกัน มีความหมายเพียงใด หรือพูดง่ายๆ ว่าวัตถุประสงค์ของการประกันภัยประเภทนี้คืออะไร โดยเจตนารมณ์ของการประกันภัยรถยนต์นั้น คือ เน้นให้ความคุ้มครองความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกเป็นพื้นฐาน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ชีวิตร่างกายบุคคลภายนอกจะถูกกำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันผู้ประสบภัยจากรถ (หรือประกันภัยตาม พรบ.) เป็นพื้นฐาน ส่วนของทรัพย์สินบุคคลภายนอกยังไม่มีกฎหมายบังคับทุกคนต้องทำ อย่างเช่น ประกันภัยตาม พรบ. เป็นเพียงแค่การสมัครใจทำประกัน หรือที่ภาษากฎหมายจะเรียกว่ากรมธรรม์ภาคสมัครใจ ซึ่งจะเริ่มต้นที่ประเภท 4 (ชั้น 4) เป็นพื้นฐานให้ความคุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินบุคคลภายนอกอย่างเดียว หลายท่านอาจงงว่ามีประกันภัยประเภท 4 นี้ด้วยหรือ ? เพราะยังไม่เคยได้ยิน ความเป็นจริงกรมธรรม์ประกันภัยประเภท 4 นี้ เป็นกรมธรรม์ภาคสมัครใจน้องใหม่ฉบับล่าสุดที่เพิ่งออกมาเมื่อปีที่แล้วนี้เอง ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะให้ความคุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอกอย่างเดียว และเมื่อซื้อรวมกับประกันภัยภาคบังคับตาม พรบ. จะเป็นกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองบุคคลภายนอกพื้นฐานครบทั้ง 2 ส่วน คือ ทั้งชีวิตร่างกายบุคคลภายนอกในส่วนที่คุ้มครองตาม พรบ. และทรัพย์สินบุคคลภายนอกตามที่คุ้มครองในกรมธรรม์ประเภท 4 กรมธรรม์ประกันภัยประเภท 4 ให้ความคุ้มครองทรัพย์บุคคลภายนอกเพียง 100,000 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นขั้นต่ำสุดของความคุ้มครองภาคสมัครใจ เบี้ยประกันประเภทนี้ก็ถูกมากเฉลี่ยเพียง 1,600-1,800 บาท/ปี(ยังไม่รวมภาษีอากร) สำหรับรถเก่งส่วนบุคคล เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ใช้รถน้อยมากๆ หรือคนที่ชอบการประหยัดสุดๆ และกลุ่มคนที่ใช้รถราชการที่กฎหมายยกเว้นไม่ต้องทำประกันตาม พรบ. เพราะมีหน่วยราชการรับผิดชอบ แต่ในส่วนของทรัพย์สินบุคคลภายนอกนั้น คนขับรถจะต้องรับผิดชอบเอง ทำให้การประกันภัยประเภท 4 เป็นที่นิยมของกลุ่มคนขับรถให้ราชการ ข้าราชการชั้นผู้น้อย คนทำงานที่ใช้รถน้อยและต้องการประหยัด คนที่ทำประกันภัยประเภท 4 สำหรับรถเก่งส่วนบุคคลเมื่อรวมกับประกันภัยตาม พรบ. แล้วนั้น เสียเบี้ยประกันภัย/ปีเพียง 2,500-2,700 บาท/ปีเท่านั้น ( 1,600 (1,800)+700+ภาษีอากร) หรือโดยเฉลี่ยวันละ 7-8 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ตามรัฐบาลยุคของ พตท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร มีแนวคิดที่จะขยายความคุ้มครองตามกฏหมายประกันผู้ประสบภัยจากรถให้ครอบคลุมไปยังทรัพย์บุคคลภายนอกด้วยในลักษณะความคุ้มครองเบื้องต้นเช่นเดียวกับประกันภัยตาม พรบ.+ ประเภท 4 ซึ่งถ้าออกเป็นกฎหมายบังคับ ก็มีความเป็นไปได้ว่าเบี้ยประกันภัยจะถูกลงกว่า 2,500 บาท อาจจะเหลือเพียงไม่เกิน 2,000 บาท/ปี ในเรื่องนี้กรมการประกันภัยในฐานะผู้กำกับและดูแลกิจการประกันภัยตามกฏหมายได้สนองตอบนโยบายรัฐบาลตามที่ได้รับมอบหมาย โดยการทำสำรวจความคิดเห็นประชาชนแล้ว ซึ่งได้ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย กับการเพิ่มความคุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอกในการประกันภัยรถตาม พรบ. นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย ได้แถลงว่า สืบเนื่องจากการประชุมเชิงปฏิบัติการยุทธศาสตร์การประกันภัยแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2546 โดยมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (พตท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร) เป็นประธานการประชุม ได้มีการเสนอให้มีการเพิ่มความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกในการประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ปี 2535 (การประกันภัยรถตาม พรบ.) ซึ่ง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้มอบให้กรมการประกันภัยนำไปศึกษาถึงความเป็นไปได้ของการดำเนินการดังกล่าว กรมการประกันภัยได้ดำเนินการศึกษาในเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด และล่าสุดได้มีการจ้างมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (สวนดุสิตโพลล์) ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนผู้ใช้รถทั่วประเทศเกี่ยวกับการเพิ่มความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกในการประกันภัยรถตาม พรบ. ซึ่งผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยในหลักการ แต่อาจจะต้องมีการพิจารณาปรับปรุงเบี้ยประกันภัยและความคุ้มครองให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชนมากจนเกินไป ทั้งนี้สามารถสรุปความคิดเห็นของประชาชนจาก 2 วิธีการ ดังนี้ 1. วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ (SURVEY RESEARCH) ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย ร้อยละ 51.21 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 25.93 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 16.54 2 วิธีการเสวนากลุ่มย่อย (FOCUS GROUP) ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย ร้อยละ 75.85 และไม่เห็นด้วย ร้อยละ 24.15 จากผลการสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวข้างต้น กรมการประกันภัยจะได้นำไปประกอบการพิจารณาดำเนินการเสนอแก้ไขกฎหมายตามขั้นตอนต่อไป ส่วนในเรื่องของอัตราเบี้ยประกันภัยและความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้น กรมการประกันภัยจะได้มีการศึกษาให้เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด เราได้เห็นแนวโน้มของการประกันภัยภาคบังคับ (พรบ.) ว่าจะมีรูปร่างหน้าตาออกมาอย่างไรในอนาคต แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของกฎหมายอาจต้องมีเงื่อนเวลามาเป็นตัวปัจจัย เนื่องจากไปเกี่ยวพันกับการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายนั่นเอง จะช้าหรือเร็วก็ต้องรอติดตามกันต่อๆ ไป ถ้าดำเนินการได้ไว ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสังคม แต่นั่นหมายถึง เจ้าของรถจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยภาคบังคับสูงขึ้น และบริษัทประกันภัยจะต้องมารับภาระความเสี่ยงนี้ไป ในแง่ของหลักการประกันภัยถ้ามีความเสี่ยงสูง (ค่าใช้จ่ายเคลมค่าสินไหมสูง) แต่บริษัทมีรายรับเบี้ยประกันภัยต่ำ บริษัทประกันภัยก็อาจจะขาดทุนสูง ก็อาจจะไม่ให้การบริการด้านนี้เลยก็ได้ เช่นเดียวกับการขายประกันภัยตาม พรบ. ของรถจักรยานยนต์ที่ปัจจุบันมีเพียงบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถเป็นผู้ขายและรับความเสี่ยงเอง ส่วนบริษัทประกันภัยทั่วไปจะทำการรับประกันภัยตาม พรบ. สำหรับรถอย่างอื่นๆ ส่วนประกันภัยตาม พรบ. ใหม่ที่คาดว่าจะมีการปรับปรุงนั้นอาจต้องดูในส่วนบริษัทประกันภัยว่ามีความเห็นอย่างไร อาจจะโอนการรับประกันภัยภาคบังคับทั้งหมดไปยังบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถเป็นผู้รับประกันภัยแต่เพียงผู้เดียวก็ได้ หรือจะยังคงอยู่ในรูปแบบเดิมต่อไปก็ยังเป็นไปได้ เราต้องรอความชัดเจนจากผู้เกี่ยวข้องอีกที ฉบับหน้าเราจะมาพูดกันในรายละเอียดของประกันภัยภาคสมัครใจ ประเภท 1 คอยติดตามกันนะครับ