เทคนิค
คำถามของผู้ใช้รถ ที่ผมได้รับจากการพบปะสนทนาด้วย เกือบทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับเชื้อเพลิงทดแทน โดยเฉพาะเชื้อเพลิงแกส ที่ใช้แล้วสามารถช่วยลดค่าเชื้อเพลิงลงได้อย่างมาก
คำถามของผู้ใช้รถ ที่ผมได้รับจากการพบปะสนทนาด้วย เกือบทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับเชื้อเพลิงทดแทน โดยเฉพาะเชื้อเพลิงแกส ที่ใช้แล้วสามารถช่วยลดค่าเชื้อเพลิงลงได้อย่างมาก
จากคำถามเหล่านี้ทำให้เห็นได้เลยว่า ผู้ใช้รถชาวไทยนั้น ขาดแคลนข้อมูลทางเทคนิคอย่างมาก ถ้าไม่ถูกหลอกเพื่อเอาผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่นผู้ขายจะบอกว่า ของแบบที่มีขายอยู่เท่านั้นที่ดี ก็ได้รับคำแนะนำที่ผิดมา บางทีก็จากคนที่ใกล้ชิดและหวังดีนี่แหล่ะครับ เพียงแต่ว่าเขาเหล่านั้นก็ขาดข้อมูลเหมือนกัน มีอยู่กลุ่มเดียวเท่านั้นที่ไม่ขัดสนข้อมูล นั่นคือพวกที่คุ้นเคยกับระบบอินเตอร์เนท และถ้าเข้าใจภาษาต่างประเทศอย่างดี ก็จะได้ข้อมูลที่กว้างขวางและละเอียด
ถ้าเป็นของไทยก็ต้องกลั่นกรองกันมากหน่อยครับ เพราะของเราไม่ต้องรับผิดชอบในการให้ข้อมูลที่ผิด แม้จะเป็นข้อมูลของหน่วยงานที่น่าจะเชื่อถือได้ ก็ยังใช้ไม่ได้ เพราะผู้ลงมือเป็นผู้ได้รับคำสั่งให้ทำ ไม่ว่าจะมีความสามารถพอหรือไม่ บางคนเป็นถึงข้าราชการระดับสูง ก็ยังไม่ระมัดระวัง ผมเคยเห็นพาดหัวบนหนังสือพิมพ์รายวัน อธิบดีกรมสรรพสามิตประกาศว่า พวกที่ใช้แกสหุงต้มหรือ แอลพีจี เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ ให้ระวังให้ดีเพราะเครื่องยนต์จะพังตั้งแต่ใช้ไปแค่ 100,000 กม. ช่างไร้สาระสิ้นดี ไม่ทราบเหมือนกันว่า ไปฟังคนขับแทกซีมา หรือมีเจตนาอย่างอื่นแอบแฝง อยู่ในตำแหน่งระดับนี้ ต้องคิดให้ดีก่อนที่จะบอกอะไรสาธารณชนครับ มิฉะนั้นอาจเข้าข่ายปากพาไปสู่ความวิบัติได้
ผมลองรวบรวมคำถามเกี่ยวกับการใช้แกสเป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนรถยนต์ ในส่วนที่น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้รถ โดยไม่เรียงลำดับความสำคัญได้ดังนี้
1. ความคุ้ม และควรใช้หรือไม่
ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ขับโดยเฉลี่ยในแต่ละวัน หรือแต่ละเดือน หรือในหนึ่งปี ไม่ต้องคำนวณให้เสียเวลาครับ แค่ดูว่าจ่ายค่าเชื้อเพลิงเบนซินเดือนละเท่าไร ถ้าใช้ แอล พี จี เป็นเชื้อเพลิง ก็จะต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิงประมาณ 40 ถึง 50% ของค่าเบนซิน ถ้าใช้ ซีเอนจี หรือแกสธรรมชาติ ที่หน่วยงานของรัฐยังเรียกกันผิดว่า เอนจีวี ก็ประมาณ 30 % เช่น ค่าเบนซิน เดือนละ 6,000 บาท ถ้าใช้ แอลพีจี ก็จะประหยัดได้ 50 ถึง 60 % คือ 3,000-3,600 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของระบบดัดแปลงใช้แกส
ถ้าใช้ ซีเอนจี ก็จะประหยัดได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 70 % หรือ 4 พันบาทเศษ คราวนี้อยากทราบว่า ใช้ไปนานแค่ไหนถึงจะคุ้มค่าชุดดัดแปลงใช้แกส ก็เอาราคาชุดดัดแปลงตั้ง หารด้วยส่วนที่ประหยัดได้ ก็จะทราบทันทีว่าจะคุ้มทุนภายในกี่เดือน เช่น ประหยัดได้เดือนละ 5,000 บาท ชุดดัดแปลงราคา 50,000 บาท แค่ 10 เดือน ก็คุ้มแล้วครับ แต่ในความเป็นจริง ความรู้สึกของเราจะดีกว่านี้ เพราะเมื่อจ่ายค่าชุดดัดแปลงใช้แกสไปแล้ว เหมือนเราซื้อของอะไรที่ถูกใจไปโดยคิดว่าถ้าไม่ใช้กับสิ่งนี้ ก็จะเอาไปใช้อย่างอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์อยู่ดี เราก็จะรู้สึกว่าได้เริ่มประหยัดค่าเชื้อเพลิงทันที การจ่ายค่าแกส 500 กว่าบาทแทนค่าเบนซิน 1,500 บาท ให้ความรู้สึกที่ดีอย่างบอกไม่ถูก ทุกครั้งที่ออกจากปั๊มแกสครับ
2. ใช้ แอลพีจี หรือ ซีเอนจี
นอกจากดูความประหยัด ซึ่ง ซีเอนจี ได้เปรียบกว่าที่ราคาขายต่อกิโลกรัม ถูกกว่าแล้ว ต้องดูว่าใช้รถวันละกี่ กม. ครับ และมีปั๊ม ซีเอนจี อยู่ใกล้บ้าน หรือบนเส้นทางที่ใช้ประจำหรือไม่ เพราะถังของ ซีเอนจี ซึ่งอยู่ในสภาพแกสจุได้ราว 15 กก. ใช้งานได้ราวๆ 150 ถึงเกือบ 200 กม. เท่านั้น เรื่องระยะทางที่ขับได้ต่อการเติมหนึ่งครั้งนี้ ไม่ใช่จะมาคูณหารกันด้วยเครื่องคิดเลขนะครับ เพราะเราไม่สามารถขับจนหมดเกลี้ยงได้ มันมีผลทางจิตใจด้วย ถ้ามาตรวัดบอกว่าเหลือน้อย หรือ เกือบหมด เราก็จะเริ่มกังวลใจ และรีบหาที่เติมแล้ว
จำนวนปั๊มที่รัฐบาลบอกว่า มีอยู่ 60 ในขณะนี้นั้น ผู้รู้ในวงการบอกว่า เกินครึ่งมานิดเดียว และจำนวน 200 ปั๊ม ที่บอกว่าจะมีครบ เมื่อสิ้นปีนี้นั้น ก็คงเป็นนโยบายแหกตาประชานิยม ที่ไม่มีวันเป็นจริงเหมือนนิยายน้ำเน่าที่แต่งขึ้นมาเท่านั้นเอง ป่านนี้ยังไม่ขยับ แล้วจะสร้างปั้มแกสความดันสูงเกือบ 200 ปั๊ม ให้เสร็จภายใน 4 เดือนได้อย่างไรครับ คงต้องถามว่าหาที่ดินเปล่าไว้ได้กี่แห่งแล้วมากกว่า
ถ้าตรวจสอบตำแหน่งปั้ม ซีเอนจี และขับวันละไม่มาก อยู่ในระดับที่ไม่มีปัญหาในการหาปั้มแล้วละก็ ขอแนะนำให้เลือกใช้ ซีเอนจี หรือแกสธรรมชาติครับ เพราะถูกกว่า แต่ชุดดัดแปลงใช้แกสธรรมชาติ จะมีแต่แบบที่ดี เพราะเป็นของใหม่สำหรับเมืองไทย ไม่เคยถูกใช้โดยแทกซี ราคาจึงค่อนข้างสูง ระยะเวลาคุ้มทุนอาจเกือบถึง 2 ปี ซึ่งก็ไม่ถือว่านานครับ
แต่คนที่โชคดี อยู่ในเงื่อนไขที่ใช้แกสธรรมชาติได้สะดวก มีน้อยมาก จากประสบการณ์ของผม ไม่ถึง 10 % ที่เหลืออีกกว่า 90 % ก็เลยเลือก แอล พีจี ที่หาปั๊มเติมได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะเมื่อพ้น กทม. ไปแล้ว
3. จะเลือกใช้ชุดดัดแปลงแบบไหนดี ?
พวกที่เลือกใช้แกสธรรมชาติ คงไม่ต้องคิดมาก เพราะชุดดัดแปลง เป็นรุ่นใหม่ ทันสมัย แบบหัวฉีด ควบคุมด้วยอีเลคทรอนิคส์ ที่ทั้งทนทาน ประหยัด และ ปลอดภัย ถึงราคาจะสูงหน่อย แต่ ปตท. ก็มีเงินสนับสนุนลดค่าใช้จ่ายให้คันละ 10,000 บาท ซึ่งก็หวังว่าพอประชาชนเริ่มหันมาสนใจแล้ว จะไม่ "เบี้ยว" ยกเลิกไปเสียก่อนนะครับ
ผู้ที่ตัดสินใจใช้ แอลพีจี หรือ แกสหุงต้ม และได้ข้อมูลโดยวิธี "ฟังมา" ก็อาจจะมึนหนักหน่อย เพราะมีหลายระดับและหลายประเภทมาก
ในทางเทคนิค แบ่งตามการจ่ายแกสเข้าสู่กระบอกสูบ มีแบบใช้หัวจ่ายแบบคอคอด หรือ เวนทูรี หลักการเดียวกับคาร์บูเรเตอร์ เพื่อให้ได้ความเข้มของส่วนผสมระหว่างแกสกับอากาศค่อนข้างคงที่
ส่วนนี้เรียกว่า มิกเซอร์ หรือที่ช่างซ่อมรถไทยเรียกว่า "หัวดูด"
อีกแบบ คือ ใช้หัวฉีด ปล่อยแกสเข้าสู่ท่อไอดีในตำแหน่งที่ใกล้กับฝาสูบ ซึ่งก็คือ ใกล้กับหัวฉีดน้ำมันเบนซินนั่นเอง ปริมาณแกสที่จ่ายถูกควบคุมด้วยอีเลคทรอนิคส์หรือ อีซียู โดยรับข้อมูลจากเซนเซอร์ต่างๆของระบบหัวฉีดเบนซินของรถ ระบบนี้จะจ่ายแกสได้แม่นยำ และคงที่อยู่นานเป็นปี ไม่ต้องปรับตั้งกันบ่อยเหมือนแบบมิกเซอร์ การจ่ายแกสอย่างถูกต้องตลอดเวลา ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังแทบไม่แตกต่างจากตอนใช้เบนซินและประหยัดแกสกว่าแบบมิกเซอร์ด้วย
อ่านต่อฉบับหน้า
เรื่องโดย : เจษฎา
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน กันยายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : เทคนิค
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8566