รอเบิร์ท สตีฟ มิลเลอร์ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ รอดนีย์ โอนีล ประธานบริษัท และกรรมการบริหาร ผู้บริหารระดับสูงของ เดลฟาย ฯ ร่วมเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนพัฒนาธุรกิจระยะยาวในเอเชียแปซิฟิคให้เติบโตต่อไป เนื่องจากภูมิภาคนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นปัจจัยหลักของแผนการพัฒนาธุรกิจทั่วโลก และเสริมว่าการลงทุนระยะยาวเป็นหนทางสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง

เดลฟาย ฯ พัฒนาธุรกิจในเอเชียแปซิฟิค รอเบิร์ท สตีฟ มิลเลอร์ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ รอดนีย์ โอนีล ประธานบริษัท และกรรมการบริหาร ผู้บริหารระดับสูงของ เดลฟาย ฯ ร่วมเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนพัฒนาธุรกิจระยะยาวในเอเชียแปซิฟิคให้เติบโตต่อไป เนื่องจากภูมิภาคนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นปัจจัยหลักของแผนการพัฒนาธุรกิจทั่วโลก และเสริมว่าการลงทุนระยะยาวเป็นหนทางสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาลูกค้ามีความต้องการเทคโนโลยีระดับเวิร์ลด์คลาสส์ที่ได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีระดับท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อสร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่งให้แก่รถยนต์ของพวกเขาในตลาดที่มีการแข่งขันสูงของภูมิภาคนี้ ซึ่ง เดลฟาย ฯ สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้าได้เป็นอย่างดี และการนำเสนอเทคโนโลยีขั้นสูงใหม่ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นซัพพลายเออร์ที่ดีที่สุด สำหรับประเทศไทย ในปีที่ผ่านมา เดลฟาย ฯ ได้ลงทุนมูลค่า 2,400 ล้านบาท เพื่อผลิตเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดป้อนให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำจากผู้ผลิตระดับโลกของญี่ปุ่นอีกด้วย เชฟโรเลต์ มั่นใจปี '49 เติบโต วิลเลียม บอทวิค ประธานกรรมการ ประจำภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เอเชีย แปซิฟิค จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2548 เชฟโรเลต์ ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5 โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 100 % เมื่อเทียบกับยอดขายของปีก่อน ทั้งนี้มีผลจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องและการเพิ่มสายการผลิตที่โรงงาน สำหรับในปี 2549 เชฟโรเลต์ มีแผนที่จะพัฒนาโพรแกรมบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการและความสะดวกสบายอย่างทั่วถึงจากเครือข่ายผู้จำหน่าย โดยในไตรมาสแรก เชฟโรเลต์ วางแผนเปิดตัว เอกซ์เพรสส์ เซอร์วิศ เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็วทันใจ ในการให้บริการแก่ลูกค้า เชฟโรเลต์ ทั้งการบำรุงรักษาตามระยะทาง และการตรวจเชคสภาพรถยนต์ และบริษัทยังมีแผนที่จะทำโครงการรถยนต์ใช้งานแล้วสภาพเสมือนใหม่ เพื่อรับรองคุณภาพของรถใช้แล้ว ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐาน และเพิ่มมูลค่าการขายต่อให้กับ เชฟโรเลต์ จอห์น ธอมสัน รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และการบริการหลังการขาย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2548 เชฟโรเลต์ ขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเป็น 85 แห่ง และในปี 2549 เชฟโรเลต์ ตั้งเป้าเพิ่มผู้จำหน่ายเป็น 100 แห่ง โดยจุดประสงค์ของการขยายเครือข่าย คือ การสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าในปัจจุบัน และอนาคต เพื่อตอกย้ำความมั่นใจว่า HEVROLET...WE'LL BE THERE มั่นใจ ไปไหนไปกัน...เชฟโรเลต์ พร้อมกันนี้ยังมีแผนการลงทุนในส่วนของการตลาดเป็นจำนวนมาก โดยจะทำตลาดในรูปแบบแคมเปญต่างๆ ที่น่าสนใจ และหลากหลายในกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลถึงความเชื่อมั่นของ เชฟโรเลต์ ในอนาคต มาซดา เตรียมเปิดตัวรถใหม่ ฟูมิโอะ โทเนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2548 มาซดา ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยยอดขายถึง 18,670 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 32 % เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2547 ที่ผ่านมา และมีอัตราการเติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอีกด้วย ยอดขายจะแบ่งออกเป็นรถสปอร์ทพิคอัพ ไฟเตอร์ จำนวน 12,743 คัน มีอัตราการเติบโตกว่า 9.62 % มาซดา และ มาซดา สปอร์ท จำนวน 5,049 คัน มีอัตราการเติบโต 497.51 % ทรีบิวท์ จำนวน 842 คัน เอมพีวี จำนวน 19 คัน เอมเอกซ์ -5 จำนวน 12 คัน และ อาร์เอกซ์-8 เครื่องยนต์โรตารี เอกสิทธิ์เฉพาะ มาซดา จำนวน 5 คัน สำหรับในปี 2549 นี้ มาซดา ยังคงเน้นกลยุทธ์การตลาดในรูปแบบ ซูม-ซูม อย่างต่อเนื่อง พร้อมกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายตลอดทั้งปี นอกจากนี้ มาซดา ยังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดตัวรถพิคอัพ ใหม่ล่าสุด รวมถึงรถรุ่นพิเศษต่างๆ อีกหลายรุ่น ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยอดขายหลักจะมาจากรถสปอร์ท พิคอัพ 70 % รถยนต์ 25 % และรถพรีเมียมคาร์ อีกประมาณ 5 % ทั้งนี้พิจารณาจากสภาพของตลาดโดยรวม ในขณะที่ มาซดา เองจะยังคงให้ความสำคัญในการเพิ่มคุณภาพการบริการหลังการขาย เพื่อความเชื่อมั่นของลูกค้าในระยะยาว ซันสโตร์ซัพพลาย ฯ จับมือ น้ำมันทีพีไอ ฯ บริษัท ซันสโตร์ซัพพลาย จำกัด ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เรเดกซ์ เปิดเผยว่า เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐ ในการร่วมรณรงค์ประหยัดพลังงาน ร่วมกับ บริษัท น้ำมันทีพีไอ จำกัด ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ทีพีไอ เปิด เรเดกซ์ คอร์เนอร์ (REDEX CORNER) ทั้งนี้เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมัน ทีพีไอ ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองทั้งการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ และมีประสิทธิภาพในการประหยัด สำหรับสารปรับแต่งประสิทธิภาพ ระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิง ในเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เรเดกซ์ ผ่านการทดสอบจากสถาบัน RICARDO TEST SERVICE LTD. ว่ารถยนต์ที่ใช้ เรเดกซ์ อย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ ลดแกสพิษ และควันดำ ชิ้นส่วนต่างๆ สะอาดขึ้น และช่วยประหยัดน้ำมันถึง 26 % นอกจากนี้ เรเดกซ์ ดีเซล พลัส ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับเลือกให้มาทดสอบในโครงการ "การใช้น้ำมันดีเซลผสมกับน้ำมันปาล์มดิบ" ทดสอบโดย ผศ. ดร. คณิต วัฒนวิเชียร หัวหน้าสาขาวิศวกรรมยานยนต์ ภาควิชาเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่ามีประสิทธิภาพในการขจัดคราบเขม่าที่ติดอยู่บนหัวฉีดออกไปอย่างเห็นได้ชัด บีเอมดับเบิลยู ส่ง เอกซ์ 3 เปิดตลาดปี '49 ฟรังค์ เริสเลร์ ประธาน บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2548 มียอดขายรถทั้งสิ้น 2,852 คัน แบ่งเป็น บีเอมดับเบิลยู 2,503 และ มีนี 350 คัน ถือว่ายังครองอันดับ 1 ใน 3 ของตลาดรถหรู สำหรับในปี 2549 บีเอมดับเบิลยู รุกตลาดด้วยการนำรถ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 ขนาด 2.5 ลิตร ระบบส่งกำลังอัตโนมัติแบบ 5 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังผนวกเอานวัตกรรมขับเคลื่อนใหม่ของ บีเอมดับเบิลยู หรือ XDRIVE ที่สามารถบุกไปบนถนนได้ทุกรูปแบบ จากการทำงานของระบบที่ทำหน้าที่กระจายกำลังขับเคลื่อนระหว่างเพลาขับเคลื่อนหน้า/หลังได้แบบฝันแปรตลอดเวลา สำหรับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 ประกอบภายในประเทศไทยออกจำหน่าย ด้วยความพร้อมที่แตกต่าง 2 เวอร์ชัน ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน และรุ่นพิเศษ เอสอี มีราคาจำหน่ายที่ 3.5 และ 3.8 ล้านบาท โตโยตา หนังสือมือสอง พล. ตอ. เภา สารสิน ประธานมูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย เรียวอิจิ ซาซากิ ประธาน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่งมอบหนังสือมือสอง แก่ จาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ เพียงใจ วิศรุตรัตน ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา สำหรับการดำเนินงานปีนี้ มูลนิธิ ฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสำนักพิมพ์ บริษัทเอกชน ธนาคาร โรงเรียน ห้างร้าน หน่วยงานราชการต่างๆ และประชาชนทั่วไป นำหนังสือมาบริจาคเป็นจำนวนกว่า 700,000 เล่ม ซึ่งมูลนิธิได้นำมาคัดแยก ซ่อมแซม จัดเป็นหมวดหมู่ และส่งมอบให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนในต่างจังหวัด ศูนย์เยาวชน ห้องสมุดประชาชนอำเภอ และจังหวัด อีก 722 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งครบจำนวน 2,325 แห่ง ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย จัดโครงการหนังสือมือสอง มาตั้งแต่ปี 2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ รณรงค์ให้ประชาชนนำหนังสือมาบริจาคสนองพระราชปณิธานส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของโครงการนับว่าได้รับความร่วมมือจากประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมาก และมูลนิธิ ฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการสร้างสังคมที่ดี เข้มแข็งและรักษ์สันติ เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความก้าวหน้าและเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง