ทั่วไป
หรู ดูดี และลุยได้เกินร้อย !
ค่าย เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้เปิดตัวรถรุ่น จีแอล-คลาสส์ (GL-CLASS) ในรูปแบบของรถ เอสยูวี ระดับหรู 7 ที่นั่ง พร้อมสมรรถนะการควบคุมในระดับเหนือกว่า ทั้งบนทางเรียบ และทุรกันดาร ภายในห้องโดยสารเน้นความกว้างขวางเป็นพิเศษ เพียบพร้อมด้วยความสะดวก หรูหรา และเครื่องอำนวยความสะดวกเกินความคาดหมาย นอกจากนั้นยังมีความปลอดภัยระบบ PRE-SAFE ? ที่ทำให้ จีแอล-คลาสส์ เป็นรถหรูคันแรกที่ติดตั้งระบบความปลอดภัยในระดับนี้
ด้วยความเพียบพร้อมในทุกด้าน ทำให้ จีแอล-คลาสส์ ขึ้นมาอยู่ในแนวหน้าได้อย่างไม่คลางแคลงใจ รูปทรงภายนอกแสดงออกถึงพลังขับเคลื่อนอย่างรุนแรง แม้จอดนิ่งยังมีมาดขรึมให้เห็น ด้วยการออกแบบที่ใช้แนวเส้นกลมกลืน นุ่มนวล เปี่ยมด้วยพลังขับเคลื่อน ตัวรถมีความยาว 5,088 มม. กว้าง 1,920 มม. และสูง 1,840 มม. แต่มีการจัดสัดส่วนตัวถังได้อย่างลงตัว
การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุภายในห้องโดยสาร ให้ความรู้สึกอิ่มเอมไปกับทุกการเดินทางคือ สิ่งที่จะพบได้จากรถทุกรุ่นของค่ายดาวสามแฉก เนื้อที่ภายในค่อนข้างกว้างขวางสบายสำหรับผู้โดยสารทั้ง 7 คน ไม่ว่าจะขับเคลื่อนผ่านย่านธุรกิจอันจอแจ การเดินทางอันยาวนานบนไฮเวย์ หรือแม้แต่ในทางทุรกันดาร
ภายในห้องโดยสาร เบาะทุกตัวได้รับการออกแบบมาอย่างดี ให้ความสะดวกสบายในทุกอิริยาบถ แม้จะอยู่ในเบาะคู่แถวที่ 3 ก็ยังได้รับความสบาย และโปร่งโล่ง ด้วยความกว้างขวางที่มีระยะห่างจากพนักเบาะแถวกลางถึง 815 มม. และห่างจากเพดานถึง 979 มม. หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานเบาะแถวที่ 3 แต่ละเบาะสามารถพับเก็บได้ด้วยระบบผ่อนแรงอีเลคทรอนิค สามารถพับเบาะลงแบนราบระดับเดียวกับพื้น
สำหรับเวอร์ชันเครื่องยนต์ วี 8 สูบ คือรุ่น จีแอล 420 ซีดีไอ/จีแอล 450 และ 500 ได้รับการติดตั้งระบบปรับอากาศ THERMO-TRONIC ที่ให้ความสบายเหนือกว่าระบบ CLIMATE CONTROL รุ่นอื่น ภายในหรูหราด้วยเบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบอีเลคทรอนิค และด้านหลังติดตั้งหลังคากระจกแบบติดตายบริเวณเหนือที่นั่งแถวที่ 3
โครงสร้างของ จีแอล-คลาสส์ จัดว่าเป็นโครงสร้างที่มีความสมบูรณ์แบบ ด้วยโครงสร้างที่แข็งแกร่ง น้ำหนักเบา ผลคือ ความปลอดภัยหลังการชน ที่โครงสร้างในส่วนหน้าและหลังที่อ่อนตัว สามารถยุบตัวเพื่อดูดซับความรุนแรงจากการชนได้ระดับหนึ่ง โครงสร้างของห้องโดยสารที่แข็งแกร่ง สามารถป้องกันผู้โดยสารให้ปลอดภัยจากการชน นอกจากนั้นยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีก
จีแอล-คลาสส์ ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลจากการค้นคว้าและพัฒนาโดยวิศวกรจากค่าย เมร์เซเดส-เบนซ์ ที่ให้สมรรถนะการยึดเกาะสมบูรณ์แบบ ให้ผู้ขับขี่ได้รับทั้งความสนุกสนาน และความมั่นใจทุกสภาพการขับขี่ ประกอบกับระบบ AIRMATIC ที่ติดตั้งให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถทุกคันในโมเดลนี้ ด้วยฐานล้อที่มีความยาวถึง 3,075 มม. จึงทำให้เกิดความมั่นคงในทุกสภาพการขับขี่ แม้การเดินทางโดยลากทเรเลอร์ยังมีระบบ ESP? ทำงานประสานกับระบบ TSA (TRAILER STABILITY ASSIST) ที่จะทำหน้าที่สั่งการให้ระบบเบรคทำงาน เมื่อจับได้ว่าเริ่มเสียการทรงตัวก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนั้น ระบบ AIRMATIC ยังทำหน้าที่ปรับระดับความสูงของตัวรถให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่
สำหรับระบบช่วยการขับขี่ในเส้นทางวิบาก จัดได้ว่าเพียบพร้อมตั้งแต่ระบบ DSR (DOWNHILL SPEED REGULATOR)/HILL-START ASSIST และ OFF-ROAD ABS ช่วยให้สามารถผ่านสภาพทางวิบากได้อย่างมั่นใจ และที่ถูกใจอย่างยิ่งสำหรับนักลุยตัวจริง คือ ชุดทรานสเฟอร์ 2 จังหวะ และระบบดิฟฟ์ลอค 100 % สำหรับชุดทรานสเฟอร์ และเพลาท้าย พร้อมระบบ AIRMATIC ช่วยปรับระดับที่เหมาะสมให้กับทุกสภาพการขับขี่ เพิ่มระยะห่างใต้ท้องได้สูงถึง 307 มม. ทำให้ จีแอล-คลาสส์ สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 600 มม.
เครื่องยนต์ของ จีแอล-คลาสส์ เน้นประสิทธิภาพเป็นหลัก ทั้งการตอบสนองการขับขี่ที่นุ่มนวล เต็มเปี่ยมด้วยพละกำลัง และมีอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ เครื่องยนต์ดีเซล ที่อยู่ในฝากระโปรงของรุ่น จีแอล 320 ซีดีไอ ให้กำลังสูงสุดถึง 224 แรงม้า ส่วนในรุ่น จีแอล 420 ซีดีไอ เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 8 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 305 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 71.3 กก.-ม. เครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่น ได้รับการพัฒนาให้มีปริมาณไอเสียต่ำ จนสามารถผ่านมาตรฐาน EU4
ส่วนเครื่องยนต์เบนซินนั้น มีให้เลือกตั้งแต่ความจุ 5.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 388 แรงม้า อยู่ในฝากระโปรงรุ่น จีแอล 500 เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ เอส-คลาสส์ รุ่นล่าสุด ส่วน จีแอล 450 เป็นเครื่องยนต์ 4.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ทั้งสองเครื่องยนต์ได้พัฒนาการจุดระเบิดที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถผ่านมาตรฐาน EU4 และ LEVII ตามมาตรฐานควบคุมมลพิษของอเมริกาเหนือ
ระบบถ่ายทอดกำลัง ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมระบบ DIRECT SELECT ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นผลจากการใช้เครื่องยนต์ที่ผ่านการพัฒนารุ่นใหม่ล่าสุด ระบบเกียร์รุ่นใหม่นี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยมีระบบตัวถังแบบ UNIT BODY ที่มีน้ำหนักน้อย และการออกแบบรูปทรงให้มีความเสียดทานต่ำถึง 0.37 ซึ่งนับว่าน้อยมากสำหรับรถใหญ่ขนาดนี้
เรื่องโดย : อกนิษฐ์ ทัพภะสุต
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8373