ทั่วไป
วันนี้คุณเติมน้ำมันเต็มถังแล้วหรือยัง ?
วันนี้คุณเติมน้ำมันเต็มถังแล้วหรือยัง ?
เจ็บปวดกันถ้วนหน้านะครับ กับราคาน้ำมันที่พุ่งปรี๊ดอย่างรวดเร็ว ลืมตาตื่นเช้าขึ้นมา น้ำมันดีเซลขึ้นราคาไป 3 บาท โต๊ะใจหมดเลย
ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องปั่นป่วนทั้งวงการ คนที่มีหน้าที่ด้านพลังงาน ก็รีบทำงานประชาสัมพันธ์ตนเองกันยกใหญ่ ว่าได้หาทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคแล้ว ทั้ง แกสโซฮอล ทั้ง 91 และ 95 แกสเอนจีวี แถมกำลังพัฒนา ไบโอดีเซล กันยกใหญ่ แถมด้วยจัดสัมมนากันให้วุ่นไปทั้งวงการ เพราะพี่ท่านเล่นเชิญผู้บริหารระดับสูงของบริษัทรถยนต์ทั้งหลายไปนั่งฟัง
คนที่เขาถูกบังคับไปฟัง เพราะคนเซ็นชื่อเชิญมามีตำแหน่งใหญ่โตคับฟ้า แล้วกลับมาบอกว่า ไม่เห็นได้เรื่อง เสียเวลาเปล่าๆ
อย่างว่าแหละ นิทานอีสปเรื่องกระต่ายตื่นตูมยังใช้ได้ทุกยุคสมัยนะครับ
คนเดินดินกินข้าวแกงธรรมดา ก็ต้องเจ็บปวดไปด้วย เพราะราคาค่าอุปโภค บริโภค เริ่มไต่ระดับอย่างรวดเร็ว แม้จะมีคนออกมาบังคับว่า ให้ตรึงราคากันก่อน แต่บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ขายข้าวแกงทั้งหลาย ต่างก็ค่อยๆ ตักอาหารน้อยลง ในราคาปกติ บางเจ้าก็ขึ้นราคาไปเรียบร้อย
ยิ่งอาหารทะเลแล้ว ตอนนี้เลิกพูดกันได้เลยครับ บรรดาเรือหาปลาโอดร้องกันระงม ขนาดว่าหลวงท่านทำน้ำมันสีสดใสออกมาช่วยเหลือ ราคาถูกกว่าปกติ พี่เขาก็บอกว่า คิดสะระตะแล้วหาปลาได้เต็มลำก็ยังขาดทุน ขอหยุดก่อนดีกว่า
ก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นเรื่องจริง เพราะกระผมเพิ่งไปเจอปูม้าผัดผงกะหรี่ จานละ 500 บาท ห้าร้อยบาทเรื่องจริงๆ นะครับ เล่นเอาอึ้งไปเลย
อย่าคุยเรื่องเศร้าเลย มาคุยเรื่องที่ภาครัฐเตรียมรับมือกับราคาน้ำมันแพงดีกว่า
กระทรวงพลังงาน เสนอโครงการ "การสร้างความเป็นไทด้านพลังงาน (ENERGY INDEPENDENT)" เพื่อรับมือกับวิกฤตราคาน้ำมันแพง โดยเน้นการพึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูง
เริ่มด้วยโครงการแรก การใช้แกสเอนจีวี เพราะขณะเขียนต้นฉบับนี้ ราคาแกสเอนจีวี ตกประมาณกิโลกรัมละ 7.96 บาท หรือประมาณ 8.38 บาท/ลิตร ภาครัฐก็จะพยายามส่งเสริมให้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายโดยเร็ว
ปัญหามันติดอยู่แค่สถานีบริการ ที่ตอนนี้มีอยู่แค่ 28 แห่ง ทั่ว กทม. เท่านั้นเอง
เอาน่า ไหนๆ ก็ต้องส่งเสริมแล้ว เลยมีมาตรการภาคบังคับ ให้รถยนต์ของส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ และรถที่ใช้ในราชการทหาร ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้แกสเอนจีวี นำร่องกันก่อน
เรื่องของเรื่องก็ต้องเดือดร้อนเอากับ ปตท. ที่จะต้องลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ให้ก่อน แล้วผ่อนใช้คืนระยะยาวโดยหักจากค่าแกสที่เติม รวมทั้งต้องเร่งขยายสถานีจำหน่ายแกสเอนจีวี นี้ด้วย
แต่อย่างไรเสีย รถพวกนี้ก็ปรับเป็น 2 ระบบอยู่แล้ว เหมือนแทกซีนั่นแหละ ก็คงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสถานีจำหน่ายแกสเท่าไร
ไม่มีแกสก็ใช้น้ำมันได้นี่นา
มาตรการภาคต่อไปก็คือ ลดภาษีรถยนต์ประจำปีให้กับรถที่ใช้แกสเอนจีวี แถมด้วยจะกำหนดแนวทางสำหรับแทกซีที่จะจดทะเบียนใหม่ ต้องเป็นรถยนต์ที่ใช้แกสเอนจีวี เท่านั้น
มาตรการเรื่องที่สอง คือการส่งเสริมการใช้แกสโซฮอล์ ที่ยอมลดราคาให้ถูกกว่าเบนซิน 95 1.50 บาท/ลิตร ทำให้ยอดจำหน่ายแกสโซฮอลเพิ่มจากเดือนมกราคม 8.6 ล้านลิตร เป็นเกือบ 19 ล้านลิตรในเดือนกุมภาพันธ์
ส่วนเรื่องการขยายสถานีบริการ ตอนนี้ก็มีอยู่มากกว่า 700 แห่งทั่วประเทศแล้ว และจะขอให้ ปตท. เปลี่ยนสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. ที่ตั้งอยู่ในบริเวณส่วนราชการจากเบนซิน 95 เป็น แกสโซฮอล 95
มาตรการที่ว่านี่ยอมรับว่าเริ่มเห็นผลการใช้งานออกมาชัดเจนแล้ว แถมยังมีโฆษณา สนับสนุนการขายเพิ่มขึ้นมาอีก ก็ยอมรับว่า ผู้บริโภคเริ่มมองเห็นความสำคัญของการประหยัดแล้ว ทั้งที่เป็นเงินในกระเป๋าตัวเองแท้ๆ แต่พอต้องควักมากกว่าเก่า ก็ต้องหันไปใช้
ของที่ถูกกว่าแทน
จะมีก็แต่พวกมีสตางค์นั่นแหละ ที่ยังยอมควักกระเป๋ามากกว่า เพื่อเลือกเติมน้ำมันเบนซิน 95 อยู่
ก็ยังอยากเสียภาษีมากกว่าคนอื่น ใครจะทำไม
เรื่องถัดมา ก็เตรียมเร่งรัดการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ เพื่อบริหารจัดการและขยายตลาดไปโอดีเซล ตลอดจนจัดหาพื้นที่ เมล็ดพันธุ์ ระบบชลประทาน เพื่อให้สามารถพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อใช้ผลิตไบโอดีเซลได้อย่างครบวงจร
รณรงค์ให้ประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะ และระบบขนส่งมวลชน สนับสนุนการประชาสัมพันธ์ให้เพิ่มมากขึ้น
แต่กระผมเองก็ยังทิ้งสมบัติเจ้าคุณปู่ไปใช้รถเมล์คงไม่ไหว ยังคงต้องยอมขับรถรุ่นชราภาพ หรือคุณผู้หญิงอายุมากคันนี้ต่อไป เพราะสมบัติบ้ามหาศาล วางกองไว้เต็มรถ ประมาณว่ารถ 4 ที่นั่ง แต่นั่งได้แค่ 2 คนเท่านั้นแหละครับ
แต่เรื่องที่น่าสนใจ ที่ตอนนี้ฟากเอกชน กำลังใช้ความพยายามที่จะแจ้งเกิดในวงการให้ได้ คือมาตรการในการลดการใช้รถบรรทุกเที่ยวเปล่า ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก โดยร่วมกับ www.thaitruckcenter.com โดยตั้งเป้าลดการวิ่งรถบรรทุกเที่ยวเปล่า 6 % ภายใน 5 ปี ซึ่งจะสามารถประหยัดการใช้น้ำมันได้ 787 ล้านลิตร
อ้อ ประชาสัมพันธ์ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายนะครับ
อันที่จริง เรื่องนี้ก็ต่างจิตต่างใจ บางบริษัท ก็มีมาตรการในการป้องกันการทุจริต ป้องกันการลักลอบของพนักงานขับรถ ซึ่งอาจจะขนสิ่งของผิดกฎหมายด้วยตัวเอง จึงต้องมีกฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ มากมาย เพื่อป้องกันล่วงหน้า
ขณะเดียวกัน ภาครัฐก็อยากให้ประหยัด แต่ภาคเอกชนก็ต้องป้องกันตัวเองเหมือนกัน
เรื่องสุดท้ายก็เห็นจะเป็นมาตรการภาษีในภาคอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานร่วมกับกระทรวงการคลังและกรมสรรพากร พิจารณามาตรการภาษีเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน โดยการนำผลประหยัดที่ได้จากการประหยัดพลังงาน มาเป็นส่วนลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม
อันนี้เป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับธุรกิจ SMEs เพราะจะทำให้ประหยัดภาษีได้พอควร สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งที่จริงภาครัฐก็มีมาตรการภาษี เป็นแรงจูงใจในหลายๆ เรื่องแล้ว
กระผมเองก็ได้ส่วนลดจากมาตรการภาษีรอบที่ผ่านมานี่เหมือนกันแหละครับ
มันก็ต้องชเลียร์กันหน่อยนะครับ
แหม ได้ลดปีหนึ่งตั้งแปดพันบาท มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับกระผมนะฮะ ส่วนใครที่ติดอันดับผู้มีรายได้สูง ๆ เยอะ ๆ น่ะ แกคงไม่ได้อ่านหนังสือพวกนี้หรอก
ต้องอ่านแต่ภาษาต่างประเทศนั่นแหละ
จริงไหมฮะ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2548
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8032