ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 21" เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของการจัดงานมหกรรมยานยนต์ปีนี้ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา นับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบริษัทรถยนต์ที่เข้าร่วมแสดงมากที่สุดถึง
37 ยี่ห้อ ซึ่งในปีนี้ตลาดรถหรูนับว่าคึกคักอย่างยิ่ง เนื่องจากมีรถเข้าร่วมแสดงเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงภาษีสรรพสามิต บริษัทรถยนต์ได้หันมาให้ความสนใจรถขนาดเล็กเพิ่มมากขึ้น โดยมีรถใหม่หลายรุ่นเปิดตัวในงา

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 21" เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของการจัดงานมหกรรมยานยนต์ปีนี้ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา นับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบริษัทรถยนต์ที่เข้าร่วมแสดงมากที่สุดถึง 37 ยี่ห้อ ซึ่งในปีนี้ตลาดรถหรูนับว่าคึกคักอย่างยิ่ง เนื่องจากมีรถเข้าร่วมแสดงเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงภาษีสรรพสามิต บริษัทรถยนต์ได้หันมาให้ความสนใจรถขนาดเล็กเพิ่มมากขึ้น โดยมีรถใหม่หลายรุ่นเปิดตัวในงาน โดยยอดจองรถในปีนี้มีถึง 18,181 คัน 10 อันดับแรก ได้แก่ 1. โตโยตา 5,856 คัน 2. ฮอนดา 2,049 คัน 3. มาซดา 1,616 คัน 4. เชฟโรเลต์ 1,535 คัน 5. มิตซูบิชิ 1,189 คัน 6. อีซูซุ 1,121 คัน 7. นิสสัน 974 คัน 8. ฟอร์ด 827 คัน 9. เมร์เซเดส-เบนซ์ 526 คัน และ 10. บีเอมดับเบิลยู 489 คัน ซึ่งยอดจำหน่ายของรถยนต์ในปีนี้จะสอดคล้องกับยอดจำหน่ายของตลาดรถยนต์ในเมืองไทยที่ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 630,000 คัน และส่งออกอีกประมาณ 200,000 คัน รวมถึงสิ้นปีนี้ 850,000 คัน นับว่าตลาดเติบโตอย่างมาก ทำให้อนาคตอันใกล้นี้จะสามารถทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านคันอย่างแน่นอน สำหรับในส่วนของเงินสะพัดจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยอีกส่วนหนึ่งจะเป็นยอดขายของอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ รถใช้แล้ว และจากงาน AA '04 อีกไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท โดยเฉพาะรถเชิงพาณิชย์นั้นนับว่ามีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก ทำให้มียอดจำหน่ายกันอย่างถ้วนหน้า คือ นิสสัน ยูดี 14 คัน มิตซูบิชิ ฟูโซ 4 คัน อีซูซุ 5-6 คัน และเกีย อีก 17 คัน ส่วนผู้ประกอบการด้านชิ้นส่วนและอุปกรณ์ถือว่าประสบความสำเร็จจากจำนวนผู้ที่เข้าชมและให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทำให้ในปีนี้เงินสะพัดในงานมีถึง 25,000 ล้านบาท นับว่าการจัดงานครั้งนี้มีเงินสะพัดสูงมากสำหรับการจัดงานแสดง ในส่วนของผู้เข้าชมให้ความสนใจเป็นจำนวนมากถึง 1.6 ล้านคน โดยเฉลี่ยผู้เข้าชมงาน วันละ 100,000 คน ซึ่งจากผลการสำรวจผู้เข้าชมงานปรากฏว่ากว่า 60 % เป็นชายอายุ 25-44 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพพนักงาน พ่อค้า และนักธุรกิจ มีรายได้ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป และกว่า 80 % แสดงความเห็นว่างานครั้งนี้จัดอยู่ในมาตรฐานสูง และยิ่งใหญ่มากขึ้น ขวัญชัยกล่าวต่อว่า นอกจากผู้ชมงานทั่วไปที่สนใจเข้าชมงานครั้งนี้ยังมีสถาบันการศึกษาต่างๆ ได้ติดต่อเพื่อขอเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก โดยผู้จัดงานได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับจอดรถบัส และบัตรเข้าชมงานไว้ให้เรียบร้อยแล้ว