ธุรกิจ
-
เผยโฉมยอดรถสปอร์ท
อัตราเร่ง 0 ถึง 100
ใช้เวลาชั่วกระพริบตา
สหรัฐอเมริกา-ยักษ์เล็กเมืองมะกัน เขียนตำนานบทใหม่ให้แก่วงการรถสปอร์ท โดย
ใช้เวทีขนาดยักษ์ในงานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ เปิดตัวรถสปอร์ทสองที่นั่งวางเครื่อง
กลางลำ ที่คู่ควรเป็นอย่างยิ่งกับตำแหน่ง "รถเร็วที่สุดในโลก"
คำถามอมตะที่ว่า รถที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลก คือรถอะไร ? มีคำตอบที่เปลี่ยนแปรไป
ได้เรื่อยๆ ตามยุคตามสมัย และสดๆ ร้อนๆ คำตอบใหม่สุดของคำถามนี้ ปรากฏขึ้นแล้ว
ที่งานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ครั้งล่าสุด ซึ่งมีขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในงานนี้
ผู้ผลิตรถยนต์ทวิสัญชาติ ไดมเลร์ ไครสเลอร์ (DAIMLER CHRYSLER) ได้นำรถแนว
คิดในรูปลักษณ์ของรถสปอร์ทคู 2 ประตู 2 ที่นั่งคันหนึ่ง ออกแสดงต่อสายตาสาธารณ
ชนเป็นครั้งแรก รถแนวคิดคันนี้มีชื่อว่า ไครสเลอร์ เอมอี โฟร์-ทเวลฟ์ (CHRYSLER
ME FOUR-TWELVE) และเป็นผลงานรังสรรค์ของทีมงานออกแบบที่มี ทเรเวอร์ ครีด
(TREVOR CREED) นักออกแบบเลือดอังกฤษเป็นผู้นำ
เอกสารประชาสัมพันธ์ที่แจกจ่ายให้แก่สื่อมวลชนที่เข้าชมงาน ระบุว่า รถแนวคิดคันนี้
มีตัวถังยาว 4.542 ม. และกว้าง 2.000 ม. กับมีช่วงฐานล้อยาว 2.795 ม. และ
มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.36 แถมยังให้รายละเอียดด้วยว่า เปลือกตัวถังทำ
จากวัสดุสังเคราะห์มวลเบาที่รู้จักกันในชื่อคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนโครงสร้างตัวถังซึ่งมี
รูปลักษณ์เหมือนอ่างอาบน้ำ ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และอลูมิเนียม
ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์ SOHC วี 12 สูบ 36 วาล์ว
5,980 ซีซี ที่ขอหยิบขอยืมมาจากรถติดตราดาวสามแฉก เมร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอล
65 เอเอมจี (MERCEDES-BENZ CL65 AMG) แต่ปรับแต่งเป็นพิเศษ รวมทั้งเพิ่ม
เทอร์โบเป็น 4 ชุด ทำให้กำลังสูงสุดพุ่งขึ้นเป็น 850 แรงม้า ที่ 5,750 รตน. และแรง
บิดสูงสุดพุ่งขึ้นเป็น 118 กก.-ม. ที่ 2,500-4,000 รตน. ส่วนระบบเกียร์ที่ใช้ เป็น
เกียร์ธรรมดาคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ที่พัฒนาโดย ริการ์โด (RICARDO) ผู้ชำนัญการด้าน
ระบบเกียร์ของรถแข่ง (เทอร์โบชาร์เจอร์ 4 ชุด และเครื่องยนต์ วี 12 สูบ นี่เอง
คือที่มาของชื่อ โฟร์-ทเวลฟ์ หรือ 412)
สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของ ไครสเลอร์ อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ทำได้
ใน 2.9 วินาที 0-160 กม./ชม. ทำได้ใน 6.2 วินาที ควอร์เตอร์ไมล์ หรือ 0-400 ม.
ทำได้ใน 10.6 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ระดับ 400 กม./ชม.
ยักษ์เล็กของเมืองมะกันยังบอกด้วยว่า จริงๆ แล้ว ไครสเลอร์ เอมอี โฟร์-ทเวลฟ์
ไม่ได้เป็นแค่ CONCEPT CAR หรือ รถแนวคิด หากเป็น PROTOTYPE หรือ รถต้นแบบ
ซึ่งบ่งบอกว่า ไครสเลอร์ ตั้งใจจะทำรถแบบนี้ออกขายอย่างจริงๆ จังๆ ไม่ใช่แค่ทำให้
ดูเล่นเหมือนรถแนวคิดส่วนใหญ่ ตามตัวเลขความเร็วที่กล่าวข้างต้น วันใดที่รถแบบนี้
ออกจำหน่ายตลาด ตำแหน่ง "รถที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก" ก็ไม่น่าจะหนีไปไหน
สำหรับสนนราคาค่าตัว คาดหมายกันว่า ถ้าทำขายกันจริงๆ โดยตั้งเป้าหมายการผลิต
ไว้ที่ระดับ 100 คัน/ปี ค่าตัวก็น่าจะอยู่ที่ระดับ 500,000 เหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับ
ประมาณ 19 ล้านบาทไทย
ย่อยข่าว
* เยอรมนี-ค่ายดาวสามแฉกเปิดเผยโฉมหน้าของรถ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสส์
(MERCEDES-BENZ C-CLASS) รุ่น FACELIFT หรือ "ยกหน้า" แล้ว ในส่วนของตัวถัง
ภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย จุดที่พอสังเกตเห็นได้ง่าย คือแผงกระจังหน้า
ดวงโคมไฟหน้า และกันชนหน้าหลัง ที่เปลี่ยนแปลงมากคือเครื่องยนต์ ซึ่งนำขบวนโดย
เครื่อง วี 8 สูบ 362 แรงม้า ติดตั้งในรถ ซี 55 เอเอมจี (C55 AMG) และนับเป็น
ครั้งแรกที่ค่ายดาวสามแฉกนำเครื่องยนต์ วี 8 สูบ มาใช้ในรถอนุกรมนี้
* อังกฤษ-แอสตัน มาร์ทิน (ASTON MARTIN) ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทของเมืองผู้ดี
ประกาศยืนยันแล้วว่า ในเดือนเมษายนนี้ จะนำรถแบบใหม่ล่าสุดคือ แอสตัน มาร์ทิน
ดีบี 9 คูเป (ASTON MARTIN DB9 COUPE) ออกจำหน่าย รถรุ่นนี้ปรากฏตัวให้เห็น
เป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ทครั้งล่าสุด เมื่อเดือนกันยายนปีกลาย
มีตัวถังยาว 4.697 ม. กว้าง 1.875 ม. และสูง 1.318 ม. ติดตั้งเครื่องยนต์ DOHC
วี 12 สูบ 48 วาล์ว 5,935 ซีซี 450 แรงม้า ระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังสู่ล้อคู่หลัง
มีให้เลือก 2 แบบ คือเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ สามารถ
ทำความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม. ส่วนรถแบบเดียวกันนี้ในตัวถังเปิดประทุน ซึ่งมีชื่อ
เฉพาะว่า แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 7 โวลันเต (ASTON MARTIN DB9 VOLANTE) จะ
ออกจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2004
* สหรัฐอเมริกา-เคยสงสัยกันบ้างมั้ย ? เมื่อคุณควักเงินแสนหรือเงินล้าน เพื่อซื้อรถ
ไว้ใช้สักหนึ่งคัน คุณต้องจ่ายเงินเป็นค่าออกแบบและพัฒนารถรุ่นที่คุณซื้อสักกี่บาท ? ผู้ที่
น่าจะให้คำตอบได้ดีมีอยู่หลายคน และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ นาย พีเตอร์ ฮอร์เบอรี
(PETER HORBURY) อดีตผู้บริหารของ โวลโว ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ
ฝ่ายออกแบบของ ฟอร์ดอเมริกาเหนือ เขาบอกว่า ในกรณีของ โวลโว โดยเฉลี่ยแล้ว
ค่าออกแบบและพัฒนาที่บวกอยู่ในค่าตัวของรถแต่ละคัน จะตกอยู่ประมาณ 3,500 บาท
เท่านั้นเอง และบอกว่า ค่าใช้จ่ายสูงสุดในรถใหม่แต่ละคัน อยู่ที่ค่าประกอบตัวรถและ
(ไม่ต้องประหลาดใจ) ค่าการตลาด
* อังกฤษ-ในรอบปี 2003 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ตลาดรถใหม่ในเมืองผู้ดีทำยอดขายได้
รวมทั้งสิ้น 2,579,050 คัน หรือเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.6 จาก 2,563,631 คัน
ในรอบปีก่อนหน้านั้น และรถที่ทำยอดขายสูงสุด 20 อันดับแรก ได้แก่ (ตัวเลขท้าย
ชื่อคือจำนวนคันที่ขายได้และร้อยละของส่วนแบ่งตลาด)
1. ฟอร์ด 378,942 (14.7)
2. วอกซ์ฮอลล์ 326,433 (12.7)
3. เรอโนลต์ 189,427 (7.34)
4. เปอโฌต์ 184,940 (7.17)
5. โฟล์คสวาเกน 178,953 (6.94)
6. ซีตรอง 117,602 (4.56)
7. โตโยตา 117,531 (4.56)
8. นิสสัน 105,798 (4.10)
9. เอมจี โรเวอร์ 95,848 (3.72)
10. บีเอมดับเบิลยู 93,822 (3.64)
11. เมร์เซเดส-เบนซ์ 93,625 (3.63)
12. ฮอนดา 81,858 (3.17)
13. เฟียต 74,823 (2.90)
14. เอาดี 70,824 (2.75)
15. แลนด์ โรเวอร์ 41,056 (1.59)
16. มีนี 40,510 (1.57)
17. โวลโว 39,062 (1.51)
18. มาซดา 37,854 (1.47)
19. สโกดา 36,548 (1.42)
20. เซอัต 34,293 (1.33)
* เบลเยียม-เกีย มอเตอร์ (KIA MOTOR) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของ
เมืองโสม เลือกใช้งานมหกรรมยานยนต์บรัสเซลส์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นที่
เปิดตัวรถขนาดเล็กแบบใหม่ซึ่งมีชื่อว่า เกีย เซราโต (KIA SERATO) รถแบบนี้จะ
ออกจำหน่ายในยุโรปเดือนพฤษภาคม 2004 แทนที่รถรุ่นเดิมซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ เกีย
ชูมา (KIA SHUMA) โดยมีตัวถังให้เลือกใช้สองแบบ คือ 4 ประตูซีดาน กับ 5 ประตู
แฮทช์แบค ในรอบปีที่เพิ่งผ่านพ้นไป เกีย ขายรถในยุโรปได้รวม 21,000 คัน
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน เมษายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/7556