ธุรกิจ
-
ซาบ
ได้รับการยอมรับด้านความปลอดภัยสูงสุด
แอนนิคา คินด์เบร์ก หัวหน้าสถาบันรับผิดชอบโครงการความปลอดภัยจากการชนของ ซาบ 9-5
เปิดเผยว่า จากการทดสอบรถยนต์ ซาบ 9-5 ครั้งแรกจากสถาบัน EURONCAP ในปี 1998 ซาบ
ได้รับรางวัลรถยนต์คุณภาพปลอดภัยระดับ 4 ดาว ซึ่งนับว่าเป็นคะแนนสูงสุดในขณะนั้น และเมื่อ
EURONCAP ได้ทำการประเมินการทดสอบอีกครั้ง ในรถยนต์ ซาบ 9-5 ปีการผลิต 2004
ที่ได้มีการพัฒนาเพิ่มระบบเตือนความจำสำหรับการใช้เข็มขัดนิรภัยแบบใหม่
ระบบดังกล่าวจะเริ่มทำงานตั้งแต่ขณะรถขับออกไปได้ประมาณ 30 วินาที ที่ความเร็วมากกว่า 25
กม./ชม. โดยจะเริ่มจากการเตือนเป็นเสียงดังกังวาน และมีข้อความขึ้นที่จอแสดงข้อมูล
เพื่อบอกให้ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารด้านหน้าคาดเข็มขัดนิรภัย
แต่หลังจากนั้น 30 วินาที หากยังไม่คาดเข็มขัด สัญญาณจะมีเสียงดังขึ้นกว่าเดิมนานถึง 90 วินาที
พร้อมข้อความแสดงที่จอ ซึ่งระบบจะทำงานแยกอิสระระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
และจะส่งเสียงดังขึ้นอีกครั้งถ้ามีการปลดเข็มขัดในระหว่างที่รถยนต์เคลื่อนที่ ทำให้ ซาบ 9-5
ได้รับรางวัลรถยนต์คุณภาพปลอดภัยระดับ 5 ดาวมาครองได้สำเร็จ
นอกจากนี้ ซาบ 9-5 ยังได้รับรางวัลรถยนต์ปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาว จาก สถาบัน USNCAP
(ของสหรัฐอเมริกาซึ่งเทียบเท่ากับสถาบัน EURONCAP แต่มีวิธีการทดสอบการชนที่แตกต่างกัน)
และยังได้รับรางวัลความปลอดภัยสูงสุดจากสถาบัน IIHS
(สถาบันประกันภัยของความปลอดภัยในการใช้ถนน) ของสหรัฐอเมริกา
จากการวัดผลของทั้ง 2 สถาบันนี้ ได้รับรองให้ ซาบ 9-5
เป็นรถมาตรฐานที่มีความปลอดภัยสูงสุดทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
อีกทั้งยังได้รับรางวัลรถยนต์ที่ให้ความปลอดภัยสูงสุดของปี 2003 จากบริษัทประกันภัย FOLKSAM
ในประเทศสวีเดน ที่ได้จัดการสำรวจจากอุบัติเหตุ 76,100 ครั้ง บนท้องถนนพบว่า ซาบ 9-5
เป็นรถยนต์เพียงรุ่นเดียวจากจำนวน 103 รุ่น ที่เข้ารับการทดสอบการชน
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มีความปลอดภัยสูงกว่า 40 % (มากกว่าค่าเฉลี่ย)
ฟอร์ด และมาซดา
ประกาศลงทุนเพิ่ม 2.1 หมื่นล้านบาท ในไทย
วิลเลียม คเลย์ ฟอร์ด จูเนียร์ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมพานี
เปิดเผยว่า ฟอร์ด มอเตอร์ คัมพานี และมาซดา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน เตรียมลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอีก
2.1 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของ บริษัท
ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
การประกาศลงทุนในประเทศไทยครั้งนี้ นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้กับ ออโต้อัลลายแอนซ์
โดยภายใน 3 ปี ต่อจากนี้ บริษัทจะดำเนินงานตามแผนขยายการเติบโตผ่านโครงการใหม่ๆ
ด้านยนตรกรรม โดยจะลงทุนปรับปรุงและพัฒนาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ
พร้อมทั้งจัดหาเครื่องมือช่างและวิศวกรรม รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิตจาก 1.35 แสนคัน เป็น 2
แสนคัน/ปี ทั้งในส่วนของรถยนต์สำเร็จรูป ซีบียู (CBU) และชิ้นส่วนภายในประเทศ ซีเคดี (CKD)
ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ จะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของพนักงานประจำและชั่วคราวอีกถึง
1,000 ตำแหน่ง
"การดำเนินงานและการลงทุนของ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมพานี
ชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทยและต่อศักยภาพของภูมิภาคเอเชียโดยรวม
และไทยเป็นตลาดที่มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของ ฟอร์ด ในเอเชีย
นอกจากแผนขยายการลงทุนใน ออโต้อัลลายแอนซ์ แล้ว ฟอร์ด
ยังได้ก่อตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคในกรุงเทพ ฯ
โดยสำนักงานแห่งนี้จะสนับสนุนการดำเนินงานของฝ่ายปฏิบัติการในกลุ่มประเทศอาเซียน
รวมทั้งฝ่ายการตลาด การขายและบริการ ตลอดจนหน่วยงานของ ฟอร์ด เครดิท ในภาคพื้นเอเชีย
แปซิฟิค เพื่อเป็นหัวหอกเชิงยุทธศาสตร์รุกขยายการเติบโตของภูมิภาคนี้"
ธุรกิจของ ฟอร์ด ในประเทศไทยเกิดขึ้นจากการผสานความแข็งแกร่งของ
ฟอร์ด/มาซดา/ออโต้อัลลายแอนซ์/พรีเมียร์ ออโทโมทีฟ กรุพ และ ฟอร์ด เครดิท
โดยประเทศไทยยังเป็นฐานปฏิบัติการในภูมิภาคอาเซียนของ ฟอร์ด
ที่ครอบคลุมการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม 5 ประเทศ คือ
ไทย/มาเลเซีย/เวียดนาม/ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย
มาซดา
ยอดขายเดือน กย. พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เดวิด กราคูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า
ยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2546 ที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 941 คัน
ซึ่งถือเป็นยอดจำหน่ายรายเดือนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ที่บริษัทเข้ามาดำเนินกิจการในตลาดของไทยเมื่อ 4
ปีก่อน ทั้งนี้มีผลจากการเปิดตัวรถสปอร์ท ไฟเตอร์ แอลยูเอกซ์ และ ไฟเตอร์ ฟรีสไตล์ แคบ รวมถึง
ทรีบิวท์ และ 323 ปรอเตเฌ 2.0 แอลจีที ซึ่งล้วนเป็นส่วนที่เพิ่มยอดขายให้สูงขึ้น
สำหรับยอดขายที่สูงขึ้นนั้นมีผลมาจากการแนะนำรถรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด
รวมถึงการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด ในปัจจุบันนี้ มาซดา
มีโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของ มาซดา 67 รายทั่วประเทศ
ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มรถรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดเมืองไทย คือ มาซดา อาร์เอกซ์-8
รถสปอร์ทที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง
"นอกจากนี้ผมยังรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติที่รถ มาซดา ได้รับรางวัล THAILAND AUTOMOTIVE
QUALITY AWARD ประจำปี 2546 ซึ่งเป็นรางวัลที่พิจารณาจากความพึงพอใจของลูกค้า
รางวัลที่ได้รับเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่า มาซดา ให้ความสำคัญกับคุณภาพและเทคโนโลยีการผลิต
ตลอดเวลา 51 ปีที่ มาซดา เข้ามาในประเทศไทย และจะยังคงยึดถือเป็นสิ่งสำคัญต่อไป"
โดยที่ผ่านมา มาซดา มีปณิธานแน่วแน่ที่จะรักษามาตรฐานและพัฒนาคุณภาพของสินค้าให้ดียิ่งๆ
ขึ้นไป และมุ่งมั่นพัฒนาเครือข่าย
ด้วยการเพิ่มจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุมในหลายพื้นที่
ตลอดจนพัฒนาคุณภาพบริการให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
เดลฟาย ฯ
ระบบเปิด/ปิดฝากระโปรงเพาเวอร์
รายงานข่าวจาก เดลฟาย คอร์พอเรชัน เปิดเผยว่า บริษัทได้แนะนำระบบเปิด/ปิดฝากระโปรงเพาเวอร์
ที่ควบคุมได้จากสวิทช์ภายในรถ และจากระบบรีโมท พร้อมด้วย สไตร์คเกอร์ไฟฟ้า
ที่ช่วยดึงฝากระโปรงให้ปิดสนิทพอดี ทั้งนี้ฝากระโปรงเพาเวอร์ของ เดลฟาย ฯ มีทั้งระบบ
GOOSENECK และระบบ 4 บานพับ
ฝากระโปรงเพาเวอร์จะมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้รถ
และช่วยยกระดับภาพลักษณ์และความภูมิฐานของตัวรถอีกด้วย
ซึ่งความสะดวกสบายจึงเป็นสิ่งสำคัญและมีผลต่อการจำหน่ายของรถยนต์
ประสบการณ์และวิสัยทัศน์ของ เดลฟาย ฯ จะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์ได้เปรียบการแข่งขันในตลาด
เอ.พี.ฮอนด้า ฯ
ชนะเลิศแข่งขันขับขี่ปลอดภัย
บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด และศูนย์ฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท
ฯ และศูนย์ฝึกอบรม ฯ ได้จัดส่งบุคลากรครูฝึกอบรมประจำศูนย์ ฯ 4 คน
เข้าร่วมการแข่งขันทักษะการขับขี่ปลอดภัยของครูฝึกระดับนานาชาติ ครั้งที่ 7 (THE 7TH SAFETY
JAPAN INSTRUCTORS COMPETITION) เพื่อเสริมศักยภาพให้กับครูฝึก ฯ ไทย การแข่งขันจัดขึ้น ณ
ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย (SUZUKA MOTORCYCLE SCHOOL) ประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานของการฝึกสอนอบรมการขับขี่ปลอดภัย
และพัฒนาทักษะความสามารถของครูฝึก ฯ
รวมถึงความสามารถในการถ่ายทอดวิชาความรู้และประสบการณ์สู่ผู้ฝึกอบรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีครูฝึก ฯ จากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงประเทศอินเดีย/จีน และเกาหลี
เข้าร่วมแข่งขันมากถึง 21 คน
สำหรับการแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่ม A-กลุ่ม E โดยกลุ่ม A/B/C และ D นั้น
เป็นการแข่งขันของเจ้าหน้าที่ครูฝึก ฯ ญี่ปุ่น ส่วนในกลุ่ม E เป็นการแข่งขันของบุคลากรครูฝึก ฯ ไทย
และครูฝึก ฯ จากประเทศในแถบอาเซียน โดยการแข่งขันประเภทรถจักรยานยนต์และรถยนต์
ซึ่งในประเภทรถจักรยานยนต์แบ่งการแข่งขันเป็น 4 ชนิด ได้แก่ BRAKING/PYLON
SLALOM/COURSE SLALOM และ PLANK RIDING และในประเภทรถยนต์มีการแข่งขัน 4 ชนิด
เช่นกัน คือ DRIVING/BRAKING/PYLON SLALOM และ COURSE SLALOM
ในการแข่งขันทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์นั้น บุคลากรครูฝึก ฯ ไทย
ได้รับการฝึกฝนและมีการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี ส่งผลให้ครูฝึก ฯ ไทย
สามารถทำคะแนนแข่งขันได้สูงสุด โดยเฉพาะประเภทรถจักรยานยนต์ สามารถคว้าชัยชนะได้ทั้งอันดับ
1, 2 และ 3 ส่วนในประเภทรถยนต์คว้าชัยชนะในอันดับ 1 และ 2 ซึ่งในอันดับ 3
เป็นของครูฝึกจากประเทศสิงคโปร์
ชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้
นับได้ว่าเป็นเครื่องสะท้อนถึงมาตรฐานในด้านทักษะความสามารถของครูฝึก ฯ ไทย
ทั้งในด้านทักษะความรู้ รวมถึงทักษะในการถ่ายทอดความรู้ ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูง
โดยเป็นที่ยอมรับในระดับอาเซียน ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลให้ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าแห่งประเทศไทย
นับเป็นหนึ่งในศูนย์ฝึก ฯ ที่มีมาตรฐานและศักยภาพสูงในระดับอาเซียน
ฟอร์ด
ร่วมงาน APEC INVESTMENT MART 2003
อภิเชต สีตะกลิน รองประธาน ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า การร่วมงาน APEC INVESTMENT
MART 2003 ครั้งนี้
ถือเป็นการร่วมแสดงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่สำคัญแห่งเอเชีย
โดยจัดแสดงรถยนต์และเทคโนโลยีของ ฟอร์ด รวมทั้งนิทรรศการความเป็นมาของ ฟอร์ด
สำหรับงานนี้ ฟอร์ด นำรถ 2 รุ่น ร่วมแสดงคือ เอเวอเรสต์ รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) 7 ที่นั่ง
ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย รวมทั้งมีการผลิตในประเทศไทยเพื่อส่งไปยังประเทศต่าง
ๆ ทั่วโลก และ เรนเจอร์ ซึ่ง ฟอร์ด ได้นำ เรนเจอร์ ผ่าครึ่งมาแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างนิรภัยที่ทำให้
เรนเจอร์ มีความแข็งแกร่งกว่าพิคอัพอื่นๆ ถึง 30 % รวมทั้งแสดงเทคโนโลยี REAR ACCCCESS
SYSTEM (RAS) หรือแคบเปิดได้ ที่ทำให้มีความโดดเด่นกว่าใคร
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการแสดงความสำเร็จของ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมพานี
ผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกตลอดระยะเวลากว่า 1 ศตวรรษที่ผ่านมา
นิทรรศการความสำเร็จของ ฟอร์ด ประเทศไทย รวมถึงการลงทุนในบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์
(ประเทศไทย) จำกัด พร้อมกองทัพยนตกรรมจาก ฟอร์ด ครบทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น
เอกซ์พลอเรอร์/เอสเคพ/เอเวอเรสต์/เทียร์รา และ เรนเจอร์
"รถทั้งหมดที่นำมาแสดงในงาน APEC INVESTMENT MART 2003 นับเป็นความภูมิใจของ
ฟอร์ด ประเทศไทย โดยเฉพาะ เอเวอเรสต์ และเรนเจอร์ ซึ่งเป็นฝีมือการผลิตของคนไทย
และส่งออกจากโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ การจัดแสดงยนตรกรรมและการเข้าร่วมงาน APEC
INVESTMENT MART 2003 ในครั้งนี้
จะแสดงให้ประเทศในกลุ่มเอเปคได้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพของประเทศไทย
ทั้งในด้านฝีมือแรงงาน สาธารณูปโภคพื้นฐาน ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และการสนับสนุนของรัฐบาล ฟอร์ด
เชื่อว่าการสนับสนุนของเราในครั้งนี้จะจุดประกายให้นักลงทุนจากประเทศในกลุ่มเอเปคเข้ามาลงทุนใ
นไทยเพิ่มมากขึ้น
มิตซูบิชิ
จับมือ แมกซ์ไลเนอร์
เดวิด ดับเบิลยู โฮวาร์ด รองกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท เอ็มเอ็มซี
สิทธิผล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ฯ ได้ร่วมมือกับ บริษัท แวนด้าแพค จำกัด
ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พื้นปูกระบะแมกซ์ไลเนอร์ ทุ่มงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการ
"เนชันแนล ฮีโร แคมเปญ" โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสนับสนุน
พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล นักแข่งแรลลีมือหนึ่งของไทย ในนามทีม มิตซูบิชิ มอเตอร์ ไทยแลนด์
ไปแข่งขันในรายการ FIA WORLD CUP CROSS COUNTRY RALLIES-DAKAR 2004 ครั้งที่ 26
ซึ่งจะเริ่มต้นการแข่งขันที่ประเทศ ฝรั่งเศส/สเปน/โมรอคโค/มอริทาเนีย/มาลี/เซเนกัล และ เบอร์กินา
ฟาโซ
โดยงบประมาณดังกล่าว จะแบ่งเป็นการลงทุนด้านรถแข่ง ซึ่งจะใช้รถ มิตซูบิชิ สตราดา แอล 200
โพรโทไทพ์ TUBE SPACE FRAME พร้อมด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลอันทันสมัย มูลค่ากว่า 35
ล้านบาท ส่วนงบประมาณที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ สำหรับนักแข่งและทีมงาน
รวมถึงงบประมาณโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของโครงการ
ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการตลาด
สำหรับ "โครงการเนชันแนล ฮีโร แคมเปญ"
มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้ประชาชนหันมาเล่นกีฬามอเตอร์สปอร์ทมากขึ้น
ทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศอีกทางหนึ่ง และ
มิตซูบิชิ มีความมั่นใจว่า พรสวรรค์ จะสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
และเป็นขวัญใจของคนไทยทั้งชาติ
กลุ่ม เคพีเอน
แต่งตั้งผู้บริหาร
กฤษณ์ ณรงค์เดช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเคพีเอน แต่งตั้ง นิตยา ศศะสมิต
จากผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ซึ่งอยู่กลุ่มเคพีเอน สังกัด บริษัท
เคพีเอ็น โฮลดิ้ง จำกัด ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร มีหน้าที่รับผิดชอบ
ทำข่าวประชาสัมพันธ์ ของ กลุ่มเคพีเอน
ทั้งนี้ กลุ่มเคพีเอน เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจยานยนต์ของประเทศไทย โดยดำเนินการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์
จักรยานยนต์ ทั้งจำหน่ายในประเทศและส่งออก มีบริษัทในกลุ่มมากมาย แบ่งออกเป็น 5
ประเภทธุรกิจ คือ ยานยนต์/การค้า/ลอจิสติคส์/ดนตรี และอสังหาริมทรัพย์
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/7402