ทั่วไป
ศึก ฟอร์มูลา วัน ฤดูกาลปี 2003 ก้าวเข้าสู่สนามในยุโรป แข่งขันกันต่อเนื่องยาวนานถึง 10 สนาม ทีม แฟร์รารี คว้าชัยสนามแรกที่ อีโมลา เซอร์กิท โดย มิคาเอล ชูมาเคร์ ปล่อยให้ แมคลาเรน กวาดแชมพ์ 2 สนาม เมื่อเปิดฤดูกาล ส่วนสนามที่ 3 บราซิล กรองด์ปรีซ์ ยุติการแข่งข
บนสังเวียน ฟอร์มูลา วัน ประจำฤดูกาลปี 2003 ทีม แฟร์รารี เรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้ด้วยการคว้าชัยที่
อีโมลา เซอร์กิท ในรายการ อิตาลี กรองด์ปรีซ์ อีกหนึ่งสนามในบ้านเกิด นอกจาก มนซา เซอร์กิท
ส่วนทีม แมคลาเรน ยังคงร้อนแรงไม่หยุด ไรค์โคเนน ตาม มิคาเอล เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2
เป็นการขึ้นโพเดียมของดาวรุ่งชาวฟินแลนด์ ไรค์โคเนน เป็นสนามที่ 4 ติดต่อกัน
หลังเปลี่ยนกฎกติกาใหม่โดยทางสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือเอฟไอเอ ส่งผลต่อเกมการแข่งขัน
ฟอร์มูลา วัน เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในรอบควอลิฟาย เปิดโอกาสให้นักแข่งหน้าใหม่ฝีมือดี
ขยับออกสตาร์ทในอันดับต้นๆ ได้มากขึ้น ทีมระดับกลาง และล่างมีโอกาสไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในระดับหัวแถว
การผูกขาดชัยชนะจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จนคาดเดาได้ยากกว่าฤดูกาลนี้ นักขับคนใด
และทีมใดจะคว้าแชมพ์โลกไปครอง
การแข่งขันผ่านพ้นไป 4 สนาม ทีม แมคลาเรน โชว์ฟอร์มอันโดดเด่นด้วยการกวาดแชมพ์ไป 2 สนามแรก
และรองแชมพ์อีก 2 สนามต่อมา หลังจาก เอฟไอเอ ได้ตัดสินผลการแข่งขันใหม่ในศึก บราซิล กรองด์ปรีซ์
โดย คีมี ไรค์โคเนน ที่คว้าชัยชนะไปครองหลังจากต้องยุติการแข่งขันลงกลางคัน จากอุบัติเหตุชนกันอย่างรุนแรง
เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ยกตำแน่งแชมพ์ให้กับ จานการ์โล ฟิสิเกลลา จากทีม จอร์แดน ไรค์โคเนน
ขยับลงมารับอันดับ 2 ส่วนทีม เรอโนลต์ ฟอร์มยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ แฟร์นานโด อาลนโซ
ดาวรุ่งชาวสเปน ขึ้นโพเดียมครั้งแรกในชีวิตการแข่งขัน สนามล่าสุดยังเก็บแต้มได้อย่างต่อเนื่อง
มีสิทธิ์ขยับขึ้นต่อกรบรรดาเซียนนักขับระดับหัวแถว
บราซิล กรองปรีซ์
ฝนกระหน่ำ ตั้งแต่ก่อนออกสตาร์ท
ศึก บราซิล กรองด์ปรีซ์ สนามที่ 3 ของฤดูกาลปี 2003 เป็นการแข่งขันครั้งที่ 700 พอดี และเป็นการแข่งขันครั้งที่ 200
ของทีม จอร์แดน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยการคว้าชัยชนะประจำรายการไปครอง
ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีของทีม จอร์แดน กับการคว้าแชมพ์ครั้งนี้ หลังจากทีมประสบปัญหาการเงินอย่างหนัก
และเป็นการคว้าแชมพ์ครั้งแรกในชีวิตการแข่งขันเอฟ 1 ของ จานการ์โล ฟิสิเกลลา นักขับชาวอิตาเลียน
ก่อนการแข่งขันฝนตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่ 12.30 น. สนาม อินเตร์ ลาโกส เปียกชุ่มไป
ด้วยน้ำที่เจิ่งนองแทรค การออกสตาร์ทเลื่อนออกไปประมาณ 15 นาที กฎใหม่ปีนี้ ออกมาให้ทุกทีมต้องตัดสินใจเลือกยางแบบเดียวเท่านั้น
ตั้งแต่รอบควอลิฟาย ในวันแข่งขันจะได้ไม่ต้องเข้าพิทเปลี่ยนยาง เนื่องจากกฎใหม่ต้องเก็บรถหลังควอลิฟาย แม้วันเสาร์ฝนจะไม่ตกก็ตาม
แต่มีการพยากรณ์ว่าวันอาทิตย์จะมีฝนตก
อินเตร์ ลาโกส เซอร์กิท มีความยาวรอบสนาม 4.309 กม. สนามแห่งนี้ได้รับการออกแบบให้รถแข่งวิ่งไปทางซ้าย ทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
เป็นสนามปราบเซียนอีกแห่ง เส้นทางการแข่งขันค่อนข้างขรุขระ ผิวถนนไม่เรียบ ระบบช่วงล่างต้องเซทใหม่ให้เหมาะสมกับสนาม
อาถรรพณ์ บราซิล กรองด์ปรีซ์ ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา หากนักขับคนใดสามารถคว้าชัยชนะได้ในรายการนี้ จะเป็นผู้ที่คว้าแชมพ์โลกได้ในฤดูกาลแข่งขัน
มีเพียง เดวิด คุลธาร์ด เพียงรายเดียวที่ไม่สามารถคว้าแชมพ์โลกได้ ในขณะที่คว้าแชมพ์ บราซิล กรองด์ปรีซ์ ได้เมื่อปี 2001 ได้รองแชมพ์โลกแทน
แม้ว่าสนามแห่งนี้จะได้เข้าร่วมการแข่งขัน ฟอร์มูลา วัน ชิงแชมพ์โลกร่วม 3 ทศวรรษ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ต่างๆ ทันสมัยเทียบเท่าสนาม เอฟ 1 แห่งอื่น
สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1940 สร้างนักแข่ง ฟอร์มูลา วัน ชาวบราซิล ก้าวขึ้นสู่บันลังก์แชมพ์โลกหลายราย ตั้งแต่ อีเมอร์สัน ฟิตติพอลดี จนกระทั่งถึง อาร์ยทัน เซนนา
อินเตร์ ลาโกส เซอร์กิท ถูกบรรจุเข้าตารางการแข่งขัน เอฟ 1 ในรายการ บราซิล
กรองด์ปรีซ์ อีกครั้งในปี 1990 อแลง ปรอสต์ คว้าแชมพ์ได้เป็นคนแรกที่นี่อีกครั้ง หลังปรับปรุงสนามใหม่ และอาร์ยทัน เซนนา เป็นนักแข่งเจ้าถิ่นสายที่ 4 คว้าแชมพ์ได้ในปี 1991
และในปี 1993 อีกครั้งเน้นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะจบชีวิตจากอุบัติเหตุขณะแข่งขันที่ อีโมลา เซอร์กิท ในปีต่อมา ขณะนำหน้า มิคาเอล ชูมาเคร์
สนามแห่งนี้มีความยาวรอบสนาม 4.309 กม. แข่งขันรวม 71 รอบสนาม ระยะทางรวม 305.909 กม. มิคาเอล ทำสถิติความเร็วต่อรอบดีที่สุด เมื่อปี 2000
ในวันแข่งจริงในรอบควอลิฟาย ฮูอัน ปาบโล มนโตยา ทำเอาไว้เมื่อปี 2002 มิคาเอล คว้าแชมพ์ที่นี่รวม 4 ครั้ง เมื่อปี 1994/1995/2000 และ 2002 ปีนี้ มิคาเอล
คาดหวังคว้าแชมพ์ที่นี่มาก เพราะพลาด 2 สนามแรก และเชื่อว่าสนามแห่งนี้นักขับต้องอาศัยฝีมือและประสบการณ์มาก แต่ผลการแข่งขันใน 3 อันดับแรกเป็นนักขับดาวรุ่งน้องใหม่ทั้งหมด
การออกสตาร์ท ไม่มีพลิกโผ เช่นเดียวกับรอบควอลิฟาย โดย บาร์ริเชลโล ขึ้นนำ ตาม
ด้วย คุลธาร์ด และเวบเพอร์ ดาวรุ่งชาวออสซี ทีม แจกวาร์
บราซิล กรองด์ปรีซ์ 2003 เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายตั้งแต่ก่อนสตาร์ท เนื่องจาก
ฝนตกหนัก มีรถหลุดโค้งหลายคัน รวมทั้ง มนโตยา และมิคาเอล ต้องออกจากการแข่งขันไปทั้งคู่ ส่วน บาร์ริเชลโล รถเสียหาย เนื่องจากน้ำมันรั่ว ขณะนำอยู่หัวแถว
ก่อนจะยุติการแข่งขันเพียง 8 รอบเท่านั้น แชมพ์หลุดลอยไปอีกสมัย เกมพลิกผัน ส่วนหนึ่งมาจากรถเซฟทีคาร์ออกมาวิ่งนำหน้าหลายครั้ง เป็นผลให้รถแข่งไม่ทิ้งห่างกันมาก
ส่วนอุบัติเหตุร้ายแรง จนต้องยุติการแข่งขันลงในรอบที่ 56 เนื่องจาก แจกวาร์ ของ เวบเพอร์ ไปชนกับกองยางอย่างรุนแรงในรอบที่ 54 รถเซฟทีคาร์ออกมา รถของ ฟิสิเกลลา
ที่เพิ่งแซง ไรค์โคเนน ขึ้นมาอยู่หัวแถว ผ่านไปได้ เช่นเดียวกับ ไรค์โคเนน แต่ อาลนโซ ไปชนกับชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายและ เวนเนอร์ อย่างแรง จนได้รับบาดเจ็บ
มีธงแดงโบกขึ้น ขณะนั้นรถของฟิสิเกลลา ก็เกิดไฟลุกไหม้ขณะอยู่ในพิทเลน
การแข่งขันยุติลงโดยทาง เอฟไอเอ ตัดสินผลการแข่งขันย้อนหลังไป 2 รอบ ซึ่ง ไรค์โคเนน นำอยู่ รับแชมพ์ไปครอง ตามมาด้วย ฟิสิเกลลา
และอาลนโซ ซึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาลไม่ได้ขึ้นโพเดียมเปิดแชมเปญ ส่วน คุลธาร์ด เสียดายที่ไม่ได้รับแชมพ์ในรายการนี้ เพราะนำรถเข้าพิทไปในรอบที่ 52
ขณะนำหน้าอยู่หัวแถว ก่อนการแข่งขันจะยุติลง ไรค์โคเนน จึงแซงขึ้นไป
จากนั้นทาง เอฟไอเอ ได้มีการพิจารณาผลการแข่งขันใหม่ ในวันศุกร์ที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา เกิดข้อโต้แย้งในการนับเวลาหลังยุติการแข่งขัน ทีม จอร์แดน
ได้นำภาพถ่ายไปแสดงให้เห็นว่า ฟิสิเกลลา ขับผ่านเส้นสตาร์ทในรอบที่ 56 ไปแล้ว ผลการแข่งขันนับถอยหลังไป 2 รอบคือ
รอบที่ 54 ฟิสิเกลลา แซง ไรค์โคเนน ขึ้นมาแล้ว ทาง เอฟไอเอ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง หลังจากมีการวิจารณ์กันมาก
และได้หาหลักฐานมาพิสูจน์แล้วว่า ฟิสิเกลลา เริ่มจับเวลาในรอบที่ 56 ไปแล้ว ก่อนที่จะมีธงแดงโบกขึ้น จึงรับแชมพ์แทน ไรค์โคเนน ซึ่งขยับลงมารับอันดับ 2 แทน
การแข่งขันรายการนี้ บรรดาดาวรุ่งโชว์ฟอร์มสดออกมาหลายรายด้วยกัน มาร์ค เวบเพอร์
ทีม แจกวาร์ ทำเวลาติดที่ 1 ในวันศุกร์ และวันเสาร์ติดอันดับ 3 จบการแข่งขันอันดับ 7 เก็บได้
2 แต้ม แฟร์นานโด อาลนโซ ทีม เรอโนลต์ ควอลิฟายวันแรกติดที่ 9 วันเสาร์ติดที่ 10 แต่จบการแข่งขันอันดับ 3 เป็นสนามที่ 2 ติดต่อกัน
แต้มสะสมขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ของตาราง และประเภททีมขึ้นไปอยู่อันดับ 2 แทน แฟร์รารี
ผลการแข่งขัน บราซิล กรองด์ปรีซ์ (หลังการตัดสินใหม่)
อันดับ ผู้ขับ ทีม เวลารวม
1 จารการ์โล ฟิสิเกลลา จอร์แดน 1 ชั่วโมง 32 นาที 22.195 วินาที
2 คีมี ไรค์โคเนน แมคลาเรน + 00.831 วินาที
3 แฟร์นานโด อาลนโซ เรอโนลต์ + 06.695 วินาที
4 เดวิด คุลธาร์ด แมคลาเรน + 07.391 วินาที
5 ไฮนซ์-ฮารัลด์ ฟเรนท์เซน เซาเบอร์ + 09.392 วินาที
อิตาลี กรองด์ปรีซ์
มิคาเอล คว้าแชมปพ์แรกใน แฟร์รารี
หลังการรอคอยความสำเร็จกันมานานถึง 4 สนาม ทีม แฟร์รารี ฉลองชัยชนะในบ้านของตัว
เองด้วยการคว้าแชมพ์แรกของฤดูกาลปี 2003 โดย มิคาเอล แชมพ์โลก 5 สมัยชาว
เยอรมัน คลายความกดดัน หลังจากรถแข่งรหัสเก่า F2002 ทะยานผ่านธงตราหมากรุกไปเป็นคันแรก ขณะที่รถแข่งรหัสใหม่ล่าสุด F2003 GA
ยังไม่ผ่านการทดสอบเลื่อนการประเดิมสนามแรกไปที่สเปนซึ่งเป็นสนามที่ 5 ของฤดูกาล
บรรยากาศการฉลองชัยชนะของทีม แฟร์รารี เต็มไปด้วยความเศร้า เนื่องจาก อลิซาเบธ
ชูมาเคร์ วัย 55 ปี แม่ของสองพี่น้องตระกูล ชูมาเคร์ ได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองโคโลญน์ ประเทศเยอรมนี
ช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา การขึ้นโพเดียมกับแชมพ์ของ มิคาเอล ครั้งนี้ไม่มีการเปิดแชมเปญฉลอง
เพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่แม่ของเขาและขณะที่เพลงชาติเยอรมนีบรรเลง มิคาเอล ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า
หลังจากจบการแข่งขัน ตามปกติจะมีการแถลงข่าว โดยนักขับที่เข้าเส้นชัยใน 3 อันดับ
แรกจะเข้าร่วมแถลงข่าวด้วย แต่ มิคาเอล ไม่ได้ไปให้ ชอง ทอดด์ หัวหน้าทีม แฟร์รารี ขับหน้าที่แทน
ในวันเสาร์หลังจากจบรอบควอลิฟาย ทั้ง มิคาเอล และราล์ฟ ชูมาเคร์ ได้บินไปยังเยอรมนี เพื่อดูใจแม่ของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย
"แม่ของผมรักการแข่งรถโกคาร์ท เมื่อสมัยที่เรายังเด็ก เราแข่งโกคาร์ทกันที่เมือง เคอร์เพน และแม่รักที่เห็นเราขับรถแข่ง" โฆษกของทีม
แฟร์รารี กล่าวอ้างคำพูดของ มิคาเอล สมัยที่ 2 นักขับตระกูล ชูมาเคร์ ยังเด็ก แม่ของเขาทำงานอยู่ที่โรงอาหารของสนามแข่งโกคาร์ท
"มันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับเขา และเขาทำได้สำเร็จ เพราะเขามีความรู้สึกว่า เป็นสิ่งที่
ต้องทำ เป็นการทำงานเพื่อทีมที่น่ามหัศจรรย์มาก สิ่งที่อยู่สูงสุดนั้นคือ เขาเป็นนักแข่งรถ"
ชอง ทอดด์ กล่าว
มิคาเอล คว้าแชมพ์ประจำรายการ อิตาลี กรองด์ปรีซ์ ไปครองเป็นสมัยที่ 5 และเป็นครั้งที่ 65 ในชีวิตการแข่งขันของ
นักขับชาวเยอรมันวัย 34 ปีรายนี้ คว้าแชมพ์ได้ที่นี่เมื่อปี 1994 ให้กับทีม เบเนททัน ปี 1999/2000 และ 2002 ให้กับทีม แฟร์รารี โดยมี 2001
แชมพ์ตกเป็นของราล์ฟ คว้าแชมพ์แรกในชีวิตได้ที่นี่ ปีนี้ ราล์ฟ เข้าเส้นชัยในอันดับ 4 เป็นผลงานที่ดีที่สุดของ 4 สนามที่ผ่านมา
ตามมาด้วย คุลธาร์ด/อาลนโซ/มนโตยา และบัททัน โดย อาลนโซ ทีม เรอโนลต์ เข้าป้ายอันดับ 6 เก็บแต้มเพิ่มได้อีก 3 แต้มนั้น
ส่งผลให้ทีม เรอโนลต์ ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ประเภททีมเหนือกว่าทีม วิลเลียมส์
โรค์โคเนน ดาวรุ่งชาวฟินแลนด์ ทีม แมคลาเรน ยังคงร้อนแรงไม่หยุด เข้าเสันชัยในอันดับ
2 เป็นนักแข่งเพียงคนเดียวในขณะนี้ที่ขึ้นโพเดียมเป็นสนามที่ 4 ติดต่อกัน บาร์ริเชลโล มือสองของ แฟร์รารี เข้าเส้นชัยในอันดับ 3
ซึ่งควรจะเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 หากทีม เซอร์วิศ ในพิทไม่ทำหน้าที่ผิดพลาดจนต้องเสียเวลาในพิทอยู่นาน ทำให้ ไรค์โคเนน รับอันดับ 2 ไปแทน
อีโมลา เซอร์กิท มีชี่ออย่างเป็นทางการที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ก่อตั้ง แฟร์รารี คือ AUTODROMO ENZO & DINO FERRARI
สนามแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 1950 ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของภูเขา APENNINE ใช้เป็นสนามแข่งและมอเตอร์ไซค์
รวมทั้งเป็นสนามทดสอบรถสปอร์ทที่ผลิตในแถบนี้ ได้แก่ แฟร์รารี/มาเซราตี/ลัมโบร์กินี
อีโมลา เซอร์กิท มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง เป็นสนามที่ท้าทายความสามารถของนัก
แข่ง และสนามแห่งนี้ผู้ชมจะรู้สึกสนุกสนาน เพราะมีช่วงขึ้นเนินและลงเนินอยู่ตลอดเวลา
สนามแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณป่าทางภาคกลางตอนเหนือ ของประเทศอิตาลี เอนโซ แฟร์รารี
และดีโน ลูกชายได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในแถบนี้ อีโมลา เซอร์กิท ถูกบรรจุเข้าตารางการแข่งขัน
ฟอร์มูลา วัน อย่างเป็นทางการ ในปี 1980 รายการ อิตาลี กรองด์ปรีซ์ เบียด มนซา เซอร์กิท
ด้วยความเคลื่อนไหวทางการเมืองและตั้งแต่ปี 1981 เป็นต้นมา อีโมลา ถูกบรรจุอยู่ใน
รายการ ซาน มาริโน กรองด์ปรีซ์
อีโมลา เซอร์กิท โด่งดังจนเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก จากอุบัติเหตุเมื่อปี 1994 ที่คร่าชีวิต
อดีตแชมพ์โลก 3 สมัย อาร์ยทัน เซนนา นักขับชาวบราซิล หลังจากนั้นได้มีการสอบสวนและฟ้องร้องศาลกันอยู่เป็นเวลายาวนาน
จนกระทั่งบัดนี้ยังหาสาเหตุและข้อเท็จจริงมาเปิดเผยต่อสาธารณชนไม่ได้ ถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของ
อาร์ยทัน เซนนา ซึ่งเคยคว้าชัยชนะได้ที่รายการนี้รวม 3 ครั้ง ปี 1988/1989 และ 1991
การสูญเสียครั้งนั้นทำให้ทาง เอฟไอเอ
ต้องปรับเปลี่ยนกฎกติกาและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับความปลอดภัยของสนาม และนักแข่งกันใหม่
มิคาเอล สร้างสถิติประจำสนามใหม่ ด้วยการคว้าแชมพ์สูงสุดประจำสนาม รวม 5 ครั้ง และข่าวลือหนาหูว่า อีโมลา เซอร์กิท
อาจถูกถอดออกจากตารางการแข่งขันในปีหน้า เพื่อหลีกทางให้กับ บาห์เรน และจีน ที่ถูกบรรจุเข้าตารางการแข่งขันปี 2004
ผลการแข่งขัน ซาน มาริโน กรองด์ปรีซ์
อันดับ ผู้ขับ ทีม เวลารวม
1 มิคาเอล ชูมาเคร์ แฟร์รารี 1 ชั่วโมง 28 นาที 12.058 วินาที
2 คีมี ไรค์โคเนน แมคลาเรน + 01.882 วินาที
3 รูเบนส์ บาร์ริเชลโล แฟร์รารี + 02.291 วินาที
4 ราล์ฟ ชูมาเคร์ วิลเลียมส์ + 08.803 วินาที
5 เดวิด คุลธาร์ด แมคลาเรน + 09.411 วินาที
สรุปคะแนนสะสม รวม 4 สนาม
ประเภทผู้ขับ
อันดับ ผู้ขับ ทีม คะแนนรวม
1 คีมี ไรค์โคเนน แมคลาเรน 32
2 เดวิล คุลธาร์ด แมคลาเรน 19
3 มิคาเอล ชูมาเคร์ แฟร์รารี 18
4 แฟร์นานโด อาลนโซ เรอโนลต์ 17
5 รูเบนส์ บาร์ริเชลโล แฟร์รารี 14
ประเภททีม
อันดับ ทีม คะแนนรวม
1 แมคลาเรน 51
2 แฟร์รารี 32
3 เรอโนลต์ 26
4 วิลเลียมส์ 23
5 เซาเบอร์ 8
บรรยายภาพ
FILE
BABR 10 | สีสันขอบสนามแข่งของทีม จอร์แดน
2 | กำลังใจในพิทสตอพ
F1 BRAZ ALONSO | สภาพของ แฟร์นานโด อาลนโซ เข้าเส้นชัยอันดับ 3
F1 BRAZ DAVID FR RUBEN | เดวิด คุลธาร์ด ขึ้นนำ เกือบคว้าแชมพ์ บราซิล เป็นสมัยที่ 2
F1 BRAZ FISICHELLA | สภาพรถของแชมพ์ชาวบราซิล หลังยุติการแข่งขันกลางคัน
F1 BRAZ KIMI COUTH | แมคลาเรน ขึ้นนำ 2 อันดับแรก ท่ามกลางสายฝน
F1 BRAZ MCLAREN | ทีมเซอร์วิศของ แมคลาเรน ลุ้นอยู่ในพิท
F1 BRAZ MON PASS MICH | ฮูอัน ปาบโล มนโตยา เบียด มิคาเอล ชูมาเคร์ ก่อนไม่จบการแข่งขันทั้งคู่
F1 BRAZ DOD RAI | ฉลองชัยก่อน เอฟไอเอ ตัดสินให้รับที่ 2 แทน
F1 BRAZ RUBEN FR RENAULT | รูเบนส์ บาร์ริเชลโล พลาดแชมพ์อย่างเหลือเชื่อ
F1 BRAZ WEBBER ACCIDENT | สภาพรถของ มาร์ค เวบเพอร์ หลังอุบัติเหตุ
F1 SANMARINO | รวมพลจรวดทางเรียบก่อนระเบิดศึก
F1 SANMARINI | กว่าจะคว้าแชมพ์แรก เข้าไปถึง สนามที่ 4
F1 SAN START | 2 พี่น้อง ชูมาเคร์ ช่วงชิงโค้งแรกตั้งแต่สตาร์ท
F1 SAN BABE | นำอำพันรุกตลาดโลก
F1 SAN BABR 1 | อีกหนึ่งสีสันใน อีโมลา เซอร์กิท
F1 SAN MINARDI | มินาร์ดี ยังเก็บแต้มไม่ได้หลังผ่านไป 4 สนาม
F1 SAN SANMARINO 1 | มิคาเอล ชูมาเคร์ ฉลองแชมพ์แรกด้วยความเศร้า
F1 NEW SANMARINO 3 | จานการ์โล ฟิสิเกลลา รับแชมพ์ฉลองลงแข่งครั้งที่ 200 ของทีม จอร์แดน
F1 SAN MARINO 6 | พิทของทีม แฟร์รารี ฉลองชัย
F1 SAN MARINO 7 | มาร์ค เวบเพอร์ ร้อนแรง ต่อเนื่องเกินคาด
เรื่องโดย : ไททาเนียม
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2546
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/572