X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รถใหม่
24 Apr 2024
-
ไพ่ตัวเก็งของเจ้าของเครื่องหมายการค้าตรีศูล นับตั้งแต่กลายสภาพเป็นผู้ผลิตรถยนต์ ที่มี แฟร์รารี (FERRARI) เป็นเจ้าเข้าเจ้า ของเมื่อปี 1998 ก็ดูเหมือนว่าธุรกิจการค้าของผู้ผลิตรถยนต์เจ้าของเครื่องหมายการ ค้าตรา ตรีศูล หรือ สามง่าม ซึ่งรู้จักกันในชื่อ มาเซราตี (MASERATI) จะกระเตื้อง ขึ้นอย่างรวดเร็วทันตาเห็น ตัวเลขที่พอจะหยิบยกมาให้เห็นกันชัดๆ เพื่อพิสูจน์ความในย่อหน้าข้างต้น คือยอดผลิต ที่พุ่งพรวดพราด จากแค่ 666 คัน ในรอบปี 1998 เป็น 2,027 คัน ในรอบปี 2000 คือเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตัวนั่นเทียว ในตลาดยุโรปขณะนี้ มาเซราตี มีรถให้ลูกค้าเลือกใช้เพียงสองรุ่น คือ รถคูเป 2+2 ที่นั่ง มาเซราตี 3200 จีที (MASERATI 3200GT) ซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปลายปี 1998 กับ รถเปิดประทุน 2 ที่นั่ง มาเซราตี สไปเดอร์ (MASERATI SPYDER) ที่เห็นอยู่นี้ ส่วนที่จะตามติดมาในอนาคตอันไม่นานจนเกินรอ มีอีกสองรุ่น คือ รถคูเป 2+2 ที่นั่ง มาเซราตี 4200 จีที (MASERATI 4200GT) ซึ่งปรากฏตัวให้เห็นแล้วที่งานมหกรรม ยานยนต์ดีทรอยท์ครั้งล่าสุด เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา กับ รถซาลูน มาเซราตี ควาตโตรโปร์เต (MASERATI QUATTROPORTE) ซึ่งจะออกตลาดปลายปี 2003 นี้ มาเซราตี สไปเดอร์ รถติดตราตรีศูลแบบแรกในช่วงเวลากว่าหนึ่งทศวรรษ ที่ มาเซ ราตี จะส่งไปจำหน่ายในตลาดสหรัฐอเมริกา ปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้ง แรก ที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท ครั้งที่ 59 เมื่อกลางเดือนกันยายน 2001 และไม่กี่วันหลังจากนั้นก็ออกจำหน่ายในตลาด ทั้งแบบพวงมาลัยซ้ายและพวงมาลัยขวา ตัวถังขนาดกะทัดรัด ยาว 4.303 ม. กว้าง 1.822 ม. สูง 1.305 ม. และมี ช่วงฐานล้อยาว 2.440 ม. ของ มาเซราตี สไปเดอร์ นับเป็นผลงานชิ้นโบแดงอีก ชิ้นหนึ่งของสำนัก อิตัล ดีไซจ์น จูจาโร (ITAL DESIGN GIUGIARO) ซึ่งขาดการ ติดต่อกับผู้ผลิตรถยนต์รายนี้มานมนาน งานในอดีตชิ้นสุดท้าย ที่พระอาจารย์ จูจาโร ทำให้แก่ค่ายตรีศูล เมื่อ 35 ปีก่อน คือ มาเซราตี กีบลี (MASERATI GHIBLI) รถ ยอดดัง ที่ถูกกล่าวถึงอยู่บ่อยๆ ก่อนการปรากฏตัวที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ทดังกล่าวข้างต้น มีข่าวคาดหมาย ว่า เครื่องยนต์ที่ มาเซราตี จะนำมาติดตั้งในรถรุ่นนี้ หากไม่ใช่เครื่องยนต์ทวินเทอร์ โบ วี 8 สูบ เครื่องเก่าที่ปรับปรุงใหม่ ก็น่าจะเป็นเครื่อง วี 8 สูบ 3.6 ลิตร ที่ใช้ อยู่ในรถ แฟร์รารี 360 โมเดนา (FERRARI 360 MODENA) ปรากฏว่าคาดผิดกันหมด เพราะเอาเข้าจริง เครื่องยนต์ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ฝากระ โปรงหน้าของ มาเซราตี สไปเดอร์ กลับกลายเป็นเครื่อง DOHC วี 8 สูบ 32 วาล์ว 4,244 ซีซี ที่ออกแบบขึ้นใหม่สดๆร้อนๆ และไม่เคยใช้กับรถแบบไหนมาก่อน เป็น เครื่องยนต์หายใจอากาศธรรมดา ที่บังคับควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยระบบ DRIVE-BY-WIRE ปล่อยไอพิษต่ำ ให้กำลังสูงสุด 390 แรงม้า ที่ 7,000 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 46.0 กก.ม.ที่ 4,500 รตน. สำหรับระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังของเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หลัง มีให้เลือกใช้สองแบบ คือเลือกได้ระหว่างเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ อย่างที่ใช้ อยู่ในรถแข่งฟอร์มูลา-1 ซึ่งมีเรียกชื่อเฉพาะว่า คัมบิโอโคร์ซา (CAMBIOCORSA) เป็นภาษาอิตาลี ซึ่งตรงกับคำว่า RACING CHANGE ในภาษาอังกฤษ กลไกส่วนอื่นๆล้วนยกชุดมาจากรถ มาเซราตี 3200 จีที รวมทั้ง ระบบรองรับ แบบ อิสระ ปีกนกสองชั้น/สปริงขด/เหล็กกันโคลง ทั้งหน้าและหลัง ระบบพวงมาลัยแบบ ฟันเฟืองตัวหนอน และระบบห้ามล้อแบบจานทั้งสี่ล้อ พร้อมระบบป้องกันล้อตาย สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของ มาเซราตี อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ ใน 5.0 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ระดับ 285 กม./ชม. สนนราคาค่าตัวของรถพวงมาลัยขวา ที่มีจำหน่ายแล้วในตลาดเมืองอังกฤษ เริ่มต้นที่ 68,750 ปอนด์ หรือเท่ากับประมาณ 4.33 ล้านบาทไทย เมื่อคิดอัตราแลกเปลี่ยน 1 ปอนด์อังกฤษแลกได้ด้วยเงินไทย 63 บาท ส่วนในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งตั้งเป้า หมายว่า จะขายได้ปีละ 1,200 คัน สนนราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 88,000 เหรียญ หรือ เท่ากับประมาณ 3.78 ล้านบาท เมื่อคิดอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญ ต่อ 43 บาท
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน เมษายน ปี 2545
คอลัมน์ Online : รถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://www.autoinfo.co.th/archive/474
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th