กองบรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม ขอพาคุณผู้อ่านย้อนเวลาไปค้นหา "25 ข่าวดัง เขย่าอุตสาหกรรมรถยนต์" เราจะไปดูกันว่า ข่าวดัง ข่าวไหนที่เป็นจุดเปลี่ยนของวงการรถยนต์

กองบรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม ขอพาคุณผู้อ่านย้อนเวลาไปค้นหา "25 ข่าวดัง เขย่าอุตสาหกรรมรถยนต์" เราจะไปดูกันว่า ข่าวดัง ข่าวไหนที่เป็นจุดเปลี่ยนของวงการรถยนต์ ปี 2535 เปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) ประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมกันจัดตั้งเขตการค้าเสรี (AFTA) ตั้งแต่ปี 2535 ในสมัย นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี และเริ่มลดกำแพงภาษีนำเข้าตั้งแต่ปี 2536 และทยอยลดเรื่อยมาจนปัจจุบัน โดยในวันที่ 1 มกราคม 2553 สมาชิกอาเซียนเดิม 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และบรูไน ภาษีนำเข้าสินค้าเป็น 0 % ปี 2537 เปิดตัวต้นตำนานรถลุย...จีพ เชอโรคี รถ จีพ เป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่ช่วงสงคราม แต่เพิ่งเข้ามาทำตลาดเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยอย่างจริงจัง ปี 2537 ผู้ริเริ่มนำรถ จีพ เข้ามาขายในไทยเป็นรายแรก คือ สวีเดนมอเตอร์สฯ ที่ได้ติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายจาก ไดมเลร์ ไครสเลอร์ และมีการจัดตั้ง ไทยไครสเลอร์ ออโต้โมทีฟฯ ขึ้นเป็นผู้นำเข้าในช่วงปลายปี 2536 โดยต้นปี 2537 รถ จีพ เชอโรคี 4.0 ลิตร ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวเป็นครั้งแรก และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการรถขับเคลื่อน 4 ล้อในเมืองไทย จนเกิดกระแสนิยมรถประเภทนี้เป็นวงกว้าง ปี 2540 วิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย (ต้มยำกุ้ง) วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย ปี 2540 หรือเรียกทั่วไปว่า "วิกฤตต้มยำกุ้ง" ส่งผลกระทบถึงหลายประเทศในทวีปเอเชีย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2540 ทำให้เกิดความกลัวว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะล่มสลาย วิกฤตการณ์ดังกล่าวเริ่มขึ้นในประเทศไทย เมื่อค่าเงินบาทลดลงอย่างมาก อันเกิดจากการตัดสินใจของรัฐบาลไทย ซึ่งมี พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ลอยตัวค่าเงินบาท ตัดการอิงเงินสกุลเหรียญสหรัฐฯ หลังจากความพยายามทั้งหมดที่จะสนับสนุนค่าเงินบาทล้มเหลว เมื่อเผชิญกับการแผ่ขยายแบบเกินเลยทางการเงิน (FINANCIAL OVEREXTENSION) อย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อสังหาริมทรัพย์ เวลานั้น ประเทศไทยมีภาระหนี้สาธารณะ ซึ่งทำให้ประเทศอยู่ในสภาพล้มละลาย และเมื่อวิกฤตดังกล่าวขยายออกนอกประเทศ ค่าเงินของประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และญี่ปุ่น ก็ได้ทรุดตัวลงเช่นกัน สำหรับการแก้ไขสถานการณ์ของประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทยพยายามพยุงค่าเงินบาท โดยใช้เงินสำรองเงินตราต่างประเทศจนหมด และต้องกู้จาก IMF จำนวน 17,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่ง IMF ให้แนวทางโดยดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวด และปรับโครงสร้างสถาบันการเงิน แต่ก็ส่งผลให้ปัญหาหนักขึ้น โดยราคาสินค้า และค่าบริการต่างๆ แพงขึ้น จึงเพียงประคองสถานการณ์ และให้ประชาชนหันมาใช้ "เศรษฐกิจพอเพียง" ในที่สุดไทยก็สามารถใช้หนี้คืนก่อนกำหนดถึง 2 ปี โดยแบงค์ชาติจ่ายหนี้คืน IMF งวดสุดท้าย และปลดแอกไทยจาก IMF ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2546 ปี 2541 เปิดตัว โตโยตา ไฮลักซ์ สปอร์ทไรเดอร์ โตโยตา ไฮลักซ์ สปอร์ทไรเดอร์ อวดโฉมแรกในปี 2541 ก่อกระแสความนิยม พีพีวี จนกล่าวได้ว่าเป็นรุ่นแรกของความนิยมมาจนถึง ฟอร์ทูเนอร์ ที่มีรากฐานมาจาก สปอร์ทไรเดอร์ ปี 2542 เปิดตัว เกีย สปอร์เทจ บริษัท ยนตรกิจเกียมอเตอร์ จำกัด เริ่มประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ เกีย ในประเทศไทย จาก เกีย มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี และได้เปิดตัว เกีย สปอร์เทจ ในเดือนธันวาคม ปี 2542 ภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 16" ปี 2543 เปิดตัว เชฟโรเลต์ ซาฟีรา โอเพล ซาฟีรา รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก ที่ผลิตโดย โอเพล ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศเยอรมนี เริ่มผลิตในปี 2542 ส่วนประเทศไทย ซาฟีรา เปิดตัวเมื่อปี 2543 ทำตลาดโดยใช้บแรนด์ เชฟโรเลต์ โดยประกอบในประเทศไทย และกลายเป็นรถเอมพีวี รุ่นแรกๆ ที่เข้ามาทำการตลาดในเมืองไทยอย่างจริงจัง จนรถรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ปี 2544 เปิดตัว มิตซูบิชิ สตราดา จี-แวกอน สตราดา จี-แวกอน เปิดตัวที่ญี่ปุ่น ในปี 2539 ใช้พื้นฐานจาก สตราดา โดยใช้ชื่อว่า ชาลเลนเจอร์ รวมถึงยังขายในอังกฤษ อเมริกาใต้ กลาง และเหนือ ฟิลิปปินส์ และยุโรป ในชื่อต่างๆ ส่วนประเทศไทยเริ่มขายในปี 2544 ปี 2545 โครงการ ไอเอมวี...อภิมหาพโรเจคท์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดโครงการ ไอเอมวี มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "IMV" (INNOVATIVE INTERNATIONAL MULTI-PURPOSE VEHICLE) เริ่มโครงการครั้งแรก ปี 2554 โดยได้รับความไว้วางใจจาก โตโยตา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น ให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต รถกระบะขนาด 1 ตัน รถยนต์อเนกประสงค์ เครื่องยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าภายในประเทศ และส่งออกจำหน่ายไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก ครั้งแรกกับกระแส แคบเปิดได้ เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงในวงการรถกระบะ โดย ฟอร์ด ได้แนะนำรถรุ่นใหม่ เรนเจอร์ โอเพนแคบ ที่มาพร้อมแคบเปิดได้ ทำมุมถึง 90 องศา การเข้า/ออกห้องโดยสารทำได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยที่กว้างที่สุดในรถระดับเดียวกัน พร้อมช่องเก็บสัมภาระมากมาย ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีความสะดวกสบายเทียบเท่ากับรถยนต์อเนกประสงค์ทั่วไป และเป็นจุดเริ่มต้นของรถกระบะ แคบเปิดได้ ในเมืองไทย ปี 2547 อีซูซุ เปิดตัว มิว-7 รถอเนกประสงค์ยอดนิยม ปี 2545 อีซูซุ เปิดตัวกระบะ อีซูซุ ดี-แมกซ์ ครั้งแรกในโลก และในปี 2547 เปิดตัว อีซูซุ มิว-7 รถอเนกประสงค์ดัดแปลงจากรถกระบะ หรือที่รู้จักในชื่อ พีพีวี สร้างชื่อเสียงและความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภค จนกลายเป็นรถยอดนิยม ในเวลาต่อมา โตโยตา ลุยตลาดรถอเนกประสงค์ เปิดตัว ฟอร์ทูเนอร์ ใหม่ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 2547 ในประเทศไทย ใช้โครงสร้างเดียวกับ โตโยตา ไฮลักซ์ วีโก หรือ โตโยตา ไฮลักซ์ วีโก แชมพ์ และโตโยตา อินโนวา ในปัจจุบัน เป็นรถพีพีวี ที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย ปี 2548 เปิดตัว มิตซูบิชิ ทไรทัน บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ มิตซูบิชิ ทไรทัน เครื่องยนต์ DI-D ไฮเพอร์ คอมมอนเรล ครั้งแรกของโลก ปี 2550 รัฐส่งเสริม อีโคคาร์ เฟส 1-2 ปี 2550 คณะกรรมการบีโอไอ (BOI) มีนโยบายส่งเสริมให้เกิดโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ อีโคคาร์ (ECO CAR) ตั้งแต่ปี 2552 จนมาถึงปี 2558 จึงต่อยอดความสำเร็จด้วยโครงการ อีโคคาร์ เฟส 2 เริ่มพิจารณาเฟสที่ 2 เดือนสิงหาคม ปี 2556 และมีผลบังคับใช้ในปี 2558 กระบะ ทาทา ทำตลาดในไทย บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านรถยนต์ในไทยตั้งแต่ต้นปี 2551 เริ่มจากการแนะนำรถพิคอัพ ทาทา ซีนอน 2.2L VTT ดีคอร์ ดีเซล คอมมอนเรล ปี 2554 เกิดมหาอุทกภัย อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย กระทบหนัก ปี 2554 ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยรุนแรง และมีพื้นที่ประสบภัยกระจายตัวในทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง ที่เกิดน้ำท่วมหนักเป็นระยะเวลานาน กรุงเทพฯ และปริมณฑล น้ำท่วมหนักในรอบ 70 ปี เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และขิ้นส่วน ทำให้ปีนั้นไทยมียอดการผลิตรถแค่ 2,453,717 คัน และมียอดจำหน่ายเพียง 794,081 คัน โครงการรถคันแรก จากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 อุตสาหกรรมยานยนต์ซบเซา รัฐบาลประกาศโครงการ "รถคันแรก" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงสนับสนุนให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย ซึ่งไม่เคยมีรถยนต์มาก่อน สามารถซื้อรถยนต์พร้อมได้รับเงินคืนเท่ากับค่าภาษีที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/คัน โดยให้เฉพาะผู้ซื้อรถยนต์ขนาดไม่เกิน 1,500 ซีซี รถกระบะ และรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก และภาครัฐจะคืนภาษีเมื่อครอบครองรถยนต์ไปแล้วเป็นเวลา 1 ปี โครงการ "รถคันแรก" เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 และสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในปี 2556 เริ่มหดตัว โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 1,330,668 คัน ลดลง 7.4 % แต่อย่างไรก็ไม่เท่ากับในปี 2557 ที่ตลาดรถยนต์ตกลงถึง 33.7 % มียอดขายรวมอยู่ที่ 881,832 คัน ปี 2555 นิสสัน สวนกระแสตลาดซบ เปิดตัว นาวารา ใหม่ นิสสัน นาวารา ใหม่ พัฒนาภายใต้แนวคิด อีโค เพาเวอร์ (ECO POWER) ใช้กลยุทธ์การสื่อสารการตลาด "ยอดพิคอัพคุณภาพ พันธุ์แกร่ง แรงจัด ประหยัดจริง" เพราะ นิสสัน คือ หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตรถกระบะคุณภาพ เหนือกว่าด้วยสมรรถนะบนทางเรียบ และทางวิบาก การเปิดตัว นาวารา ใหม่ ช่วยกระตุ้นตลาดรถกระบะให้คึกคักยิ่งขึ้น มาซดา เปิดตัว บีที-50 พโร ใหม่ พิคอัพ บีที-50 พโร เปิดตัวในปี 2555 เป็นรถพิคอัพที่มีความสมบูรณ์แบบและลงตัวที่สุด พร้อมวางตำแหน่งสินค้าที่ชัดเจน และกลุ่มเป้าหมายชัดเจนเช่นกัน มีให้ลูกค้าได้เลือกหลากหลายรุ่น ทั้ง ฟรีสไตล์แคบ หรือบานแคบเปิดได้ และดับเบิลแคบ 4 ประตู ปี 2556 รัฐกำหนดค่าออคเทนใหม่ ยกเลิกเบนซิน 91 1 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้ประกาศยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 อย่างเป็นทางการ เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทน คือ น้ำมันแกสโซฮอลเพิ่มมากขึ้น การยกเลิก เบนซิน 91 ครั้งนี้ได้ถูกขยับมาจากกรอบเดิมที่ต้องยกเลิกในเดือนตุลาคม ปี 2555 เพื่อให้เวลาทั้งผู้ใช้น้ำมัน และผู้ค้าน้ำมัน ได้มีเวลาปรับตัว และบริหารสตอคน้ำมันเบนซินที่ยังค้างอยู่ โดยกรมธุรกิจพลังงาน ได้ยืดระยะเวลาผ่อนผันให้ผู้ค้าน้ำมันบริหารจัดการ สตอคน้ำมันเบนซิน 91 ที่เหลือคงค้างในคลังน้ำมันให้หมดจากระบบภายใน 3 เดือน เอมจี ตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย "เซี่ยงไฮ้ ออโทโมทีฟ" หรือ SAIC ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ร่วมทุนกลุ่มซีพี (CP) ตั้งบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์บแรนด์อังกฤษ "เอมจี" บุกตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในไทยและอาเซียน พร้อมอัดฉีดเงินกว่า 9,000 ล้านบาท ตั้งฐานการผลิตในไทย ด้วยกำลังการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คัน/ปี โดยเริ่มจำหน่ายรุ่นแรก คือ เอมจี 6 ในปี 2557 และตามมาด้วยรุ่น เอมจี 3, เอมจี 5 และล่าสุดเพิ่งเปิดตัว เอมจี จีเอส รถครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ร้อยกว่าปีของ เอมจี ปี 2558 อีซูซุ เปิดตัวเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ ครั้งแรกของโลก อีซูซุ เปิดตัวกระบะรุ่นใหม่ อีซูซุ ดี-แมกซ์ เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ครั้งแรกในโลก นอกจากเครื่องยนต์ใหม่แล้วยังมีการปรับชุดเกียร์ส่งกำลัง อุปกรณ์ต่างๆ ให้ดีไซจ์นภายนอกลงตัวมากขึ้น รวมไปถึงระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถ สร้างกระแส บลูเพาเวอร์ ฟีเวอร์ ด้วยการกวาดยอดจองสูงเป็นประวัติการณ์ในเวลาเพียงไม่กี่วัน มาซดา เปิดตัวเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์นั่งใหม่ "มาซดา 2 สกายแอคทีฟ" ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด "สกายแอคทีฟ" ที่ให้ประสิทธิภาพทั้งความแรงและความประหยัด จากเครื่องยนต์ SKYACTIV-D คลีนดีเซล ขนาด 1.5 ลิตร มาวางในรถยนต์ขนาดเล็กเป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมกับธีมการออกแบบของรถ มาซดา เจเนอเรชันใหม่ "โคโดะ ดีไซจ์น" ที่สวยงามเทียบเท่ารถยุโรป เปิดตัว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัว เอเวอเรสต์ ใหม่ ครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2558 (THAILAND CAR OF THE YEAR 2015) จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) โดยได้รับคะแนนเสียงสูงสุด 110 คะแนน รัฐบาลบังคับใช้ ECO STICKER กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงการคลัง ร่วมกันเปิดตัว "ECO STICKER" สติคเกอร์บอกข้อมูลสำคัญของตัวรถ ทั้งสเปค ออพชัน อัตราการบริโภคน้ำมัน มาตรฐานไอเสีย (เหมือนแนวทางฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5) ที่ต้องติดมากับรถใหม่ทุกคัน เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ผู้บริโภคก่อนตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ โดย เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ปี 2559 เปลี่ยนโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ปี 2559 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการยานยนต์ไทย นั่นคือ การเริ่มใช้อัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ซึ่งจะคิดตามอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แทนการคิดตามความจุกระบอกสูบแบบเดิม โดยรถที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อย จะเสียภาษีต่ำกว่ารถที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มาก พร้อมบังคับใช้ระบบป้ายข้อมูลรถยนต์ "ECO STICKER" ซึ่งแสดงข้อมูลอัตราสิ้นเปลือง และระดับการปล่อยไอเสีย อัตราภาษีใหม่นี้ คาดว่าจะทำให้รถยนต์ส่วนใหญ่ที่ขายอยู่ในตลาด มีราคาสูงขึ้น เพราะต้นทุนค่าภาษีจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3-10 %