รถสัญชาติอิตาลีผลิตที่โรงงาน มาซดา ในญี่ปุ่น

อิตาลี/สหรัฐอเมริกา-เปิดตัวอย่างเกรียวกราวไปแล้วที่งานมหกรรมยานยนต์ลอสแองเจลิส ในสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีแพะบ้า คือ รถสปอร์ทเปิดประทุน 2 ที่นั่ง/ขับล้อหลังติดป้ายชื่อ เฟียต 124 สไปเดอร์ (FIAT 124 SPIDER) ซึ่งต้องรอจนกว่าจะถึงครึ่งหลังของปี 2016 จึงจะเริ่มการจำหน่ายในทวีปยุโรปเป็นรถแบบใหม่ในชื่อเก่าที่ยักษ์ใหญ่ของเมืองมะกะโรนีตั้งใจจะนำออกสู่ตลาด ทั้งในทวีปยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย รวมทั้งเป็นรถที่ค่าย เฟียต ไม่ได้ออกแบบ/พัฒนาขึ้นเองทั้งหมด หากเป็นผลลัพธ์จากความร่วมมือกับค่าย มาซดา ของญี่ปุ่น เป็นคู่ฝาคู่แฝดกับรถ มาซดา โรดสเตอร์ (MAZDA ROADSTER) หรือ มาซดา เอมเอกซ์-5 (MAZDA MX-5) รวมทั้งจะใช้โรงงานของ มาซดา ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองฮิโรชิมา (HIROSHIMA) เป็นสถานที่ผลิตอีกต่างหากเป็นรถหน้าตาดีในตัวถังยาว 4.054 ม. กว้าง 1.740 ม. และสูง 1.233 ม. คือ ยาวกว่ารถคู่ฝาคู่แฝดซึ่งถือสัญชาติญี่ปุ่นถึง 13.9 ซม. เนื่องจากมีช่วงยื่นหน้าและช่วงยื่นหลังยาวขึ้น ชิ้นส่วนตัวถังชิ้นหลักๆ ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ยกเว้นประทุนหลังคาแบบอ่อนเปิด/ปิดด้วยมือ พร้อมรางรับและโรลล์โอเวอร์บาร์ ที่ยกชุดมาจากรถคู่แฝด รูปทรงองค์เอวของตัวถังภายนอกมองเผินๆ ก็ยากจะเห็นความแตกต่างจากรถซึ่งเป็นที่มาในเมืองมะกะโรนี รถแบบใหม่นี้จะมีระดับการตกแต่ง/อุปกรณ์ให้เลือกใช้ 2 แบบ กำกับด้วยรหัส FIAT 124 SPIDER กับ FIAT 124 SPIDER LUSSO และมีสีตัวถังให้เลือกรวม 8 สี คือ สีแดง ROSSO PASSIONE สีขาว BIANCO GELATO สีดำ NERO VESUVIO สีเทา GRIGIO ARGENTO สีเทาเข้ม GRIGIO MODA สีบรอนซ์ BRONZO MAGNETICO สีฟ้า AZZURRO ITALIA สีขาว BIANCO GHIACCIO แต่จะมีเครื่องยนต์เพียงขนาดเดียว และเป็นคนละเครื่องกับรถคู่แฝด สัญชาติญี่ปุ่น คือ เครื่องยนต์ MULTIAIR 1.4L ซึ่งเป็นเครื่องเทอร์โบเบนซิน DOHC 4 สูบเรียง ความจุ 1,365 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 103 กิโลวัตต์/140 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร/24.5 กก.-ม. และถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ส่วนในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดที่เปิดตัว จะใช้เครื่องยนต์บลอคเดียวกันแต่ปรับแต่งจนกำลังสูงสุดพุ่งขึ้นเป็น 160 แรงม้า รวมทั้งจะมีระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะของ AISIN ให้เลือกใช้ด้วยยักษ์ใหญ่ของเมืองมะกะโรนีเคยทำรถเปิดประทุนติดป้ายชื่อ เฟียต 124 สไปเดอร์ (FIAT 124 SPIDER) มาก่อนแล้วในช่วงปี 1966-1985 ในช่วงเวลาเกือบ 2 ทศวรรษดังกล่าวนี้ รถรุ่นดังกล่าวซึ่งทำยอดขายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 200,000 คัน แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลยในด้านหน้าตาและรูปทรงองค์เอว ที่เปลี่ยนแปลงหลายครั้งเป็นเรื่องของเครื่องยนต์กลไกส่วนที่มาของรถรุ่นใหม่นี้ คือ รถที่ติดป้ายชื่อ มาซดา โรดสเตอร์ เมื่อจำหน่ายในญี่ปุ่น และใช้ชื่อ มาซดา เอมเอกซ์-5 ในตลาดต่างประเทศ เป็นรถรุ่นที่ 4 เพิ่งเริ่มจำหน่ายในเมืองยุ่นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2015 มีตัวถังยาว 3.915 ม. กว้าง 1.735 ม. และสูง 1.235 ม.