กิจกรรมแตะรถ ลุ้นรถ ซูบารุ ที่ลือลั่น และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเอเชียแปซิฟิค ซึ่งการจัดกิจกรรมรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ จัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์

บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ส่งหมายเชิญร่วมงาน MEDIACORP SUBARU CAR CHALLENGE 2015 กิจกรรมแตะรถ ลุ้นรถ ซูบารุ ที่ลือลั่น และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเอเชียแปซิฟิค ซึ่งการจัดกิจกรรมรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ จัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ สำหรับกิจกรรม MEDIACORP SUBARU CAR CHALLENGE 2015 จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2002-2015 ส่วนในประเทศไทย กิจกรรม SUBARU THAILAND PLAM CHALLENGE 2015...แตะรถ ชิงรถ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 คัดเลือกผู้เข้าแข่งขันจากจำนวนร้อยกว่าคน ให้เหลือเพียง 10 คน เพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทย มาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ การแข่งขันในครั้งนี้ มีจำนวนกว่า 400 คนที่ร่วมสร้างสถิติ โดยแบ่งเป็นตัวแทนจาก 9 ประเทศ อาทิ ตัวแทนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน 10 คน, ไต้หวัน 10 คน, ฮ่องกง 10 คน, ไทย 10 คน, ฟิลิปปินส์ 10 คน, มาเลเซีย 10 คน เวียดนาม 10 คน, กัมพูชา 10 คน และสิงคโปร์ ประเทศเจ้าภาพ ที่มีผู้เข้าแข่งขันมากสุดถึง 320 คน ทำการแข่งขันยืนแตะรถนาน 4 วันเต็ม ผู้ชนะในการแข่งขัน MEDIACORP SUBARU CAR CHALLENGE 2015 ครั้งนี้ ได้แก่ เหงียน ฟุค หยุน อายุ 33 ปี หนุ่มวิศวกรชาวเวียดนาม ที่ผ่านการแข่งขันมา 4 ครั้ง เป็นผู้คว้ารางวัลใหญ่ประจำปี หลังจากฝ่าฟันการแข่งขันนานถึง 77 ชั่วโมง 58 นาที (สถิติเดิมปี 2014 ทำไว้ 82 ชั่วโมง 16 นาที) ส่วนรองอันดับ 1 ได้แก่ ตัน ฮอง เชง อายุ 35 ปี จากมาเลเซีย ที่ผ่านการแข่งขันมา 4 ครั้ง และรองอันดับ 2 ได้แก่ ยิบ ยู่เว่ย จากสิงคโปร์ ที่ขอยอมแพ้ในเวลาที่ห่างกันเพียง 3 นาทีเท่านั้น ซึ่งน่าเสียดายอย่างยิ่ง แต่การแข่งขันครั้งนี้ กลับสร้างสีสันให้กับงานอย่างยิ่ง ถึงจำนวนชั่วโมงจะน้อยกว่าปีที่แล้ว แต่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนต้องอึด ต้องทน และต้องฟันฝ่าปัจจัยที่ท้าทายต่อความมุ่งมั่น ต้องอดทนกับความเหนื่อยล้าของสภาพร่างกายที่เกินขีดจำกัดของมนุษย์ตลอด 4 วันเต็ม แต่บรรยากาศในสนามแข่งขัน ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความอบอุ่นของคนในครอบครัว ของเพื่อนๆ ร่วมชาติ ที่ผลัดกันให้กำลังใจ และช่วยเชียร์กันแบบสุดตัว สำหรับรางวัลของผู้ชนะเลิศในครั้งนี้ ได้รับรถยนต์ ซูบารุ เอกซ์วี 2.0 ไอ-เอส รุ่นใหม่ล่าสุด มูลค่า 62,000 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 2,232,000 บาท ส่วนรองอันดับ 1 ได้รับรางวัลเงินสด จำนวน 5,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 127,800 บาท และรองอันดับ 2 ได้รับรางวัลเงินสด จำนวน 2,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 51,120 บาท นอกจากนี้ เหงียน ฟุค หยุน ยังได้รับรางวัล ASIAN WINNER และได้รับเงินรางวัล จำนวน 5,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 127,800 บาท จากการเป็นผู้เข้าแข่งขันคนสุดท้ายที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนรางวัลประเภททีมระดับประเทศ ทีมมาเลเซีย ใช้เวลายืนแข่งขันรวมกันนานที่สุด (เมื่อรวมเวลาของผู้เข้าแข่งขันทั้ง 10 คนจากประเทศเดียวกัน) โดยทำเวลารวมได้มากถึง 518 ชั่วโมง 45 นาที ได้รับรางวัลเงินสด จำนวน 10,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 255,600 บาท และรางวัลพิเศษปิดท้ายการแข่งขัน เป็นการมอบรางวัลผู้ชนะจากแต่ละประเทศที่ยืนนานที่สุด โดยมอบเงินรางวัล จำนวน 1,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 25,650 บาท ให้กับตัวแทนของแต่ละประเทศที่ยืนนานที่สุด โดยประเทศไทย ผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ ได้แก่ สากล ภูมิเลิศ ทำเวลารวม 59 ชั่วโมง 10 นาที