พิเศษ
เตรียมรับภาษีใหม่/ปิดโครงการรถคันแรก/ยอดขายรถไม่กระเตื้อง
แม้ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปี 2558 จะเติบโตไม่มากนัก แต่ก็นับเป็นปีที่มีสีสันด้านข่าวสารมากอีกปีหนึ่ง เนื่องจากเป็นช่วงที่เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ที่จะทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในบ้านเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
"ฟอร์มูลา" สรุปเหตุการณ์สำคัญในปี 2558 เพื่อเป็นแนวทางในการเดินหน้าสู่อนาคต
1. อัตราภาษีใหม่
ในปี 2559 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการยานยนต์ไทย นั่นคือ การเริ่มใช้อัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ซึ่งจะคิดตามอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แทนการคิดตามความจุกระบอกสูบแบบเดิม โดยรถที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อย จะเสียภาษีต่ำกว่ารถที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มาก พร้อมบังคับใช้ระบบป้ายข้อมูลรถยนต์ "ECO STICKER" ซึ่งแสดงข้อมูลอัตราสิ้นเปลือง และระดับการปล่อยไอเสีย
อัตราภาษีใหม่นี้ คาดว่าจะทำให้รถยนต์ส่วนใหญ่ที่ขายอยู่ในตลาด มีราคาสูงขึ้น เพราะต้นทุนค่าภาษีจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3-10 % เรื่องนี้จึงกลายเป็นข่าวดังอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2558
2. ECO STICKER
กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงการคลัง ร่วมกันเปิดตัว ECO STICKER สติคเกอร์บอกข้อมูลสำคัญของตัวรถ ทั้ง สเปค ออพชัน อัตราการบริโภคน้ำมัน มาตรฐานไอเสีย (เหมือนแนวทางฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5) ที่ต้องติดมากับรถใหม่ทุกคัน เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ลูกค้า เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558
ECO STICKER ประกอบด้วยข้อมูลสำคัญ 4 ส่วน ได้แก่ 1) ข้อมูลผู้ผลิต/ผู้นำเข้า ได้แก่ ชื่อ ที่อยู่ และเวบไซท์ 2) ข้อมูลของรถยนต์ ได้แก่ ชื่อรุ่น แบบ โครงรถ เครื่องยนต์ เกียร์ ขนาดยางล้อ จำนวนที่นั่ง น้ำหนักรถ เชื้อเพลิงที่สามารถใช้ได้ และโรงงานที่ผลิตรถยนต์ 3) รายการอุปกรณ์ที่ติดตั้งจากโรงงาน ซึ่งประกอบด้วย อุปกรณ์ที่มีสาระสำคัญในด้านการประหยัดพลังงาน อุปกรณ์ที่มีสาระสำคัญในด้านความปลอดภัย และรายการอุปกรณ์อื่นๆ และ 4) การทดสอบตามมาตรฐานอ้างอิง ได้แก่ อัตราการใช้น้ำมัน (หน่วยลิตร/100 กม.) ใน 3 รูปแบบการใช้งาน คือ สภาวะรวม ในเมือง และนอกเมือง และแถบแสดงอัตราการใช้น้ำมันอ้างอิงในสภาวะรวม (COMBINED) ซึ่งทดสอบโดยการใช้น้ำมันเบนซิน หรือดีเซล หรือน้ำมัน อี 85 (ถ้ามี) นอกจากนี้แล้ว ใน ECO STICKER ยังมี QR CODE สำหรับให้ผู้ซื้อรถยนต์ หรือประชาชนทั่วไปสามารถดาวน์โหลด ECO STICKER เพื่อรับข้อมูลรายละเอียดของรถยนต์คันนั้น รวมทั้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ECO STICKER ได้อีกด้วย
3. ปิดโครงการรถคันแรก ไม่เปลี่ยนเงื่อนไขถือครอง 5 ปี
คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 ปิดโครงการรถคันแรก ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2558 รวมทั้งไม่พิจารณาผ่อนปรนให้ผู้ที่รับสิทธิ์คืนภาษีในโครงการรถยนต์คันแรกสามารถนำรถมาขายได้เมื่อครบ 3 ปีหลังจากที่ซื้อรถ โดยให้เป็นไปตามเงื่อนไขเดิมที่จะต้องถือครองรถไม่ต่ำกว่า 5 ปี เพราะเหลือเวลาอีกไม่นาน คงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่มาก
4. อุตสาหกรรมรถยนต์ไปไม่ถึงฝัน
อุตสาหกรรมรถยนต์ของไทย หอมหวนอย่างมากในปี 2554 เนื่องจากโครงการถยนต์คันแรกที่ทำให้ยอดขายรถยนต์เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดฝัน แต่หลังจากนั้นยอดขายโดยรวมก็เริ่มหดตัวลดลง โดยจากปี 2557 ยอดขายโดยรวมมีอยู่เพียง 881,832 คัน ลดลง 33.7 % หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าในปี 2558 นี้ ยอดขายรถยนต์โดยรวมจะมีอัตราเพิ่มขึ้นประมาณ 4.3 % หรือมียอดขายรวม 920,000 คัน พอเอาเข้าจริงยอดขายรถยนต์ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งปีจนปิดยอดรวมได้ไม่ถึง 800,000 คัน
5. เปิดตัว พิคอัพใหม่หลากหลายรุ่น
ปีนี้ถือเป็นปีทองของรถพิคอัพหลายค่ายเปิดตัวรุ่นใหม่ หลังจากที่ตลาดพิคอัพซบเซาหนักในช่วงโครงการรถคันแรก โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว แนะนำหลังจากเว้นวรรค ไปถึง 11 ปี กับการเปิดตัวพิคอัพใหม่ ที่มาพร้อมสโลแกน "ปฏิวัติทุกมิติ แห่งกระบะอนาคต" ด้วยรูปโฉมใหม่ตลอดคัน ฟอร์ด เปิดตัว เรนเจอร์ ใหม่ เน้นความแกร่งตามมาตรฐานของ ฟอร์ด ผนวกกับสมรรถนะการขับขี่ที่สมบุกสมบัน และการประหยัดน้ำมันที่ดียิ่งขึ้น มาซดา บีที-50 ใหม่ ฟังค์ชันใช้งานเทียบเท่ารถยนต์นั่งระดับหรู เน้นความอเนกประสงค์เทียบชั้น เอสยูวี เครื่องยนต์พลังแรง DI-THUNDER PRO พร้อมออพชันที่ใส่มาให้ใช้งานกันแบบเต็มๆ เสริมระบบความปลอดภัยรอบทิศทาง และอีซูซุ ดี-แมกซ์ เครื่องยนต์ 1.9 DDI BLUEPOWER ครั้งแรกของโลก มาตรฐานใหม่สำหรับรถพิคอัพที่ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด ค่ามลพิษต่ำสุด และกินน้ำมันน้อย
6. เปิดตัว พีพีวี ใหม่ ครั้งแรกของโลก มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท และ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์
พีพีวี เป็นรถอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับความนิยมในเมืองไทย ซึ่งหลังจากได้มีการแนะนำรถพิคอัพใหม่ หลายค่ายก็นำรถ พีพีวี ใหม่เข้ามารุกตลาดกันต่อเลย ทั้ง โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ และ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท ที่ผลิตในประเทศไทย และส่งออกไปทั่วโลก
อีกเหตุผลหนึ่งที่แต่ละค่ายต่างเร่งเปิดตัว พีพีวี ในปีนี้ คือ ปีหน้ารถประเภทนี้จะต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่ม ซึ่งจะทำให้ราคาจำหน่ายสูงขึ้นอย่างแน่นอน
7. มาซดา 2 สกายแอคทีฟ
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว มาซดา 2 สกายแอคทีฟ ใหม่ (MAZDA 2 SKYACTIV) อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรถสกายแอคทีฟ โมเดลที่ 3 ต่อจาก ซีเอกซ์-5 และ มาซดา 3 มาพร้อมเครื่องยนต์ CLEAN DIESEL ขนาด 1.5 ลิตร อินเตอร์คูเลอร์ เทอร์โบแปรผัน และเป็นครั้งแรกของไทยที่ มาซดา ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์ขนาดคอมแพคท์ ซึ่งทำให้มีอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 26.3 กม./ลิตร พร้อมเชื่อมต่อโลกโซเชียลด้วยระบบ MZD CONNECT เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์ บีคาร์ และอีโคคาร์
8. เมร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวรถประกอบในไทย
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุกตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เปิดตัว เมร์เซเดส-เบนซ์ 2 รุ่นล่าสุด ที่ประกอบในประเทศไทยเป็นครั้งแรก THE NEW GLA คอมแพคท์เอสยูวีพรีเมียม แบ่งเป็น จีแอลเอ 200 เออร์เบิน และ จีแอลเอ 250 เอเอมจี ไดนามิค กับคอมแพคท์ คูเป 4 ประตู THE NEW CLA ประกอบด้วย ซีแอลเอ 200 เออร์เบิน และ ซีแอลเอ 250 เอเอมจี ไดนามิค รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว สมรรถนะสูง พร้อมเทคโนโลยี ความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารบนท้องถนน ในราคาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่
9. มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32
"มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" มีค่ายรถยนต์เข้าร่วมงาน 35 ยี่ห้อ จักรยานยนต์ 15 ยี่ห้อ และรถบรรทุก ซึ่งมีค่ายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์รายใหม่เข้าร่วมงานมากมาย อาทิ ลัมโบร์กินี แมคลาเรน เทสลา เวสปา ฮาร์เลย์-เดวิดสัน และรถบรรทุก ฟูโซ นอกจากนี้ยังมีคอนเซพท์คาร์ จัดแสดง 4 คัน และเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 10 รุ่น สร้างความคึกคักให้ตลาดรถยนต์ส่งท้ายปี
10. บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 2 กรัน ทัวเรอร์ เปิดตัวครั้งแรกในไทย
บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 2 กรัน ทัวเรอร์ รถยนต์ เอมพีวี หรูหราอเนกประสงค์รุ่นใหม่ 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ พร้อม บีเอมดับเบิลยู ทวินเพาเวอร์เทอร์โบ ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-ม. มีอัตราการประหยัดน้ำมันถึง 18.5 กม./ลิตร ราคา 2,890,000 บาท
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มกราคม ปี 2559
คอลัมน์ Online : พิเศษ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/36218