ผลทดสอบ
คู่ปรับคู่เปรียบ เอมพีวี 7 ที่นั่ง
เอมพีวี หรือ รถอเนกประสงค์ ได้รับความสนใจในตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกล่มลูกค้าซึ่งต้องการรถที่สะดวกสบาย ภายในกว้างขวางโอ่อ่า ฟังค์ชันการใช้งานครบครัน ทันสมัย ขึ้น/ลงง่าย
4 WHEELS นำรถ ฮอนดา สเตพแวกอน สปาดา และมิตซูบิชิ เดลีคา สเปศแวกอน มาทดสอบด้วยดาทรอน เพื่อให้รู้ถึงสมรรถนะและความน่าใช้ เอาใจผู้อ่านที่กำลังมองหารถสำหรับครอบครัว ขนาด 7 ที่นั่ง
HONDA STEPWGN SPADA EL
ฮอนดา สเตพแวกอน สปาดา รถยนต์นั่งอเนกประสงค์นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น โดย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดเป็นค่ายที่ให้ความสำคัญกับรถเอมพีวี มากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ
สเตพแวกอน สปาดา เข้ามาทำตลาดในช่วงพื้นฟูโรงงานจากวิกฤตน้ำท่วม ปี 2554 ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
สเตพแวกอน สปาดา เป็นรุ่นที่ 2 หลังคากระจก มีมิติ ยาว 4,690 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,815 มม. ความยาวฐานล้อ 2,855 มม. คู่แข่งโดยตรงในตลาดมีแค่ มิตซูบิชิ เดลีคา สเปศแวกอน นอกนั้นเป็นรถยนต์นำเข้าอิสระ อาทิ นิสสัน เซเรนา, โตโยตา โนอาห์ และวอกซี
เมื่อนำมาเทียบกับ มิตซูบิชิ เดลีคา สเปศแวกอน พบว่า สเตพแวกอน สปาดา ยังมีสัดส่วนที่กระชับกว่า เดลีคา สเปศแวกอน อยู่เล็กน้อย แม้ว่าจะมีระยะฐานล้อใกล้เคียงกันก็ตาม
ภายนอกทรงกล่องเน้นเหลี่ยมสัน ออกแบบให้เป็นรถครอบครัวขนาดย่อม คล่องตัวและปราดเปรียว พร้อมหลังคากระจกยาว โคมไฟ ไฟหน้าแบบพโรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว กระจังแนวนอนขนาดใหญ่ กันชนสวยเข้ารูป พร้อมช่องไฟตัดหมอกดีไซจ์นสปอร์ท ช่องรับลมด้านหน้าขนาดใหญ่ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับและพับด้วยไฟฟ้า ไฟท้ายแบบ LED ในกรอบใส ดูทันสมัยและโฉบเฉี่ยว สปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ท ติดตั้งไฟเบรคดวงที่ 3 ในตัว
ห้องโดยสารดูโมเดิร์นและสปอร์ท เน้นโทนสีดำ เบาะหุ้มหนังสีดำ สามารถปรับเบาะให้เหมาะสมกับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เบาะนั่งแถว 2 ปรับพับเอนได้สะดวก เบาะนั่งแถว 3 ปรับพับได้ 60:40 และปรับพับแบนราบได้ในแถวที่ 3 เพิ่มพื้นที่เก็บของ หรือจะปรับเพื่อเชื่อมต่อกันเป็นที่นอนแบบคู่ก็ได้ พื้นห้องโดยสารทำจากลามิเนทลายไม้ ให้ความหรูหราสะอาดตา และสามารถวางเท้าได้สบายมากขึ้น เมื่อนั่งเบาะแถว 2 อีกทั้งยังเหยียดเท้าได้โดยไม่สะดุด
ประตูด้านข้างสไลด์แบบอัตโนมัติซ้าย/ขวา สะดวกสบายมาก มีสวิทช์ควบคุมทั้งจากฝั่งคนขับด้านหน้า และสวิทช์ไฟฟ้าที่ประตูทั้ง 2 บาน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศบนเพดานสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3 เครื่องเล่นดีวีดี พร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ และกล้องมองภาพด้านหลัง ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ HONDA SMART KEY SYSTEM ปุ่ม ECON MODE ที่ช่วยให้การขับขี่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 66/67/69/71 เดซิเบล สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย อาจเป็นเพราะรูปทรงกล่อง และหลังคาทรงสูง อีกทั้งด้านบนเป็นหลังคากระจกแนวยาว จึงมีเสียงรบกวนเข้ามาค่อนข้างมาก ระดับเสียงรบกวนยังดังกว่าคู่แข่งอย่าง เดลีคา สเปศแวกอน พอสมควร
เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว I-VTEC ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,200 รตน. แรงบิดสูงสุด 19.7 กก.-ม. ที่ 4,200 รตน. ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ทำได้ 12.9/19.1 วินาที อัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 34.1 วินาที อัตราเร่งยืดหยุ่น จังหวะเร่งแซง 60-100 และ 80-120 กม./ชม. อยู่ในระดับค่อนข้างดี ทำได้ 6.9/8.6 วินาที เทียบกับคู่แข่งอย่าง เดลีคา สเปศแวกอน แล้วพบว่า สเตพแวกอน สปาดา มีอัตราเร่งที่ดีกว่า
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน อยู่ในเกณฑ์พอใช้ เกียร์อัตโนมัติ CVT ช่วยให้มีรอบเครื่องยนต์ต่ำ ประหยัดขึ้น วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 21.1/16.9/13.1/10.5 กม./ลิตร ในช่วงความเร็วต้น 60/80 กม./ชม. ประหยัดค่อนข้างดี ส่วนที่ความเร็วสูง 100-120 กม./ชม. กินขึ้นเล็กน้อย อยู่เกณฑ์เฉลี่ย เมื่อเทียบกับ มิตซูบิชิ เดลีคา สเปศแวกอน พบว่า สเตพแวกอน สปาดา ประหยัดกว่าเล็กน้อยทุกช่วง
ระบบรองรับหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นทอร์ชันบีม เซทมาได้นุ่มแน่น นั่งสบายตามสไตล์รถครอบครัว พวงมาลัยเพาเวอร์แบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า เซทมาค่อนข้างเบา ใช้งานคล่องตัวในเมือง แต่น้ำหนักพวงมาลัยยังเบาไปนิด
ระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้ามีช่องระบายความร้อน มีระบบป้องกันล้อลอค เอบีเอส ระบบควบคุมการทรงตัว วีเอสเอ ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน เอชเอสเอ ระบบความปลอดภัยครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ม่านนิรภัย ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ
ผลทดสอบเบรค ระยะเบรคในช่วง 60/80-0 กม./ชม. หยุดได้ค่อนข้างดี เบรคมั่นใจโดยมีระยะหยุดที่ 16.3/29.8 ม. ส่วนเบรคที่ความเร็วสูง 100-0 กม./ชม. ทำได้ในเกณฑ์เฉลี่ย 46.5 ม. แม้ตัวรถจะดูสูงเพรียว แต่ประสิทธิภาพเบรคดีพอใช้ ลองเทียบกับ มิตซูบิชิ เดลีคา สเปศแวกอน แล้วพบว่า สเตพแวกอน สปาดา มีระยะเบรคที่สั้นกว่าพอสมควร
ฮอนดา สเตพแวกอน สปาดา รุ่น อีแอล เอมพีวีทรงกล่อง หลังคาทรงสูง สวยหรูดูไฮ สไตล์โมเดิร์น เหมาะกับสังคมเมือง ภายในมีกระจกพาโนรามายาว สวยทันสมัย แต่เสียงรบกวนค่อนข้างเยอะ เบาะนั่งปรับเป็นที่นอนได้ เน้นความครบเครื่องเรื่องการพักผ่อน ส่วนระบบเสียงจะกระหึ่มแค่ไหน ต้องติดตามผลทดสอบระบบเสียงโออีเอม
ข้อมูลจำเพาะ ฮอนดา สเตพแวกอน สปาดา อีแอล
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2790-9000 และ www.honda.co.th
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบเรียง SOHC 16 วาล์ว
ความจุ (ซีซี) 1,997
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 150/6,200
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 19.7/4,200
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดมัลทิพอยท์ ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท เหล็กกันโคลง
หลัง ทอร์ชันบีม
ระบบบังคับเลี้ยว ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า
ระบบห้ามล้อ เอบีเอส
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน
ราคา (บาท) 1,959,000
ผลทดสอบจากเครื่องวัดสมรรถนะดาทรอน
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 6.3
0-80 กม./ชม. 9.2
0-100 กม./ชม. 12.9
0-120 กม./ชม. 17.8
0-140 กม./ชม. 24.6
0-400 ม. 19.1 วินาที ที่ความเร็ว 124.3 กม./ชม.
0-1,000 ม. 34.1 วินาที ที่ความเร็ว 158.5 กม./ชม.
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
60-100 กม./ชม. 6.9
80-120 กม./ชม. 8.6
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม. 16.3/0.87
80-0 กม./ชม. 29.8/0.84
100-0 กม./ชม. 46.5/0.85
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง) 40
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 66
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 67
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 69
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 71
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร ลิตร/100 กม.
60 21.1 4.7
80 16.9 5.9
100 13.1 7.6
120 10.5 9.5
0-100 กม./ชม. ควอร์เตอร์ไมล์ 0-400 ม. ระยะเบรค 100-0 กม./ชม.
12.9 วินาที 19.1 วินาที ที่ 124.3 กม./ชม. 46.5 ม.
มิติตัวรถ ยาว 4,690 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,815 มม. ฐานล้อ 2,855 มม.
ช่วงล้อหน้า/หลัง 1,470/1,460 มม.
MITSUBISHI DELICA SPACE WAGON
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวเอมพีวี มิตซูบิชิ เดลีคา สเปศแวกอน ที่มีส่วนผสมลงตัวระหว่างความเป็นรถตู้ และรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น
เดลีคา สเปศแวกอน ใหม่ เอมพีวีระดับตำนานของ มิตซูบิชิ ถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยีมาจากรถตู้กึ่งเก๋งอเนกประสงค์ ในอดีต ตกแต่งพัฒนาให้มีความหรูหรา เน้นการใช้งานแบบครอบครัว ในญี่ปุ่นมีให้เลือกทั้งรุ่น ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ
เจเนอเรชันล่าสุดของ เดลีคา สเปศแวกอน ได้รับการออกแบบเป็นทรงกล่องตามทเรนด์ของรถเอมพีวีหรูยุคปัจจุบัน มิติตัวรถยาว 4,730 มม. กว้าง 1,795 มม. และสูง 1,850 มม. และฐานล้อ 2,850 มม. เป็นรถที่มีการออกแบบให้ดูบึกบึน แข็งแกร่ง ไม่เน้นความหรูหรา ตัวรถใหญ่บึกบึนกว่า คู่แข่งอย่าง ฮอนดา สเตพแวกอน สปาดา ทุกสัดส่วน
ด้านหน้าออกแบบให้มีมุมลาดเทค่อนข้างมาก ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าขึ้นไปจนถึงบานกระจก เพื่อให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำ ใช้งานคล่องตัวทั้งในและนอกเมือง กระจังหน้าโครเมียม พร้อมช่องดักลมทรงตั้ง ดูมีสไตล์ บึกบึน และสะดุดตา ไฟหน้าแบบพโรเจคเตอร์ เอชไอดี ปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ มีระบบควบคุมการเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกคู่หน้าตกแต่งแบบโครเมียม ทันสมัย ประตูเลื่อนซ้าย/ขวา เปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับและพับด้วยไฟฟ้า ล้ออัลลอยดีไซจ์นสวยงาม
ห้องโดยสารกว้างสบาย เบาะนั่ง 3 แถว รองรับการโดยสารสูงสุด 7 ที่นั่ง โดยเบาะแถวที่ 2 และ 3 สามารถปรับเลื่อนได้ ทำให้มีพื้นที่เหนือเข่ากว้าง เบาะนั่งแถว 2 และ 3 ปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบราบเรียบเป็นแบบที่นอนยาวต่อกัน หรือเป็นแบบปรับพับเก็บ เพื่อเพิ่มพื้นที่ขนสัมภาระก็ยังได้ เบาะแถวที่ 3 ปรับพับเก็บแบบแขวนข้าง เพิ่มพื้นที่ขนสัมภาระ
พื้นที่ส่วนศีรษะค่อนข้างเยอะ คอนโซลหน้าสีดำตัดกับภายในสีเบจ มีเครื่องเสียงพร้อมจอดีวีดี รองรับวิทยุ ดีวีดี เอมพี 3 ขนาด 6.5 นิ้ว หน้าจอแบบสัมผัส มีช่องต่อ ยูเอสบี ต่อพ่วงกับไฟล์ภาพยนตร์และเพลงได้ ให้ความบันเทิงตลอดการเดินทาง มีระบบนำทางผ่านดาวเทียม เสริมด้วยจอภาพบนเพดาน ขนาด 10.2 นิ้ว ของ ALPINE ให้ความบันเทิงกับผู้โดยสารอย่างจุใจ ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วนหน้า/หลัง พร้อมระบบฟอกอากาศในห้องโดยสาร พลาสมา คลัสเตอร์ ช่วยขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
ระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 55/60/62/66 เดซิเบล อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย แม้รูปทรงจะเป็นกล่องและหลังคาสูง แต่ได้มุมลาดเทของฝากระโปรงและกระจกบานหน้าช่วยลดแรงปะทะจากลม ทำให้ระดับเสียงรบกวนอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย เทียบกับ ฮอนดา สเตพแวกอน สปาดา แล้วระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสารของ เดลีคา สเปศแวกอน เงียบกว่า
เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว แบบซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิด 19.4 กก.-ม. ที่ 4,200 รตน. ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ แบบซีวีที INVECS III 6 จังหวะ
อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ทำได้ 14.7/20.2 วินาที อัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 35.9 วินาที อัตราเร่งยืดหยุ่น จังหวะเร่งแซง 60-100 กม./ชม. ทำได้ 7.7 วินาที และ 80-120 กม./ชม. ทำได้ 10.2 วินาที สมรรถนะอยู่ในระดับพอใช้ ลองเทียบกับ สเตพแวกอน สปาดา เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ที่มีแรงม้าและแรงบิดพอๆ กัน พบว่าอัตราเร่งยังทำได้ไม่โดดเด่น เป็นรองในทุกหัวข้อ ซึ่งอาจจะมาจาก บอดีที่ใหญ่และบึกบึนกว่า ฮอนดา สเตพแวกอน สปาดา
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน อยู่ในเกณฑ์พอใช้ เกียร์อัตโนมัติซีวีที มีรอบเครื่องยนต์ต่ำ ช่วยให้ประหยัดขึ้น วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 20.5/16.1/12.4/9.6 กม./ลิตร ช่วงความเร็วต้น 60/100 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย ความเร็วสูง 80/120 กม./ชม. เริ่มกินมากขึ้น ทำได้ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย เทียบกับ ฮอนดา สเตพแวกอน สปาดา พบว่า เดลีคา สเปศแวกอน กินกว่าอยู่เล็กน้อย ตามสไตล์ของรถที่มีบอดีใหญ่กว่า
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง พื้นที่ใต้ท้องสูง ลุยได้เหนือกว่าเอมพีวีทั่วไป ด้วยระยะห่างใต้ท้องรถ 210 มม. มีมุมปะทะ 24 องศา มุมคร่อม 18 องศา และมุมจาก 21.5 องศา ติดตั้งระบบความปลอดภัยครบ ทั้งระบบควบคุมการทรงตัวของรถ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน พร้อมระบบไฟฉุกเฉินเมื่อเบรคกะทันหัน รวมถึงยังมีระบบเบรค เอบีเอส ระบบเสริมแรงเบรค บีเอ และระบบช่วยกระจายแรงเบรค อีบีดี
ผลทดสอบเบรค ระยะเบรคในช่วง 60-0 กม./ชม. มีระยะหยุดที่ 17.6 ม. และเบรคที่ 80-0 กม./ชม. มีระยะหยุดที่ 32.8 ม. ทำได้ในระดับพอใช้ ส่วนระยะเบรคที่ความเร็วสูง 100-0 กม./ชม. จนรถหยุดนิ่ง ทำได้ 50.2 ม. ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย อาจเป็นเพราะใช้ยางแก้มสูง ขนาด 215/70 R16 เพื่อแลกกับความนุ่มนวล นั่งสบาย ทำให้มีระยะหยุดที่ยาวกว่า ฮอนดา สเตพแวกอน สปาดา ที่เลือกใช้ยางแก้มเตี้ยแบบสปอร์ท ขนาด 205/55 R17
มิตซูบิชิ เดลีคา สเปศแวกอน น้องใหม่ในตลาดเอมพีวี 7 ที่นั่ง เน้นความบึกบึน แข็งแกร่ง แม้ความแรงจะไม่โดดเด่น แต่สมรรถนะลุยไม่เป็นรองใคร ภายในโอ่อ่า กว้างสบาย ระบบรองรับนุ่มนวล นั่งสบาย เหมาะกับเดินทางไกล เที่ยวธรรมชาติ ส่วนระบบเครื่องเสียงจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในการทดสอบระบบเสียงโออีเอม
ข้อมูลจำเพาะ มิตซูบิชิ เดลีคา สเปศแวกอน
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2529-9500 และ www.mitsubishi-motors.co.th
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบเรียง SOHC 16 วาล์ว
ความจุ (ซีซี) 1,998
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 150/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 19.4/4,200
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดมัลทิพอยท์
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT 6
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท เหล็กกันโคลง
หลัง อิสระมัลทิลิงค์ เหล็กกันโคลง
ระบบบังคับเลี้ยว ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง
ระบบห้ามล้อ เอบีเอส บีเอ อีบีดี
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน
ราคา (บาท) 1780,000
ผลทดสอบจากเครื่องวัดสมรรถนะดาทรอน
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 7.4
0-80 กม./ชม. 10.8
0-100 กม./ชม. 14.7
0-120 กม./ชม. 20.2
0-140 กม./ชม. 29.0
0-400 ม. 20.2 วินาที ที่ความเร็ว 119.2 กม./ชม.
0-1,000 ม. 35.9 วินาที ที่ความเร็ว 150.8 กม./ชม.
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
60-100 กม./ชม. 7.7
80-120 กม./ชม. 10.2
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม 17.6/0.81
80-0 กม./ชม. 32.8/0.77
100-0 กม./ชม. 50.2/0.78
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง) 40
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 55
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 60
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 62
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 66
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร ลิตร/100 กม.
60 20.5 4.9
80 16.1 6.2
100 12.4 8.1
120 9.6 10.4
0-100 กม./ชม. ควอร์เตอร์ไมล์ 0-400 ม. ระยะเบรค 100-0 กม./ชม.
14.7 วินาที 20.2 วินาที ที่ 119.2 กม./ชม. 50.2 ม.
มิติตัวรถ ยาว 4,730 มม. กว้าง 1,795 มม. และสูง 1,850 มม. ฐานล้อ 2,850 มม.
ช่วงล้อหน้า/หลัง 1,545/1,545 มม.
เรื่องโดย : ณัฐเวช ยอดแสง
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน มกราคม ปี 2559
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/36110