เรื่องเด่นจาก QUATTRORUOTE
เฟียต 500 เอกซ์มีนี คลับแมน-นิสสัน จูคเปอโฌต์ 2008
รหัส 500 รุ่นล่าสุด ท้าชกกับเหล่า ครอสส์โอเวอร์ เครื่องยนต์ดีเซล ด้วยขนาดที่กะทัดรัด มีความอเนกประสงค์ และการขับขี่ที่สะดวกสบาย บรรดาคู่แข่งที่ถูกนำมาทดสอบในครั้งนี้ มีความใกล้เคียงกันในแง่ของมิติตัวถัง และราคาค่าตัว ภายใต้รูปแบบการตกแต่งภายในที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกได้ว่าแต่ละค่ายต่างก็มีทีเด็ดคนละแบบ
ปัจจุบันนี้รถครอสส์โอเวอร์ ทำให้บรรดาลูกค้าซีดานหันมามองมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความคล่องตัว และการขับขี่ที่สะดวกสบาย ตำแหน่งเบาะนั่งที่มีระดับความสูงกว่าซีดานทั่วไป มีส่วนช่วยเรื่องทัศนวิสัยของผู้ขับขี่อย่างชัดเจน พื้นที่ใช้สอยที่เหลือเฟือ สำหรับการใช้งานของครอบครัวขนาดเล็ก แถมยังมีรูปทรงที่โดดเด่นด้วย ตั้งแต่ที่ จูค เปิดตัว ค่าย นิสสัน ได้รังสรรค์ยานยนต์ประเภท ครอสส์โอเวอร์ ที่มีความโดดเด่นสูง ทาง มีนี ก็ไม่ยอมน้อยหน้า จัดแจงเผยโฉมสายพันธุ์ใหม่ประจำค่าย นั่นคือ คันทรีแมน ซึ่งเปิดตัวเป็นลำดับถัดมาจากแฮทช์แบค 3 ประตู และ คลับแมน ทางด้านค่ายรถจากประเทศ ฝรั่งเศส ไม่ยอมตามหลังคู่แข่ง จัดการส่งรุ่น 2008 กัปตือร์ (CAPTUR) และ คักตุส (CACTUS) ต่างก็เป็นครอสส์โอเวอร์ที่มีจุดเด่นของค่ายรถจากฝรั่งเศส โดยของ เปอโฌต์ จะเน้นโทนเคร่งขรึม และความหรูหรา ทาง เรอโนลต์ กัปตือร์ เน้นเส้นสายที่โค้งมน และเน้นกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น ส่วน ซีตรอง เน้นความเรียบง่าย และความคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมี ดาเซีย ดัสเตอร์ (DACIA DUSTER) ครอสส์โอเวอร์ ราคาย่อมเยา ค่ายรถจากประเทศโรมาเนีย แสดงให้เห็นว่าตลาดในกลุ่มนี้มีความต้องการที่หลากหลาย รวมไปถึง โอเพล มคคา (OPEL MOKKA) และ สโกดา เยตี (SKODA YETI) ที่ต่างก็หันมาทำตลาดรถในกลุ่มนี้เช่นกัน มาถึงรายล่าสุด นั่นคือ เฟียต 500 เอกซ์ เข้ามาร่วมวงทำตลาดกลุ่มรถครอสส์โอเวอร์ ที่มีความยาวประมาณ 4 ม. ถือเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยทางเลือกที่หลากหลาย และราคาที่เหมาะสม การทดสอบในครั้งนี้เราเลือกครอสส์โอเวอร์มา 4 รุ่น ที่ต่างก็ได้รับความนิยม สมรรถนะลงตัว มีการประหยัดเชื้อเพลิงที่น่าพอใจ ความสะดวกสบาย คุณลักษณะการขับขี่ที่ดี ระบบความปลอดภัยครบครัน และความอเนกประสงค์ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้นำรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมาทดสอบ แต่ละรุ่นเป็นแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า (ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ถูกจำกัดในรุ่นเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ และมีตัวเลือกเพียงบางยี่ห้อเท่านั้น)
งานนี้ไม่มีใครยอมใคร
สนามทดสอบ VAIRANO ของเราได้ต้อนรับเหล่าผู้ท้ากล้าท้าประลองทั้งหลายจากประเทศอิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี และมาไกลจากญี่ปุ่น เริ่มต้นด้วยการประเมินผลของพื้นที่ใช้สอยก่อนเลย งานนี้ จูค เสียเปรียบเล็กน้อย เนื่องจากเป็นรายเดียวที่พวงมาลัยปรับทิศทางหน้า/หลังไม่ได้ (ครอสส์โอเวอร์ระดับเดียวกันที่ปรับทิศทางดังกล่าวไม่ได้ มีเพียง ซีตรอง คักตุส เท่านั้น ซึ่งไม่ได้นำมาทดสอบในครั้งนี้) เมื่อผู้ขับไม่สามารถปรับระดับพวงมาลัยเข้าหาตัวได้ หากระยะช่วงแขนมีความห่างมากเกินไป ผู้ขับจำเป็นต้องปรับองศาการเอนของพนักพิงหลังแทน หรือหากผู้ขับมีความสูงค่อนข้างมาก ระยะห่างช่วงขาอาจสั้นเกินไปเช่นกัน แม้ประเด็นดังกล่าวอาจไม่ถึงกับเป็นเรื่องใหญ่โตมากมาย ตามแต่รสนิยม และลักษณะการใช้งานของแต่ละคน การที่พวงมาลัยปรับระยะหน้า/หลังได้ จะช่วยให้ตำแหน่งการนั่งขณะขับขี่มีความลงตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การนั่งใกล้ชิดกับพวงมาลัยมากเกินไป อาจส่งผลต่อทัศนวิสัยที่ถูกบดบังไปบางส่วนจากจุดบอดบริเวณเสา เอ ถัดมา คือ รุ่น 2008 ติดตั้งพวงมาลัยที่มีขนาดเล็ก แบบเดียวกับที่ใช้ใน 208 มีตำแหน่งที่อยู่ต่ำกว่าแผงคอนโซลเล็กน้อย ผู้ขับบางคนอาจรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง แต่ทาง เปอโฌต์ อ้างว่าการออกแบบลักษณะดังกล่าว ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนมากเกินควร เราพบว่าสิ่งที่ทางค่ายรถกล่าวมาเป็นความจริงพอสมควร แต่นั่นก็ต้องแลกกับตำแหน่งการนั่งที่อึดอัด และการใช้งานที่ไม่คุ้นเคย อย่างน้อยก็ในระยะแรกที่ได้มาขับรถรุ่นนี้ ทาง มีนี มาพร้อมกับความสปอร์ทที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง ด้วยตำแหน่งเบาะนั่งในระดับต่ำ และพวงมาลัยที่ทำมุมตั้งตรงกับผู้ขับ ให้อารมณ์ราวกับรถแข่ง คันทรีแมน มีขนาดตัวใหญ่กว่าเพื่อนร่วมสายพันธุ์ มีนี (แต่มีขนาดตัวใกล้เคียงกับคู่แข่งครอสส์โอเวอร์ ระดับเดียวกัน) มีการตอบสนองช่วงล่างอย่างแม่นยำ รวมไปถึงการตอบสนองขณะบังคับเลี้ยวที่ฉับไว เสริมด้วยเอกลักษณ์ของค่ายรถสัญชาติอังกฤษ นั่นคือ มาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่ บริเวณคอนโซลกลาง สำหรับ 500 เอกซ์ ห้องโดยสารตกแต่งได้อย่างประณีต ใช้วัสดุคุณภาพสูง ตั้งแต่พลาสติคลักษณะนุ่ม จนถึงวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ หรือแม้กระทั่งโลหะผิวมันวาว ในบรรดาคู่แข่งที่ถูกนำมาทดสอบในครั้งนี้ ครอสส์โอเวอร์สัญชาติอิตาลี สร้างความแตกต่างด้วยการใช้เบาะหุ้มหนังสีน้ำตาลชั้นดี และเบาะคู่หน้าปรับทิศทางด้วยไฟฟ้า (เป็นอุปกรณ์เลือกติดตั้ง)
ทางด้านพื้นที่ของเบาะแถว 2 ด้าน 500 เอกซ์ มีความเสียเปรียบพอสมควร รวมไปถึง จูค จากการออกแบบให้แนวหลังคามีความลาดเท ทำให้พื้นที่เหนือศีรษะลดลงประมาณ 20-30 มม. อย่างไรก็ตามจุดด้อยเรื่องพื้นที่ช่วงขาที่มีค่อนข้างจำกัดจากที่เคยพบเจอในรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นหลายรุ่นก่อนหน้านี้ เป็นจุดที่ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยกับ จูค รุ่นปรับโฉม ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (ยกเว้นรุ่นย่อยที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.6 ลิตร) ไม่มีการติดตั้งชุดเฟืองท้าย ทำให้พื้นที่ช่วงขา และเท้า มีมากขึ้นเช่นกัน ปริมาตรพื้นที่สัมภาระมีถึง 319 ลิตร ถือว่าดีกว่า คันทรีแมน พอสมควร ซึ่งมีปริมาตรเพียง 302 ลิตร เท่านั้น แบ่งเป็นพื้นที่ด้านบน 220 ลิตร แต่ใต้พื้นรถอีก 82 ลิตร กับช่องเก็บของทรงแคบ สำหรับผู้ขับที่มีสมาชิกในครอบครัวไม่เกิน 4 คน ทางเลือกที่ดีในแง่ของพื้นที่ใช้สอย คือ 500 เอกซ์ และ 2008 (มีปริมาตรที่เก็บสัมภาระที่ 334 และ 349 ลิตร ตามลำดับ) ครอสส์โอเวอร์ สัญชาติฝรั่งเศส มีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยที่ลงตัวที่สุด แต่มีรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุดเช่นกัน ส่วนรถสัญชาติอิตาเลียน มีพื้นที่ใช้สอยน่าพอใจเกินคาด เมื่อพิจารณาจากรูปทรงส่วนท้ายที่ลาดเท
เฟียต 500 เอกซ์ 1.6 มัลทิเจท เลานจ์
ราคา 25,250 ยูโร (ประมาณ 1,010,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
ภาษีทะเบียนประจำปีของประเทศอิตาลี 227.04 ยูโร (ประมาณ 9,082 บาท)
เครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 1,598 ซีซี
กำลังสูงสุด 120 แรงม้า
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ตามที่ผู้ผลิตระบุ 24.4 กม./ลิตร
จากการทดสอบ 16.0 กม./ลิตร
มีนี คันทรีแมน คูเพอร์ ดี
ราคา 25,500 ยูโร (ประมาณ 1,020,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
ภาษีทะเบียนประจำปีของประเทศอิตาลี 211.56 ยูโร (ประมาณ 8,462 บาท)
เครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 1,598 ซีซี
กำลังสูงสุด 111 แรงม้า
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ตามที่ผู้ผลิตระบุ 22.7 กม./ลิตร
จากการทดสอบ 15.9 กม./ลิตร
นิสสัน จูค 1.5 ดีซีไอ เทคนา
ราคา 22,650 ยูโร (ประมาณ 906,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
ภาษีทะเบียนประจำปีของประเทศอิตาลี 209 ยูโร (ประมาณ 8,360 บาท)
เครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 1,461 ซีซี
กำลังสูงสุด 110 แรงม้า
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ตามที่ผู้ผลิตระบุ 25.0 กม./ลิตร
จากการทดสอบ 16.8 กม./ลิตร
เปอโฌต์ 2008 1.6 บลูเอชดีไอ อัลลัวร์
ราคา 22,560 ยูโร (ประมาณ 902,400 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
ภาษีทะเบียนประจำปีของประเทศอิตาลี 227.04 ยูโร (ประมาณ 9,082 บาท)
เครื่องยนต์ เบนซิน ขนาด 1,560 ซีซี
กำลังสูงสุด 120 แรงม้า
อัตราสื้นเปลืองเชื้อเพลิง ตามที่ผู้ผลิตระบุ 27.0 กม./ลิตร
จากการทดสอบ 18.4 กม./ลิตร
เฟียต 500 เอกซ์
ติดตั้งจอแสดงผลขนาด 5.0 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยมีอุปกรณ์เลือกติดตั้งเป็นจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้ว ระบบสัมผัส พร้อมระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เนท ยูคอนเนคท์ ไลฟ์ ใช้งานได้สะดวกสบาย เป็นผลดีจากการออกแบบไอคอนให้มีขนาดใหญ่ ควบคุมการทำงานของวิทยุ เครื่องเสียง เนวิเกเตอร์ การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ และแอพพลิเคชันต่างๆ จากโทรศัพท์มือถือ สามารถปรับระดับความสว่างของหน้าจอ และปุ่มปิดเสียง ระบบเนวิเกเตอร์แสดงผลการจราจร และข้อมูลของระบบควบคุมความเร็ว
มีนี คันทรีแมน
คันทรีแมน ติดตั้งคันโยกสำหรับควบคุมระบบความบันเทิง มีตำแหน่งอยู่ที่บริเวณคันเกียร์ จอแสดงผลทรงกลมขนาดใหญ่ ติดตั้งตรงกลางคอนโซลหน้า ใช้เป็นมาตรวัดความเร็ว และจอภาพเป็นระบบสัมผัส อย่างไรก็ตาม คันทรีแมน รุ่นนี้ไม่ได้ติดตั้งปุ่มควบคุมระบบความบันเทิง เหมือนกับระบบ ไอดไรฟ ของ บีเอมดับเบิลยู ซึ่งมีติดตั้งแล้วใน มีนี รุ่น แฮทช์แบค 3 และ 5 ประตู รุ่นล่าสุด นอกจากการตอบสนองของระบบความบันเทิงไม่ฉับไวนัก การใช้งานโดยรวมไม่สะดวกเท่าที่ควร
นิสสัน จูค
จอแสดงผลระบบสัมผัสของ จูค มีการติดตั้งปุ่มใช้งานเพิ่มเติม บริเวณด้านข้างของชุดฟรอนท์ ภายใต้หน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว การแสดงผลแผนที่ และกล้องมองทัศนวิสัยรอบคัน ค่อนข้างมองเห็นได้ลำบาก หากเปรียบเทียบรถของคู่แข่งที่นำมาทดสอบ โดยรถของ นิสสัน จะแสดงผลด้วยการแยกพื้นที่ของหน้าจอ ปุ่มใช้งานแบบระบบสัมผัส สำหรับบันทึกคลื่นวิทยุ กินเนื้อที่ทางฝั่งซ้ายบนของจอภาพ
เปอโฌต์ 2008
รถรุ่นนี้ติดตั้งจอภาพขนาดใหญ่กว่าบรรดาคู่แข่ง โดยมีขนาดถึง 7 นิ้ว แถมยังมีจุดเด่นเรื่องความหรูหรา บรรดาปุ่มใช้งานต่างๆ ถูกแทนที่ด้วยปุ่มระบบสัมผัส ปุ่มใช้งานแบบดั้งเดิมมีไว้สำหรับการปรับระดับเสียง การเปิด/ปิดระบบเครื่องเสียง และการใช้งานทั่วไปบางส่วน มีปุ่ม 2 อันสำหรับเลื่อนหน้าจอ และย้อนกลับไปสู่เมนูใช้งานเบื้องต้น โดยรวมแล้วระบบความบันเทิงของรถรุ่นนี้มีการใช้งานใกล้เคียงกับ แทบเลท และสามารถปรับแต่งระบบการทำงานของตัวรถได้
พื้นที่ใช้สอย และทัศนวิสัย
วัดค่าเป็นหน่วย เซนติเมตร วัดมุมเป็น องศา
ครอสส์โอเวอร์แต่ละรุ่นสามารถรองรับผู้โดยสาร 5 คน ตามที่ระบุในสเปค อย่างไรก็ตามเพื่อความสะดวกสบายที่เหมาะสม ควรมีผู้โดยสารเพียง 4 คน และผู้โดยสารด้านหลังไม่ควรมีความสูงมากเกินไป พื้นที่ช่วงขาเพียงพอ ขณะที่พื้นที่เหนือศีรษะค่อนข้างจำกัด เนื่องจากการออกแบบตัวถังให้มีความลาดเท ผู้โดยสารในเบาะแถว 2 มีความสะดวกสบายเป็นอย่างดีสำหรับ 2008 และ มีนี ส่วนผู้โดยสารใน 500 เอกซ์ และ จูค ศีรษะอยู่ใกล้กับเพดานหลังคาค่อนข้างมาก ครอสส์โอเวอร์ สัญชาติอังกฤษ มีเสา เอ ที่เพรียวบาง และทำมุมตั้งชัน มีส่วนช่วยเรื่องทัศนวิสัย
500 เอกซ์ จุดบอดตัวถัง 105 (29 %)
ทัศนวิสัยด้านหลัง สิ่งกีดขวางความสูง 700 มม. มากกว่า 10 ม.
มีนี จุดบอดตัวถัง 108 (30 %)
ทัศนวิสัยด้านหลัง สิ่งกีดขวางความสูง 700 มม. 8.1 ม.
จูค จุดบอดตัวถัง 91 (25 %)
ทัศนวิสัยด้านหลัง สิ่งกีดขวางความสูง 700 มม. 8.2 ม.
2008 จุดบอดตัวถัง 112 (31 %)
ทัศนวิสัยด้านหลัง สิ่งกีดขวางความสูง 700 มม. มากกว่า 10 ม.
ตำแหน่งของผู้ขับ ความสูงผู้ขับ
500 เอกซ์ มีนี-จูค-2008
ความสูงมาก 4/5ดาว-4/4ดาว-3/3ดาว-3/3ดาว
(มากกว่า 180 ซม.)
ความสูงปานกลาง 4/5ดาว-4/4ดาว-3/4ดาว-3/4ดาว
(170-180 ซม.)
ความสูงน้อย 4/4ดาว-4/4ดาว-3/3ดาว-3/3ดาว
(น้อยกว่า 170 ซม.)
หลังจากทำการทดสอบทุกรุ่น ตัวถังแบบ ครอสส์โอเวอร์ สไตล์ เอสยูวี มีความสูงจากพื้นถนนมากกว่าซีดานทั่วไป ทำให้มีความสะดวกในการขึ้น/ลง อุปกรณ์หลายรายการของ 500 เอกซ์ ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า (เบาะหุ้มหนัง เป็นอุปกรณ์เลือกติดตั้ง ราคา 900 ยูโร) ทำให้ตำแหน่งของเบาะนั่งปรับแต่งได้ลงตัว เหมาะกับสรีระของผู้ขับ ส่วน มีนี จะเน้นอารมณ์สปอร์ท แม้การปรับตำแหน่งของพนักพิงหลังจะทำได้ไม่ดีเท่าใดนัก ขณะที่ 2008 มีตำแหน่งของผู้ขับที่ผิดแปลกจากความคุ้นเคยเดิมๆ เนื่องจากการติดตั้งพวงมาลัยในระดับต่ำ
วัดค่าเป็นหน่วย เซนติเมตร วัดมุมเป็น องศา
พื้นที่ห้องเก็บสัมภาระ
500 เอกซ์
ปริมาตรความจุทั้งหมด 334 ลิตร
ปริมาตรใต่พื้นรถ
มีนี
ปริมาตรความจุทั้งหมด 302 ลิตร
ปริมาตรใต้พื้นรถ 82 ลิตร
จูค
ปริมาตรความจุทั้งหมด 319 ลิตร
ปริมาตรใต้พื้นรถ
2008
ปริมาตรความจุทั้งหมด 349 ลิตร
ปริมาตรใต้พื้นรถ
มีนี คันทรีแมน มีพื้นที่เก็บสัมภาระน้อยที่สุด แม้ว่าเบาะแถว 2 สามาถเลื่อนไปข้างหน้าได้ จะมีปริมาตรพื้นที่ถึง 385 ลิตร (แต่ก็ต้องแลกด้วยพื้นที่ช่วงขาของผู้โดยสารเช่นกัน) 2008 เป็นรถที่มีความอเนกประสงค์ และพื้นที่เก็บสัมภาระที่เหลือเฟือ รองรับกิจกรรมสำหรับครอบครัวได้ดีที่สุด ในบรรดาคู่แข่งที่นำมาทดสอบทั้ง 4 รุ่น นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบปรับระดับของพื้นห้องโดยสารให้อยู่ในระนาบเดียวกัน เมื่อพับพนักพิงของเบาะคู่หลังลงมา
จุดเด่นด้านสมรรถนะ
2008 : อเนกประสงค์ แถมตัวถังมีน้ำหนักเบา
แรงม้าอาจไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง พละกำลังของเครื่องยนต์ไม่ใช่จุดที่สร้างความแตกต่างระหว่างรถแต่ละรุ่นได้อย่างชัดเจน ในกรณีของ เปอโฌต์ 2008 เช่นกัน ด้วยเครื่องยนต์บลอคใหม่ ขนาด 1.6 ลิตร บลูเอชดีไอ มีพละกำลังเพิ่มเป็น 120 แรงม้า (เทียบกับ 115 แรงม้า ของรุ่นที่เคยนำมาทดสอบก่อนหน้านี้) ผลลัพธ์ คือ พละกำลังที่เท่ากับ 500 เอกซ์ รุ่น 1.6 เอมเจที นอกจากนี้ 2008 มีน้ำหนักที่เบากว่าถึง 150 กก. โครงสร้างตัวถังของ 2008 เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน 208 รูปแบบของห้องโดยสารจึงมีความคล้ายคลึงกัน น้ำหนักที่เบายังส่งผลดีต่อ สมรรถนะ และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอีกด้วย รถรุ่นนี้มีอัตราเร่งที่ฉับไว และมีการตอบสนองดีที่สุดในหมู่คู่แข่งทั้งหมด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วกกว่าคู่แข่งทั้ง 3 รายถึง 1 วินาที และทำเวลาในส่วนของอัตราเร่งระยะ 0-1,000 ม. (ที่ความเร็ว 160 กม./ชม. ขณะที่ จูค ทำได้ที่ 151.3 กม./ชม.) มีความโดดเด่นด้านอัตราสิ้นเปลืงเชื้อเพลิง โดยทำตัวเลขออกมาได้ที่ 20 กม./ลิตร ขณะที่คู่แข่งทั้งหลาย มีตัวเลขที่ประมาณ 16 กม./ลิตร นอกจากนี้ยังมีคุณลักษณะการขับขี่ที่ลงตัว แม้แป้นคลัทช์จะมีน้ำหนักมากไปหน่อย (ถือเป็นเรื่องปกติของรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ) ถือเป็นจุดตำหนิเพียงเล็กน้อย แถมคู่แข่งมีน้ำหนักของแป้นคลัทช์มากกว่าด้วยซ้ำ โดยทาง 2008 อยู่ที่ 12 กก. เทียบกับ 500 เอกซ์ คือ 12.8 กก. คันทรีแมน คือ 13.9 กก. และ จูค มากถึง 14.6 กก. รถทั้ง 4 รุ่น ไม่มีโหมดสปอร์ทติดตั้งมาให้ แต่การวัดผลจากการทำเวลาต่อรอบก็แสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง ครอสส์โอเวอร์สัญชาติฝรั่งเศส ตอบสนองได้อย่างฉับไว และมั่นคง แสดงให้เห็นถึงการปรับแต่งที่ทำได้อย่างลงตัว ตลอดจนมีผลดีจากพละกำลังที่เพิ่มขึ้น ทางด้าน มีนี ก็ตาม 2008 มาติดๆ ด้วยการตอบสนองที่เที่ยงตรง และฉับไว ด้วยเครื่องยนต์ที่ทำงานได้ดีช่วงความเร็วต่ำ และดียิ่งขึ้นในช่วงรอบเครื่องยนต์สูงกว่า 3,500 รตน. ส่วน 500 เอกซ์ ทำเวลาตามมาเป็นอันดับ 3 จากผลดีของเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ และเสถียรภาพที่ดีของตัวรถ ระบบอีเลคทรอนิคจัดสรรการส่งแรงบิดได้ดี แม้บางครั้งจะมีผลต่อการทรงตัวอยู่บ้าง ต้องใช้การบังคับควบคุมอีกแรง ขณะปลดปล่อยพละกำลังออกมา สุดท้ายที่ตามมาเป็นอันดับ 4 คือ จูค แม้ให้การขับขี่ที่น่าพอใจ แต่อาการอันเดอร์สเตียร์ กลับเป็นจุดอ่อน และทำให้การเข้าโค้งทำได้ไม่ฉับไว อย่างที่คาดหวังจากโหมดขับเคลื่อนแบบสปอร์ท และล้อแมกขนาด 18 นิ้ว รถที่นำมาทดสอบทั้ง 4 รุ่น มีการแปรผันการขับเคลื่อนตามแต่ระดับการกดคันเร่ง การทำงานของระบบควคุมการทรงตัว และการหักเลี้ยวพวงมาลัย (ใน จูค และ คันทรีแมน) สำหรับ 2008 มีการทรงตัวที่ดีบนพื้นผิวถนนหยาบ แต่ 500 เอกซ์ ทำได้ดีในทำทุกสภาวะถนน
เวลาต่อรอบ เวลา นาที
500 เอกซ์ 1:32.30
มีนี 1:31.91
จูค 1:32.57
2008 1:31.85
ความเร็ว
500 เอกซ์ คันทรีแมน จูค 2008
สูงสุด (กม./ชม.) 183.875 176.668 178.206 189.475
ความเร็วที่ใช้
ความเร็วสูงสุด ที่ เกียร์ 6 3,250 3,200 4,060 3,850
ที่ความเร็ว 130 กม./ชม. 2,300 2,350 2,550 2,550
อัตราคลาดเคลื่อนเข็ม
ที่ความเร็ว 130 กม./ชม. (%) 2.9 3.2 5.9 2.2
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่ เกียร์ 6
ความเร็ว กม./ชม. 500 เอกซ์ คันทรีแมน จูค 2008
90 20.7 17.9 21.5 24.8
100 18.9 16.1 18.9 21.9
130 13.9 12.2 13.6 15.5
140 12.6 11.2 12.3 14.0
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
เส้นทาง กม./ลิตร 500 เอกซ์ คันทรีแมน จูค 2008
ในตัวเมือง กม./ลิตร 16.0 17.2 17.4 19.0
กม. 766 808 800 951
ทางชนบท กม./ลิตร 17.7 17.5 19.3 20.3
กม. 850 823 888 1,014
ทางหลวง กม./ลิตร 14.7 12.8 14.3 16.4
กม. 704 602 658 819
จากการทดสอบ กม./ลิตร 16.0 15.9 16.8 18.4
กม. 768 747 773 922
ตามที่ผู้ผลิตระบุ กม./ลิตร 24.4 22.7 25.0 27.0
กม. 1,170 1,067 1,150 1,350
อัตราเร่ง
ความเร็ว กม./ชม. 500 เอกซ์ คันทรีแมน จูค 2008
เวลา วินาที
0-60 4.5 4.5 4.4 43
0-100 10.8 10.7 11.3 9.9
0-130 19.0 18.9 20.6 17.2
ระยะ 0-1,000 ม. 32.7 32.6 33.3 31.8
ที่ความเร็ว (กม./ชม.) 156.6 154.3 151.3 160.0
อัตราเร่งยืดหยุ่นที่ เกียร์ 6
ความเร็ว กม./ชม. เวลา วินาที
70-90
70-120
70-140
ระยะ 1,000 ม. จาก 70 กม./ชม.
ที่ความเร็ว (กม./ชม.)
ระยะเบรก
ม. (แรง จี) 500 เอกซ์ คันทรีแมน จูค 2008
100 น้ำหนักบรรทุกต่ำสุด 44.1/0.89 41.6/0.94 41.2/0.95 41.9/0.94
100 น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 45.1/0.87 41.2/0.95 41.9/0.94 40.8/0.96
130 น้ำหนักบรรทุกต่ำสุด 70.0/0.95 68.5/0.97 65.3/1.02 67.3/0.99
100 บนพื้นยางมะตอยแห้ง+พื้นกรวด 47.6/0.83 45.7/0.86 47.6/0.83 48.7/0.81
100 บนพื้นยางมะตอยเปียก+พื้นลื่น 94.8/0.42 95.1/0.41 107.7/0.37 103.3/0.38
ระบบความปลอดภัย : 500 เอกซ์ มาใหม่ กินขาด
ครอสส์โอเวอร์ ในเซกเมนท์นี้ต่างก็ให้ระบบความปลอดภัยมาครบครัน ตั้งแต่ ถุงลมนิรภัย 6 ลูก ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ สัญญาณเตือนจุดอับสายตาด้านข้าง และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน เป็นต้น ในหมู่รถที่เรานำมาทดสอบทั้ง 4 รุ่น รุ่นที่มีระบบความปลอดภัยล้ำหน้าที่สุด คือ รถที่เพิ่งเปิดตัวเป็นรายล่าสุด (หรืออย่างน้อยปรับโฉมเมื่อไม่นานมานี้) รถรุ่นที่ว่า คือ 500 เอกซ์ และ จูค ซึ่งเสริมระบบความปลอดภัยที่ใช้กับครอสส์โอเวอร์รุ่นใหญ่กว่า นั่นคือ แคชคาย (QASHQAI) ครอสส์โอเวอร์สัญชาติอิตาลี และญี่ปุ่น ยังติดตั้งระบบสัญญาณเตือนการเปลี่ยนเลนโดยไม่เจตนา (อุปกรณ์เลือกติดตั้ง) โดยพื้นฐานแล้วระบบนี้จะช่วยเตือนผู้ขับในกรณีที่เผลอละความสนใจจากถนนข้างหน้า ขณะรถกำลังจะเกิดอาการลื่นไถลออกจากเลน หรือรถเริ่มไม่อยู่ภายใต้การควบคุม (ใน 500 เอกซ์ จะเตือนด้วยการส่งแรงสั่นสะเทือนไปที่พวงมาลัยด้วย) นอกจากนี้รถสัญชาติอิตาลี จากเมืองตูริน ยังติดตั้งระบบช่วยออกแรงเบรค ตรวจจับด้วยสัญญาณเรดาร์ จะคอยเตือนผู้ขับเมื่อระบบพบว่าส่วนหน้าของรถเข้าใกล้รถคันหน้าไวเกินควร ป้องกันการชน หรือลดความรุนแรงจากการปะทะส่วนหนึ่ง ระบบนี้จะทำงานที่ความเร็วต่ำ (ตั้งแต่ 7 กม./ชม. สำหรับการจราจรหนาแน่นในเมือง) ไปจนถึงช่วงความเร็วสูง (ตามสเปคระบุว่า ทำงานได้ถึง 200 กม./ชม.) ในกรณีที่การเตือนด้วยเสียง และแสดงผลบนจอภาพแล้ว ผู้ขับยังไม่มีการตอบสนองที่เร็วพอ ระบบจะทำการลดความเร็วโดยอัตโนมัติ ตามมาด้วยการเบรคฉุกเฉินจนกระทั่งหยุดสนิท หากใช้ความเร็วต่ำกว่า 50 กม./ชม. ครอสส์โอเวอร์จากญี่ปุ่น เป็นรายเดียวที่แสดงผลบนจอภาพ เป็นช่องเล็กๆ บริเวณมุมของจอภาพ มองเห็นยากเล็กน้อย แสดงให้เห็นวัตถุที่เคลื่อนไหวรอบตัวรถ แสดงผลเสมือนมุมมองจากด้านบน สามารถทำงานขณะที่รถแล่นที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ขณะขับผ่านพื้นผิวที่ขรุขระในสภาวะระดับการมองเห็นที่ต่ำ ระบบช่วยเตือนอันตรายขณะเข้าโค้งมีประโยชน์อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีระบบประเมินทางโค้งจากแผนที่ของเนวิเกเตอร์ ส่งเสียงเตือน 3 ครั้ง หากพบว่าผู้ขับกำลังเข้าโค้งด้วยความเร็วเกินความเหมาะสม หรือกำลังเข้าทางโค้งที่ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น สัญญาณเตือนจะดังขึ้นช่วงระยะ 20 ม. ก่อนถึงโค้งล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ขับรับรู้ได้ทันเวลา อย่างไรก็ตามหากผู้ขับไม่ต้องการถูกรบกวนด้วยเสียงเตือนขณะเข้าโค้งต่อเนื่อง หรือเส้นทางคดเคี้ยว สามารถกดปุ่มปิดสัญญาณเตือนได้
ขณะการทดสอบระบบบังคับควบคุม จูค ถูกปรับแต่งให้เน้นความมั่นคง ปลอดภัย มากกว่าอารมณ์ขับสนุก ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอีเลคทรอนิค เริ่มทำงานอย่างฉับไว ป้องกัน หรือช่วยลดอาการท้ายกวาด ควบคุมให้การเลี้ยวโค้งมีองศามากขึ้น และลดความเร็วในเวลาเดียวกัน
การทดสอบความคล่องแคล่ว
การยึดเกาะถนน 500 เอกซ์ คันทรีแมน จูค 2008
ขณะทำอัตราเร่ง 1.00 จี-4/4ดาว 0.97 จี-4/4ดาว 0.95 จี-3/4ดาว 0.98 จี/4/4ดาว
ขณะเปลี่ยนเลน
บนพื้นเปียก 88 กม./ชม.-4/4ดาว 89 กม./ชม.-4/4ดาว 88 กม./ชม.-4/4ดาว 100 กม./ชม.-4/5ดาว
บนทางตรง 150 กม./ชม.-4/5ดาว 150 กม./ชม.-4/4ดาว 160 กม./ชม.-4/4ดาว 170 กม./ชม.-5/5ดาว
ขณะเข้าโค้ง 100 กม./ชม.-4/4ดาว 100 กม./ชม.-3/4ดาว 102 กม./ชม.-4/4ดาว 104 กม./ชม.-4/5ดาว
การทดสอบจำลองการบังคับควบคุมในสถานการณ์ฉุกเฉินบนพื้นเปียก 2008 ถือว่ามีความคล่องแคล่วมากที่สุด มีการตอบสนองที่ดี และยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม การบังคับเลี้ยวยังคงเที่ยงตรง และปลอดภัย อันเป็นผลของระบบควบคุมเสถียรภาพที่ทำงานได้อย่างแม่นยำ ถูกที่ถูกเวลา มีอาการอันเดอร์สเตียร์ให้สัมผัสเพียงเล็กน้อย มีความมั่นคงที่น่าพอใจ แม้ใช้ความเร็วสูงถึง 100 กม./ชม. เมื่อเทียบกับคู่แข่งรายได้ที่รองรับได้ที่ 88-89 กม./ชม. เท่านั้น ในสภาพพื้นผิวแห้ง ครอสส์โอเวอร์ทั้ง 4 รุ่นมีการทรงตัวที่ดี ให้ความรู้สึกปลอดภัย
การเบรคแบบต่อเนื่อง จำนวน 20 ครั้ง ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ภายใต้สภาพน้ำหนักบรรทุกสูงสุด
ครอสส์โอเวอร์ทั้ง 4 รุ่น มีประสิทธิภาพของระบบเบรคที่ดีเยี่ยม ไม่มีอาการเบรคล้าปรากฏให้เห็น แต่ 500 เอกซ์ มีระยะเบรคยาวกว่าปกติเล็กน้อย ภายใต้สภาพน้ำหนักบรรทุกสูงสุด และผ้าเบรคยังไม่ร้อน ส่วน 2008 ถือว่าทำได้ดี ไร้ที่ติ
ความสะดวกสบาย และการเก็บเสียง
รถจากฝรั่งเศส คว้าชัยในหัวข้อนี้
คันทรีแมน ดูจะเป็นรถที่มีจุดด้อยเรื่องความสะดวกสบายของการโดยสาร เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ส่งแรงสั่นสะเทือนค่อนข้างมาก และมีเสียงดังในช่วงความเร็วต่ำ แต่ในแง่ของการลู่ลมของตัวถัง โดยรวมถือว่าไม่แตกต่างจากบรรดาคู่แข่งเท่าใดนัก ทั้งเสียงรบกวนขณะแล่น รวมไปถึงการทำงานของระบบรองรับ ความจริงแล้วระบบรองรับที่ถูกปรับแต่งให้เน้นความหนึบแน่น ถือเป็นเรื่องธรรมดาของรถจากค่าย มีนี ให้อารมณ์การขับขี่ที่สนุก มากกว่าความนุ่มนวล สะดวกสบาย รถสัญชาติอังกฤษ และ จูค ได้ครองอันดับ 3 ร่วมกัน โดย ครอสส์โอเวอร์ จากญี่ปุ่น ขาดซึ่งความ แน่นหนา คุณสามารถรู้สึกได้ตั้งแต่ปิดประตู การดูดซับเสียง และขณะแล่นผ่านหลุมบ่อบนถนน และพื้นขรุขระ ทำได้ไม่ดีเท่าใดนัก ส่วน เปอโฌต์ ทำได้ดีที่สุดในส่วนของการดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากถนนขรุขระ ด้วยน้ำหนักตัวที่เบา และระบบรองรับที่ลงตัวตามแบบฉบับรถสัญชาติฝรั่งเศส ทำให้ 2008 มีแรงเหวี่ยงขณะทำอัตราเร่งต่ำที่สุด ขณะแล่นไปบนทางหลวง ตัวเลขของระดับเสียงรบกวนมีความคงที่มาก แสดงให้เห็นถึงการเก็บเสียงของห้องโดยสารทำได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามในช่วงความเร็วสูง ระดับเสียงรบกวนกลับใกล้เคียง 500 เอกซ์ จนกระทั่งไต่ความเร็วถึง 140 กม./ชม. แทบไม่เห็นความแตกต่าง ในช่วงความเร็ว 160 กม./ชม. ระดับเสียงรบกวนของ จูค มีมากขึ้นเรื่อยๆ (ดูจากกราฟข้างบนในหน้าถัดไป) รถจากอิตาลีทำได้ดีกว่าฝรั่งเศสเล็กน้อย มาถึงจุดนี้ 500 เอกซ์ มีระดับเสียงรบกวนจากการทำงานของเครื่องยนต์ เสียงลมปะทะ และเสียงของการสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนน ในระดับที่ต่ำ เหมาะสำหรับการขับทางไกลบนถนนหลวง บรรยากาศโดยรวมในห้องโดยสารให้ความรู้สึกเงียบสงบ เทียบเท่ารถซีดานคุณภาพดีเลยทีเดียว
ถนนที่มีสภาพเป็นพื้นหินหยาบในตัวเมืองเก่า เหมาะสำหรับการพิสูจน์ความแตกต่างของระบบรองรับ มีนี เจอผลกระทบไปเต็มๆ จากช่วงล่างที่มีความหนึบ กระด้าง ส่วน 2008 มีระบบรองรับที่นุ่มนวลที่สุด
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร
ระดับความคงที่ของเสียง 500 เอกซ์ คันทรีแมน จูค 2008
50 บนพื้นยางมะตอย 57.6 60.2 59.6 58.2
50 บนพื้นยางมะตอยเปียก 69.4 67.4 66.4 66.5
50 บนพื้นกรวด 74.6 76.3 74.8 76.9
ขณะทำอัตราเร่งสูงสุด 78.0 74.3 73.3 74.7
กราฟของตัวเลขระดับเสียงรบกวนบ่งบอกอย่างชัดเจน ประเมินจากระดับความคงที่ของเสียงรบกวนมากกว่าตัวเลขความดังของเสียง (เดซิเบล) แสดงให้เห็นว่า 2008 มีการเก็บเสียงของห้องโดยสารในระดับที่ดีเยี่ยม ผู้โดยสารสามารถพูดคุย หรือฟังเพลงได้อย่างสะดวกสบาย แม้ในช่วงความเร็วสูง ส่วน คันทรีแมน เจอผลกระทบจากถนนที่ขรุขระ ทางด้าน 500 เอกซ์ และ จูค ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ขณะที่ระดับเสียงรบกวนของครอสส์โอเวอร์จากทาง เปอโฌต์ อยู่ในระดับต่ำมาก
500 เอกซ์
เครื่องยนต์
- ขนาด 1,598 ซีซี
- 4 สูบเรียง
- กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 3,750 รตน.
- แรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. ที่ 1,750 รตน.
ระบบส่งกำลัง
- ขับเคลื่อนล้อหน้า
- เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
มิติตัวถัง และน้ำหนัก
- ความยาว 4,250 มม. กว้าง 1,800 มม. สูง 1,600 มม.
- น้ำหนัก 1,395 กก.
คันทรีแมน
เครื่องยนต์
- ขนาด 1,598 ซีซี
- 4 สูบเรียง
- กำลังสูงสุด 111 แรงม้า ที่ 4,000 รตน.
- แรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. ที่ 1,750-2,250 รตน.
ระบบส่งกำลัง
- ขับเคลื่อนล้อหน้า
- เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
มิติตัวถัง และน้ำหนัก
- ความยาว 4,100 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,560 มม.
- น้ำหนัก 1,385 กก.
จูค
เครื่องยนต์
- ขนาด 1,461 ซีซี
- 4 สูบเรียง
- กำลังสูงสุด 110 แรงม้า ที่ 4,000 รตน.
- แรงบิดสูงสุด 26.5 กก.-ม. ที่ 1,750-2,500 รตน.
ระบบส่งกำลัง
- ขับเคลื่อนล้อหน้า
- เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
มิติตัวถัง และน้ำหนัก
- ความยาว 4,140 มม. กว้าง 1,770 มม. สูง 1,570 มม.
- น้ำหนัก 1,380 กก.
2008
เครื่องยนต์
- ขนาด 1,560 ซีซี
- 4 สูบเรียง
- กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 3,500 รตน.
- แรงบิดสูงสุด 30.6 กก.-ม. ที่ 1,750 รตน.
ระบบส่งกำลัง
- ขับเคลื่อนล้อหน้า
- เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
มิติตัวถัง และน้ำหนัก
- ความยาว 4,160 มม. กว้าง 1,740 มม. สูง 1,560 มม.
- น้ำหนัก 1,255 กก.
500 เอกซ์
จุดเด่น
อัตราเร่งแซงแรงบิดที่มีให้ใช้งานตั้งแต่ช่วงความเร็วต่ำ จนกระทั่งไต่ความเร็วขึ้นมาได้อย่างฉับไว โดยไม่ต้องลดจังหวะเกียร์ลงมาเพื่อเล่นรอบแต่อย่างใด อัตราเร่งช่วง 70-120 โดดเด่นกว่าบรรดาคู่แข่ง
จุดด้อย
ระบบเบรครถรุ่นนี้มีระยะเบรคค่อนข้างมากในทุกสภาวะ ตัวเลขออกมามากกว่าคู่แข่งถึง 2-3 ม. การตอบสนองของระบบเบรคทำได้ดีในสภาพพื้นผิวแห้ง ผสมผิวลื่น อันเป็นผลดีจากระบบเอบีเอส
คันทรีแมน
จุดเด่น
คุณลักษณะการขับขี่แม้มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมาก ผนวกกับจุดศูนย์ถ่วงที่สูง หากเปรียบเทียบกับ มีนี รุ่นอื่นๆ เอกลักษณ์ด้านการตอบสนองขณะขับขี่ยังคงมีอยู่อย่างครบถ้วน ฉับไว และขับสนุก
จุดด้อย
ความสะดวกสบายโครงสร้างตัวถังที่เน้นความแข็งแกร่ง และเสียงรบกวนจากล้อรถขณะแล่น ลดทอนความสะดวกสบายลงพอสมควร โดยเฉพาะขณะแล่นผ่านพื้นผิวขรุขระ
จูค
จุดเด่น
ระบบความปลอดภัยรุ่นปรับโฉมเพิ่มเติมอุปกรณ์ความปลอดภัยเข้ามา ได้แก่ ระบบเตือนการเปลี่ยนเลนโดยไม่เจตนา ระบบเตือนจุดบอดสายตา กล้องมองภาพรอบตัวรถ และระบบเตือนโค้งอันตรายทำงานร่วมกับเนวิเกเตอร์
จุดด้อย
เบาะผู้ขับพวงมาลัยไม่สามารถปรับระดับหน้า/หลังได้ พนักพิงหลังปรับระดับด้วยปุ่มหมุนทีละขั้น ซึ่งมีการปรับตำแหน่งที่ไม่แม่นยำเท่าใดนัก (แม้มีรูปแบบเดียวกับ 2008 และ มีนี)
2008
จุดเด่น
ความรู้สึกขณะขับขี่รถรุ่นนี้มีการยึดเกาะถนน และเสถียรภาพของตัวรถในระดับที่ยอดเยี่ยม พวงมาลัยมีการปรับแต่งมาอย่างลงตัว ตอบสนองแม่นยำ การขับขี่ให้ความเพลิดเพลินในทุกสภาวะ
จุดด้อย
ทัศนวิสัยช่วงเสาแต่ละจุดมีองศาที่ลาดเทมากกว่าคู่แข่งครอสส์โอเวอร์รายอื่น ทำให้มีจุดบอดค่อนข้างมาก ทำให้การเปลี่ยนเลน หรือเลี้ยวเข้าสู่ถนนทำได้ค่อนข้างยากลำบาก
ฟันธงแล้ว ใครคือผู้ชนะจากการทดสอบในครั้งนี้ !?! หากดูจากผลการทดสอบในแต่ละหัวข้อแล้ว ผู้ชนะแบบเป็นเอกฉันท์ คือ เปอโฌต์ 2008 ทั้งสมรรถนะ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง การตอบสนองขณะอยู่ในสนามทดสอบ การทดสอบหัวข้อแล้วหัวข้อเล่า แสดงให้เห็นว่า ครอสส์โอเวอร์ สัญชาติฝรั่งเศส สามารถเฉือนชนะคู่แข่งได้เกือบทุกหัวข้อ โดยเฉพาะเรื่อง ความสะดวกสบาย ความแตกต่างในส่วนนี้ยิ่งเห็นเด่นชัด โดยเฉพาะกับ คันทรีแมน และ จูค ที่เน้นความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ 2008 ยังมีผลการทดสอบที่น่าพึงพอใจในแง่ของคุณภาพจากอุปกรณ์ใช้สอย เช่น จอภาพระบบสัมผัส มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง นอกจากนี้ยังมีความอเนกประสงค์ และให้ความสะดวกสบายเพียงพอกับครอบครัวที่มีเด็กเล็กจำนวน 2 คน มาถึงจุดนี้แล้วแสดงว่ารถรุ่นนี้มีความสมบูรณ์ในทุกๆ ด้านอย่างนั้นหรือ ? ไม่เชิงอย่างนั้นเสียทีเดียว เพราะความต้องการของลูกค้านั้นยังหลากหลาย โดยเฉพาะในเซกเมนท์ของครอสส์โอเวอร์ ต่างก็อุดมไปด้วยรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากมาย ตามแต่รสนิยมของแต่ละคน เอาเข้าจริงแล้ว คู่แข่งอีก 3 รายที่เหลือก็มีดีไม่น้อยเช่นกัน ขับสนุก ควบคุมง่าย และให้ความรู้สึกที่ดีตามแบบฉบับของรถแต่ละค่าย มีนี เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดี กับความโดดเด่นต่างๆ ที่ยังพบเห็นได้ใน คันทรีแมน ด้วยเอกลักษณ์สไตล์ เรทโร และการขับขี่ที่ลงตัวอย่างดีเยี่ยม แม้จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาดเล็กที่ 1.6 ลิตรก็ตาม นิสสัน พลิกโฉมได้อย่างกล้าหาญกับ จูค ด้วยรูปทรงที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร และยังขับสนุกอีกด้วย (เสริมด้วยระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมในรุ่นปรับโฉม) 500 เอกซ์ คือ ผู้เข้าร่วมวงทำตลาดรายล่าสุด ด้วยการออกแบบที่ลงตัว มีเอกลักษณ์ ห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพดี ผสมผสานกันระหว่างระบบความบันเทิง ให้ความเพลิดเ
เรื่องโดย : ANDREA SANSOVINI ผู้แปล : ภูเขม หน่อสววรค์
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2558
คอลัมน์ Online : เรื่องเด่นจาก QUATTRORUOTE
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/35962