ที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ทครั้งล่าสุดซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 15-27 กันยายน ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ค่าย "ดาวสามแฉก" ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์ ซึ่งมีพื้นที่จัดงานกว้างขวาง วัดได้กว่า 9,000 ตารางเมตร สามารถดึงดูดความสนใจของสื่อมวลชน และผู้ร่วมงานได้เป็นอย่างดี ด้วยรถใหม่หลายรุ่นหลายแบบ ที่ค่ายนี้นำออกอวดตัวแบบ WELTPREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก"

ที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ทครั้งล่าสุดซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 15-27 กันยายน ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ค่าย "ดาวสามแฉก" ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์ ซึ่งมีพื้นที่จัดงานกว้างขวาง วัดได้กว่า 9,000 ตารางเมตร สามารถดึงดูดความสนใจของสื่อมวลชน และผู้ร่วมงานได้เป็นอย่างดี ด้วยรถใหม่หลายรุ่นหลายแบบ ที่ค่ายนี้นำออกอวดตัวแบบ WELTPREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" หนึ่งในบรรดารถใหม่หลายรุ่นหลายแบบที่ว่านั้น ก็คือ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์ กาบริโอเลต์ (MERCEDES-BENZ S-CLASS CABRIOLET) รถเปิดประทุนระดับหรูนั่ง 4 คนแบบแรกของค่ายนี้ นับตั้งแต่ยุติการผลิตรถเปิดประทุนรหัสรุ่น 112 SERIES เมื่อปี 1971 คือเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เป็นรถเปิดประทุนสุดหรู ในตัวถังยาว 5.027 ม. กว้าง 1.899 ม. และสูง 1.417 ม. ที่มิได้ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด หากพัฒนามาอีกทอดหนึ่งจากรถ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์ คูเป (MERCEDES-BENZ S-CLASS COUPE) ที่เริ่มจำหน่ายในเมืองแม่เมื่อต้นปี 2014 ในตัวถังยาว 5.027 ม. กว้าง 1.899 ม. และสูง 1.411 ม. ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.29 และเป็นรถเก๋งแบบแรกของโลกที่ตัวถังจะเอียงตัวขณะวิ่งเข้าโค้งเหมือนจักรยานยนต์อย่างไรอย่างนั้น รถเปิดประทุนรุ่นใหม่เอี่ยมแกะกล่องยังไม่มีใครต้องแตะนี้ ติดตั้งประทุนหลังคาแบบอ่อน ทำจากผ้าแฟบริค บังคับเปิด/ปิดโดยการกดปุ่มเมื่อรถจอดอยู่กับที่ หรือขณะวิ่งด้วยความเร็วไม่สูงกว่า 60 กม./ชม. การเปิดหรือปิดประทุนหลังคาแฟบริคขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนี้ จะใช้เวลาประมาณ 20 วินาที หากเปรียบรถเปิดประทุน เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์ กาบริโอเลต์ เป็นแหวนทองคำขาวมูลค่าสูง หัวแหวน ก็คือ รถติดป้ายชื่อ เมร์เซเดส-เอเอมจี เอส 63 กาบริโอเลต์ (MERCEDES-BENZ S 63 CABRIOLET) ซึ่งก็เป็นรถใหมเอี่ยมแกะกล่องอีกแบบหนึ่งซึ่งปรากฏตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ทครั้งล่าสุดนี้ นับเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมอีกชิ้นหนึ่งของสำนัก เอเอมจี (AMG) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการออกแบบ/พัฒนารถแรงรถเร็วให้แก่ค่าย "ดาวสามแฉก" และมีที่ทำการอยู่ในเมืองอัฟฟัลเตอร์บัค (AFFALTERBACH) ของเยอรมนี รถแบบนี้หากปรากฏตัวก่อนต้นปี 2015 อันเป็นช่วงเวลาที่ยักษ์ใหญ่เมืองไส้กรอกเปลี่ยนระบบการตั้งชื่อรถ ก็คงจะติดป้ายชื่อ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส 63 เอเอมจี กาบริโอเลต์ (MERCEDES-BENZ S 63 AMG CABRIOLET) ไม่ใช่ชื่ออย่างที่เห็นอยู่ในขณะนี้ เอเอมจี จะทำรถรุ่นนี้เป็น 2 โมเดล คือ รถขับล้อหลังติดป้ายชื่อ MERCEDES-AMG S 63 CABRIOLET ซึ่งจะมีแต่แบบพวงมาลัยขวา กับรถขับทุกล้อติดป้ายชื่อ MERCEDES-AMG S 63 4MATIC CABRIOLET ซึ่งจะมีแต่แบบพวงมาลัยซ้าย ทั้ง 2 โมเดลนี้จะติดตั้งเครื่องยนต์ไบเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 8 สูบ 5,461 ซีซี ซึ่งให้กำลังสูงสุดสูงถึง 430 กิโลวัตต์/585 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 900 นิวตัน-เมตร/91.8 กก.-ม. ที่ 2,250-3,750 รตน. เป็นเครื่องยนต์ผลิตด้วยมือตามแนวทาง ONE MAN, ONE ENGINE หรือ "เครื่องเดียว โดยคนเดียว" ที่ใช้มานมนานของค่ายนี้ ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังสู่ล้อคู่หลังหรือทั้งคู่หน้า และคู่หลังแล้วแต่กรณี เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT MCT 7 ซึ่งมีใช้เฉพาะในรถติดป้ายชื่อ AMG และเป็นระบบเกียร์ที่ผู้ขับรถสามารถเลือกลักษณะการทำงานได้ 3 แบบ คือ C (CONTROLLED EFFICIENCY) S (SPORT) M (MANUAL) ตามตัวเลขของผู้ผลิต โมเดลขับทุกล้อ ซึ่งหนักเอาเรื่อง คือ มีน้ำหนักตัวพร้อมขับ 2,110 กก. เมื่อวัดตามมาตรฐานของ DIN และเพิ่มเป็น 2,185 กก. เมื่อใช้มาตรฐาน EC ใช้เวลาเพียง 3.9 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่นับว่าดีมากสำหรับรถระดับนี้ คือ 10.4 ลิตร/100 กม. หรือ 9.6 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 244 กรัม/กม. มีกำหนดเปิดรับการสั่งจองในเดือนธันวาคมของปีนี้ จองแล้วก็ต้องทำใจให้เย็นเข้าไว้ เพราะการส่งรถจะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิของปี 2016 MERCEDES-AMG S 63 CABRIOLET * สุดยอดรถเปิดประทุนติดตราดาวสามแฉก * มีทั้งแบบขับล้อหลัง และขับทุกล้อ * เครื่องยนต์ไบเทอร์โบฉีดตรง 585 แรงม้า * เกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT MCT 7 * อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.9 วินาที