ทดสอบ
หนึ่งในรถจากประเทศเยอรมนีที่เป็น หัวหอก สร้างยอดจำหน่ายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ มาพร้อมขุมกำลังดีเซลที่มีขนาดเล็กลง แต่คงไว้ซึ่งสมรรถนะที่น่าพอใจ ภายใต้ความนุ่มเงียบ และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีกว่าเดิม
หนึ่งในรถจากประเทศเยอรมนีที่เป็น หัวหอก สร้างยอดจำหน่ายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ มาพร้อมขุมกำลังดีเซลที่มีขนาดเล็กลง แต่คงไว้ซึ่งสมรรถนะที่น่าพอใจ ภายใต้ความนุ่มเงียบ และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีกว่าเดิม
รุ่น 180 ซีดีไอ ออโทเมทิค บิซิเนสส์
ราคา 30,370 ยูโร (ประมาณ 1,366,650 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
ภาษี 206.40 ยูโร (ประมาณ 9,288 บาท)
เครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 1,461 ซีซี
กำลังสูงสุด 109 แรงม้า
อัตราสิ้นเปลือง ตามที่ผู้ผลิตระบุ 24.4 กม./ลิตร
จากการทดสอบ 16.3 กม./ลิตร
คู่แข่ง บีเอมดับเบิลยู แอคทีฟ ทัวเรอร์
ขุมกำลังที่วางอยู่ในห้องเครื่องของ บี-คลาสส์ รุ่น 180 ซีดีไอ มีขนาดเล็กลงจากรุ่นก่อนหน้า กับปริมาตรความจุที่ 1.5 ลิตร (ร่วมพัฒนากับค่าย เรอโนลต์) ด้วยพละกำลังที่ทัดเทียมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร บลอคเดิมที่ลดขนาดลงมาแล้วเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ในปัจจุบันแนวโน้มการพัฒนาเครื่องยนต์โดยไม่เน้นที่พละกำลังเป็นสิ่งที่พบเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนอาจคิดว่าสิ่งที่ตามมา คือ อัตราเร่งที่ใช้เวลามากกว่าเดิม แต่ข้อมูลจากผลการทดสอบของเราแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่คิดหาได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป แม้ช่วงล่างจะเน้นความนุ่มนวล พร้อมกับเสียงรบกวนที่เงียบกว่าเดิม แต่การตอบสนองด้านอัตราเร่งของเครื่องยนต์ในช่วงความเร็วต่ำ ถือว่าทำได้ดีภายใต้ความจุที่ลดลง เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ บลอคนี้ มีจุดเด่นเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิง แม้จะไม่ถึงกับดีขึ้นจนน่าแปลกใจ (ตัวเลขที่ออกมาแตกต่างกันเพียงจุดทศนิยมเท่านั้น) แต่ก็มากพอที่จะช่วยประหยัดรายจ่ายอย่างได้ผลในการเติมน้ำมันแต่ละครั้ง เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ เน้นการขับขี่ที่ราบรื่นและนุ่มนวล แรงบิดทำงานตั้งแต่ช่วงความเร็วต่ำ และมีอัตราเร่งที่ดีจากเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ในช่วงความเร็วสูง การเปลี่ยนจังหวะเกียร์จะไม่ฉับไวเท่าใดนัก (แต่ก็ไม่ถึงกับเนิบช้าจนเกินไป) เมื่ออยู่ในโหมดสปอร์ท นอกจากนี้ยังมีทางเลือกสำหรับราคาที่ย่อมเยาด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ มีจุดเด่น คือ การตอบสนองที่แม่นยำ และควบคุมง่าย
การลดขนาดที่ได้ผล
180 ซีดีไอ ถูกลดทอนความฉับไวในแง่ของอัตราเร่งเล็กน้อย แต่สิ่งที่ได้มา คือ การขับขี่ในชีวิตประจำวันที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น เป็นผลดีจากการปรับแต่งที่เน้นความนุ่มนวล ดังที่เคยทำมาแล้วกับรุ่นย่อยพรีเมียมของรุ่นก่อนหน้าที่เราเคยทดสอบไปเมื่อปี 2011 กับช่วงล่างที่หนึบกว่า และใช้ยางแก้มเตี้ยขนาด 17 นิ้ว (ส่วน บี-คลาสส์ ที่เรานำมาทดสอบในบทความนี้ ใช้ยางแบบนุ่มเงียบขนาด 205/55 R16) โดยรวมแล้ว บี-คลาสส์ จากค่ายรถสัญชาติเยอรมันรุ่นล่าสุด ไม่ได้เน้นการบังคับควบคุมที่เฉียบคมแต่อย่างใด แต่เป็นความสะดวกสบายที่ดีขึ้นกว่าเดิม ขณะที่แล่นผ่านพื้นต่างระดับ ระบบรองรับสามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงเนินหลังเต่าที่มีความชัน ห้องโดยสารมีเสียงรบกวนในระดับที่ต่ำกว่าเดิม มีประสิทธิภาพการเก็บเสียงที่ยอดเยี่ยม เห็นได้จากตัวเลขผลทดสอบของการวัดเสียง นับเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นมากต่างจาก บี-คลาสส์ รุ่นแรก และยังสามารถเทียบเคียงรถประเภทเดียวกันจากคู่แข่งอย่าง บีเอมดับเบิลยู
คุณภาพที่เชื่อถือได้
จุดเด่นด้านคุณภาพการประกอบรถสเตชันแวกอนจากเมืองชตุทท์การ์ท ยังไว้เนื้อเชื่อใจได้ ผู้ขับสามารถรับรู้ถึงความมั่นคงปลอดภัยในขณะขับขี่ อุปกรณ์ต่างๆ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย อุปกรณ์ใช้งานหลายรายการถูกติดตั้งใน ซี-คลาสส์ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการปะทะด้านหน้า เมื่อตรวจพบว่ารถคันหน้ากำลังหยุดสนิท นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งแผงคอนโซลหน้า ยกระดับความหรูหรา และความสวยประณีต ด้วยช่องแอร์ทรงกลม ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปแบบของอากาศยาน และยังติดตั้งจอภาพขนาด 7 นิ้ว ทรงแบนที่คอนโซลกลาง ดูคล้ายไอแพดเมื่อดูจากขนาดและรูปทรงโดยรวม แต่ไม่รองรับระบบสัมผัส และไร้หน่วยประมวลผลซะงั้น สามารถสั่งงานได้ผ่านระบบคอมมานด์ ติดตั้งบริเวณด้านข้างผู้ขับ และแสดงผลข้อมูลการทำงานต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นระบบเนวิเกเตอร์ ไปจนถึงการทำงานของวิทยุ อย่างไรก็ตามเรามีข้อสงสัยอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือ เบาะแถว 2 มีช่วงขาค่อนข้างสั้น ไม่รองรับสรีระของผู้โดยสารเท่าใดนัก โดยเฉพาะคนที่นั่งตรงกลาง และตัวเบาะไม่สามารถเลื่อนหน้า/หลังได้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของรถสเตชันแวกอนจากบรรดาคู่แข่ง
แผงคอนโซลหน้าดูหรูหรา ติดตั้งจอภาพทรงแบนคล้าย แทบเลท ขนาด 7 นิ้ว (รูปล่าง) เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ บลอคใหม่ มาแทนเครื่องยนต์บลอคเดิมขนาด 1.9 ลิตร ฉีดเชื้อเพลิงด้วยระบบคอมมอนเรล พร้อมระบบ START/STOP
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบเรียง ของรุ่น 180 ซีดีไอ ฉีดเชื้อเพลิงด้วยระบบคอมมอนเรล พ่วงเทอร์โบแบบแปรผัน ค่าไอเสียมาตรฐาน ยูโร 6 เสริมความประหยัดด้วยระบบ START/STOP
ข้อมูลจำเพาะ
เครื่องยนต์ ขนาด 1,461 ซีซี
แบบ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบเรียง
กำลังสูงสุด
109 แรงม้า ที่ 4,000 รตน.
แรงบิดสูงสุด 26.5 กก.-ม. ที่ 1,750 รตน.
ระบบส่งกำลัง
ขับเคลื่อนล้อหน้า
เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ
มิติ และน้ำหนัก
ความยาว 4,360 มม.
ความกว้าง 1,790 มม.
ความสูง 1,600 มม.
น้ำหนักรวม 1,450 กก.
อัตราเร่งสูงสุดที่เกียร์ 6
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่เกียร์ D
ความเร็ว ที่ กม./ชม. กม./ลิตร
90 22.1
130 15.5
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย
ระยะทำการที่สามารถแล่นได้
ระยะทาง กม./ลิตร กม.
ในเมือง 15.2 760
นอกเมือง 18.2 909
ทางด่วน 16.1 806
จากการทดสอบ เฉลี่ย 16.3 817
จากผู้ผลิต 24.4 1,222
60 กม./ชม. 90 กม./ชม. 130 กม./ชม.
อัตราเร่ง
ความเร็ว กม./ชม. เวลา เป็น วินาที
0-60 4.8
0-100 11.3
0-130 19.8
0-400 ม. 17.8
ที่ความเร็ว (กม./ชม.) 124.2
0-1,000 ม. 33.0
ที่ความเร็ว (กม./ชม.) 157.4
ประสิทธิภาพเบรค
ระยะเบรคจนหยุดนิ่ง
กม./ชม. สภาวะ ม. แรง จี
100 น้ำหนักบรรทุกต่ำสุด 42.6 0.92
160 น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 100.5 1.00
100 บนพื้นแห้ง + พื้นกรวด 47.5 0.83
100 พื้นยางมะตอยเปียก + พื้นลื่น 99.1 0.40
ระดับเสียงรบกวน
กม./ชม. สภาวะพื้นผิว เดซิเบล A
50 พื้นยางมะตอย 56.5
50 พื้นยางมะตอยแห้ง 65.7
50 พื้นกรวด 74.0
ขณะทำอัตราเร่ง 70.9
จุดเด่น
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยของคู่แข่งระดับเดียวกัน
เครื่องยนต์ แม้จะมีขนาดเล็กลง แต่ประสิทธิภาพยังยอดเยี่ยม ให้การตอบสนองที่นุ่มนวล และอัตราเร่งฉับไว
จุดด้อย
เบาะแถว 2 รูปทรงของเบาะรองรับช่วงขาของผู้โดยสารไม่ดีเท่าไรนัก
ระบบปรับอากาศ ไม่มีการติดตั้งช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
ระดับการให้คะแนนของ QUATTRORUOTE
เบาะนั่งผู้ขับ 4/5ดาว
ปุ่มใช้งาน และอุปกรณ์ต่างๆ 4/5ดาว
ระบบเครื่องเสียง และเนวิเกเตอร์ 4/4ดาว
ระบบปรับอากาศ 3/3ดาว
ทัศนวิสัยโดยรอบ 4/4ดาว
คุณภาพการประกอบ 5/5ดาว
อุปกรณ์ใช้งาน 4/5ดาว
ระบบความปลอดภัย 4/5ดาว
ความอเนกประสงค์ 4/4ดาว
พื้นที่เก็บสัมภาระ 3/3ดาว
ความสะดวกสบายขณะโดยสาร 4/4ดาว
เครื่องยนต์ 4/5ดาว
อัตราเร่ง 4/4ดาว
อัตราเร่งยืดหยุ่น 4/4ดาว
ระบบส่งกำลัง 4/4ดาว
พวงมาลัย 4/5ดาว
ระบบเบรก 4/4ดาว
ขณะแล่นบนท้องถนน 4/4ดาว
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 4/5ดาว
ราคา 3/4ดาว
การรับประกัน 2/2ดาว
ฟันธง
สเตชันแวกอนขนาดคอมแพคท์ของ เมร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นนี้ ถือว่ามีสมรรถนะที่น่าพอใจ แม้เครื่องยนต์บลอคล่าสุดจะมีขนาดเล็กลง หากเทียบกับ บี-คลาสส์ รุ่นก่อนหน้าที่ใช้เครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอาจทำได้ดีกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับการ ยกเครื่องใหม่หมด ในส่วนของขุมกำลังผลลัพธ์จากการร่วมกันพัฒนารถรุ่นนี้ (กับค่ายรถ เรอโนลต์) คือ การทำงานที่ไหลลื่น เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ บลอคใหม่ ขนาด 1.5 ลิตร ตอบสนองได้อย่างนุ่มนวล ผสานการทำงานเข้ากับเกียร์อัตโนมัติ สุดท้ายแล้วรุ่นย่อย บิซิเนสส์ ดูจะเหมาะสมในแง่ของการใช้งานเป็นรถเช่า หรือลูกค้าที่มองหาความคุ้มค่าด้านราคา (ส่วนรุ่นย่อย เอกซ์คลูซีฟ ติดตั้งอุปกรณ์ใช้สอยเพิ่มเติมเข้ามาอีกหลายรายการ)
เรื่องโดย : MARCO GHEZZI ผู้แปล:ภูเขม หน่อสวรรค์ poukhem@imc.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2558
คอลัมน์ Online : ทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/34953