ครอสส์โอเวอร์ที่กลมกล่อมพอดีคำ

ฮอนดา เอชอาร์-วี อีแอล เบนซิน 1.8 ลิตร 4 สูบ 141 แรงม้า ราคา 1,045,000 บาท คู่แข่ง ฟอร์ด อีโคสปอร์ท ไททาเนียม เบนซิน 1.5 ลิตร 110 แรงม้า ราคา 844,000 บาท นิสสัน จูค วี ซีวีที เบนซิน 1.6 ลิตร 116 แรงม้า ราคา 858,000 บาท ฮอนดา ซีอาร์-วี 2.0 เอส เบนซิน 2.0 ลิตร 155 แรงม้า ราคา 1,200,000 บาท จุดเด่น = รูปทรงสวย หรู และทันสมัย = สมรรถนะ และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน่าพอใจมาก = อุปกรณ์ติดตั้งในรุ่นทอพเกินค่าตัว จุดด้อย = ไม่มีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ = การใช้งานช่อง USB และ HDMI ไม่สะดวก = ราคารุ่นทอพใกล้เคียงครอสส์โอเวอร์ขนาดใหญ่กว่า ฟันธง = ครอสส์โอเวอร์ครบเครื่อง ใช้งานได้ดีกว่ารถเก๋ง ตลาดครอสส์โอเวอร์บ้านเรากำลังมีความหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ จากแต่ก่อนที่เน้นหนักกับครอสส์โอเวอร์ขนาดกลาง เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรขึ้นไป กับค่าตัวแตะล้านบาท จนถึงขนาดย่อมลงมา เครื่องยนต์ขนาด 1.5-1.6 ลิตร ค่าตัวย่อมเยาขึ้น ลงมาอยู่ที่ 7-8 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีช่องว่างให้ครอสส์โอเวอร์เซกเมนท์ใหม่ นั่นคือที่มาของรถที่เรานำมาทดสอบในครั้งนี้ กับ ฮอนดา เอชอาร์-วี (HONDA HR-V) ภายนอก หรูเรียบ กะทัดรัด แม้เป็นรถที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นพี่อย่าง ซีอาร์-วี แต่รูปทรงโดยรวมของ เอชอาร์-วี ออกไปทางเรียบหรู ผสมความปราดเปรียวแบบสปอร์ทที่พอเหมาะ ได้ประโยชน์เรื่องความกะทัดรัด และความคล่องตัวพอสมควร แต่ในเรื่องความแปลกตาแล้วยังคงเป็นครอสส์โอเวอร์คู่แข่งอย่าง นิสสัน จูค (NISSAN JUKE) ส่วนกลิ่นอายของความเป็นรถ เอสยูวี ชัดเจน ยังเป็น ฟอร์ด อีโคสปอร์ท (FORD ECOSPORT) มาดูด้านขนาดตัวของแต่ละรุ่น เอชอาร์-วี มีความยาว 4,294 มม. ความสูง 1,605 มม. และระยะฐานล้อ 2,610 มม. เทียบกับครอสส์โอเวอร์คู่แข่งอย่าง จูค มีมิติในส่วนนี้ที่ 4,135/1,580/2,520 มม. และอีโคสปอร์ท 4,245/1,708/2,521 มม. จะเห็นได้ว่าครอสส์โอเวอร์ขนาดเครื่องยนต์ 1.5-1.6 ลิตร มีขนาดย่อมกว่าอย่างเห็นได้ชัด (และราคาโดยรวมที่ย่อมเยากว่า) ส่วนครอสส์โอเวอร์รุ่นพี่ร่วมค่ายอย่าง ซีอาร์-วี มีมิติตามนี้ คือ 4,582/1,685/2,620 มม. มีขนาดใหญ่กว่า แต่สังเกตระยะฐานล้อกลับต่างจาก เอชอาร์-วี แค่ 10 มม. เท่านั้น ในเมื่อนี่คือครอสส์โอเวอร์ที่ผสมความเป็นตัวลุยอย่าง เอสยูวี ด้วย เราขอนำตัวเลขระยะความสูงกับพื้นถนนมาพิจารณาด้วย โดย เอชอาร์-วี สูงจากพื้นถนน 185 มม. จูค 180 มม. อีโคสปอร์ท 200 มม. และ ซีอาร์-วี 170 มม. ดังนี้แล้วครอสส์โอเวอร์ตัวล่าสุดจาก ฮอนดา สามารถข้ามอุปสรรคได้ดีในระดับหนึ่ง เป็นรองแค่ครอสส์โอเวอร์สไตล์ เอสยูวี อย่าง อีโคสปอร์ท เท่านั้น แถมยังมีระยะความสูงจากพื้นถนนมากกว่ารุ่นพี่อย่าง ซีอาร์-วี อีกต่างหาก ภายใน ทันสมัย กว้างขวางกว่าที่คิด รุ่นที่เรานำมาทดสอบ เป็น เอชอาร์-วี ตัวทอพ รุ่น อีแอล การตกแต่งห้องโดยสารถือว่าจัดเต็ม เกินหน้ารุ่นพี่ราคานับล้านบาทขึ้นไปด้วยซ้ำ (ราคาของรุ่น อีแอล อยู่ที่ 1,045,000 บาท) ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งแผงข้างประตูด้วยหนังสังเคราะห์ และเบาะนั่ง รวมถึงพวงมาลัยหุ้มด้วยหนังแท้ หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว น่าเสียดายที่ไม่มีระบบเครื่องเล่นดีวีดี และเนวิเกเตอร์มาให้ แต่ชดเชยเล็กน้อยด้วยการรองรับไฟล์ความบันเทิงความละเอียดสูง (HDMI) รวมไปถึงหลังคาซันรูฟทรงยาว แบบพาโนรามิค ยังมีติดตั้งมาให้ (จะมีเทียบได้ คือ ฟอร์ด อีโคสปอร์ท รุ่นทอพ ไททาเนียม ติดตั้งซันรูฟมาให้) ในแง่ของความครบครันด้านการใช้งาน เอชอาร์-วี นั้นถือว่าเกินหน้าเกินดาด้วยซ้ำ นับเป็นข้อดีที่น่าสนใจ ส่วนความกว้างขวาง สำหรับผู้โดยสาร 5 คนแล้ว เอชอาร์-วี มีให้อย่างเหลือเฟือ โดยเทียบกับรุ่นพี่อย่าง ซีอาร์-วี เบาะหลังสามารถปรับเอนได้ 2 ระดับ เพิ่มความสะดวกสบายขณะโดยสารทางไกล พื้นที่ช่วงขาเหลือเฟือ แต่สิ่งที่มีน้อยกว่ารุ่นพี่อยู่บ้าง คือ พื้นที่เหนือศีรษะของผู้โดยสารด้านหลัง เนื่องจากแนวหลังคาที่ลาดเท รวมไปถึงพื้นที่เก็บสัมภาระที่น้อยกว่า ซีอาร์-วี เล็กน้อย แต่มากกว่าคู่แข่งขนาดเล็กกว่าอย่าง จูค อย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ส่วนเชื่อมต่อ USB และช่อง HDMI ถูกติดตั้งอยู่ข้างใต้คันเกียร์ การใช้งานถือว่าไม่สะดวกเอาเสียเลย จุดนี้ผู้ขับอาจต้องทำใจ เพื่อแลกกับความสวยทันสมัยของบริเวณคอนโซลกลาง เครื่องยนต์ แรงเกินหน้า ประหยัดเกินตัว ฮอนดา เอชอาร์-วี ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผัน สำหรับคู่เปรียบเทียบ ได้แก่ นิสสัน จูค เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 116 แรงม้า ฟอร์ด อีโคสปอร์ท เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 110 แรงม้า และซีอาร์-วี รุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 155 แรงม้า อัตราเร่ง 0-1,000 ม. เอชอาร์-วี ทำได้ใน 32.7 วินาที (ที่ความเร็ว 165.1 กม./ชม.) ด้าน จูค อยู่ที่ 34.1 วินาที (ที่ความเร็ว 153.0 กม./ชม.) อีโคสปอร์ท ทำได้ 35.4 วินาที (ที่ความเร็ว 149.7 กม./ชม.) และรุ่นพี่อย่าง ซีอาร์-วี ทำเวลาที่ 24.5 วินาที (ที่ความเร็ว 158.1กม./ชม.) กลับกลายเป็นว่าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ของ เอชอาร์-วี ทำอัตราเร่งได้ฉับไวกว่าใครในส่วนนี้ แม้เป็นในช่วงความเร็วปลายที่ไหลมาอย่างต่อเนื่อง จากพละกำลังที่สมดุลกับขนาดของตัวรถ หันมาดูอัตราเร่งยืดหยุ่นที่ 60-100 กม./ชม. เอชอาร์-วี ใช้เวลาไป 6.2 วินาที จูค 6.5 วินาที อีโคสปอร์ท 7.8 วินาที และซีอาร์-วี (2.0 ลิตร) อยู่ที่ 7.0 วินาที อัตราในช่วงเร่งแซงจากความเร็วตีนต้น เอชอาร์-วี นำหน้า จูค เพียงเล็กน้อย ด้วยความสมดุล และการตอบสนองที่ดีของขุมกำลัง ส่วน อีโคสปอร์ท มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กสุดในกลุ่ม และเน้นประโยชน์ใช้สอย อัตราเร่งจึงไม่โดดเด่นมากนัก อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ที่แบกตัวถังขนาดใหญ่สุดของ ซีอาร์-วี ยังต้องตามหลังเหล่าครอสส์โอเวอร์ขนาดเล็กกว่าซะงั้น ด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่ความเร็ว 80/100/10 กม./ชม. เอชอาร์-วี ทำได้ที่ 21.2/16.8/13.6 กม./ลิตร จูค 19.8/14.8/11.5 กม./ลิตร อีโคสปอร์ท 20.5/15.9/12.4 กม./ลิตร และซีอาร์-วี (2.0 ลิตร) 18.0/14.8/11.9 กม./ลิตร ถือว่าจัดเต็มกันมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่อัตราเร่งเท่านั้น แต่ เอชอาร์-วี ยังมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงใกล้เคียงคู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่าด้วยซ้ำ นับว่าครบเครื่องทีเดียวกับครอสส์โอเวอร์รุ่นนี้ และต้องไม่ลืมว่า เอชอาร์-วี รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง อี 85 ด้วย ขณะที่ จูค และอีโคสปอร์ท รองรับเพียง อี 20 เท่านั้น ระบบรองรับ หนึบ นิ่ง ราวกับรถเก๋ง ระบบรองรับของ เอชอาร์-วี ปรับแต่งมาตามลักษณะของครอสส์โอเวอร์สมัยใหม่ นั่นคือ มีความหนึบ และนิ่งขณะใช้ความเร็วสูง ราวกับรถเก๋ง ต่างจากรถที่ผสมผสานการใช้งานแบบ เอสยูวี อย่าง อีโคสปอร์ท หรือแม้กระทั่ง ซีอาร์-วี จะยังเน้นความนุ่มนวลอยู่ ส่วน จูค มีความหนึบเช่นกัน แต่โดยรวมยังนุ่มนวลกว่า เอชอาร์-วี การบังคับควบคุมถือว่าตอบสนองดี แม้ตัวรถมีความสูงมากกว่ารถเก๋ง แต่ยังบังคับเลี้ยวได้ทันใจ ใครที่เคยชินกับการขับรถเก๋งมาก่อน น่าจะทำความเคยชินกับ เอชอาร์-วี ได้ไม่ยาก นับว่าครอสส์โอเวอร์จาก ฮอนดา รุ่นนี้ สามารถใช้งานทดแทนรถเก๋งได้ไม่ยาก นอกจากนี้ในแง่ความปลอดภัยยังติดตั้งมาให้เต็มที่ ในรุ่นทอพ อีแอล มีทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยควบคุมทิศทางการหักเลี้ยวของพวงมาลัยขณะเข้าโค้ง ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งหลายรายการไม่มีติดตั้งในรุ่นพื้นฐานของรถที่มีขนาดใหญ่กว่า สรุป ครอสส์โอเวอร์ที่มีความสมดุลเกือบทุกด้าน หลังจากการทดสอบเราพบว่า นี่คือรถครอสส์โอเวอร์ที่มีความสมดุลในตัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่ารูปทรงที่ดูทันสมัย ผสมผสานความหรู ภายในห้องโดยสารที่ตกแต่งอย่างทันสมัย และที่สำคัญ คือ เครื่องยนต์ที่มีความลงตัวทั้งสมรรถนะ และการประหยัดเชื้อเพลิงเป็นอย่างดี ภายใต้อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้เกินราคาค่าตัว หากนิยามของครอสส์โอเวอร์ คือ การผสมผสานระหว่างประโยชน์ใช้สอยของรถประเภท เอสยูวี และการใช้งานที่มั่นคง เชื่อใจได้ ของรถเก๋ง ภายใต้ราคาค่าตัวที่ไม่ไกลเกินเอื้อม เอชอาร์-วี คือ หนึ่งในคำตอบที่ลงตัวที่สุดของโจทย์ดังกล่าว ข้อมูลจำเพาะ ฮอนดา เอชอาร์-วี อีแอล ผู้จัดจำหน่าย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2341-7888 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,294/1,772/1,605 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,535/1,540 ฐานล้อ (มม.) 2,610 น้ำหนัก (กก.) 1,292 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 50 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบ 16 วฺาล์ว I-VTEC ความจุ (ซีซี) 1,799 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 81/87.3 อัตราส่วนกำลังอัด 10.6:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 141/6,500 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 17.5/4,300 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดมัลทิพอยท์ PGM-FI ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติแปรผัน 7 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง ทอร์ชันบีม ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน เพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (MA-EPS) ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส อีบีดี หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 1,045,000 ผลทดสอบ ฮอนดา เอชอาร์-วี อัตราเร่ง (วินาที) 0-60 กม./ชม. 0-80 กม./ชม. 0-100 กม./ชม. 0-120 กม./ชม. 0-140 กม./ชม. 0-160 กม./ชม. 0-400 ม. (กม./ชม.) 0-1,000 ม. (กม./ชม.) อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที) 60-100 กม./ชม. 6.2 80-120 กม./ชม. 7.8 ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี) 60-0 กม./ชม 16.0 80-0 กม./ชม. 27.5 100-0 กม./ชม. 44.1 อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร (ลิตร/100 กม.) 60 23.1 (4.3) 80 20.1 (5.0) 100 16.6 (6.0) 120 13.0 (7.7) ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A) ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง) ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ความคลาดเคลื่อนของมาตรวัดความเร็ว (กม./ชม.) ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. หมายเหตุ : รถใหม่