X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
เทคนิค
18 Nov 2014
กันกลิ่นได้ หายใจโล่งจมูก
รู้หรือไม่ว่า รถรุ่นใหม่บางรุ่น ไม่ได้ติดตั้งกรองแอร์จากโรงงานมาให้ ทั้งๆ ที่มีราคาหลักร้อย หรือหากให้มา คุณก็อาจไม่เคยเปลี่ยนเลย ทำให้แอร์ไม่เย็น และมีกลิ่นอับตามมา แล้วต้องทำอย่างไร กรองแอร์มีประโยชน์จริงหรือไม่ DIY...คุณทำเองได้ ฉบับนี้มีคำตอบ การทำงานของแอร์รถยนต์ ระบบการทำงานของแอร์รถยนต์ เริ่มจากคอมเพรสเซอร์ดูดน้ำยาแอร์ไปตามท่อของคอมเพรสเซอร์ ไหลเข้าสู่แผงคอยล์ร้อนเพื่อระบายความร้อนออกไป จากนั้นเข้าสู่ถังพักน้ำยาแอร์เพื่อกรองสิ่งแปลกปลอม ผ่านท่อวาล์วปรับความดัน เพื่อลดความดันของน้ำยาแอร์ลง ทำให้อุณหภูมิของน้ำยาแอร์ต่ำลง และจะป้อนเข้าสู่คอยล์เย็น ซึ่งมีพัดลมทำหน้าที่เป่าหรือดูดอากาศผ่านช่องแอร์ในรถของเรา เราจึงสัมผัสความเย็นได้ กรองแอร์ กรองสิ่งสกปรก กรองแอร์ คือ แผ่นกรองอากาศ ก่อนที่ลมเย็นออกจากช่องแอร์จะมาสัมผัสกับผู้โดยสาร ซึ่งปัจจุบันรถรุ่นใหม่บางรุ่นได้มีการเพิ่มไส้กรองแอร์มาให้แล้ว ซึ่งถือว่าจำเป็นมากในรถยนต์ เพราะช่วยดักจับฝุ่นละอองในอากาศ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ให้ดียิ่งขึ้น สำหรับรถบางยี่ห้อที่ไม่มีกรองแอร์มาให้ ก็อาจมีสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ กระดาษ เศษใบไม้ เข้ามาติดอยู่กับคอยล์เย็น ส่งผลให้แอร์ไม่เย็นเท่าที่ควร ระบบปรับอากาศทำงานหนักขึ้น ซ้ำร้ายอาจหมักหมม ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ในที่สุด ยืดอายุแอร์ได้ ถ้าใส่ใจ นอกจากใส่กรองแอร์ในรถยนต์เพื่อยืดอายุการใช้งานของระบบแอร์แล้วนั้น พฤติกรรมการใช้ระบบปรับอากาศในรถก็มีผลทำให้แอร์พังได้ง่ายขึ้นเช่นกัน โดยทุกครั้งก่อนที่จะเปิดแอร์ ควรเปิดแอร์ขณะที่รอบเครื่องยนต์ไม่สูงมากนัก เปิดแอร์ขณะในความเร็วต่ำ (รอบเดินเบายิ่งดี) ประมาณ 10-15 วินาที เพื่อให้น้ำมันหล่อลื่นไปเคลือบลูกสูบภายในให้ทั่วก่อน เพราะคอมเพรสเซอร์จะทำงานก็ต่อเมื่อเราเปิดแอร์เท่านั้น โดยปรับความเย็นให้สัมพันธ์กับอุณหภูมิห้องโดยสาร ไม่ให้เย็นมากเกินไป หรือร้อนเกินไป จะดีที่สุด การดูแลรักษาแอร์รถยนต์ - ไม่ควรเสียบน้ำหอมชนิดเป็นแอลกอฮอลไว้หน้าช่องแอร์ เพราะสารเหล่านี้ทำให้ตู้แอร์ผุกร่อนเร็วขึ้น - ถ้าต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน ควรเปิดกระจกด้านซ้ายและขวา ไว้ประมาณ 1 นิ้ว เพื่อระบายความร้อน - ควรล้างตู้แอร์ ทุกๆ 2 ปี หรือถ้าใช้รถในบริเวณที่มีฝุ่นละอองเยอะ ก็ต้องล้างเร็วขึ้นตามความเหมาะสม - ควรปรับระบบปรับอากาศในรถเป็นระบบหมุนเวียน เพื่อป้องกันกลิ่นและฝุ่นเข้ามาในรถ - ก่อนจอดรถทิ้งไว้นานๆ ควรเปิดพัดลมแอร์เป่าให้แรงสุด (ปิดสวิทช์ A/C) ประมาณ 5 นาที เพื่อไล่ความชื้น ไล่น้ำ ที่ค้างอยู่ในตู้แอร์ออกก่อน เพราะตู้แอร์ทำจากอลูมิเนียมจะผุกร่อนได้ง่าย อีกทั้งช่วยลดกลิ่นเหม็นอับของตู้แอร์ อุปกรณ์ 1. กรองแอร์ (ราคาประมาณ 200 บาท หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์รถยนต์) 2. ไฟฉาย 3. ถุงมือ ขั้นตอนการใส่กรองแอร์ 1. เปิดช่องเก็บของใต้คอนโซลรถออกมา (กรองแอร์ส่วนมากจะอยู่ตรงนี้) 2. เก็บของออกให้หมดเพื่อความสะดวกในการถอด 3. ปลดลอคเขี้ยวทั้งซ้ายและขวา ที่อยู่ด้านบนของช่องเก็บของ 4. ดึงเขี้ยวลอคด้านบนออกอย่างช้าๆ ด้วยการบีบ 5. ปลดลอคเขี้ยวด้านล่าง โดยดึงออกมาตรงๆ 6. เมื่อถอดช่องเก็บของออกแล้ว ตรวจหาช่องใส่กรองแอร์ว่าอยู่ในตำแหน่งใด 7. เมื่อพบตำแหน่งแล้ว ให้บีบตัวลอคด้านหนึ่งของฝาครอบออก 8. ดึงฝาปิดกรองแอร์ออกมาอย่างช้าๆ ระวังพลาสติคหัก 9. ถอดกรองแอร์อันเก่าออกมาอย่างระมัดระวัง เพราะเศษฝุ่นอาจหล่นเลอะรถได้ 10. แกะกรองอันใหม่ แล้วตรวจสอบดูความเรียบร้อยอีกครั้ง 11. นำกรองอันใหม่ ใส่เข้าไปในตำแหน่งเดิม 12. ปิดฝาครอบกรองแอร์ แล้วใส่ช่องเก็บของกลับคืนให้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จ
อ่านต่อ
เรื่องโดย : พีรพัฒน์ อินทมาตย์ peraphat@autoinfo.co.th
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : เทคนิค
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://www.autoinfo.co.th/archive/33965
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th