X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ทั่วไป
25 Sep 2014
อยู่เมืองไทย ใครไม่เคยฝ่าฝืนกฎจราจร ยกมือขึ้น จะให้รางวัล
อยู่เมืองไทย ใครไม่เคยฝ่าฝืนกฎจราจร ยกมือขึ้น จะให้รางวัล ถามอย่างนี้ ขนของมาแจกไม่พอหรอกครับ ก็คนเขาไม่เคยขับรถเลยไงล่ะ แต่ถ้าเคยขับ ทั้งรถยนต์ และรถอื่นๆ ผมว่าร้อยทั้งร้อย แค่ "ขับเร็ว" เกินอัตราที่กฎหมายว่าไว้ ผมก็โดนเต็มๆ ยอมรับตามตรง อยู่เมืองไทย ใครไม่เคยหงุดหงิดกับการทำหน้าที่ของตำรวจจราจร ยกมือขึ้น คำตอบเหมือนเมื่อกี้ แม้กระทั่งคนนั่งในรถโดยไม่ได้ขับ ก็เหม็นเขียวกับบทบาทของพี่แกทั้งนั้น ไอ้ที่หงุดหงิดนั่นนะ ทำผิดกฎจราจรไหมล่ะ ตามมาด้วยคดีความให้ครึกครื้นอย่างเคย ขอหยิบเรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ ซึ่งชวนให้คนเป็นโจรแขนงต่างๆ ขนาดอยู่ในคุก ยังเป็นหัวโจกค้ายาบ้าเฉยเลย งานนี้ นายแพรวพราว เขาทำงานแพรวพราวเหมือนชื่อ ก้าวหน้าจนได้ตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ (ฝ่ายสินเชื่อ) ธนาคาร ก. คนแต่ละสาขาอาชีพ รู้ช่องทางคดโกง ดีกว่าคนนอก นายแพรวพราว อดใจไม่ไหว อาศัยตำแหน่ง ยักยอก และกระทำโดยทุจริต ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้เงินไปอักโข ทำชั่วย่อมมีคนรู้จนได้ นายแพรวพราว โดนจับโดนฟ้องร้องเป็นคดีอาญา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ ปปง. ใช้อำนาจทำการยึดเงินสดในบัญชีต่างๆ ของ นายแพรวพราว ซึ่งเหลืออยู่ไม่ถึง 5 ล้านบาท ยึดเงินในบัญชีแบงค์ของลูก นายแพรวพราว 2 คน พี่ชาย และพี่สะใภ้อีก 2 คน รวมกันเยอะเชียว 23 ล้านบาทเศษ พนักงานอัยการรับไม้ต่อ ร้องขอต่อศาลให้เงินทั้งหมดตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พรบ. ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงินปี 2542 นายแพรวพราว กับ คณะ รวม 5 ชีวิต ยื่นคำคัดค้าน นายแพรวพราว เล่นแง่กฎหมาย อ้างว่า โดนกล่าวหาว่าทำความผิดมูลฐานตั้งแต่ปี 2537 พรบ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพิ่งประกาศใช้ปี 2542 จึงไม่มีผลย้อนหลัง ในอันที่จะยึดเงินไปเป็นของแผ่นดิน ลูกของ นายแพรวพราว เถียงว่า พวกตนโอนเงินให้ลุง และป้าสะใภ้ เงินนั้นไม่ใช่ของ นายแพรวพราว ลุง และป้าสะใภ้นำไปใช้จ่ายตามที่ตนประสงค์หมดแล้ว พี่ชายและพี่สะใภ้ นายแพรวพราว ก็อ้างว่า เงินในบัญชีไม่เกี่ยวกับเงินของ นายแพรวพราว ขอให้ยกคำร้องของอัยการ คืนเงินให้พวกตนด้วย ศาลชั้นต้น ปิดประกาศงานนี้แล้วไต่สวนพยานของทั้ง 2 ฝ่าย เห็นว่าเงินได้มาจากการทำชั่วของ นายแพรวพราว นั่นแหละ จึงมีคำสั่งให้เงินในบัญชีของคนทั้ง 5 พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน ผู้คัดค้านทั้ง 5 ดิ้นรนด้วยการยื่นอุทธรณ์ เพื่อไม่ให้เงินโดนริบ ศาลอุทธรณ์เล็งดูคดีนี้แล้ว ยอมเมื่อย พิพากษายืนตามที่ศาลชั้นต้นว่าไว้ เรื่องยาวถึงศาลฎีกา เพราะคนทั้งห้า ไม่อยากเป็นคนจน ศาลฎีกาคว้าสำนวนคดีนี้ที่มาถึงคิว จ้องดูอ่านดูตลอดแล้ว ชี้ขาดด้วยความชำนิชำนาญว่า เจตนารมณ์ของพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินปี 2542 ประสงค์ตัดวงจร ทำลายแรงจูงในการประกอบ อาชญากรรมที่ให้ผลตอบแทนสูง จึงกำหนดมาตรการดำเนินคดีอาญาต่อบุคคล และใช้วิธีทางแพ่งดำเนินคดีต่อทรัพย์สิน ให้ตกเป็นของแผ่นดิน วิธีการบังคับต่อทรัพย์สินนั้นเป็นหนทางแพ่ง ใช้บังคับย้อนหลังได้ เพราะไม่ใช่โทษทางอาญา ซึ่งย้อนหลังไม่ได้ แง่ที่ว่าเงินในบัญชีแบงค์ของคนทั้ง 5 เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับการทำความผิดของ นายแพรวพราว ไหม เมื่อ ฟังได้ว่า นายแพรวพราว กระทำความผิดมูลฐาน ใช้ พรบ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้ ผู้คัดค้านอื่นๆ ล้วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับ นายแพรวพราว ในฐานะลูก พี่ชาย พี่สะใภ้ รับโอนเงินจาก นายแพรวพราว ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตาม พรบ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พยานของผู้คัดค้านทั้ง 5 ที่นำมาศาล ไม่มีน้ำหนักหักล้างข้อสันนิษฐานได้ ข้อสุดท้าย ศาลฎีกาแทงว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านทั้งหมด เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาอย่างคดีปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ (จ่ายเยอะเชียวละ) ถูกต้องแล้ว สำหรับอัยการ ตาม พรบ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ฯ ยกเว้นให้ ไม่ต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวง แม้จะเป็นคดีแพ่งก็ตาม รวมแล้ว ศาลฎีกาพิพากษายืน ตามที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินไว้ ให้เงินเกือบ 30 ล้านบาทในบัญชีของคนทั้ง 5 และดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน ความร่ำรวย ถ้าดิ้นรนได้มาในทางมิชอบ ที่สุดก็เดือดร้อน จนแกรกเช่นเดิม อายผู้คน ติดคุกติดตะรางอีกต่างหาก แค่พออยู่พอกิน คือ ความสุขที่ยั่งยืน ถ้าหมั่นท่อง หรือนึกถึงคติที่ว่า ตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้ มือก็แบหราเหลือแค่เหรียญเดียวในปาก จะช่วยให้เพลาๆ การดิ้นรนลงเยอะ และจะอยู่อย่างสบายๆ ไม่ตะเกียกตะกายจนติดคุกแล จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5825-5826/2554 ตีพิมพ์ใน ฟอร์มูลา ส่งไป ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗
อ่านต่อ
เรื่องโดย : จอมยุทธ formula@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://www.autoinfo.co.th/archive/33795
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th