ทดสอบ
สำหรับสมาชิกใหม่ ซึ่งเป็นผลงานของโรงงานจากมิวนิคตั้งแต่แรก ความสำเร็จล่าสุดในตอนนี้ของพวกเขา คือ การมีรถไฟฟ้าซึ่งแตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่น อย่างไรก็ตามหนทางนี้ยังอีกยาวไกล เช่นเดียวกับความกังวลใจของผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
บีเอมดับเบิลยู ไอ 3
สำหรับสมาชิกใหม่ ซึ่งเป็นผลงานของโรงงานจากมิวนิคตั้งแต่แรก ความสำเร็จล่าสุดในตอนนี้ของพวกเขา คือ การมีรถไฟฟ้าซึ่งแตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่น อย่างไรก็ตามหนทางนี้ยังอีกยาวไกล เช่นเดียวกับความกังวลใจของผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
แนะนำตัว ไอ 3
ราคา 36,499 ยูโร (ประมาณ 1,640,000 บาท) ไม่รวมภาษี
ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ ทำงานผสานกัน
กำลังไฟสูงสุด 125 กิโลวัตต์ (170 แรงม้า)
คู่แข่ง
นิสสัน ลีฟ/เรอโนลต์ โซ
รถคันนี้เปลี่ยนมุมมองของคุณที่มีต่อ บีเอมดับเบิลยู ในแบบดั้งเดิม ที่จริงแล้วโรงงานมิวนิคก็เริ่มจากการร่างแบบออกมาในเบื้องต้น แน่นอนว่าพวกเขาพัฒนามันอย่างจริงจัง ความเป็นผู้นำด้านเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์แบบ ความประทับใจในการขับขี่ การใส่ใจในทุกรายละเอียด ซึ่งถือเป็นเหมือนลายเซ็นเฉพาะของ บีเอมดับเบิลยู ที่วิศวกรชาวบาวาเรียน ได้เพิ่มเติมเอาบางสิ่งบางอย่างใหม่ๆ เข้าไป จริงๆ แล้วสมาชิกใหม่ของพวกเขา คือ "ของบางสิ่งบางอย่าง" เราไม่ได้พูดว่าเป็นการปฏิวัติแบบใหม่หมด แต่ ไอ 3 ก็เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้หลังผ่านมากว่า 1 ศตวรรษ ว่าธุรกิจยานยนต์ยังคงมีอะไรบางอย่างให้พูดถึง อย่าเพิ่งคิดแต่เรื่องเครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้า การปฏิวัติที่แท้จริง อยู่ที่การใช้คาร์บอนในงานขนาดใหญ่ โดยแต่ละชิ้นนำมารวมกันกับวัสดุอลูมิเนียม สร้างสรรค์ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ รวมถึงสไตล์การออกแบบด้วย
เห็นได้ชัดว่าวัสดุชนิดใหม่และการออกแบบใหม่ ไม่ใช่ได้มาฟรีๆ ซึ่งความเป็นจริง ราคาของ ไอ 3 เริ่มจาก 36,000 ยูโร (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ประมาณค่าใช้จ่ายในการขับขี่ของเราเกือบ 50,000 ยูโร (ประมาณ 2.3 ล้านบาท) ซึ่งราคาเฉลี่ยตั้งไว้ควรอยู่ที่มากกว่า หรือน้อยกว่า 40,000 ยูโร (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) เล็กน้อย ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนมาก แต่ไม่ถึงกับมากเกินไปสำหรับรถตัวถังยาว 4 ม. คันนี้ ซึ่งมันอาจจะเป็นข้อสรุปที่ดูง่ายเกินไป
ประตูขนาดเล็กไม่ช่วยอะไร
ขณะเดินทางคุณรู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในด้านการออกแบบที่ใหม่หมดจด พื้นรถแบนราบ แผงหน้าปัดแนวนอน การที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้นระหว่างที่นั่งทั้งสอง ที่อยู่ด้านหลัง ทำให้คุณรู้สึกได้ว่านี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับ บีเอมดับเบิลยู การเข้าไปในพื้นที่ด้านหลังของห้องโดยสารเป็นสิ่งที่ท้าทาย ประตูหลังดูแปลก ในความเป็นจริง การใช้งานพื้นที่ส่วนหลัง เพียงแค่เปิดประตูบานหน้ามันก็จะปลดลอคในทันที แม้ว่าเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ แต่การแก้ปัญหานี้จะไม่สะดวกในทางปฏิบัติ มันเป็นเรื่องจริงว่า การไม่มีโพรงเกียร์ และที่นั่งแบบปรับเอนนอนด้านหน้า ทำให้รถเข้า/ออกได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าหากกรณีคุณเปิดประตูทั้ง 2 บานกว้างไม่ได้ การเข้า/ออกรถก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่พวกเขาพยายามที่จะทำให้คุณเชื่อ ลองคิดดูว่าถ้าอยู่ในโรงรถแคบๆ หรือในลานจอดรถ และมีรถเข็นเด็กขวางอยู่ และต้องการนำลูกน้อยออกมาจากรถ "ความคิดสร้างสรรค์" ของประตูนี้ ในที่สุดก็จะกลายเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของคุณ
พื้นที่ภายในไม่ได้เยอะมากเท่าไร ในขณะที่ด้านหน้าของห้องโดยสารมีพื้นที่มาก และได้รับการออกแบบอย่างประณีต ซึ่งเป็นลักษณะและรูปแบบของ บีเอมดับเบิลยู คุณต้องนั่งหลังตรง แม้ว่าที่นั่งจะค่อนข้างใกล้กับพื้นรถ การควบคุมเป็นรูปแบบของบาวาเรียน เริ่มจากปุ่ม ไอดไรฟ ขนาดใหญ่ ทางด้านขวาของพวงมาลัยคุณจะสังเกตได้ถึงแผงควบคุมแบบใหม่ ที่มีปุ่มสตาร์ทติดตั้งเพิ่มเข้าไป มีปุ่มตัวเลือกตำแหน่งเกียร์อัตโนมัติขนาดใหญ่ ในขณะที่ตำแหน่งเกียร์ "P" มีปุ่มแยกออกไป
การควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ของรถไฟฟ้าคันนี้ โดยทั่วไป ทุกอย่างเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อคุณนั่งอยู่หลังพวงมาลัย มองดูดีๆ แล้ว ขนาดที่กะทัดรัด และการควบคุมที่ตอบสนองอย่างฉับไว ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจราจรในเมือง
แต่มีอะไรที่มากกว่านั้น ใน ไอ 3 เก็บรายละเอียดด้วยวัสดุคุณภาพระดับสูง ตัวถังรถสวยงาม และมีขนาดกะทัดรัด มีความเป็น บีเอมดับเบิลยู ในแบบดั้งเดิม ซึ่งมันมากพอที่จะเอาชนะรถไฟฟ้าที่เป็นคู่แข่งรายอื่นๆ ได้ แต่รถคันนี้ไม่ได้มีแค่รายละเอียด มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากในการขับรถยนต์ที่มีคุณภาพ และ ไอ 3 ก็ทำให้คุณรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าคุณกำลังขับรถยนต์ บีเอมดับเบิลยู
อัตราส่วนกม./ลิตรเป็นเรื่องเก่า การขับรถในเมืองต้องการกำลัง 14.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของ ไอ 3
เครื่องยนต์สันดาปทำงานตามต้องการ
นี่เป็นเพียง 1 ใน 3 รุ่น ของ ไอ 3 ซึ่งสามารถเลือกตกแต่งได้ด้วยตัวคุณเอง คุณสามารถเลือกอุปกรณ์เสริมหลายแบบ รวมถึงการตกแต่งภายในที่ไม่ซ้ำกันถึง 3 รูปแบบ โดยรถที่ทดสอบเป็นแบบลอฟท์ สุดท้ายก็มาถึงคำถามในการทดลองขับรถคันนี้ แม้ว่าทางเลือกบางอย่างอาจยังน่าฉงนสงสัย เช่น อุปกรณ์ชาร์จแบบรวดเร็ว ตัวอย่าง ราคา 1,633 ยูโร (ประมาณ 73,500 บาท) ดูจะเกินกว่าประโยชน์ที่แท้จริงของมัน คุณควรที่จะพิจารณารุ่นที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ขยายระยะการเดินทาง: ซึ่งราคาอยู่ที่ 5,000 ยูโร (ประมาณ 225,000 บาท) ซึ่งมันมากขึ้น แต่คุณจะไม่ต้องมากังวลว่าแบทเตอรีขณะที่วิ่งมันจะหมดลง เครื่องยนต์ไฟฟ้าในความเป็นจริง มันได้รับความช่วยเหลือจากเครื่องยนต์ 2 สูบ ความจุ 647 ซีซี (กำลัง 34แรงม้า) ที่ได้มาจากเทคโนโลยีของรถจักรยานยนต์ ซึ่งมาทำหน้าที่ชาร์จแบทเตอรีเพียงอย่างเดียว ถังน้ำมันเบนซินขนาดเล็กที่มีความจุ 9.5 ลิตร จะช่วยให้คุณขับรถกลับบ้านได้ โดยมันพาคุณไปได้ในระยะทางที่ไม่ไกลเกิน 100 กม. มิฉะนั้นคุณก็จะต้องหยุด และก็เติมน้ำมันอีกครั้ง
ช่วงราคา
ไอ 3 ราคา 36,499 ยูโร (ประมาณ 1,642,000 บาท ไม่รวมภาษี)
ไอ 3 (พร้อมอุปกรณ์ขยายระยะการเดินทาง) 41,137 ยูโร (ประมาณ 1,851,000 บาท ไม่รวมภาษี)
มีอะไรให้ควบคุมเยอะ แต่ก็ระบุไว้อย่างเรียบร้อย
1. กระจกไฟฟ้าและที่ปรับกระจกมองหลัง ถัดจากมือจับประตู อุปกรณ์เซนทรัลลอค
2. แสงสว่าง ควบคุมไฟตัดหมอกหลัง ไฟหรี่
3. ปุ่มเปิดฝากระโปรงและฝาท้าย
4. อุปกรณ์ควบคุมความเร็ว
5. ควบคุมระบบมัลทิมีเดีย
6. แผงหน้าปัด
7. ปุ่มสตาร์ท เลือกตำแหน่งเกียร์ (R, N, D) ปุ่มในโหมดจอด
8. จอแสดงผลระบบมัลทิมีเดีย
9. เครื่องปรับอากาศ ไฟฉุกเฉิน วอลูมวิทยุ และ "ที่น่าถูกใจ" คือ แผงควบคุม
10. ช่องใส่สัมภาระ
11. ปุ่มควบคุม ไอดไรฟ อยู่ทางด้านซ้าย เลือกโหมดการขับขี่ (คอมฟอร์ท อีโค พโร และอีโค พโร พลัส)
สิ่งละอันพันละน้อย
แสดงผลการควบคุมขั้นพื้นฐาน (A) แสดงถึงความเร็ว การไหลเวียนของพลังงาน ข้อมูลคอมพิวเตอร์แสดงผลการเดินทาง และมีไฟเตือนอีกหลายจุด จอแสดงผลกลาง (B และ C) นอกเหนือจากความคลาสสิคที่ยอดเยี่ยม (ระบบนำทาง วิทยุ ฯลฯ ) รวมถึงการใช้งานและคู่มือการบำรุงรักษาด้วยตนเอง ระบบนำทางอินเทอร์เนท และคุณสมบัติอื่นๆ
โลกมหัศจรรย์ของแอพพลิเคชัน
การรับรู้ที่อยู่ในสายตาเสมอ
คุณเพียงแค่มีสมาร์ทโฟน และแอพพลิเคชันฟรีเฉพาะของคุณเอง ก็จะไม่คลาดสายตาไปจาก ไอ 3 ไอรีโมท ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลที่มากมาย ตั้งแต่สถานะการชาร์จไฟ ไปจนถึงระยะเวลาที่จะต้องทำการชาร์จอีกครั้ง ซึ่งนั่นเป็นเพียงแค่ 2-3 ตัวอย่าง แอพพลิเคชันตัวนี้ยังช่วยคุณค้นหา ไอ 3 ของคุณได้อย่างรวดเร็ว แม้อยู่ในลานจอดรถที่รถพลุกพล่าน มันจะบอกคุณด้วยว่าคุณขับรถอย่างไรขณะคุณอยู่หลังพวงมาลัย รวมถึงระยะทางอีกไกลเท่าไร คุณถึงจะต้องชาร์จไฟอีกครั้ง และแผนที่ซึ่งรวมอยู่ใน แอพพลิเคชันที่จะบอกคุณว่าจะไปสถานีชาร์จได้ที่ไหน
ห้องโดยสาร
ด้านหน้ามีพื้นที่เพียงพอ ต้องขอบคุณแผงคอนโซลหน้าที่วางในแนวนอน และการที่รถไม่มีอุโมงค์เกียร์ (หรืออย่างน้อยก็ส่วนใดส่วนหนึ่งของมัน) การเข้าไปนั่งในที่นั่งด้านหลัง มีอุปสรรคจากบานประตู เมื่อบานประตูเปิดกว้างไม่ได้ (และมักจะเกิดแบบนี้บ่อยๆ) มันจึงยากที่จะเข้าไปในรถได้
วิสัยทัศน์
ตำแหน่งที่นั่งขับ สูงและตรง ช่วยให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม ทัศนวิสัยด้านหลังแย่ แม้ว่าจะมีเซนเซอร์ (อุปกรณ์เสริม) ช่วย กล้องด้านหลัง มีให้เลือกด้วย
เบาะนั่งรูปทรงเพรียวทำให้มีพื้นที่ภายในมากขึ้น
การไม่มีอุโมงค์เกียร์ ยืนยันได้ถึงพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง ระวังประตูบานหลังเวลาพับลง เมื่อคุณนั่งอยู่ด้านหลัง
ที่นั่งคนขับ (วัดแบบซม. )
คุณนั่งอยู่ในลักษณะหลังตรง แต่ในระดับต่ำเกือบจะติดพื้น ซึ่งเป็นสไตล์ของ บีเอมดับเบิลยู พวงมาลัยสามารถปรับระดับได้
ความสูงของผู้ขับขี่
สูง 4 ดาว
ปานกลาง 4 ดาว
เตี้ย 4 ดาว
อุปกรณ์หลัก
รายการราคา 36,499 ยูโร
ราคาของรถที่ขับ 49,677 ยูโร
รุ่นมีถุงลมนิรภัยรอบคัน ติดตั้งแล้ว
อุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรม 494 ยูโร
การให้บริการของ บีเอมดับเบิลยู 262 ยูโร
ล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้ว ติดตั้งแล้ว
กุญแจอัจฉริยะ 434 ยูโร
ระบบเชื่อมต่อการขับขี่ 363 ยูโร
การเชื่อมต่ออินเตอร์เนท 111 ยูโร
ระบบควบคุมเสถียรภาพอีเลคทรอนิคส์ ติดตั้งแล้ว
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบควิคชาร์จ 1,633 ยูโร
ไฟแอลอีดี 917 ยูโร
ข้อมูลการจราจร 156 ยูโร
ใช้วัสดุในการตกแต่งภายในที่ดี 1,543 ยูโร
ระบบนำทางผ่านดาวเทียม 2,067 ยูโร
อุปกรณ์เสริมด้านความสะดวกสบายที่ทันสมัย 2,168 ยูโร
ช่องวางเครื่องดื่ม 35 ยูโร
อุปกรณ์ปั๊มความร้อน 570 ยูโร
เซนเซอร์ถอยหลัง ติดตั้งแล้ว
กล้องด้านหลัง 1,018 ยูโร
สีเมทัลลิค 681 ยูโร
อุปกรณ์บลูทูธ ติดตั้งแล้ว
สีแดง: เหมือนรถที่ทำการทดสอบ
หมายเหตุ 1) ล้อแมก 20 นิ้ว 1,391 ยูโร (ประมาณ 62,600 บาท) 2) 756 ยูโร (ประมาณ 34,000 บาท) ถ้ารวมกับแพคเกจเพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับ 3) ค่าใช้จ่ายในระหว่างการเปิดตัวแคมเปญ 4) พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน ไฟท้ายแบบ ELCTRO-CHROME ที่เท้าแขนด้านหน้า ที่วางของ เซนเซอร์ปัดน้ำฝน แอร์อัตโนมัติ ไฟแอลอีดี ไฟส่องสวางเวลากลางวัน ไฟหรี่ และอุปกรณ์ควบคุมความเร็ว 5) เซนเซอร์จอดรถด้านหน้าและระบบจอดรถอัตโนมัติ 6) ระบบขยายการเชื่อมต่อราคา 514 ยูโร (ประมาณ 23,000 บาท)
ส่วนท้ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
นอกเหนือจาก เทสลา (TESLA) ก็มีเพียง ไอ 3 เท่านั้น ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกในการขับขี่ที่แท้จริง แน่นอนมันไม่ได้เป็นรถสปอร์ท แต่น้ำหนักเบา และขับง่าย มันทำให้นึกถึง มีนี ในบางครั้ง ซึ่งมันเป็นตัวแทนของรถที่มีความฉลาดอย่างแท้จริง ต้องยกเครดิทให้กับพวงมาลัย ซึ่งมีความพิเศษและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงโครงสร้างตัวถังที่ดีเยี่ยม ขณะที่มีแรงดึงจากทางด้านหลังที่มาเต็มๆ แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ถึงพวงมาลัยเลย ที่เหลือก็เป็นเรื่องของกำลัง 170 แรงม้า ถือว่ามากสำหรับรถไฟฟ้า เพราะธรรมชาติของระบบไฟฟ้??านี้เอง ที่ทำให้ ไอ 3 เร็วมาก เพียงแค่กดคันเร่ง รถก็พุ่งออกไปเหมือนลูกธนู แรงม้านั้นถูกปลดปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเร็วต่ำ ทำให้การขับในเมือง น่าประทับใจมาก คุณแทบจะไม่ต้องใช้เบรคเลย การลดความเร็ว สามารถทำได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับการเร่ง ระบบชาร์จไฟกลับของตัวรถนั้น เพียงพอที่จะช่วยชะลอความเร็วของรถลง วิศวกร บีเอมดับเบิลยู เรียกมันว่า "สัมผัสการเหยียบเพียงจุดเดียว" ซึ่งแปลได้ว่า "ขับไปทำงานและกลับบ้านโดยไม่ต้องเหยียบเบรคเลย" แล้วอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อคุณขับรถออกนอกเมือง ? อาจต้องระวังบ้าง หากคุณขับเป็นระยะทางไกล แม้ว่าจะใช้โหมด อีโค พโร ก็ตาม เพราะระยะทำการยังอยู่ที่ประมาณ 100 กม. เท่านั้น จากจุดเริ่มต้นของการเดินทาง คุณจะต้องหยุดและเสียบปลั๊กชาร์จไฟแล้ว
คำตัดสินของผู้ขับ
ไอ 3 ทำงานได้อย่างราบรื่น และกำลังเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพ การทดสอบในทแรคคุณต้องรัดเข็มขัดแน่นๆ เพราะที่นั่งยึดตัวคุณไว้ไม่ได้มากนัก: โดย (DAVIDE FUGAZZA) นักทดสอบของ QUATTRORUOTE
ปลดลอคก่อน
ก่อนที่จะเปิดประตูหลังคุณต้องให้แน่ใจว่าคนขับต้องปลดลอคแล้ว เพื่อให้เข้าไปในรถได้ง่ายขึ้น ประตูหน้าเปิดไปด้านหน้า (ข้างซ้าย)
รวดเร็ว มีกำลัง ขับสนุก ที่สุดของรถใช้งานในเมือง
จุดเด่น
ความประทับใจในการขับขี่
ตำแหน่งที่นั่งคนขับ การตอบสนองของเครื่องยนต์ และตัวถังที่สมดุลทำให้การขับขี่ให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจ
คุณภาพการผลิต
คาร์บอนและอลูมิเนียมถูกใช้ในส่วนของโครงสร้าง เพื่อการปรับแต่งที่ยอดเยี่ยม
ข้อเสีย
ระยะการเดินทาง
มันน้อยกว่า นิสสัน ลีฟ แต่ระยะทางมันไม่เพียงพอที่จะขับแบบไม่กังวล ให้ซื้อรุ่นที่มีอุปกรณ์ขยายระยะการเดินทาง หากคุณต้องการเดินทางด้วยความสบายใจ
การเข้าออกตัวรถ
ประตูขนาดเล็กให้ความสะดวกสบายน้อยกว่าที่คุณคิด โปรดระวังคางของคุณ ระวังขอบด้านล่างกระแทก
ที่เก็บสัมภาระท้ายใช้งานได้ดี แม้จะมีขนาดเล็ก พื้นที่มีมากพอ สามารถดูได้จากการเอนที่นั่ง พื้นที่ด้านหน้า 29 ลิตร ดูจะน้อยกว่าช่องใส่สัมภาระเสียอีก
ความจุรวม 203 ลิตร
1. 360 มม.
2. 970-1,010 มม.
3. 1,230-1,590 มม.
4. 740 มม.
คำตัดสินของเรา
ถ้าคุณเปิดไฟหน้าและเครื่องทำความร้อน คุณจะเดินทางได้น้อยกว่า 100 กม. ซึ่งมันไปได้ไม่ไกลเท่าไรนัก ประตูอาจจะดูอัจฉริยะ แต่มันใช้ได้ไม่ดีในทางปฏิบัติ ซึ่งคุณต้องใช้งานมันแทบจะตลอดเวลา เวลาเข้า/ออกรถ แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่ถือเป็นการปฏิวัติสำหรับ ไอ 3 ก็คือ มันเป็นหนึ่งในรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนจริงๆ ซึ่งมีเพียงไม่กี่คัน วิศวกรจากมิวนิค เดินหน้าไปไกลเกิน ในการผสานเทคโนโลยีน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ากับระบบไฟฟ้า พวกเขาสร้างรถไฟฟ้าขึ้นมาตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีการพัฒนารถยนต์ภายใต้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ รวมถึงเทคโนโลยีแบทเตอรีี่ นอกจากนี้ ไอ 3 ยังช่วยสร้าง ความยั่งยืนของระบบนิเวศ ตั้งแต่อยู่ในสายการผลิต ซึ่งถือว่าค่อนข้างที่จะประสบความสำเร็จ
เทคนิค
สวนทางกับกระแสหลัก
ตัวถังอลูมิเนียม โครงสร้างทำจากคาร์บอน ตัวถังพลาสติค ซึ่งแตกต่างจากรถทั่วไป เครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม
บีเอมดับเบิลยู มีวิธีการของตัวเองในเรื่องของคาร์บอน ถือเป็นโรงงานแห่งเดียวในระดับโลก ที่ทำงานในด้านคาร์บอนตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การผลิตเส้นใย (ในสหรัฐ ฯ) การทอ และการประกอบชิ้นส่วน (ในเยอรมนี) แต่การใช้คาร์บอนที่ถือว่าสวนกระแสหลัก: แทนที่ตัวถังจะทำจากชิ้นส่วนเพียงไม่กี่ชิ้น โรงงานที่มิวนิคต้องทำการผลิตถึง 150 ชิ้น โดยประกอบมันเข้าด้วยกัน ด้วยการเชื่อมผนึก นอกจากนี้ โครงสร้างคาร์บอนก็ไม่ได้มีเพียงอย่างเดียว เพราะมันถูกวางอยู่บนตัวถังอลูมิเนียมที่แข็งแรง ซึ่งคุณเชื่อได้เลยว่าโครงสร้างของรถคันนี้เป็นอะไรที่ซับซ้อน การใช้คาร์บอนนี้ สร้างความน่าประทับใจให้กับ บีเอมดับเบิลยู ถึงแม้จะไม่ใช่ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งทำให้ลดความเสี่ยงลง ในมุมมองของอุตสาหกรรม การใช้เทคโนโลยีด้านการผลิตแบบประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน มีพื้นฐานในเรื่องของการลดเวลา รวมถึงต้นทุนด้านการผลิตนั่นเอง แม้แต่ตัวถังในส่วนที่เป็น "ผิว" รถ ก็ทำจากวัสดุเทอร์โมพลาสติค ซึ่งมีวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ถึง 25 % หลังคาเป็นเพียง 1 ส่วน ที่จะทำในคาร์บอนไฟเบอร์เสริมด้วยเรซิน
แรงบิดยกกำลังสอง
รถไฟฟ้าที่ทันสมัยสุดคันนี้ มีเครื่องยนต์อยู่ด้านหลัง คิดย้อนกลับไปในอดีต ที่ผ่านมามันย้อนกลับไปสู่รถยนต์แบบไมโครคาร์ ที่ชื่อ อีเซตตา (ISETTA) ในช่วงปี 1950 และรถยนต์ เอม 1 (M1) ซึ่งเป็นรถซูเพอร์คาร์ในยุคปี 1970 มันไม่ได้เป็นรถไฟฟ้าจากค่ายใบพัดสีฟ้าขาวที่ธรรมดา วิศวกรของ บีเอมดับเบิลยู พยายามอย่างมากในการใส่พฤติกรรมความสปอร์ทเข้าไป ถึงแม้พวกเขาจะใหม่กับสิ่งเหล่านี้ นอกเหนือจากแรงบิดที่เกิดจากแม่เหล็กถาวร ที่สร้างแรงบิดได้อย่างมหาศาล ซึ่งผลที่ได้นี้ กำลังที่ได้มีความใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.6 ลิตร ที่ 4,800 รตน. ซึ่งมันทำให้ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นอีกด้วย ขณะที่รอบของมอเตอร์อยู่ที่ 1,400 รตน. เท่านั้น
เครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้าและระบบเกียร์แบบคงที่ เครื่องยนต์อยู่ด้านหลัง
ล้อหน้าแคบแต่มีขนาดใหญ่ ลดแรงเสียดทาน
แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน น้ำหนัก 230 กก. กำลัง 22 กิโลวัตต์/ชม. ถูกใช้ไปแล้ว 18.8 กิโลวัตต์
ตัวถังอลูมิเนียมช่วยดูดซับแรงกระแทก ปกป้องห้องโดยสารและแบทเตอรี
กำลังสูงสุดตอบสนองทันที่
เส้นโค้งของแรงบิดเครื่องยนต์ไฟฟ้าถึงค่าสูงสุด 25.5 กก.-ม. แล้วจากจุดหยุดนิ่ง ในภาพด้านล่าง (ซ้ายไปขวา) เครื่องชาร์จไฟแบบเร่งด่วน สามารถชาร์จไฟให้แบทเตอรีภายในระยะเวลา 30 นาที ด้วยกำลังไฟกระแสตรง 50 กิโลวัตต์ การประกอบตัวถังที่ทำจากคาร์บอน การผลิตของตัวถังอลูมิเนียม
แบทเตอรีในช่องเก็บ
แบทเตอรีถูกล้อมรอบไปด้วยโครงสร้างอลูมิเนียม การตกแต่งภายในใช้คาร์บอน ตัวถังภายนอกทำจาก
คุณภาพ
ความสอดคล้องและคงเอกลักษณ์
แนวคิดในการพัฒนาและวัสดุที่ใช้ คือ นวัตกรรมโดยแท้ ทำได้อย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตกแต่งภายในเป็นรถใหม่จริงๆ และยังคงไว้ซึ่งรายละเอียด ทั้งเอกลักษณ์และความรู้สึกในแบบของ บีเอมดับเบิลยู นอกเหนือจากตัวรถที่ทำจากแผ่นพลาสติคที่ประกอบได้ไม่สนิท ทุกอย่างมีความเหมาะสม แม้วัสดุธรรมชาติที่ใช้ทำแผงควบคุมและแผงประตู ก็เข้ากันได้กับพลาสติคและเครื่องหนัง แผงหน้าปัดแบบ 2 จอ ทำงานได้อย่างไม่มีที่ติ การควบคุมทำได้ดี และน่าใช้งาน พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายมีความเรียบร้อยและติดตั้งที่ยึดสัมภาระที่มีประโยชน์ในการใช้งานอย่างมาก ประตูหลังแบบ ครึ่งบาน เป็นเพียงคำถามเดียวของรถคันนี้ ที่ทำให้การเข้า/ออกรถมีความลำบาก ประตูก็ปิดไม่ค่อยดี
พลาสติค
1. แผ่นพลาสติคที่เป็นตัวถังมีรูปทรงมาตรฐานแต่การประกอบทำได้ไม่ดีนัก
2. ตัวถังส่วนที่เป็นคาร์บอน จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีคุณภาพดีขนาดไหนเวลาเปิดประตูออกมา
3. ประตูแบบตู้กับข้าว อุปกรณ์ที่ติดตั้งมีความซับซ้อน
4 แผงควบคุมที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน แต่ก็จับคู่กันได้ลงตัว
ข้อมูลทางเทคนิค
เครื่องยนต์: วางด้านหลัง ใช้กระแสไฟฟ้าสลับ
ด้วยแม่เหล็กถาวร - กำลังสูงสุดที่ 125 กิโลวัตต์ (170 แรงม้า) ที่ 4,800 รตน.
แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร 0-4,800 รตน.-กำลังสูงสุด
ระหว่างการเบรค 50 กิโลวัตต์ (68 แรงม้า)
แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ระบายความร้อนด้วยน้ำ 360 โวลท์ กำลังไฟ 22 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
ระบบส่งกำลัง: ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราทดแบบตายตัว
ยาง (ขนาดมาตรฐาน): 155/70R19, 5Jx19 พร้อมชุดซ่อม
ตัวถัง: 2 กล่อง 5 ประตู 4 ที่นั่ง - ช่วงล่างอิสระ เหล็กกันโคลง - ช่วงล่างหลังแบบ มัลทิลิงค์ คอยล์สปริง เบรคแบบจาน ระบายความร้อน เอบีเอส และ อีเอสพี พวงมาลัยแบบฟันเฟืองและตัวหนอน
ควบคุมด้วยไฟฟ้าแบบเซอร์โว
ขนาดและน่้าหนัก: ฐานล้อ 2,570 มม. ด้านหน้า 1,570 มม. ด้านหลัง 1,580 มม.
ยาว 4,000 ซม. กว้าง 1,780 มม. - สูง 1,580 ซม. - น้ำหนัก 1,195 กก. น้ำหนักรวมบรรทุกสูงสุด 1,620 กก. พื้นที่เก็บสัมภาระจาก 260- 1,100 ลิตร
ผลิตที่เมืองไลพ์ซิก (เยอรมนี)
การประเมินคุณภาพ
ภายนอก
ตัวถังและโครงสร้าง 3ดาว
การป้องกันการบาดเจ็บต้นคอ 3ดาว
การเก็บเสียง 3ดาว
ภายใน
วัสดุและประกอบ 3ดาว
ที่นั่ง 3ดาว
ฟังค์ชันต่างๆ 3ดาว
ข้อมูลรถที่ใช้ทำการทดสอบ
การทดสอบที่มีคุณภาพได้รับการรับรองจากมาตรฐาน ISO 9001-2008
ระยะทางที่ใช้ไปแล้ว (กก.) 1,658
น้ำหนัก (กก.) 1366
กระจายน้ำหนักด้านหน้าด้านหลัง (%) 47-53
ยาง บริดจ์สโตน อีโคเพีย อีพี 500
ขนาด ด้านหน้า 155/60 R20 ด้านหลัง 175/55 R20 85Q
ความเร็วสูงสุด 147.2 กม./ชม.
รอบเครื่องที่ความเร็วสูงสุด 11,400 รตน.
รอบเครื่องยนต์ที่ความเร็ว 130 กม./ชม.
ความคลาดเคลื่อนของมาตรวัดที่ความเร็ว 130 กม./ชม. 3.0 %
ระยะการใช้งาน
ยังใช้งานได้ไม่เต็มที่ แต่ก็สอดคล้องกับ 18.8 กิโลวัตต์ต่อชม. ของแบทเตอรี ระยะทางที่ครอบคลุมจะลดลงเมื่อเปิดไฟหน้าและเครื่องทำความร้อน
กม. (กิโลวัตต์/100 กม.)
ในเมือง 161 (14.4)
ถนนหลวง 130 (17.8)
ตัวเลขของผู้ผลิต 190 (11.6)
การขับขี่ในทแรค
แบบนี้เคยเกิดขึ้นกับ เทสลา มาแล้ว รถ ไอ 3 ลดกำลังของตัวเองลงก่อนถึงเส้นชัย เวลาที่ได้จึงน้อยลงขณะทำการขับขี่ อย่างไรก็ตามขณะขับ ไอ 3 ได้แสดงพฤติกรรมความรวดเร็วและสมดุล ซึ่งทำให้คุณขับมันได้อย่างราบรื่น ส่วนการขับอย่างรุนแรง อีกทางหนึ่งเป็นการทำลายระบบอีเลคทรอนิคส์
บีเอมดับเบิลยู ไอ 3 1:31.35 นาที
คู่แข่งที่ทำเวลาใกล้เคียงสุด
นิสสัน ลีฟ 1:35.61 นาที
สภาพอากาศ ท้องฟ้าสดใส ผิวทแรคแห้ง
อุณหภูมิ 9 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิผิวทแรค 9 องศาเซลเซียส
อัตราเร่ง
ความเร็ว กม./ชม. เวลา (วินาที)
0-60 3.7
0-100 7.2
0-130 14.7
0-140 22.3
0-400 ม. 15.9
ที่ความเร็ว (กม./ชม.) 131.8
0-1,000 ม. 31.2
ที่ความเร็ว (กม./ชม.) 147.2
การชาร์จกลับของกระแสไฟ นาที/โหลดสูงสุด
ความเร็ว กม./ชม. เวลา (วินาที)
70-90 2.3/2.8
70-100 3.5/4.4
70-120 6.7/8.8
70-140 11.9/16.1
ระยะ 1 กม. ที่ 70 กม./ชม. 27.4
ความเร็ว (กม./ชม.)
30-60 กม./ชม. 2.6
การทดสอบแบบไดนามิค
การยึดเกาะถนนและการทรงตัว
ต้องขอบคุณคุณสมบัติที่ดีของพวงมาลัย การขับแบบ จิมคานา ของ ไอ 3 ทำได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการอันเดอร์สเตียร์ มีความมั่นใจในการขับขี่และเป็นรถที่ขับง่าย ปฏิกิริยาของล้อหลัง ในความเป็นจริง จะหยุดได้โดยอุปกรณ์ควบคุมเสถียรภาพที่ดีเยี่ยม ซึ่งทำงานได้รวดเร็วแม่นยำและไม่ทำงานมากจนเกินไป
แรงเหวี่ยงสูงสุดขณะเข้าโค้ง 0.91 จี
ขณะเปลี่ยนเลน
บนพื้นแห้ง 92 กม./ชม.
ทางตรง 140 กม./ชม.
ในโค้ง 103 กม./ชม.
อากาศพลศาสตร์
บริเวณพื้นรถ/บริเวณเหนือส่วนหน้า 0.3/2.4
ระยะเบรค
ความเร็ว กม./ชม. เมตร (จี)
100 พร้อมน้ำหนักบรรทุกต่ำสุด 41.6 (0.94)
100 พร้อมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 42.2 (0.93)
100 พร้อมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด อุณหภูมิสูง 43.0 (0.92)
100 พร้อมน้ำหนักบรรทุกต่ำสุด อุณหภูมิสูง 67.3 (0.99)
100 บนถนนลาดยางแห้ง + ไหล่ทาง 48.7 (0.81)
100 บนถนนลาดยางเปียก + น้ำแข็ง 99.5 (0.40)
ประสิทธิภาพของระบบเบรค
เบรค 10 ครั้ง ติดต่อกันจากความเร็ว 100-0 กม./ชม. พร้อมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด
ครั้งที่ ระยะเบรค (ม.)
1 42.2
2 41.2
3 41.3
4 41.2
5 41.3
6 41.9
7 41.9
8 42.1
9 42.1
10 43.0
30 ม. 40 ม. 50 ม.
ดีเยี่ยม ปานกลาง แย่
การควบคุม
เส้นผ่าศูนย์กลางพวงมาลัยที่มีขนาดเล็ก ร่วมกับพฤติกรรมของรถที่คล่องแคล่วของ ไอ 3 ช่วยให้การขับขี่ไปได้อย่างรวดเร็วและทันอกทันใจ ภายใต้สภาพการจราจรที่หนาแน่น
เส้นผ่าศูนย์กลางพวงมาลัย 9.9 ม.
วงเลี้ยว 2.5 ม.
น้ำหนักพวงมาลัยเมื่อเคลื่อนที่ 1.8 กก.
แรงกดของแป้นคลัทช์ -
การวัดและวิเคราะห์ข้อมูลของการใช้ไฟฟ้าได้ดำเนินการร่วมกับศูนย์การศึกษาเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ เมือง มิลาน มาตรฐานอาร์เอสอี (RSE) (www.rse-web.it)
เสียงที่ฟังสบาย
นอกเหนือจากเครื่องยนต์พลังไฟฟ้าที่แสนจะเงียบแล้ว ตัวถังของ ไอ 3 เองก็ให้ความรู้สึกที่เงียบ และแน่นหนา นอกจากนี้ยังช่วยลด เสียงรบกวนของยางที่สัมผัสไปบนพื้นถนน มีแค่เรื่องของระบบอากาศพลศาสตร์เพียงอย่างเดียว ที่สร้างเสียงรบกวนบนผิวตัวถัง ซึ่งเราพอจะได้ยิน แต่จะเกิดขึ้นเมื่อเฉพาะที่ความเร็วสูง ยกตัวอย่าง เช่น บนถนนมอเตอร์เวย์
ความนุ่มนวลของระบบรองรับ
อุปกรณ์ตกแต่งรถคันนี้ไม่ได้เป็นสาเหตุให้รถแข็งกระด้าง แม้ว่ายางที่ใช้จะมีขนาด 20 นิ้ว ซึ่งทำให้ บีเอมดับเบิลยู คันเล็กๆ กระเทือนได้แม้ขับไปบนพื้นที่ไม่เรียบ เช่น รางรถไฟ ท่อระบายน้ำ หรือไหล่ทาง
เจาะลึกรถพลังงานไฟฟ้า
เบาะนั่งคนขับ
ตำแหน่งเหมาะสมและถูกต้อง พวงมาลัยปรับได้อย่างเต็มที่ เบาะนั่งมีความสะดวกสบาย แต่ตรงที่ปรับพนักพิงที่ขยับได้นิดเดียว
แผงหน้าปัด และการควบคุม
มีปุ่มสวิทช์จำนวนมาก แต่การจัดตำแหน่งต่างๆ เหมาะกับการใช้งาน
ซึ่งมันไม่ได้ดูมีเยอะอย่างเดียว แต่มันใช้งานและอ่านง่ายอีกด้วย
เครื่องเสียงและระบบนำทาง
ปุ่ม ไอดไรฟ ที่มีประโยชน์มากวางอยู่บทคอนโซล และมีบางเมนูที่เฉพาะเจาะจง นอกเหนือไปจากรุ่นมาตรฐาน ไม่มีค่าใช้จ่ายในระหว่างแคมเปญการเปิดตัว
ระบบควบคุมอุณหภูมิ
แบบโซนเดียว ทำงานได้ดีและตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารได้อย่างรวดเร็วตามที่ต้องการ หมุนเวียนแบบอัตโนมัติไม่มีหน้าต่างด้านหลัง
วิสัยทัศน์
ตำแหน่งที่นั่งผู้ขับขี่ตรงให้มุมมองที่ชัดเจนกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณบนถนน ด้านข้างมองเห็นได้ถึง 3 ใน 4 แต่ด้านหลังแย่ แต่ยังดีที่เรารู้ว่า เซนเซอร์ถอยหลังมีให้เป็นมาตรฐาน
ความประณีต
จิตวิญญาณสีเขียวแบบรักษ์โลก ทำให้ ไอ 3 หรูมากไม่ได้ แต่มันก็เป็นที่ชื่นชอบและทำได้ดีในลักษณะเดียวกัน
อุปกรณ์เสริม
ถ้าเวลานี้คุณยังคงไปไม่ถึงระดับของการตกแต่งที่ถือว่าเป็นเรื่องปกติของ บีเอมดับเบิลยู คุณสามารถสร้างสรรค์ ไอ 3 ได้ด้วยการผสมผสานอุปกรณ์เสริมต่างๆ เข้าไป ให้เหมาะกับความต้องการของคุณ
อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย
ถุงลมนิรภัย 6 จุด และระบบควบคุมสเถียรภาพอีเลคทรอนิคส์เป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์มาตรฐาน หากเพิ่มเงินอีกพันกว่ายูโร คุณสามารถซื้อระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่อีเลคทรอนิคส์ ซึ่งปัจจุบันกำลังค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
การใช้งาน
มีพื้นที่เพียงพอในส่วนหน้า แต่ด้านหลังมีไม่มาก วิธีการเปิดประตูแปลก และจะสะดวกเฉพาะเมื่อคุณสามารถทำให้ประตูทั้ง 2 บานเปิดกว้าง ไม่งั้นการเข้าออกรถก็จะมีอุปสรรค
พื้นที่เก็บสัมภาระฝาท้าย
ด้านหลังเป็นพื้นที่กว้างและสามารถใช้ประโยชน์ได้ดี แต่ความสามารถในการบรรทุกสัมภาระ เทียบได้กับ เฟียต แพนดา (FIAT PANDA) พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า ใหญ่กว่าช่องเก็บของนิดเดียว
ความสะดวกสบาย
มันอาจจะแข็งเล็กน้อยสำหรับการขับขี่ในเมือง (นอกนั้นทั้งหมดเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการขับขี่ในลักษณะนี้)ไม่มีเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์และตัวถัง
เครื่องยนต์
รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มากพอที่จะแยกความแตกต่างจากเครื่องยนต์รุ่นเก่าๆ ได้เลย
อัตราเร่ง
จากหยุดนิ่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 7 วินาที รถคันนี้ทำได้อย่างง่ายดาย นับเป็นรถที่มีสมรรถนะดีเยี่ยม
ช่วงการตอบสนองของพละกำลัง
แบ่งเป็น 2 ช่วงที่ความเร็วต่ำ ดีมากในขณะที่ความเร็วเพิ่มขึ้น แรงบิดเยี่ยมยอดและสามารถใช้ได้ตลอดเวลา
ระบบส่งกำลัง
ไม่มีเกียร์และไม่ต้องสงสัยว่าเพราะเหตุใด เนื่องจาก ไอ 3 เป็นรถไฟฟ้า แค่คุมพวงมาลัยเท่านั้น อย่างอื่นอัตโนมัติหมด
พวงมาลัย
มันเป็นความแม่นยำและสามารถบอกคุณว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับล้อ แต่บางทีอาจจะเยอะเกินไปบางครั้ง ซึ่งผู้ขับต้องควบคุมให้ดี
เบรค
แบบจาน 4 ล้อ ทำงานได้ดีในทุกสถานการณ์ การวางล้อทั้ง 2 ไว้บนหินอ่อน (จำลองสภาพถนนที่เป็นน้ำแข็งในการทดสอบของเรา) คนขับรถจำเป็นต้องควบคุมให้ดี
การใช้งานบนท้องถนน
รถใช้งานได้ดีและปลอดภัย หากคุณกดคันเร่งเพิ่ม ตัวรถจะเคลื่อนตัวออกไปอย่างนุ่มนวล ตัวรถยังคงทรงตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในการขับรถแบบเค้นอัตราเร่ง
ระยะการเดินทาง
ควรปรับปรุง เนื่องจาก เราครอบคลุมระยะทาง 130 กม. บนถนนหลวง และ 161 กม. ในเมือง แบทเตอรีชาร์จแต่ละครั้งใช้เวลา 8 ชม. (ด้วยปลั๊กไฟที่บ้าน) โดยมีค่าใช้จ่ายราว 7 ยูโร (ประมาณ 320 บาท) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ราคา
เริ่มต้นจาก 36,000 ยูโร (ประมาณ 1,620,000 บาท ไม่รวมภาษี) ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเงินจำนวนมากพอสมควร แต่คุณต้องพิจารณาถึงความคิดริเริ่มของโครงการ รวมถึงการพัฒนาต่างๆ เพื่อออกมาเป็นรถคันนี้
การรับประกัน
รับประกัน 2 ปี ไม่จำกัดระยะทาง อายุประกันแบทเตอรี 8 ปี (หรือ 100,000 กม.)
เรื่องโดย : PROVA SU STRADA
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : ทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/33443