การเป็นรถหรูที่ไม่ค่อยจะเหมือนใครมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านกาลเวลา และการปรับโฉม ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในที่สุดแล้ว มันก็ยังคงรักษาความแปลก แตกต่าง ไว้เช่นเดิม และครั้งนี้พิเศษกว่าที่เคย

ข้อมูลเบี้ยงต้น จีทีเอส ราคา (ประมาณ) 149,960 ยูโร (6.7 ล้านบาท) ไม่รวมภาษีนำเข้า ภาษี (ประเทศอิตาลี) 5,480.30 ยูโร (2.5 แสนบาท) เครื่องยนต์ เบนซิน เทอร์โบ 3,798 ซีซี กำลังสูงสุด 537 แรงม้า คู่แข่ง เอาดี อาร์ 8, บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 7, แจกวาร์ เอกซ์เจ, เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์, โพร์เช พานาเมรา อัตราสิ้นเปลือง ขัอมูล โรงงาน 8.4 กม./ลิตร ข้อมูล ทดสอบ 6.3 กม./ลิตร การเป็นรถหรูที่ไม่ค่อยจะเหมือนใครมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านกาลเวลา และการปรับโฉม ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในที่สุดแล้ว มันก็ยังคงรักษาความแปลก แตกต่าง ไว้เช่นเดิม และครั้งนี้พิเศษกว่าที่เคย คำว่า กวัตตโรโปร์เต (QUATTROPORTE) หรือ 4 ประตู ฟังดูแสนจะธรรมดา แต่ถ้ากำลังหมายถึงรถ กวัตตโรโปร์เต มันจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งทันที รถคันนี้ มันไม่เหมือนใครจริงๆ ไม่ว่าคุณจะศึกษาข้อมูลบโรชัวร์ เวบไซท์ และโชว์รูมต่างๆ รับรองว่าคุณจะไม่พบรถบแรนด์อื่นที่เป็นแบบนี้ บางคันก็หรูหราใหญ่โต บ้างก็เรียกตัวเองว่าสปอร์ทซีดาน ขณะที่ มาเซราตี กวัตตโรโปร์เต มีความยาวตัวถังถึง 5.26 ม. และกว้างกว่า 2 ม. แต่เวลามันอยู่บนทแรค รถคันนี้กลับเป็นอะไรที่พิเศษกว่า เพียงเพราะว่ามันคือสายเลือด มาเซราตี กว้างใหญ่เกินบรรยาย แทบไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงภายในห้องโดยสารของ “เรือธงจากค่ายตรีศูล” คันนี้เลย ทั้งๆ ที่เพิ่งมีการปรับโฉม และยืดขนาดตัวถังเพิ่มอีก จะว่าไปแล้วรถรุ่นนี้ก็ไม่ได้มีขนาด "เล็ก" เลยแต่ กวัตตโรโปร์เต รุ่นใหม่นี้ ก็ยังถูกออกแบบให้ยาวขึ้นกว่าเดิมอีก 24 ซม. เพื่อเอาใจลูกค้าตลาดเอเชีย ถ้าอยากจะเห็นภาพนี้ชัดเจนขึ้น ลองเอามันไปจอดข้างๆ มายบัค ดูสิ รถรุ่นใหม่นี้ มีความน่าประทับใจยิ่งกว่าเดิม ตรงที่เพิ่มระบบความปลอดภัย และพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสาร ที่นั่งด้านหน้า กว้างขวาง และสะดวกสบาย ส่วนที่นั่งด้านหลัง ทำได้ดีขึ้น จนทำให้รู้สึกเหมือนว่ากำลังนั่งอยู่บนโซฟาหรูหราในบ้าน ให้ประสบการณ์เกินคำบรรยาย ข้อเสียที่พบคือ หลังคาค่อนข้างเตี้ย ต้องระวังศีรษะเล็กน้อยเวลาก้าวขึ้น/ลง (เพื่อแลกกับเส้นสายที่สวยงาม) แต่เมื่อเข้าไปนั่งแล้วจะประทับใจกับพื้นที่วางขา และความกว้างขวางของที่นั่งจัดสรรแบ่งเป็นสัดเป็นส่วน มันเป็นรถที่ไม่เหมือนใครเลย ยกเว้นมี 4 ล้อ เหมือนกัน ในความเห็นของเรา รายละเอียดบางอย่าง เช่น วัสดุที่เลือกใช้และแผงควบคุมต่างๆ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ สำหรับรถยนต์ระดับราคา 150,000 ยูโร (ประมาณ 6.7 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้า) แต่เจ้า กวัตตโรโปร์เต คันนี้ก็ช่างรู้วิธีที่จะเบนความสนใจ และในที่สุดก็มักจะเผลอให้อภัยกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ขาดหายไปเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อก้าวเข้าไปนั่งอยู่หลังพวงมาลัย คุณจะรับรู้ได้ทันทีว่ามันไม่ใช่สไตล์ของ เอาดี เอ 8 หรือ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ซึ่งค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบ แต่ไร้อารมณ์ น่าเสียดายที่รถหรูขนาดนี้ กลับขาดอุปกรณ์ช่วยเหลืออีเลคทรอนิคส์หลายตัวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความปลอดภัย และความสะดวกสบาย อย่างเช่น ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ รวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งปัจจุบันนี้คู่แข่งจากเยอรมนี ทำได้แม้กระทั่งปรับระดับความแข็งอ่อนของช่วงล่างตามสภาพพื้นผิวถนนได้ในทันทีทันใด (นี่ไม่ได้ล้อเล่นเพราะใน เอส-คลาสส์ ใหม่ มีระบบนี้ติดตั้งแล้ว) มุมมองของผู้ขับ การขับขี่ คันเกียร์ ควรได้รับการปรับปรุง ความรู้สึกในการขับขี่บนทแรค รถลีมูซีน ที่มีนิสัยสปอร์ท การแก้อาการในโค้ง ดีมาก การยึดเกาะถนน ยอดเยี่ยม ในแง่ของแรงม้า และน้ำหนักตัว การทรงตัว ประสิทธิภาพสูง เป็นรถที่ยอดเยี่ยม ความแม่นยำของระบบเบรค สมบูรณ์แบบ สำหรับการขับขี่บนท้องถนน การตอบสนองของ อีเอสพี แม่นยำ เช่นเดียวกับรถสปอร์ท ตำแหน่งผู้ขับ (ซม.) การติดตั้งได้รับการพัฒนาจาก มาเซราตี กรัน ตูริสโม และมีการปรับปรุงในรายละเอียดเล็กน้อย เพื่อให้ตรงกับความเป็นรถลีมูซีน ซึ่งให้ผลออกมาดีเยี่ยม สัดส่วนผู้ขับ สูง 4 ดาว ปานกลาง 5 ดาว เตี้ย 5 ดาว ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขับรถ ความลับของ กวัตตโรโปร์เต อยู่ที่ขนาด โดยตัวรถมีความยาวมากกว่า 5 ม. และกว้างกว่า 2 ม. โดยมีความตั้งใจที่สูงมาก ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับความสุขของการขับรถยนต์ที่มี ดีเอนเอ ของ มาเซราตี จากรุ่นสู่รุ่น คู่มือการเลือกซื้อ ผู้ท้าชิงตำแหน่งยอดรถเรือธง คู่แข่งที่มีศักยภาพของ กวัตตโรโปร์เต เราจะพบได้ทั้งจากประเทศเยอรมนี และอังกฤษ เอาดี เอ 8, บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 7 และ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์ ซึ่งเป็นคู่แข่งตลอดกาล รถพวกนี้ไม่เน้นความเป็นสปอร์ทนัก (บางทีเอกลักษณ์เดิมๆ ก็แทบจะไม่หลงเหลือ) และเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูง กวัตตโรโปร์เต เองก็มีจอดอยู่ในโรงรถของ QUIRINALE (บ้านของประธานาธิบดีอิตาลี) ดูเหมือน โพร์เช พานาเมรา น่าจะใกล้เคียงที่สุด ในบรรดากลุ่มผู้ผลิตรถจากเยอรมนี ทั้งขนาด และจำนวนของประตู ที่ดูมีภาพลักษณ์และประสิทธิภาพความเป็นรถสปอร์ท 2 ยี่ห้อที่มีความใกล้ชิดกันในแง่ของประวัติศาสตร์ และความเก่าแก่ คือรถจากประเทศอังกฤษ แจกวาร์ เอกซ์เจ รุ่นใหม่ล่าสุด มีความคล้ายคลึงกันทั้งรูปแบบ และความเย้ายวนใจ แอสตัน มาร์ทิน ราพีด เป็นตัวเลือกถัดมา แม้จะมีที่นั่งด้านหลังเล็กกว่าเมื่อเทียบกับ มาเซราตี ในขณะที่ราคานั้นสูงกว่ามาก (200,000 ยูโร หรือประมาณ 9 ล้านบาท) ราคา (ประมาณ) ไม่รวมอัตราภาษีนำเข้า กวัตตโรโปร์เต เอส คิว 4 ราคา 100,835 ยูโร (4.5 ล้านบาท) กวัตตโรโปร์เต จีทีเอส ราคา 149,960 ยูโร (6.7 ล้านบาท) พื้นที่แสนพิเศษ พื้นที่ และความงดงาม ถือเป็นเรื่องปกติของการตกแต่งภายใน กวัตตโรโปร์เต หนังแท้ชั้นเยี่ยม ที่นั่งแสนผ่อนคลาย, แผงควบคุมที่อยู่ด้านหลัง ช่วยให้การควบคุมเครื่องปรับอากาศ (แยกต่างหากสำหรับ 4 ที่นั่ง), เครื่องทำความร้อนที่นั่ง รวมถึงม่านกระจกรถด้านหลัง ระดับความแข็งอ่อนของช่วงล่างตามสภาพพื้นผิวถนนได้ในทันทีทันใด (นี่ไม่ได้ล้อเล่น เพราะใน เอส-คลาสส์ ใหม่ มีระบบนี้ติดตั้งแล้ว) เทอร์โบคู่ทรงพลัง หากได้พูดคุยกับคนของ มาเซราตี เขามักจะบอกว่า การขับรถที่เรียกได้ว่าเป็น “อัญมณี” เม็ดใหม่ของค่ายตรีศูลนี้ มีอะไรให้สนุกมากกว่าเทคโนโลยีล้ำยุค เมื่อได้ยินเสียงคำรามของเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ก็น่าจะมีความสุขเพียงพอแล้ว แม้ว่าในสภาพการจราจรติดขัด เจ้าเสียงรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ก็ยังเร้าอารมณ์ได้เลย ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพ และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ในวิสัยที่รับได้ แม้ว่ามันจะไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่ารุ่นก่อนนัก เครื่องยนต์เอกลักษณ์ดั้งเดิม 4.2 และ 4.7 ลิตร ยังคงเก็บรักษาไว้เหมือนเดิม แต่เพิ่มเครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ เป็นทางเลือกมาให้ในรุ่นล่าง ซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเหนือความคาดหวัง นอกนั้นแล้วรถคันนี้ไม่ต่างอะไรกับกับ เอาดี อาร์เอส 6 4.0 ลิตร และ บีเอมดับเบิลยู เอม 5 เครื่องยนต์ 4.4 ลิตร ซึ่งต้องถือว่า ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว กวัตตโรโปร์เต มันรวดเร็วดุจนรก ยิ่งถ้าลองใช้การเปลี่ยนเกียร์เอง แล้วเลือกโหมด สปอร์ท ชุดช่วงล่างสกายฮุค (SKYHOOK) จะเปลี่ยนวิธีคิดของคุณเลย มันตอบสนองเร็วขึ้น คมกริบ และเมื่อคุณพร้อมสำหรับการแข่งขันจริงๆ กวัตตโรโปร์เต จะกลายเป็นรถที่ว่องไว ปราดเปรียว มีประสิทธิภาพ และรุนแรงขึ้นทันที กวัตตโรโปร์เต ใหม่นี้ ดูหรูหราสง่ามากขึ้น การขับขี่ก็แม่นยำมากกว่ารุ่นก่อน มักจะคอยให้อภัยนักขับมือใหม่ที่ยังอ่อนประสบการณ์ และพวกขาดความแม่นยำสม่ำเสมอ โดยที่ยังคงความสปอร์ทไว้อย่างเข้มข้น กวัตตโรโปร์เต ถูกสร้างมาเพื่อเรื่องของความเร็ว คราวนี้ทำได้ชัดเจนสุดเท่าที่เราเคยเห็น การขับในโค้งต่อเนื่อง ลื่นไหล คล่องตัว ตลอดเวลา คงมีแต่เสา A-PILLAR เพียงอย่างเดียวที่คอยเตือนสติว่ากำลังสนุกอยู่ในรถซีดานหรู เพราะในสปอร์ทแท้ๆ ส่วนใหญ่แล้ว ระยะห่างของเสานี้มันไม่ได้อยู่ไกลขนาดนี้ เมดอิน มาเซราตี ภายในบ้านหรูของ ตรีศูล 1. สวิทช์กระจกไฟฟ้??า, กระจกมองหลัง และปุ่มควบคุมระบบลอคและปลดลอคประตู ปุ่มเปิดฝากระโปรงท้าย 2. สวิทช์ควบคุมระบบไฟ, ควบคุมความสว่างของแผงหน้าปัด และไฟเพดานเหนือศีรษะ, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ 3. ใช้ในการควบคุมระบบควบคุมความเร็ว หลังพวงมาลัยมีแพดเดิล ชิฟท์ 4. แผงมาตรวัดความเร็ว มาตรวัดรอบแสดงผลอยู่บริเวณตรงกลาง ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและอุณหภูมิของน้ำ 5. ลำโพงและชุดควบคุมระบบเสียงอยู่ด้านหลังแพดเดิล ชิฟท์ 6. จอแสดงผลสำหรับชุดมัลทิมีเดีย 7. การควบคุมเครื่องปรับอากาศ (แยกอิสระทุกที่นั่ง) 8. สวิทช์ยกเลิกระบบ อีเอสพี และปุ่มเลือกโหมดเปลี่ยนเกียร์เอง, ประหยัดเชื้อเพลิง, สปอร์ท, ส่วนปุ่มกดเบรคมืออยู่ด้านหลังคันเกียร์ ระยะการมองเห็นสิ่งกีดขวางด้านหลัง เครื่องบอกเวลาแบบดั้งเดิม นาฬิการูปไข่อยู่ตรงกลางของแผงหน้าปัดเป็นแบบแอนาลอก และเป็นแบบฉบับดั้งเดิมของ มาเซราตี แพดเดิล ชิฟท์ โลหะดูสง่างาม และให้สัมผัสที่น่าประทับใจ เมื่ออยู่ในรถ รถกว้างขวางมาก ทั้งด้านหน้ารวมถึงด้านหลัง มีพื้นที่ที่เพียงพอสำหรับผู้โดยสารทั้ง 5 แม้ว่าที่นั่งด้านหลังจะได้รับการออกแบบสำหรับ 2 คน และก็มีคอนโซลกลางขนาดใหญ่วางอยู่ระหว่างกัน หลังคาอาจจะต่ำเกินไป กรณีนี้ถือว่ารูปแบบอยู่เหนือกว่าความสะดวกสบาย การวัด (ซม.) 1. 148 2. 526 3. 317 4. 85-103 5. 52 6. 26-35 7. 93 8. 48 9. 14-44 10. 194-226 11. 116 12. 44 13. 71 14. 210 15. 190 16. 219 17. 51 18. 136 19. 135 20. 139 21. 100 22. 118 อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ (ราคาเป็นยูโร) ราคา 149,960 ยูโร ราคาของรถที่ทำการทดสอบ 165,146 ยูโร ถุงลมนิรภัย คนขับและผู้โดยสารด้านข้าง อุปกรณ์มาตรฐาน ล้อแมกขนาด 21 นิ้ว 4,356 ยูโร ชุดกุญแจอัจฉริยะ อุปกรณ์มาตรฐาน 1 บุหลังคาด้วย อัลคันทารา 1,543 ยูโร ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 จุด 2,662 ยูโร ระบบควบคุมเสถียรภาพ อุปกรณ์มาตรฐาน เครื่องเสียง ไฮ-ไฟ 4,235 ยูโร ระบบ ไว-ไฟ 847 ยูโร ตกแต่งภายในด้วยวัสดุหรูหรา 4,235 ยูโร 2 ตกแต่งด้วยไม้สีดำ 968 ยูโร ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ 3,025 ยูโร แป้นเหยียบแบบสปอร์ท 484 ยูโร หมุดสลับสี 599 ยูโร 3 ล้อแมก 18 นิ้ว 605 ยูโร ระบบปรับอุณหภูมิเบาะนั่งด้านหน้า 968 ยูโร ที่นั่งด้านหลังมีคอนโซลกลาง 6,050 ยูโร ระบบให้ความบันเทิงด้านหลัง 5,022 ยูโร 4 โต๊ะด้านหลังพับได้ 2,783 ยูโร ซันรูฟ 1,997 ยูโร ตกแต่งภายในด้วยสีเมทัลลิค 1,815 ยูโร ตกแต่งภายในด้วยสีเมทัลลิค/ไมคา (MICA) 1,198 ยูโร กระจกหน้าต่างกรองแสง 1,500 ยูโร พวงมาลัยพร้อมระบบอุ่น ตกแต่งด้วยไม้ 1,404 ยูโร ความหมายของสีแดงในตาราง คือ อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ หมายเหตุ : 1) เพิ่มประตูด้านหลัง 242 ยูโร 2) ถ้าเลือก อัลคันทารา 4,598 ยูโร 3)ถ้าเลือก อลูมินัมขัดเงา 2,662 ยูโร 4) พร้อมจูเนอร์โทรทัศน์ 5,385 ยูโร ความจุห้องเก็บสัมภาระ 421 ลิตร 1 44 ซม. 2 116 ซม. 3 194-226 ซม. 4 100-118 ซม. พื้นที่ภายในฝากระโปรงท้าย พื้นที่บริเวณท้ายรถกว้างขวางมากขึ้นกว่าก่อน ในรุ่นก่อนหน้านี้มีความจุ 398 ลิตร รุ่นใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 440 ลิตร ถ้ามองในแง่ดีพื้นที่ที่ต่ำลงไปเพื่อความสะดวกในการขนย้ายสัมภาระเข้า-ออก ข้อเด่น การผสมผสานที่ยอดเยี่ยมของความสปอร์ท และความสะดวกสบาย สมรรถนะ : เครื่องยนต์ วี 8 สูบ ตอบสนองรวดเร็วมากเมื่อกดคันเร่งจนมิด คูรจะลืมไปว่ากำลังขับรถที่มีน้ำหนักกว่า 2 ตัน ข้อด้อย ระบบควบคุมด้านความปลอดภัย น่าเสียดายที่บางส่วนของคุณสมบัติสำคัญที่ได้กลายเป็นมาตรฐานในปัจจุบัน (เช่น ระบบเบรคอัตโนมัติ) ยังไม่มีในรถคันนี้ ความประณีต : ไม่มีอะไรที่จะติ เกี่ยวกับความงามและความพิเศษ แต่เราคาดหวังในเรื่องความใส่ใจในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อย การตัดสินของเรา หลงรักเอาง่ายๆ กวัตตโรโปร์เต คือ อัญมณีที่ชาวอิตาเลียนควรภาคภูมิใจ และมีเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่ในรถรุ่นนี้ มันมีทั้งประวัติความเป็นมา สมรรถนะ และประสิทธิภาพบนท้องถนน ชื่อเสียงในความเป็นเลิศ มันเป็นรถที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน เราอยากเห็นความพิถีพิถันมากขึ้น ในส่วนของรายละเอียด รวมถึงการเพิ่มอุปกรณ์เสริมบางอย่างที่ยังขาดหายไป เพื่อใช้ในการรับมือกับคู่แข่งตัวจริงจากค่ายเมืองเบียร์ นั่นคือ หัวใจสำคัญ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ มาเซราตี เจ้า กวัตตโรโปร์เต คันนี้ คือ ของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณสามารถมอบให้กับตัวเอง สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ จากด้านหน้าจรดไฟท้าย ข้อมูลเทคนิค ใหญ่ขึ้น แต่เบาลง เปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ วี 8 สูบ รุ่นก่อน แรงบิดและแรงม้าที่เพิ่มขึ้นได้มาจากเทอร์โบคู่ ขยายความจุกระบอกสูบ แต่ตัวถังมีน้ำหนักเบาลง ซึ่งสวนทางกับขนาดตัวของมัน เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง โครงสร้าง ทุกอย่างที่เปลี่ยนไปยังคงมีความเชื่อมโยงกับรุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ความจุ 3.8 ลิตร ต้องยกความดีนี้ให้กับระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบคู่ และระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเรคท์อินเจคชัน ซึ่งสร้างพละกำลังได้ถึง 537 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 66.2 กก.-ม. (ช่วงโอเวอร์บูสต์แรงบิดสูงสุดเพิ่มเป็น 72.4 กก.-ม.) โดยแรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้น 20 และ 33 % ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ วี 8 สูบ 4.7 ลิตร หายใจเองของ กวัตตโรโปร์เต จีทีเอส รุ่นก่อน เทอร์โบแต่ละลูกจะมีอินเตอร์คูเลอร์ และใช้โข่งไอเสียแบบ TWIN SCROLL สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ วี 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร มีอะไรหลายส่วนที่ใช้ร่วมกันกับพี่ใหญ่ของมัน อาทิ ลูกสูบ รูปทรงของห้องเผาไหม้ ระบบจุดระเบิด และระบบฉีดตรง ขณะที่อัตราส่วนแรงม้าต่อลิตร ต่ำกว่าเมื่อเทียบรุ่นเครื่องยนต์ วี 8 สูบ (139 แรงม้า/ลิตร กับ 141 แรงม้า/ลิตร) แต่อัตราส่วนแรงบิด/ลิตร กลับสูงกว่า (18.7กก.-ม./ลิตร กับ 17.4 กก.-ม./ลิตร) ซึ่งเครื่องยนต์ทั้ง 2 บลอคนี้ ผลิตจาก มาราเนลโล เหมือนกัน ระบบรองรับมัลทิลิงค์ 5 จุดยึด ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 จังหวะ ของ เซดเอฟ พร้อมเฟืองท้ายลอคอัตโนมัติ อัตราการจับอยู่ที่ 35 % ขณะเหยียบคันเร่ง และ 45 % ขณะยกคันเร่ง ระบบรองรับถือว่าดีที่สุดในขณะนี้ ด้านหน้าใช้แบบดับเบิลวิชโบน ด้านหลังเป็นแบบมัลทิลิงค์ 5 จุดยึด ซึ่งมีข้อดีทั้งในด้านการตอบสนองแบบสปอร์ท รวมไปถึงความสะดวกสบาย ชอคอับควบคุมด้วยอีเลคทรอนิคส์ตอบสนองได้อย่างเหมาะสม ขนาดของชอคอับใหญ่ขึ้นตามข้อมูลพื้นฐานที่ให้มา กวัตตโรโปร์เต ในรุ่นเครื่องยนต์ วี 8 สูบ มีน้ำหนักตัวเบากว่ารุ่นก่อน 40 กก. แต่จากการทดสอบของเรา รถคันนี้มีน้ำหนักน้อยกว่ารุ่นก่อนอยู่ 21 กก. นอกจากนี้อัตราส่วนกระจายน้ำหนัก หน้า:หลัง เท่ากับ 53?:47 โดยรุ่นก่อนหน้านี้ทำได้ 48:52 ร่วมกันรบ เครื่องยนต์ วี 8 สูบ เทอร์โบคู่ ของ กวัตตโรโปร์เต คือ เครื่องยนต์รุ่นใหม่ ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับเครื่องยนต์ วี 6 สูบ ไม่ว่าจะเป็น ลูกสูบ รูปทรงของห้องเผาไหม้ ระบบจุดระเบิด และระบบฉีดตรง รวมถึงระบบอัดอากาศ 1) ลูกกระทุ้งโลหะและแขนกดกระเดื่องวาล์ว 2) วาล์วแปรผันสองฝั่ง และโซ่ราวลิ้น 3) อัดอากาศด้วยเทอร์โบ โข่งหลังแบบ TWIN SCROLL ข้อมูลทางเทคนิค เครื่องยนต์ วางตามยาวด้านหน้า วี 8 สูบ (90 ?) - ลูกสูบ 86.5 มม. ช่วงชัก 80.8 มม. - ความจุ 3,798 ซีซี กำลังสูงสุด 390 กิโลวัตต์ (537 แรงม้า) ที่ 6,800 รตน.-แรงบิดสูงสุด 66.2 กก.-ม. ที่ 2,000-4,000 รตน. (ช่วงโอเวอร์บูสต์แรงบิดสูงสุด 72.4 กก.-ม. ที่ 2,250-3,500 รตน.) เสื้อสูบและฝาสูบอัลลอย ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์คู่ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน, 32 วาล์ว (ขับด้วยโซ่) จ่ายเชื้อเพลิงฉีดตรง เทอร์โบคู่ และอินเตอร์คูเลอร์คู่ ระบบส่งกำลัง : ขับเคลื่อนล้อหลัง เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ยาง (ขนาดมาตรฐา??น): หน้า 245/45ZR19 98Y หลัง 275/40ZR19 101Y – พร้อมชุดปะยาง ตัวถัง: รูปทรงกล่อง 3 ใบแบบซาลูน 4 ประตู 5 ที่นั่ง - ระบบรองรับด้านหน้า ดับเบิล วิชโบน คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ 5 จุดยึด คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง ชอคอับไฮดรอลิคควบคุมด้วยอีเลคทรอนิคส์ จานเบรคระบายความร้อนในตัว เอบีเอส และ อีเอสพี ระบบพวงมาลัยแบบฟันเฟืองและตัวหนอน ไฮดรอลิค บูสเตอร์ ถังน้ำมันความจุ 80 ลิตร มิติและน้ำหนัก : ฐานล้อ 3,170 มม. ช่วงล้อ หน้า/หลัง 1,630 มม./1,650 มม. ยาว 5,260 มม. - กว้าง 1,950 มม.- สูง 1,480 มม. - น้ำหนัก (รถเปล่า) 2,025 กก. น้ำหนัก (เต็มพิกัด) 2,540 กก. - ความจุห้องเก็บสัมภาระ 530 ลิตร ผลิตที่ : GRUGLIASCO (TO) (ช่องกลาง) ระบบส่งกำลัง ติดตั้งกับเครื่องยนต์ วี 6 สูบ เท่านั้น เครื่องยนต์ขนาดเล็กในรุ่น วี 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร เรือธงจาก โมเดนา มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือกด้วย โดยระบบทำงานขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ยึดติดอยู่ที่ท้ายของชุดเกียร์ พร้อมกับแผ่นคลัทช์แบบหลายชั้นควบคุมด้วยระบบ อีเลคทรอนิคส์ ในสภาวะปกติ แรงขับจะถูกส่งตรงไปยังล้อคู่หลัง และถ้าหากอุปกรณ์ควบคุมตรวจจับถึงความจำเป็น ระบบก็จะส่งแรงขับเคลื่อน 50 % ของกำลังทั้งหมดไปยังล้อคู่หน้า โดยคลัทช์จะทำการจับและส่งกำลังผ่านไปสู่เพลาขับ ผู้ขับขี่จะได้รับการแจ้งถึงการทำงาน ด้วยสัญญาณเตือนที่อยู่บนมาตรวัด ส่วนการทำงานร่วมกันกับเครื่องยนต์ วี 8 สูบ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะในความเป็นจริงต้องมีการการปรับปรุงในส่วนของโครงสร้าง เพื่อเพิ่มศักยภาพของมัน คุณภาพ ยังขาดความเนี้ยบ คุณภาพของวัสดุไม่ใช่ปัญหาเลย แต่คุณภาพการประกอบและรายละเอียดต่างๆ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ สัมผัสแรกกับ กวัตตโรโปร์เต ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง: งานตัวถังได้รับการพ่นสีมาอย่างดี ชั้นของสีมีความโปร่งใส ซึ่งเราเห็นสิ่งเหล่านี้ได้แม้ในห้องเครื่องยนต์ บานประตูถูกปรับตำแหน่งมาอย่างดี แต่น่าจะปิดได้ดีกว่านี้ ขณะที่ ฝากระโปรงหน้าและฝาท้าย ค่อนข้างจะเยื้องไปทางขวา ส่วนตัวรองฐานกระจกหน้าต่างปรับตำแหน่งมาไม่ค่อยดี ส่วนที่ยื่นออกไปของบานประตูก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เช่นเดียวกับขอบยาง ซึ่งควรจะได้รับการแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนภายในห้องเครื่องยนต์ ไม่มีเส้นขอบยางด้านหน้า วัสดุที่เป็นหนังภายในรถมีเยอะมาก แม้กระทั่งบนแผงควบคุม แต่มันไม่ค่อยให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลในแบบที่เราต้องการ มีวัสดุโครเมียมและวัสดุขัดขึ้นลายไม่กี่ชิ้น เห็นได้ที่อุปกรณ์ควบคุมต่างๆ รวมถึงที่กระจกบังลมและหน้าต่างข้าง ที่นั่งทำได้ดี แต่ส่วนที่ให้ความยืดหยุ่นของช่องกระเป๋าด้านหลังดูจะเปราะบาง ฝาท้ายปูพรมเต็ม รวมไปถึงจุดที่ต่ำกว่าพื้นรอง อย่างไรก็ตามรายละเอียดของวัสดุที่ดูแล้วมีราคาถูกบางอย่าง อย่างเช่นมือจับที่ทำด้วยวัสดุพลาสติค และมือเปิดฝากระโปรงท้าย ส่วนไฟแอลอีดีใช้ส่องสว่างแบบชาร์จในตัว ดูแล้วไม่ค่อยเข้ากับคุณภาพโดยรวมของตัวรถ 1. ชั้นสีที่โปร่งใสซึ่งเห็นได้แม้กระทั่งภายในบริเวณห้องเครื่องยนต์ 2. ตัวรองฐานกระจกหน้าต่างปรับตำแหน่งไม่ค่อยดี 3. ส่วนบนของแผงควบคุมที่อยู่ในส่วนที่เป็นหนัง แต่การเชื่อมต่อกันน่าจะได้รับการปรับปรุง 4. ไฟแอลอีดีแบบชาร์จในตัว ดูแล้วไม่เหมาะกับคุณภาพโดยรวมของรถ ให้คะแนน ด้านคุณภาพ ภายนอก พื้นผิวและงานตัวถัง 4 ดาว ช่องห่างบนตัวถัง 3 ดาว ตัวถัง 4 ดาว วัสดุซับเสียง 3 ดาว การตกแต่งภายใน วัสดุและข้อต่อ 4 ดาว เบาะ 4 ดาว ฟังค์ชันต่างๆ 3 ดาว ขับเคลื่อน 4 ล้อตามความต้องการ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ถูกควบคุมผ่านชุดคลัทช์แบบหลายแผ่น เมื่อมีความต้องการ กำลังจะถูกส่งไปยังล้อคู่หน้าที่ 50 เปอร์เซนต์ ข้อมูลรถทดสอบ ระยะทางทดสอบ (กม.) 2,215 น้ำหนัก (กก.) 1,799 กระจายน้ำหนัก หน้า-หลัง (%) 47-53 ยาง ปิเรลลี พี เซโร หน้า 245/40 ZR 20 99 Y หลัง 285/35 ZR 20 100 Y ความเร็วและรอบเครื่องยนต์ ความเร็วสูงสุด 309.923 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ที่ความเร็วสูงสุด (เกียร์ 6) 7,050 รตน. รอบเครื่องยนต์ที่ 130 กม./ชม. (เกียร์ 8) 1,950 รตน. ความเที่ยงตรงของเข็มวัดความเร็วที่ 130 กม./ชม. - % อัตราสิ้นเปลือง ตำแหน่งเกียร์ D อัตราสิ้นเปลืองที่ความเร็ว 90 กับ 100 กม./ชม. เท่ากัน เหตุผลนั้นง่ายมากเพราะคุณจะไม่สามารถใช้ตำแหน่งเกียร์ 8 ที่ความเร็ว 90 กม./ชม. กม./ชม. กม./ลิตร 90 11.4 100 11.4 130 9.5 150 7.5 กำลังที่ความเร็ว 100 กม./ชม. (กิโลวัตต์/แรงม้า) 20.7/28.1 ภาระเครื่องยนต์ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. (%) 26.3 อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย (กม./ลิตร (กม.) ในเมือง 5,1 (406) ทางหลวง 6,5 (518) ทางด่วน 8,7 (696) อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย (ทดสอบ) 6,3 (507) อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย (โรงงาน) 8,4 (672) เวลาต่อรอบ เมื่อปรับเข้าโหมดเกียร์ธรรมดา ปรับระบบรองรับแบบสปอร์ท และ กวัตตโรโปร์เต คันนี้จะกลายเป็นสัตว์ร้ายมีอาการโอเวอร์สเตียร์ที่ควบคุมง่าย แรงม้าของรถรับประกันได้ถึงประสิทธิภาพการทำงาน และถ่ายทอดลงพื้นถนนได้ตามความต้องการ เช่นเดียวกับขณะทำความเร็ว ต้องยกนิ้วให้กับอาการอันเดอร์สเตียร์ รวมไปถึงเสถียรภาพของล้อคู่หลัง มาเซราตี กวัตตโรโปร์เต 1'19''66 คู่แข่งที่สูสี เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี 63 เอเอมจี 1'19''10 อุณหภูมิ 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิผิวทแรค 29 องศาเซลเซียส สีน้ำเงิน เดินคันเร่งเต็มที่ สีเขียว เดินคันเร่งบางส่วน สีแดง เบรค อัตราเร่ง ความเร็ว กม./ชม. เวลา วินาที 0-60 2.4 0-100 4.7 0-130 7.3 0-160 10.4 400 เมตร จากจุดหยุดนิ่ง 12.9 ความเร็ว (กม./ชม.) 180.2 1 กม. จากจุดหยุดนิ่ง 23.2 ความเร็ว (กม./ชม.) 234.8 อัตราเร่งยืดหยุ่น (ตำแหน่งเกียร์ D) น้ำหนักบรรทุกต่ำสุด/น้ำหนักบรรทุกสูงสุด ความเร็ว กม./ชม. เวลา (วินาที) 70-90 2,4/2,4 70-100 3.1/3.1 70-120 4.6/4.6 70-140 6,5/6,5 1 กม. จาก 70 กม./ชม. 21.6 ความเร็ว (กม./ชม.) 233.7 30-60 กม./ชม. เกียร์ 3 3.5 การทดสอบแบบไดนามิค เกาะถนนและมีเสถียรภาพ เหมือนเป็นการฉายหนังซ้ำเพราะมันคล้ายกับรุ่นก่อนมาก เมื่อต้องอธิบายถึงคุณภาพการขับขี่ การทรงตัว และการเกาะถนน ความเป็นจริงกวัตตโร โปร์เตใหม่คันนี้ มันมีขนาดตัวที่ใหญ่โตไม่ธรรมดาเลย (โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงน้ำหนักตัว) แต่กลับมีความสปอร์ทเต็มตัว ยิ่งกว่านั้น ระบบความปลอดภัย ทำให้รถควบคุมได้ง่ายแม้ผู้ขับไม่มีความชำนาญก็ตาม การถ่ายน้ำหนักสมดุลระหว่างอันเดอร์กับโอเวอร์สเตียร์ จากการลองในสภาพถนนเปียกเราพบว่าท้ายจะเริ่มกวาดมากขึ้นเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วเกินขีดจำกัด และมันเกิดแบบเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า คาดเดาได้ มีการทรงตัวที่ดีเยี่ยม พวงมาลัยมีความแม่นยำยอดเยี่ยม แรง จี ด้านข้าง 1.02 จี 4 ดาว การเปลี่ยนเลน บนถนนลาดยางเปียก 99 กม./ชม. 5 ดาว ทางตรง 200 กม./ชม. 5 ดาว โค้ง 101 กม./ชม. 4 ดาว ระยะเบรค ความเร็ว กม. / ชม. เมตร (จี) 100 พร้อมน้ำหนักบรรทุกต่ำสุด 39.8 (0.99) 100 พร้อมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 39.8 (0.99) 100 พร้อมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด ร้อน 39.7 (0.99) 200 พร้อมน้ำหนักบรรทุกต่ำสุด 145.5 (1,08) 100 บนถนนลาดยางแห้ง + ไหล่ทาง 43.3 (0,91) 100 บนถนนลาดยางเปียก + น้ำแข็ง 91.2 (0,43) ด้านหน้าใช้จานเบรคขนาด 380 มม. กับคาลิเพอร์ 6 พอท ส่วนด้านหลังใช้จานเบรคขนาด 350 มม. กับคาลิเพอร์ 4 พอท ถือว่าเพียงพอสำหรับชะลอความเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะใช้เบรครุนแรงขณะขับในทแรคก็ไม่มีอาการเฟดให้สัมผัส ประสิทธิภาพของระบบเบรค เบรค 10 ครั้ง ติดต่อกันจากความเร็ว 100-0 กม./ชม. พร้อมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด ระยะทาง (ม.) 1 39,8 2 39,3 3 39,5 4 39,7 5 39,2 6 39,7 7 39,6 8 39,8 9 39.7 10 39.7 30 ม. 40 ม. 50 ม. ดีเยี่ยม ปานกลาง แย่ การควบคุมพวงมาลัย ทำได้ดีสำหรับรถที่มีความยาว 5.26 เมตร รัศมีวงเลี้ยว 13.0 ม. รอบหมุนพวงมาลัย 2.7 น้ำหนักในการหมุนพวงมาลัย 2.0 กก. แรงกดคลัทช์ - กก. อากาศพลศาสตร์ cx บนถนน/หน้ารถ (ตรม.) 0.334/2.384 เสียงที่ฟังสบาย ลักษณะของรถเช่นนี้ไม่สามารถจะ "เงียบ" ได้ เสียงคำรามของเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ดังสม่ำเสมอ แต่ก็มีความสุขที่จะได้ยิน เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ทำให้รถมีความนุ่มนวลสูง ที่ความเร็ว 130 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,000 รตน. ดัชนีการได้ยินเสียง ความเร็ว กม./ชม. เดซิเบล (A) 50 บนถนนลาดยาง 55.0 50 บนถนนลาดยางเปียก 62.9 50 บนไหล่ทาง 71.7 ที่อัตราเร่งสูงสุด 78.7 ความนุ่มนวลของระบบรองรับ บางทีอาจจะนุ่มนวลน้อยกว่าคู่แข่งจากเยอรมันอยู่เล็กน้อย รวมถึงระบบรองรับด้านหลังให้ความรู้สึกกระด้าง ให้คะแนน QUATTRORUOTE รถระดับเรือธงที่เยี่ยมยอด แฝงไปด้วยจิตวิญญาณ เบาะนั่งคนขับ 4 ดาว รถซีดานที่เข้าถึงได้ในความสปอร์ท พวงมาลัยปรับตำแหน่งได้อย่างดี และวงพวงมาลัยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเหมาะสม แผงหน้าปัดและการควบคุม 4 ดาว ดีทั้งคู่ ดูชัดเจนและให้ความหรูหรา มาตรวัดแสดงผลตรงกลาง เช่นเดียวกับอุปกรณ์ควบคุมอื่นๆ สวิทช์หรี่ไฟค่อนข้างจะห่างจากพวงมาลัย เครื่องเสียงและระบบนำทาง 4 ดาว ไม่ซับซ้อนและใช้งานง่าย หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 8.4 นิ้ว อ่านได้ง่าย ระบบควบคุมอุณหภูมิ 5 ดาว รถที่เราได้ทำการทดสอบเป็นแบบ 4 โซน การรักษาอุณหภูมิทำได้ยอดเยี่ยม และมีช่องระบายอากาศที่เพียงพอ ทัศนวิสัย 3 ดาว เซนเซอร์และกล้องช่วยได้อย่างมากในการหลบหลีก, ฝากระโปรงหน้าและกระจกมองข้างที่มีขนาดใหญ่บดบังทัศนวิสัยขณะขับรถ ความประณีต 3 ดาว มีความสอดคล้องและคงเอกลักษณ์วัสดุหรูหรา มีความขัดแย้งกับวัสดุพลาสติคที่ดูมีราคาถูก รวมไปถึงการประกอบด้วย อุปกรณ์เสริม 4 ดาว ชุดอุปกรณ์เป็นอะไรที่ดี โดยการเพิ่มอุปกรณ์เสริมเข้าไปคุณก็สามารถอัพเกรดรถของคุณได้ อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย 3 ดาว รถขาดอุปกรณ์ช่วยเหลืออีเลคทรอนิคส์ที่กำลังเป็นที่นิยมมากที่สุด ถุงลมนิรภัย 6 ใบ และถุงลมนิรภัยด้านหลังเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์มาตรฐาน การใช้งาน 4 ดาว มีพื้นที่มากพอสำหรับผู้โดยสาร 5 คน แม้ว่ารูปร่างของเบาะนั่งและโพรงเกียร์จะมีขนาดใหญ่ ทำให้ความสะดวกสบายในการเดินทางสำหรับผู้โดยสารคนที่ 5 ลดลง พื้นที่เก็บสัมภาระฝาท้าย 4 ดาว เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ กวัตตโรโปร์เต รุ่นก่อนหน้านี้ และหากเทียบเท่าความจุของ ซีรีส์ 7 แม้ว่ารูปทรงจะไม่ค่อยสม่ำเสมอ ความสะดวกสบาย 4 ดาว ให้ความสะดวกสบายและผ่อนคลาย แม้ว่ามันจะไม่รู้สึกเหมือนการเดินทางบน "พรมบิน" ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของคู่แข่งบางคัน หรืออีกทางหนึ่ง นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นเอกลัษณ์ของมัน เครื่องยนต์ 4 ดาว แรงดึงสูงจริงๆ ซึ่งต้องขอบคุณเทอร์โบ แต่มันขาดบางส่วนของความรู้สึก ซึ่งมีในรุ่นก่อนหน้านี้ อัตราเร่ง 5 ดาว ค่อนข้างดีและรวดเร็ว การจับเวลาทดสอบเป็นคำตอบที่ดีสำหรับมัน เพาเวอร์แบนด์ 5 ดาว ดีมาก กำลังของเครื่องยนต์และเกียร์อัตโนมัติทำงานให้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งคู่ ระบบส่งกำลัง 5 ดาว อัตโนมัติจริงๆ ทอล์ฺคคอนเวอร์เตอร์ที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพทำให้การขับขี่มีความน่าตื่นต้น และมีความทนทานอีกด้วย พวงมาลัย 5 ดาว รวดเร็วแม่นยำและดีขึ้นทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงศักยภาพของ กวัตตโรโปร์เต ที่มีอย่างแท้จริง เบรค 5 ดาว เยี่ยมยอด และได้ตามมาตรฐานของบแรนด์มีประสิทธิภาพและมีความสมดุลอย่างดีแม้ในสถานการณ์ที่ยาก การเหยียบให้ความรู้สึกที่ดีมาก การใช้งานบนท้องถนน 5 ดาว รถลิมูซีนพื้นฐานที่กลายเป็นรถสปอร์ทในทันที ควบคุมได้ง่ายแม้จะอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน อัตราสิ้นเปลือง 3 ดาว ดีขึ้นกว่าในอดีต อัตราความสิ้นเปลืองใกล้เคียงกับคู่แข่ง ซึ่งยังคงค่อนข้างสูง ราคา 2 ดาว สูงมาก หากพิจารณาโดยคุณภาพ กำลังเครื่องยนต์ และความพิเศษของ กวัตตโรโปร์เต การรับประกัน 3 ดาว รับประกัน 3 ปี สำหรับการใช้งานตามมาตรฐานของ มาเซราตี ซึ่งถือว่าดีกว่ามาตรฐานของคู่แข่งรายอื่นๆ จากเยอรมนี