ประชันโฉม อีโคคาร์ ซีดาน

กระแสของอีโคคาร์ ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง แม้จะเบาลงไปบ้างหลังสิ้นสุดนโยบาย "รถคันแรก" ของภาครัฐ แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่างก็ยังส่งผลให้รถกลุ่นนี้ ยังเป็นที่ถวิลหาของผู้บริโภคชาวไทย และปัจจุบัน อีโคคาร์ ซีดาน ในบ้านเรา ก็มีตัวเลือกเพิ่มเป็น 3 รุ่น แม้จะออกสู่ตลาดกันคนละช่วงเวลา แต่ทั้งหมด คือ คู่แข่งโดยตรง ที่ต่างคนต่างก็งัดไม้เด็ดกันมาสุดฤทธิ์ แล้วรถรุ่นไหนจากค่ายใด จะเข้าตาทีมนักออกแบบของเรามากที่สุด ขอเชิญทัศนากันได้ตามอัธยาศัย ภัทรกิติ์ : กลุ่มนี้มีการแข่งขันกันสูง อภิชาต : เป็นอีโคคาร์ ซีดาน ที่ดัดแปลงมาจาก อีโคคาร์ ของตนเอง ฟอร์มูลา : ลูกค้าที่ซื้อรถในกลุ่มนี้ ต้องการอะไร ? ภัทรกิติ์ : ต้องการยานพาหนะอย่างแท้จริง เพราะรถทั้ง 3 คัน มีพื้นฐานมาจากรถแฮทช์แบค แล้วทุกค่ายก็ต่างทำการบ้านกันมาอย่างดี แม้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน แต่เป็นการออกแบบใหม่ ตั้งแต่เสาบีไปถึงด้านหลัง ส่วนคันที่ดูมีการปรับเปลี่ยนเยอะที่สุด น่าจะเป็น นิสสัน อัลเมรา อภิชาต : ผลการตอบรับกลุ่มอีโคคาร์ รุ่นแรกๆ ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย การตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก เช่นเดียวกับเรื่องพื้นที่ใช้สอย ที่อาจยังไม่เพียงพอกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้ ฟอร์มูลา : นิสสัน อัลเมรา ทำการบ้านเยอะที่สุด ภัทรกิติ์ : ผมไม่แปลกใจที่เห็น นิสสัน อัลเมรา วิ่งกันขวักไขว่อยู่บนท้องถนน เรียกว่าประสบความสำเร็จเรื่องยอดจำหน่าย อภิชาต : ดูจากแผนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ก็รู้ว่า นิสสัน อัลเมรา เน้นเรื่องพื้นที่ใช้สอยที่มีให้มากกว่าคู่แข่ง ภัทรกิติ์ : เหนือกว่าทุกคันในเซกเมนท์ ด้วยความกว้างและความยาวของห้องโดยสาร ที่มีให้เหลือเฟือ ฟอร์มูลา : เหนือกว่าเซกเมนท์ 1.5 ลิตร บางคันด้วยนะครับ ภัทรกิติ์ : ฮอนดา บรีโอ อเมซ พยายามเน้นจุดขายที่เป็นรถขับสนุก ขณะที่ มิตซูบิชิ แอททราจ เน้นเรื่องออพชันที่ให้มากมาย อภิชาต : ขับสนุกหรือไม่ ก็ต้องลองใช่ไหมครับ ต้องใช้ความรู้สึกกับอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสิน แต่ถ้าวัดกันเรื่องพื้นที่ใช้สอย จะเสียเปรียบ นิสสัน อัลเมรา ภัทรกิติ์ : สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดในรถทั้ง 3 คันนี้ คือ การแมทชิงระหว่างล้อกับตัวถังที่ไม่ลงตัว รถดูลอยๆ ทุกคัน อภิชาต : อาจจะเป็นเรื่องการออกแบบพแลทฟอร์ม ต้องผลิตเป็นจำนวนมาก เลยทำให้ออกมาเป็นแบบนี้ ฟอร์มูลา : อาจเป็นเพราะออฟเซทล้อ เนื่องจากการพยายามนำเสนอเรื่องวงเลี้ยวแคบกว่ารถทั่วไป ซึ่งจำเป็นต้องใช้ล้อที่มีออฟเซทเหมาะสม และไม่ทำให้ฐานล้อกว้างเกินไป ซึ่งมีผลกับเรื่องวงเลี้ยว ภัทรกิติ์ : เป็นไปได้ เรื่องนี้น่าสนใจ ใครตอบได้ช่วยตอบที แล้วถนนบ้านเรา เลวร้ายขนาดนั้นเลยหรือ ถึงต้องทำให้รถโย่งขนาดนี้ ฟอร์มูลา : เผื่อน้ำท่วม... อภิชาต : ไม่น่าใช่นะครับ ภัทรกิติ์ : ไม่รอดหรอก เพราะท้องรถไม่ได้สูงแบบ เอสยูวี ทำให้รูปทรงคล้ายรถที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนถนนที่มีสภาพเลวร้ายโดยเฉพาะ แล้วกลายเป็นว่ารถพวกนี้พอมาเสริมแต่งระบบช่วงล่างเพิ่มเข้าไป จะสวยขึ้นทันที ฟอร์มูลา : ต้องนำมาจัดรูปร่างหน้าตากันใหม่ (FITMENT) ภัทรกิติ์ : พอเข้าใจ เรื่องยางหน้าผอมๆ มีข้อดีคือ เบา กินน้ำมันน้อย แต่ไม่เกาะถนน ซึ่งเขาไม่แคร์ มันไม่จำเป็น เพราะเครื่องยนต์ไม่แรง คนขับมือใหม่ เน้นประหยัดไปเรื่อยๆ แต่พวกที่ขับรถน่ากลัวบนท้องถนนส่วนหนึ่งก็พวกมือใหม่ที่ใช้อีโคคาร์ และพวกที่น่ากลัวที่สุด คือคันที่ใช้กรอบป้ายทะเบียนคิทที ฟอร์มูลา : เอาข้อมูลมาจากไหน ? ภัทรกิติ์ : จากประสบการณ์จริงเลยครับ ภัทรกิติ์ : รถยนต์ทั้ง 3 คัน ไม่สามารถมาประกวดเรื่องการออกแบบได้ แล้วทำไม อีโคคาร์ จึงออกแนวอนุรักษนิยมทุกคัน นี่เป็นสิ่งที่ต้องตั้งคำถาม รถยนต์มันมีเซกเมนท์ ซึ่งในประเทศอื่นๆ ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ลักชัวรี ส่วนกลุ่มรถเล็กควรจะมีความคิดสร้างสรรค์เข้ากับยุคสมัย ตัวอย่างเช่น เฟียต 500/สมาร์ท หรือถ้าย้อนไปอีกหน่อยก็มี ฟอร์ด คา แต่รถเซกเมนท์นี้ของญี่ปุ่นกลายเป็นแนวอนุรักษ์นิยมแบบสุดขั้ว อภิชาต : ผมเห็นต่างนิดหนึ่ง เราคงเคยเห็นรถแนวคิด (CONCEPT CAR) ก่อนที่จะเป็น อีโคคาร์ รูปแบบออกแบบมาดีทีเดียวครับ น่าสนใจเกือบทุกรุ่น ทุกบแรนด์ แต่อาจจะติดเรื่องต้นทุน การเลือกใช้วัสดุ หรือการใช้เทคโนโลยีการผลิตและการประกอบที่ต้องควบคุมเรื่องต้นทุน ทำให้มีข้อจำกัด ผลที่ได้คือ รูปทรงแบบที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ภัทรกิติ์ : ผมสงสัยว่ามีผลการวิจัยอะไรรองรับ จึงพัฒนารถยนต์ออกมาแนวทางนี้ คนไทยอยากได้รถแบบนี้หรือครับ ตัวอย่างเช่น ไฟท้ายที่ออกแบบมาให้ดูทันสมัย กับดูเชยๆ นี่ราคาต่างกันมากหรือเปล่า จริงๆ อาจจะไม่มาก แต่ทำไมออกมาเป็นแบบนี้ไม่รู้ หรือเขาค้นพบว่า คนที่ใช้รถยนต์พวกนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย คาดหวังแค่ยานพาหนะ แอร์เย็น เพลงเพราะ ประหยัด ไม่จุกจิก ฯลฯ ฟอร์มูลา : ธรรมชาติคนไทยชอบรถยนต์ 4 ประตูมากกว่า อภิชาต : เป็นไปได้ครับ ภัทรกิติ์ : ไม่ขนาดนั้น เป็นเพราะฟังค์ชันของคนกลุ่มนี้ต่างหาก คือ เป็นแนวอนุรักษนิยมจนไม่อยากซื้อรถ 5 ประตู คนที่ใช้ อัลเมรา จะอนุรักษนิยมยิ่งกว่าคนใช้ มาร์ช เขาต้องการรถยนต์ที่ดูแพงกว่า ไม่ได้ต้องการรถยนต์ที่ดูโฉบเฉี่ยว มีความกลัวเยอะ กลัวว่าถ้าโดนชนท้ายแล้วจะมีโอกาสมาถึงตัวมากกว่า คนกลุ่มนี้ต้องการรถยนต์ที่เป็นรถยนต์จริงๆ มันก็เลยเป็นแบบนี้ ฟอร์มูลา : ผลการประชันโฉมทั้ง 3 รุ่น ภัทรกิติ์ : มิตซูบิชิ แอททราจ มีลูกเล่นเยอะสไตล์เดียวกับ มิราจ แต่ยังซ่อนอะไรหลายๆ อย่างที่เป็นรถยนต์ราคาถูกไว้ในตัว รถพวกนี้มีมือจับประตูแบบแพงหมดแล้ว แต่ แอททราจ ยังคงแบบเดิมราคาถูก นี่คือ มรดกตกทอดกันมา เป็นสิ่งที่คนซื้อรถราคาขนาดนี้ไม่คำนึงถึง แต่เขาปรับปรุงในสิ่งที่คนเห็น เช่น การติดกล้องมองหลัง พร้อมจอภาพ และยังออกแบบห้องโดยสารได้ดี โดยเฉพาะแดชบอร์ด สรุปการออกแบบของ มิตซูบิชิ แอททราจ ภายนอก ผมว่าสัดส่วนลงตัวที่สุด ความยาวต่างๆ เส้นสายดูดี ห้องโดยสารชนะเลิศ นิสสัน อัลเมรา ออกสู่ตลาดก่อนเพื่อน แต่ดีไซจ์นที่มาก่อนน่าสนใจ ดูดีมีรสนิยม ฮอนดา เป็นบริษัทที่แปลกเรื่องการออกแบบนะครับ หลายรุ่นดูเส้นสายสับสน แต่ก็มีบางคันที่ลงตัวพอดี ฮอนดา บรีโอ อเมซ เส้นสายดูสับสนในกลุ่มเดียวกัน แต่ได้ความสนุกสนานในการขับขี่มาทดแทน อภิชาต : ทั้ง 3 รุ่น ผมว่าพอๆ กัน แต่ดูเหมือน ฮอนดา จะลองผิดลองถูกเยอะไปหน่อย ฟอร์มูลา : นิยามสั้นๆ มาเลยดีกว่าครับ ภัทรกิติ์ : ฮอนดา "น้องเล็ก เด็ดศูนย์บริการ" อย่างอื่นอาจจะไม่โดดเด่น แต่เมื่อคุณต้องเข้าศูนย์บริการฮอนดา ถือว่าสุดยอด นิสสัน "มีดีที่ห้องโดยสาร" และ มิตซูบิชิ "ลูกเล่นเพียบ เฉียบที่เส้นสาย" อภิชาต : เห็นด้วยครับเน้นที่ศูนย์บริการ น่าจะเป็นปัจจัยที่ต้องเอามาร่วมตัดสินใจในการซื้อรถทุกรุ่น เพราะเรื่องรูปทรงของรถไม่แตกต่างกันมาก ฟอร์มูลา : ถ้าให้เลือกรถ 3 รุ่นนี้ อาจารย์จะเลือกรุ่นไหน แล้วเลือกเพราะเหตุผลใด ? ภัทรกิติ์ : รถกลุ่มนี้รู้สึกเขาให้อะไรเยอะ ประมาณว่าอ่านสเปคแล้วซื้อได้เลย ตัดสินใจยากเหมือนกันนะ อภิชาต : เลือกได้ทุกรุ่นครับ ชอบห้องโดยสารใหญ่ต้อง นิสสัน บริการหลังการขายดีต้อง ฮอนดา แต่ถ้าชอบทริมแบบจัดเต็มก็ มิตซูบิชิ ภัทรกิติ์ : ผมจะเลือกที่ศูนย์บริการดี เพราะคนแต่ละคนมีความต้องการไม่เหมือนกัน คนที่ต้องการ PEACE OF MIND ควรเลือก ฮอนดา คนที่ชอบห้องโดยสารกว้างขวางเลือก นิสสัน คนต้องการของเล่นที่จัดหนักมาตั้งแต่แรกเลือก มิตซูบิชิ