ทดสอบ
SPORT+SPACE พื้นที่กว้างขวาง ในร่างที่โฉบเฉี่ยว
SPORT+SPACE พื้นที่กว้างขวาง ในร่างที่โฉบเฉี่ยว
ซูซูกิ แอร์ติกา จีเอกซ์ เอที เบนซิน 4 สูบ 1.4 ลิตร 91 แรงม้า ราคา 689,000 บาท
คู่แข่ง
เชฟโรเลต์ สปิน แอลทีเซด เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร 107 แรงม้า ราคา 762,000 บาท
ปโรตอน เอกโซรา ซีพีเอส มีเดียมไลน์ เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร 125 แรงม้า ราคา 789,000 บาท
ฮอนดา ฟรีด เอสอี เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร 118 แรงม้า ราคา 839,000 บาท
จุดเด่น
- รูปทรงโฉบเฉี่ยว ไม่เทอะทะ อเนกประสงค์
- ราคาไม่สูงเกินไป
- สมรรถนะน่าพอใจ
จุดด้อย
- ระบบความปลอดภัยอยู่ในรุ่นทอพเกือบทั้งหมด
- น่าจะประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่านี้
- การออกแบบภายในยังไม่เรียบเนียน
ฟันธง
- เอมพีวี มาดสปอร์ท ทั้งหลากหลาย และสะดวกสบาย
หากนึกถึงพื้นที่ใช้สอย และการใช้งานที่หลากหลาย หนึ่งในรถที่มีความเหมาะสมเป็นลำดับแรกๆ คือ รถประเภท เอมพีวี (MPV: MULTI PURPOSE VEHICLE) โดยยังคงไว้ซึ่งการขับขี่ที่สะดวกสบายใกล้เคียงกับรถยนต์นั่งทั่วไป แน่นอนว่าหลายคนอาจนึกไปถึงรถทรงกล่อง เทอทะ จนเป็นที่มาของคำเรียกแบบบ้านๆ แบบเหมารวมว่า รถตู้ แต่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป ครั้งนี้เรามาทดสอบ ซูซูกิ แอร์ติกา (SUZUKI ERTIGA) เอมพีวี หน้าใหม่ ทรงสวยคันนี้จะมีส่วนผสมระหว่างประโยชน์ใช้สอย และความสปอร์ท กลมกล่อมหรือไม่
ภายนอก 4 ดาว
โฉบเฉี่ยว ใกล้เคียงแฮทช์แบค
รูปทรงของ แอร์ติกา ดูคุ้นตา เนื่องจากมีเส้นสายที่ใกล้เคียงกับแฮทช์แบคร่วมค่ายอย่าง สวิฟท์ (SWIFT) โดยเฉพาะตัวถังส่วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าทรงโค้ง รับกับแนวฝากระโปรง กระจังหน้าโครเมียมซี่นอน สันเหลี่ยมคมเข้ม ต่อเนื่องตลอดทั้งตัวรถ เพิ่มความโฉบเฉี่ยวได้ไม่น้อย ทำให้รถรุ่นนี้เป็นสปอร์ท เอมพีวี ที่ดูไม่น่าเบื่อ ขับไปออกงานได้ไม่เคอะเขิน
ภายใต้รูปทรงองค์เอวที่ปราดเปรียว เมื่อพิจารณาจากสเปคมิติตัวรถ แอร์ติกา มีความยาว/ความสูง/ระยะฐานล้อ ที่ 4,265/2,740/1,685 มม. เมื่อเทียบกับอีกหนึ่งคู่แข่งโดยตรงที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานอย่าง เชฟโรเลต์ สปิน (CHEVROLET SPIN) ซึ่งมีมิติ 4,360/2ล620/1,683 มม. หรือแม้กระทั่ง เอมพีวี ที่ทำตลาดมาหลายปี โตโยตา อวันซา (TOYOTA AVANZA) ที่ 4,150/2,655/1,695 มม. จะเห็นได้ว่า เอมพีวี จากค่าย ซูซูกิ มีระยะฐานล้อมากกว่าใคร แต่จะมีผลกับความกว้างขวางภายในห้องโดยสารมากน้อยแค่ไหน ต้องมาดูกันในหัวข้อถัดไป
ภายใน 3 ดาว
ดูดีเหมือน สวิฟท์ พื้นที่เหลือเฟือ
เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยสาร เราพบว่าคอนโซลหน้าของ แอร์ติกา แทบจะยกชุดมาจาก สวิฟท์ ทั้งหมด โดย เอมพีวี รุ่นนี้เป็นรถนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย แต่การประกอบถือว่าทำได้น่าพอใจ ตกแต่งภายในด้วยโทนสีเบจ เน้นความนุ่มนวล มีการใช้วัสดุ และอุปกรณ์บางอย่างแตกต่างกัน เช่น พวงมาลัยปรับระดับสูง/ต่ำเท่านั้น (สวิฟท์ สามารถปรับเลื่อนหน้า/หลัง ได้ด้วย) และไม่มีระบบแอร์อัตโนมัติ แต่ยังให้พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน (ในรุ่นย่อย จีเอกซ์) โดยสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ ลิ้นชักวางแก้วน้ำใต้ช่องแอร์ (ด้านข้างของผู้โดยสารแถวหน้า) ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารในเบาะ 2 แถวหลัง ปรับความแรงลมได้อิสระ ขณะที่ชุดเครื่องเสียงยกชุดมาจาก สวิฟท์ เช่นกัน แถมมีลำโพงทวีเตอร์มาให้ด้วย (ติดตั้งแนบเนียนบริเวณมุมซ้าย/ขวา ด้านบนของคอนโซลหน้า) ด้านคุณภาพเสียงของ แอร์ติกา จึงดีกว่า สวิฟท์ อย่างเห็นได้ชัด
เบาะนั่งมีจำนวน 7 ตำแหน่ง ตามสไตล์รถเน้นความอเนกประสงค์ยุคปัจจุบัน เบาะนั่งส่วนผู้ขับอยู่ในระดับสูง ผนวกกับรถที่ระยะความสูงจากพื้นถนนที่ 185 มม. แล้ว ทำให้มีทัศนวิสัยที่ดี ส่วนหนึ่งมาจากการใช้กระจกบังลมหน้าขนาดใหญ่ ทำมุมลาดเทพอเหมาะ นอกจากนี้ เบาะยังปรับระดับสูง/ต่ำได้ ในส่วนพื้นที่ผู้โดยสารของเบาะ 2 แถวหลัง รองรับผู้โดยสารได้ 5 คน (แต่พนักพิงศีรษะมีให้ 4 ตำแหน่ง) โดยเบาะแถว 2 สามารถปรับเอน และเลื่อนหน้า/หลังได้ หากไม่มีผู้โดยสารแถวที่ 3 แล้วถอยหลังสุด จะได้พื้นที่ช่วงขาค่อนข้างมาก แต่หากจะใช้การโดยสารทุกตำแหน่งที่นั่ง ผู้โดยสารเบาะแถว 2 ต้องเลื่อนเบาะมาข้างหน้าบ้าง แบ่งเนื้อที่กันไป ผู้โดยสารเบาะแถว 3 จึงจะมีพื้นที่วางขาอย่างพอเพียง
ส่วนการขึ้น/ลงเบาะแถว 3 สะดวกสบาย ด้วยระบบพับเบาะแถว 2 แบบดึงสลักครั้งเดียว หากต้องใช้พื้นที่เพื่อขนสัมภาระ สามารถพับเบาะได้หลากหลาย โดยการพับพนักพิงของเบาะแถว 2 และ 3 แม้ไม่ถึงกับราบเรียบต่อเนื่องกัน แต่ทำให้ขนสัมภาระทรงยาวขนาดใหญ่ได้ ขณะที่ช่องแอร์สำหรับเบาะ 2 แถวหลังมีขนาดใหญ่ให้ความเย็นได้ทั่วถึง แต่การติดตั้งยังไม่แนบเนียนนัก โดยจะยื่นจากเพดานบริเวณด้านหลังผู้โดยสารด้านหน้าพอสมควร หากตั้งใจออกแบบให้เรียบเนียนกว่านี้ จะช่วยเพิ่มความสวยงามในห้องโดยสารอีกมาก
เครื่องยนต์ 4 ดาว
แรงเกินตัว ประหยัดพอได้
เครื่องยนต์ของ แอร์ติกา เป็นแบบเบนซิน 1.4 ลิตร กำลัง 95 แรงม้า รหัสเครื่องยนต์ คือ K14B พิจารณาจากสเปคแล้วมีความกว้างกระบอกสูบ และช่วงชักที่ 73.0x82.0 มม. เทียบกับเครื่องยนต์ร่วมเครือของ สวิฟท์ รุ่นล่าสุด ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร กำลัง 91 แรงม้า รหัส K12B ซึ่งมีความกว้างกระบอกสูบเท่ากันทุกประการ (73.0x74.2) แต่ของ แอร์ติกา จะเพิ่มความจุเครื่องยนต์ด้วยการยืดช่วงชัก แสดงให้เห็นว่าเครื่องยนต์ของรถทั้ง 2 รุ่นใช้พื้นฐานร่วมกัน แต่ใช้ระบบส่งกำลังต่างกัน โดย แอร์ติกา ใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ส่วน สวิฟท์ เป็นเกียร์อัตโนมัติ ซีวีทีทางด้านคู่เปรียบเทียบสมรรถนะ เรามีข้อมูลของ ปโรตอน เอกโซรา (PROTON EXORA) เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 125 แรงม้า (รุ่นไม่มีเทอร์โบ เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ) และ ฮอนดา ฟรีด (HONDA FREED) เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 118 แรงม้า แม้มีราคาสูงกว่าค่อนข้างมาก รวมไปถึงพละกำลังที่มากกว่า แต่ให้อรรถประโยชน์ในสไตล์รถ เอมพีวี เหมือนกัน
วัดที่ความเร็วช่วงต้น 0-100 กม./ชม. แอร์ติกา ใช้เวลาที่ 15.8 วินาที นำหน้า เอกโซรา อย่างชัดเจน กับตัวเลข 17.0 วินาที แต่ยังตามหลัง ฟรีด กับเวลาที่ทำได้ 14.8 วินาที ขณะที่อัตราเร่งที่ระยะ 0-400 ม. เอมพีวี ของ ซูซูกิ ทำได้ที่ 20.2 วินาที (ความเร็ว 112.7 กม./ชม.) เอมพีวี จาก ปโรตอน ยังคงตามหลังเล็กน้อยที่ 21.0 วินาที (ความเร็ว 109.1 กม./ชม.) และนำหน้าอยู่ไม่ไกลที่ 19.8 วินาที (ความเร็ว 116.0 กม./ชม.) แสดงให้เห็นว่า แอร์ติกา มีสมรรถนะทื่ทำได้ดีเกินคาด สูสีกับรถ เอมพีวี ที่มีพละกำลังมากกว่าได้ไม่น้อยหน้า แม้จะมีพละกำลังไม่ถึง 100 แรงม้าด้วยซ้ำ แต่อย่าได้ดูแคลน
ส่วนหนึ่งจากการปรับแต่งเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะให้มีการตอบสนองที่ดี การกดคันเร่งเพื่อแซง มีความกระฉับกระเฉงพอสมควร เห็นได้จากอัตราเร่งยืดหยุ่นที่ความเร็ว 80-120 กม./ชม. แอร์ติกา อยู่ที่ 12.0 วินาที เอกโซรา 13.7 วินาที และ ฟรีด ที่ 10.9 วินาที ลำดับของอัตราเร่งของ เอมพีวี ทั้ง 3 รุ่น ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับอัตราเร่งขณะออกตัว
เมื่อเครื่องยนต์ใช้พื้นฐานร่วมกับแฮทช์แบค อีโคคาร์ เน้นความประหยัด อย่าง สวิฟท์ มาดูกันว่าอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ แอร์ติกา จะทำได้ดีแค่ไหน ที่ความเร็ว 80/100/120 กม./ชม. เอมพีวี รุ่นนี้ทำได้ที่ 19.1/16.1/11.8 กม./ลิตร นับว่าน่าพอใจสำหรับรถยนต์นั่งทรงใหญ่แบบนี้ ยิ่งเมื่อเทียบกับ เอกโซรา กับตัวเลข 15.6/13.2/10.2 กม./ลิตร และทำได้ใกล้เคียงกับ ฟรีด กับอัตราสิ้นเปลืองที่ 20.0/15.7/12.5 กม./ลิตร ถึงอย่างนั้นด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กกว่า และแรงม้าที่น้อยกว่า เราคิดว่าอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน่าจะทำได้ดีกว่านี้
ระบบรองรับ 4 ดาว
มั่นคงทั้งในเมือง/ทางไกล เบรคน่าพอใจ
ช่วงล่างของ แอร์ติกา ยังคงยกชุดมาจาก สวิฟท์ แต่มีการปรับแต่งให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ความรู้สึกที่ได้ออกไปทางนุ่มหนึบ ขณะขับผ่านคอสะพาน ไม่มีอาการโคลงตัวมากนัก ให้ความมั่นคงที่พอเหมาะ พวงมาลัยเบาแรง สะดวกสบายขณะขับขี่ในตัวเมือง นอกจากนี้ที่ความเร็วสูงบนทางด่วน หรือทางหลวง ช่วงความเร็ว 110-120 กม./ชม. ช่วงล่างรับมือได้สบาย อาการโคลงตัวมีบ้าง แต่ไม่ถึงกับเสียความมั่นคงขณะขับขี่
ทาง ซูซูกิ เลือกใช้ยาง จีที เรเดียล ซึ่งเป็นบแรนด์จากอินโดนีเซีย เช่นกัน ขนาดยาง 185/65 R15 ตามมาตรฐานรถประเภทนี้ ที่ความเร็ว 60/80 กม./ชม. แอร์ติกา มีระยะเบรคที่ 16.6/28.7 ม. ส่วน เอกโซรา ทำได้ใกล้เคียงกันที่ 17.0/29.2 ม. เช่นเดียวกับ ฟรีด ที่ดีกว่ากันเล็กน้อยที่ 15.8/28.2 ม.
สรุป
สปอร์ท เอมพีวี โดนใจด้วยความคุ้มค่า
กับราคาเริ่มต้นที่ 554,000 บาท ในรุ่น จีเอ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เป็นราคาที่ใกล้เคียงกับอีโคคาร์ ตัวทอพของหลายเจ้า ใครที่เน้นขับทางไกล อยากได้ประโยชน์ใช้สอยเต็มๆ ถือว่าเหมาะสมมาก ส่วนตัวทอพ รุ่น จีเอกซ์ ราคา 689,000 บาท จัดออพชันมาเต็มๆ ทั้งอุปกรณ์ใช้สอย และระบบความปลอดภัย เป็นราคาที่ต่ำกว่าแฮทช์แบค บี เซกเมนท์ ตัวทอพด้วยซ้ำ แต่เรื่องเนื้อที่ใช้สอย แอร์ติกา ย่อมมีมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย ภายใต้สมรรถนะ และการขับขี่ที่ทำได้ดีอย่างน่าพอใจ
จุดเด่นหลากหลายแบบนี้ ใครที่สนใจอาจต้องคิดหนักหน่อย แต่ถ้าฟันธงได้แล้ว จะรุ่นไหนก็ตาม ความคุ้มค่าของ เอมพีวี คันนี้พร้อมสนองตอบได้อยู่แล้ว
ข้อมูลจำเพาะ ซูซูกิ แอร์ติกา จีเอกซ์
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 1800-600-900
มิติ และน้ำหนัก
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว แปรผัน
ความจุ (ซีซี) 1,373
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 95/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 13.3/4,000
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดมัลทิพอยท์
ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท
หลัง ทอร์ชันบีม
ระบบบังคับเลี้ยว ฟันเฟือง และตัวหนอน
ระบบห้ามล้อ เอบีเอส อีบีดี
หน้า จาน ช่องระบายความร้อน
หลัง ดุม
ราคา(บาท) 689,000
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 6.7
0-80 กม./ชม. 10.4
0-100 กม./ชม. 15.8
0-120 กม./ชม. 22.6
0-140 กม./ชม. 31.8
0-400 ม. 20.2 วินาที ที่ความเร็ว 112.7 กม./ชม.
0-1,000 ม. 36.6 วินาที ที่ความเร็ว 147.1 กม./ชม.
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
60-100 กม./ชม. 8.5
80-120 กม./ชม. 12.0
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม 16.6/0.86
80-0 กม./ชม. 28.7/0.88
100-0 กม./ชม. 45.4/0.87
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง) 37
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 59
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 62
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 67
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 69
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร ลิตร/100 กม.
60 23.1 4.4
80 19.1 5.3
100 16.1 6.3
120 11.8 8.6
เรื่องโดย : ภูเขม หน่อสวรรค์ poukhem@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2556
คอลัมน์ Online : ทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/32071