SPORT+STYLE กลายเป็นแฮทช์แบคอเมริกันขนานแท้ !
เชฟโรเลต์ โซนิค แฮทช์แบค แอลทีเซด เบนซิน 4 สูบ 1.4 ลิตร 100 แรงม้า ราคา 687,000 บาท
คู่แข่ง
ฟอร์ด ฟิเอสตา 1.5 สปอร์ท เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร 109 แรงม้า ราคา 699,000 บาท
มาซดา 2 สปอร์ทส์ แมกซ์ซ์ เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร 103 แรงม้า ราคา 705,000 บาท
ฮอนดา แจซซ์ เอสวี เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร 120 แรงม้า ราคา 715,000 บาท
จุดเด่น
- รูปทรงสปอร์ทเข้ม โดดเด่น
- พื้นที่บริเวณผู้ขับออกแบบได้เร้าใจ
- ระบบรองรับ และยาง ยอดเยี่ยม
จุดด้อย
- สมรรถนะไม่ทันใจ
- น่าจะประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่านี้
- อุปกรณ์บางรายการอยู่ในรุ่นทอพหมด
ฟันธง
- แฮทช์แบคหน้าตาดี คบได้ไม่มีเบื่อ แถมเชื่อถือได้
ตลาดรถยนต์ระดับบี เซกเมนท์ มีการแข่งขันที่ดุเดือดมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะเป็นค่ายเล็กหรือค่ายใหญ่ ต่างก็อยากมีส่วนแบ่งในตลาดกลุ่มนี้ ไม่มากก็น้อย ไม่เว้นแม้แต่ค่ายรถจากฝั่งสหรัฐอเมริกาอย่าง เชฟโรเลต์ (CHEVROLET) ก็มาร่วมวงกับเขาด้วย โดยก่อนหน้านี้ เคยชิมลางมาแล้วกับเก๋งขนาดเล็กอย่าง อาวีโอ (AVEO) กับผลตอบรับที่ดีในระดับหนึ่ง มาปัจจุบันขอลองอีกคำรบ ส่งทั้งรุ่นซีดาน และแฮทช์แบค ทำตลาดควบคู่กัน และในครั้งนี้เราเลือกตัวทอพประจำสายพันธุ์ที่มีชื่อเรียกขานว่า โซนิค (SONIC)
ภายนอก 4 ดาว
ฝรั่งตัวใหญ่ สไตล์เด่น
รุ่นที่เรานำมาทดสอบในครั้งนี้เป็น โซนิค 5 ประตู แฮทช์แบค (HATCHBACK) ถ้าเป็นตัวถังซีดาน ผู้ผลิตจะเรียกว่า นอทช์แบค (NOTCHBACK) ตัวทอพรหัส แอลทีเซด (LTZ) เด่นตั้งแต่ด้านหน้า ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ เอกลักษณ์ของรถแทบทุกรุ่นของค่ายนี้ (DUAL PORT GRILL) คาดกลางด้วยโลโก BOWTIE ชุดไฟหน้ามีลูกเล่น จัดเรียงแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ ไร้กรอบ แยกเป็น 3 วง แนวเส้นข้างคมเข้ม ซุ้มล้อขึ้นโป่ง ดุดัน เก๋ไก๋ไม่เบากับประตูบานหลังที่ติดตั้งมือจับบริเวณขอบเสาประตู ด้านท้ายยังคงเด่นด้วยชุดไฟทรงกลมแบบแยกดวง แปลกตาอยู่บ้าง แต่ดูลงตัวกว่าตัวถังซีดาน
รุ่น แอลทีเซด ให้ล้อแมกขนาด 16 นิ้ว พร้อมกับยางประสิทธิภาพดี ยี่ห้อ คอนทิเนนทัล พรีเมียม คอนแทคท์ 2 (CONTINENTAL PREMIUM CONTACT 2) ขนาด 205/55 R16 ถือว่ามีความกว้างหน้ายางค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกัน
รูปทรงของ โซนิค แฮชท์แบค ฉีกแนวจากบรรดาคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด หากเปรียบเทียบดูแล้ว รถยนต์ระดับนี้มักจะมีเส้นสายตามสไตล์รถจากซีกโลกตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น มาซดา 2 (MAZDA 2) และ ฮอนดา แจซซ์ (HONDA JAZZ) หรืออีกยี่ห้ออย่าง ฟอร์ด ฟิเอสตา (FORD FIESTA) แม้จะเป็นบแรนด์จากสหรัฐอเมริกาเช่นกัน แต่รูปทรงยังเน้นความปราดเปรียว ต่างจาก โซนิค ที่เน้นความดุดันด้วยเหลี่ยมสัน มีบุคลิกที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งรายอื่น โชว์ความเป็นรถ อเมริกัน เต็มที่
อกเหนือจากสไตล์ที่แตกต่างแล้ว เมื่อดูที่มิติตัวถัง พบว่า โซนิค ตัวถังแฮทช์แบคมีทั้งความยาว และระยะฐานล้อ ที่ 4,039 และ 2,525 มม. มากกว่าคู่แข่งตัวถังประเภทเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น แจซซ์ (3,915/2,500 มม.) มาซดา 2 (3,913/2,490 มม.) และ ฟิเอสตา (3,950/2,486 มม.) เรียกได้ว่าไม่ได้มีแค่มาดเท่านั้น แต่ความใหญ่โตก็ยังมากกว่าคู่แข่งอีกต่างหาก
ภายใน 3 ดาว
เร้าใจผู้ขับ กว้างขวาง อุปกรณ์น้อย
สไตล์ที่โดดเด่นไม่ได้มีเพียงภายนอกเท่านั้น เมื่อเข้ามานั่งในส่วนผู้ขับ เราพบว่าการออกแบบคอนโซลหน้า ทำได้น่าสนใจมาก ราวกับย่อส่วนมาจากซีดานรุ่นพี่ร่วมค่ายอย่าง ครูซ (CRUZE) แต่ส่วนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง อยู่ที่บริเวณมาตรวัด ออกแบบได้แปลกตา ผสมผสานระหว่างมาตรวัดแอนาลอก และดิจิทอล โดยในส่วนของมาตรวัดรอบเครื่องยนต์จะเป็นเข็มแอนาลอก ขนาดใหญ่ สังเกตง่ายยามเมื่อกวาดรอบขำๆ ส่วนมาตรวัดความเร็ว ระดับเชื้อเพลิง ฯลฯ เป็นแบบแอนาลอก ทางผู้ผลิตกล่าวว่าลักษณะของมาตรวัดดังกล่าวนี้ ถอดแบบจากรถจักรยานยนต์แบบ BIG BIKE ถึงอยางนั้นเรารู้สึกว่าแม้บริเวณดังกล่าวจะดูดี มีสไตล์ที่โดดเด่น แต่ติดที่ว่าสารพัดมาตรวัดแบบแอนาลอกมีขนาดเล็กไปหน่อย
ภายใต้การออกแบบที่มีเอกลักษณ์ ยังแฝงด้วยการใช้งานแบบพอเพียง พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน ปุ่มควบคุมระบบความบันเทิง และการแสดงผลของหน้าจอ ติดตั้งอยู่ด้านขวามือของพวงมาลัย คันเกียร์ดูเรียบง่าย แต่แท้จริงแล้วแอบติดตั้งปุ่มเปลี่ยนจังหวะเกียร์แบบ บวก/ลบ บริเวณนิ้วหัวแม่โป้ง และยังมีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ของช่องแอร์ โดยสามารถ เปิด/ปิด ช่องด้วยการหมุนที่จับตรงกลาง นอกจากนี้ภายใต้การออกแบบมีสไตล์ ยังแฝงประโยชน์ใช้สอยอย่างพอเพียง นับดูแล้วจะมีช่องเก็บของถึง 32 จุด ทั่วห้องโดยสาร
นอกเหนือความโดดเด่นด้านการออกแบบ และประโยชน์ใช้สอยแล้ว โซนิค แฮทช์แบค มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางพอสมควร สมกับระยะฐานล้อที่มากที่สุดในหมู่เพื่อนระดับเดียวกัน เบาะหลังพับลงมาได้แบบ 60 : 40 แม้ไม่ถึงกับเป็นพื้นราบ แต่ก็มีพื้นที่ใช้สอยไม่แพ้ใคร อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ใช้สอยบางอย่างกลับมีติดตั้งเฉพาะรุ่นทอพ แอลทีเซด เช่น ช่องต่อ ยูเอสบี (USB) ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว อุปกรณ์ที่ว่ามาน่าจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับทุกรุ่นย่อยด้วยซ้ำ
เครื่องยนต์ 3 ดาว
สมรรถนะ และความประหยัด เป็นพระรอง
แม้ โซนิค จะเป็นแฮทช์แบคระดับ บี เซกเมนท์ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แต่ ขุมกำลังของรถรุ่นนี้กลับมีขนาดเพียง 1.4 ลิตร รหัส A14XFR ให้กำลัง 100 แรงม้า เทียบกับเครื่องยนต์บลอคเก่าที่ใช้กับ อาวีโอ มีขนาด 1.4 ลิตร เท่ากัน รหัส F14D3 มีกำลังที่ 94 แรงม้า และมีจุดแตกต่างสำคัญ คือ โซนิค ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขณะที่ อาวีโอ มีเพียง 4 จังหวะ
สำหรับคู่เปรียบเทียบด้านสมรรถนะ เราเลือกรถแฮทช์แบคระดับเดียวกัน และมีขนาดเครื่องยนต์เท่ากันที่ 1.4 ลิตร นั่นคือ ฟอร์ด ฟิเอสตา 5 ประตู แฮทช์แบค รุ่นย่อย สไตล์ มีกำลังใกล้เคียงกันที่ 95 แรงม้า (ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ)
เริ่มกันที่ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. โซนิค ออกตัวไปก่อนที่ 15.4 วินาที แต่ก็ถูก ฟิเอสตา กลับมานำหน้าเล็กน้อยที่ 15.1 วินาที เมื่อกดเพื่อเร่งแซงที่ช่วงความเร็ว 80-120 กม./ชม. แฮทช์แบคของ เชฟโรเลต์ ทำได้ที่ 11.2 วินาที กลับมานำหน้าได้ เนื่องจาก ฟิเอสตา ช้ากว่าเล็กน้อยที่ 11.9 วินาที
เมื่อลองจับมาวัดอัตราเร่งกันแบบยาวๆ ที่ช่วงระยะทาง 0-1,000 ม. โซนิค ใช้เวลา 36.8 วินาที (ที่ความเร็ว 141.2 กม./ชม.) ส่วน ฟิเอสตา ทำได้สูสีอีกครั้ง กับเวลา 36.5 วินาที (ที่ความเร็ว 155.0 กม./ชม.) ขณะที่อัตราเร่งแบบควอร์เตอร์ไมล์ 0-400 ม. ทั้ง 2 รุ่น ทำได้เท่ากันพอดี กินกันไม่ลง ที่ 20.1 วินาที
จากอัตราเร่งในส่วนต่างๆ ทำให้เห็นว่า โซนิค มีสมรรถนะในระดับเดียวกับเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร ของคู่แข่ง แม้จะใช้เกียร์ถึง 6 จังหวะ แต่อัตราทดที่ค่อนข้างชิด ทำให้ช่วงความเร็วปลายยังคงใช้รอบเครื่องยนต์ค่อนข้างสูง โดยขณะแล่นที่เกียร์ 6 ที่ 3,000 รตน. ความเร็วจะอยู่ประมาณ 120 กม./ชม. เท่านั้น การตอบสนองเครื่องยนต์ขณะออกตัวค่อนข้างช้า ต้องพ้นรอบกลางถึงจะมีความกระฉับกระเฉงให้สัมผัส ใครที่อยากเร้าใจมากขึ้นอาจต้องใช้ปุ่ม บวก/ลบ เข้าช่วยอีกแรง
มาที่เรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่ความเร็ว 60/80 กม./ชม. โซนิค อยู่ที่ 20.2/17.3 กม./ลิตร เทียบกับ ฟิเอสตา ทำได้ที่ 20.0/19.2 กม./ลิตร แม้ในช่วงความเร็วต่ำ แฮทช์แบคเน้นสไตล์อย่าง โซนิค จะทำได้ดี แต่เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้นกลับมีอัตราสิ้นเปลืองมากกว่า ฟิเอสตา ถึงตัวเลขจะไม่ถึงกับแตกต่างอย่างขาดลอยก็ตามที
จากการวัดประสิทธิภาพด้านสมรรถนะ และการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เรามีความรู้สึกว่าแม้ เชฟโรเลต์ โซนิค จะหันมาใช้เครื่องยนต์บลอคใหม่ รวมไปถึงเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แต่การปรับแต่งที่อาจมุ่งเน้นไปที่ความสนุกสนานขณะขับขี่ (อย่างน้อยในด้านความรู้สึก) ทำให้หัวข้อในส่วนนี้ไม่ใช่จุดเด่นของรถรุ่นดังกล่าว ถือว่าทำได้ในระดับ พอใช้ได้ เท่านั้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกัน
ระบบรองรับ 5 ดาว
เบรคยอดเยี่ยม ยางประสิทธิภาพดี
ช่วงล่างของ โซนิค มาในสไตล์ ยูโร ไรด์ (EURO RIDE) แบบที่ใช้ในรถยนต์นั่งหลายรุ่นของ เชฟโรเลต์ ให้ความรู้สึกที่หนึบแน่น ผสมความนุ่มนวลพอประมาณ มีความมั่นคงเป็นอย่างดี ทั้งทางตรง และทางโค้ง ผนวกกับการบังคับควบคุมที่หนักมือเล็กน้อย ตอบสนองแม่นยำ คุณลักษณะที่สะท้อนออกมาให้ความรู้สึกหนักแน่นราวกับเป็นซีดานรุ่นใหญ่ นับว่าทาง เชฟโรเลต์ ปรับแต่งช่วงล่าง และการบังคับควบคุมได้ลงตัว
ถ้าให้เทียบความรู้สึกแล้ว มาซดา 2 จะมีระบบรองรับที่หนึบแน่นชัดเจน ส่วน แจซซ์ จะหนึบนุ่ม พวงมาลัยตอบสนองไว และ ฟิเอสตา จะออกไปทางนุ่มหนึบ พวงมาลัยน้ำหนักปานกลาง ขณะที่ทาง โซนิค จะหนึบนุ่ม แบบหนักแน่น ไม่กระด้าง อีกส่วนหนึ่งเพราะยางที่ใช้ ดังที่กล่าวไว้ในหัวข้อ ภายนอก ด้วยหน้ายางที่กว้างกว่าคู่แข่งที่ 205 มม. (ปกติคู่แข่งจะมีความกว้างของหน้ายางที่ 195 มม.) และเป็นยางแบบสปอร์ท ยิ่งเสริมความได้เปรียบเรื่องการยึดเกาะถนน และความมั่นคง
ผลลัพธ์ด้านระยะเบรคที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. โซนิค ทำได้ที่ 15.1/26.1/40.0 ม. ตามลำดับ ถือเป็นระยะเบรค ดีที่สุด ในหมู่รถแฮทช์แบค บี เซกเมนท์ จากฐานข้อมูลของเรา โดยรถที่เคยทำได้ที่สุดก่อนหน้านี้ คือ ฟิเอสตา ตัวทอพ กับระยะเบรคที่ 15.2/27.1/40.8 ม. แม้จะเฉือนกันเพียงนิดเดียวในแต่ละช่วงความเร็ว แต่ก็แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของระบบเบรค ผนวกกับยางคุณภาพดี ถือเป็นจุดแข็งประการหนึ่งของ โซนิค
สรุป
เด็กแนวอเมริกัน โดดเด่นด้วยสไตล์
เชฟโรเลต์ โซนิค เปรียบเหมือนเป็น เด็กแนว ที่มีสไตล์การแต่งตัว และบุคลิกที่ไม่เหมือนใคร หาใช่หนุ่มกล้ามโตพละกำลังมากมายขนาดที่จะต้องไป งัดข้อ กับคนอื่น สมรรถนะจึงไม่ใช่สาระสำคัญของรถคันนี้ หากแล่นมาพร้อมกับบรรดาหมู่เพื่อนระดับเดียวกัน เชื่อว่าหลายคนคงต้องชายตามอง โซนิค คันนี้ก่อนเป็นแน่แท้ รวมไปถึงการตกแต่งภายในที่เร้าใจ มีสไตล์โดดเด่น ชวนให้ขึ้นไปขับอย่างไม่รู้เบื่อ แถมยังมีระบบรองรับ และการบังคับควบคุมที่สมดุล รวมไปถึงระบบเบรคดีเยี่ยม แม้อุปกรณ์ใช้สอยแบบครบๆ จะอยู่ในรุ่นทอพเสียส่วนใหญ่ก็ตามที หากมีออพชันทั่วถึงกว่านี้ จะเสริมความน่าสนใจของรุ่นย่อยรองลงมาได้อีกไม่น้อย
ใครสนใจฝรั่งวัยรุ่น หน้าตาดี ควงแล้ว โก้เก๋ จนหลายคนอาจหันมามอง ไม่มีเบื่อยามเมื่ออยู่เคียงข้าง แถมยังเชื่อใจได้ ไม่มีโลเล สเปคขนาดนี้แล้ว ถ้าถูกใจ อย่าได้รอช้า
ข้อมูลจำเพาะ เชฟโรเลต์ โซนิค แฮทช์แบค แอลทีเซด
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2791-3400
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,039/1,735/1,517
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,509/1,509
ฐานล้อ (มม.) 2,525
น้ำหนัก (กก.) 1,280
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 46
เครื่องยนต์
แบบ เบนซิน 4 สูบ
ความจุ (ซีซี) 1,398
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 97.0/77.5
อัตราส่วนกำลังอัด 10.5:0
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 100/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 13.3/4,000
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 6
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง ทอร์ชันบีม
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส
หน้า จาน พร้อมช่องระบายความร้อน
หลัง ดุม
ราคา (บาท) 687,000
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 6.6
0-80 กม./ชม. 10.4
0-100 กม./ชม. 15.4
0-120 กม./ชม. 22.2
0-140 กม./ชม. 35.8
0-400 ม. (ที่ความเร็ว กม./ชม.) 20.1 (113.9)
0-1,000 ม.(ที่ความเร็ว กม./ชม.) 36.8 (141.2)
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
60-100 กม./ชม. 8.4
80-120 กม./ชม. 11.2
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม 15.1 (0.94)
80-0 กม./ชม. 26.1 (0.96)
100-0 กม./ชม. 40.0 (0.98)
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง กม./ลิตร (ลิตร/100 กม.)
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 20.2 (5.0)
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 17.3 (5.8)
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 14.9 (6.9)
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 11.9 (8.5)
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง) 41
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 61
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 65
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 67
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 70
ความคลาดเคลื่อนของมาตรวัดความเร็ว (กม./ชม.)
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 58
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 78
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 98
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 117
หมายเหตุ : รถใหม่
เรื่องโดย : ภูเขม หน่อสวรรค์ poukhem@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2556
คอลัมน์ Online : ทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/32070