ถ้าพูดถึงรถเอมพีวี สักคัน คุณนึกถึงอะไร ? รถที่ใช้งานได้สารพัดประโยชน์ ทั้งบรรทุกผู้โดยสาร บรรทุกสิ่งของ หรืออื่นๆ และแน่นอนว่า คุณต้องนึกถึงรถยี่ห้อเหล่านี้ ปโรตอน เอกโซรา, โตโยตา อวันซา, ฮอนดา ฟรีด ซึ่ง 2 ยี่ห้อหลัง คุณคงคุ้นเคยดี ถึงดีกรีความฮอท ทั้งสมรรถนะ ราคาขายต่อ ที่เข้าข่ายซื้อง่าย ขายคล่อง ราคามือสองไม่ตกแบบน่าใจหาย

ถ้าพูดถึงรถเอมพีวี สักคัน คุณนึกถึงอะไร ? รถที่ใช้งานได้สารพัดประโยชน์ ทั้งบรรทุกผู้โดยสาร บรรทุกสิ่งของ หรืออื่นๆ และแน่นอนว่า คุณต้องนึกถึงรถยี่ห้อเหล่านี้ ปโรตอน เอกโซรา, โตโยตา อวันซา, ฮอนดา ฟรีด ซึ่ง 2 ยี่ห้อหลัง คุณคงคุ้นเคยดี ถึงดีกรีความฮอท ทั้งสมรรถนะ ราคาขายต่อ ที่เข้าข่ายซื้อง่าย ขายคล่อง ราคามือสองไม่ตกแบบน่าใจหาย แต่ถ้าคุณกำลังมองหารถเอมพีวี ที่มีสมรรถนะไม่เป็นรองใคร รวมถึงราคาจำหน่ายที่ไม่ดุดันเหมือนบรรดาเจ้าตลาดที่ผมกล่าวมา ผมเชื่อว่า ชื่อของ ซูซูกิ เออร์ติกา น่าจะเป็นตัวเลือกในใจของใครอีกหลายคนเช่นกัน ซูซูกิ ในปีนี้ เปิดตัวได้ร้อนแรงจริงๆ หลังจากที่ฟาดฟันในตลาดอีโคคาร์ ด้วยรุ่น สวิฟท์ ถึงขนาดขายดีเป็นเทน้ำ เทท่า ล่าสุด ณ เดือนนี้ ถ้าคุณอยากครอบครองเจ้า สวิฟท์ เชื่อหรือไม่ว่า คุณต้องยอมรับเงื่อนไขที่จะรอรับรถประมาณต้นปีหน้า ! และเป็นการสานต่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซูซูกิ ไม่รอช้า ส่งจดหมายเชิญให้เราไปทดลองขับ ซูซูกิ เออร์ติกา รถเอมพีวี น้องใหม่แกะกล่อง ที่การันตีดีกรีรถนำเข้าจากอินโดนีเซีย ก่อนที่จะเปิดตัวเกือบ 1 สัปดาห์ บนเส้นทางกรุงเทพ ฯ-พัทยา วิ่งไป-กลับระยะทางประมาณ 300 กม. ขับชิลล์ๆ กินลมชมวิวไปเรื่อยๆ ตามประสารถครอบครัว ในวันนั้นผมได้ลองขับและรับรู้ถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 1.4 ลิตร 95 แรงม้า บลอคเครื่องรุ่นนี้ ใหญ่กว่าน้อง สวิฟท์ 200 ซีซี และมีแรงม้ามากกว่า 4 ตัว สมรรถนะการขับขี่นั้น ตอบโจทย์ครอบครัวที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ ที่ต้องการความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ทั้งความสามารถในการทรงตัว การยึดเกาะถนน ด้วยความที่ว่า เออร์ติกา เป็นรถที่สร้างบนพแลทฟอร์มของ สวิฟท์ ใหม่ ที่มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแกร่ง บวกกับมีการขยายความกว้างและความยาวของฐานล้อ ทำให้การควบคุมรถในโค้งทำได้นิ่ง ช่วงล่างไม่มีอาการโยนตัว เกาะหนึบทุกช่วงความเร็วของรถ ไม่ว่าจะลองเปลี่ยนเลนบนรอยต่อสะพาน หรือทางขรุขระ ตัวรถนิ่ง และควบคุมง่าย ส่วนฟังค์ชันความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารนั้น ภายในกว้าง และสูงกว่า สวิฟท์ ทำให้ดูกว้างขวาง นั่งสบาย ส่วนการตกแต่งภายใน ชุดคอนโซลหน้า แผงหน้าปัด และพวงมาลัย เหมือนของ สวิฟท์ จะมีรายละเอียดที่ต่างกันบ้างเล็กน้อย เช่น ไม่มีปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และไม่มีแผงควบคุมแอร์ดิจิทอล รายละเอียดทั้งหมดจะคล้ายกันมาก รวมถึงเบาะนั่ง ที่เปลี่ยนโทนสีสันจากเทาดำ เป็นสีเบจ โทนอ่อน และที่แตกต่างกัน คือ เออร์ติกา มีแอร์หลังคา สำหรับที่นั่งแถว 2 และแอร์สำหรับที่นั่งแถว 3 พร้อมฟังค์ชันการพับเบาะที่ง่ายดาย เพียงแค่ 1 จังหวะ ก็ก้าวเข้าสู่ที่นั่งแถว 3 ได้แล้ว ส่วนการพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระนั้น มีมากพอที่จะแบกรับถุงกอล์ฟ 2-3 ใบ พร้อมกระเป๋าเดินทาง และอุปกรณ์อื่นๆ สมรรถนะในการลองขับ อัตราเร่งตีนต้นในการออกตัว ค่อนข้างจะใช้รอบเครื่องยนต์สูงสักนิด ที่ความเร็ว 60-70 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องยนต์สูงถึง 2,000 กว่ารอบ แต่พอรถเคลื่อนตัวไปได้สักระยะ รอบเครื่องยนต์พุ่งขึ้นไปประมาณ 3,000 รตน. แรงบิดจะสั่งแรงม้าให้ไหลต่อเนื่อง ความเร็วของรถจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ แบบชิลล์ๆ 80-110 กม./ชม. ทำได้ต่อเนื่องไม่สะดุด และเพิ่มความเร็วได้โดยไม่ลากรอบ วิ่งไปกลับกรุงเทพ ฯ-พัทยา อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ในขั้นน่าประทับใจ และยิ่งประหลาดใจเพิ่มขึ้น กับราคาจำหน่ายที่เปิดตัวไม่แรงจนเกินไป แว่วมาว่า จะเคาะราคาขายไม่ถึง 7 แสนบาท งานนี้คู่แข่งเจ้าตลาดเกิดอาการหนาวๆ ร้อนๆ ละครับ