ทั่วไป
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน ปี '55 กับ '54
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน ปี '55 กับ '54
ตลาดโดยรวม + 446.7 %
รถยนต์นั่ง + 487.2 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ + 568.3 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ + 1,213.8 %
รถขับเคลื่อน 4 ล้อ + 234.4 %
รถเอมพีวี + 216.1 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-พฤศจิกายน ปี '55 กับ '54
ตลาดโดยรวม + 72.1 %
รถยนต์นั่ง + 73.9 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ + 65.9 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ + 212.5 %
รถขับเคลื่อน 4 ล้อ + 73.4 %
รถเอมพีวี + 112.8 %
อะไรๆ ก็เป็นสถิติใหม่ไปเสียทั้งหมดในปี 2555 นี่ยังไม่ทันหมดปีดี หลายสถิติใหม่ก็เกิดขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างยอดการส่งออกรถยนต์ไปจำหน่ายต่างประเทศ เดือนพฤศจิกายนทำสถิติใหม่ส่งออกไปสูงถึง 100,255 คัน สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 ทำรายได้เข้าประเทศกว่า 46,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดการส่งออกตั้งแต่ต้นปีมาก็ใกล้จะทะลุเกิน 1 ล้านคันแล้ว โอกาสเกิน 1 ล้านคันเป็นไปได้อย่างมาก หรือยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศเดือนพฤศจิกายนก็ผลิตรวมกันได้สูงถึง 256,581 คัน รวมแล้ว 11 เดือน เราผลิตรถยนต์ในประเทศไปแล้วถึง 2ล้าน 2 แสนกว่าคัน กระนั้นก็ดีใครที่จองรถยนต์รุ่นเด่นโมเดลดังยี่ห้อฮิท ก็ยังต้องร้องเพลงรอกันเป็นเดือนๆ อยู่ดี ส่วนทางด้านการซื้อขายรถยนต์ใหม่ป้ายแดง เดือนพฤศจิกายนก็พุ่งสูงเช่นกัน ทำสถิติเอาไว้ถึง 140,310 คัน สูงกว่าเดือนพฤศจิกายนปี 2554 เดือนที่น้ำกำลังอาละวาดอย่างหนักถึง 446.7 % ส่งผลให้ยอดสะสมของปี 2554 ปาเข้าไปที่ 1,272,795 คัน งดงามกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 72.1 %
ผลจากการที่โรงงานประกอบในประเทศรวมหัวกันปั๊มรถยนต์ออกมาส่งมอบให้แก่ลูกค้า ทั้งในและต่างประเทศได้สูงสุด ทำให้ตัวเลขยอดจำหน่ายเดือนพฤศจิกายนของผู้ค้ารถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ล้วนแต่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งสิ้น ยกเว้นบางรายที่เป็นบแรนด์นำเข้า ที่ตัวเลขไม่ค่อยจะน่าอภิรมย์เท่าใดนัก 5 อันดับแรกที่เป็นขวัญใจผู้ใช้รถในบ้านเรา เดือนพฤศจิกายนยอดจำหน่ายเกิน 1 หมื่นคันกันทั้งนั้น หัวขบวน โตโยตา ปาเข้าไปที่ 45,942 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 32.7 % รองลงมาเป็น ฮอนดา ยักษ์ใหญ่ที่สร่างไข้น้ำท่วมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเดินเปิดลุยเต็มที่ได้ยอดไปอีก 23,036 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.4 % อีซูซุ ขาใหญ่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ก็เกิน 2 หมื่นคันเช่นกัน ในเดือนนี้ทำยอดจำหน่ายได้ 21,724 คัน รับส่วนแบ่งตลาดไป 15.5 % ในส่วนของ นิสสัน ที่รถเก๋งทั้งอีโคคาร์ และขยับไซซ์ขึ้นหน่อยเป็น ซิลฟี กำลังร้อนแรง แต่พิคอัพออกจะเนือยไปแล้ว เพราะโมเดลนี้อยู่ในตลาดมานานเต็มที่ อัดแคมเปญเสริม ออกรุ่นพิเศษมาหลายต่อหลายรอบ น่าจะเปลี่ยนโมเดลได้แล้ว ทั้งตลาด นิสสัน อยู่ในอันดับ 4 ด้วยยอด 16,095 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.5 % สำหรับ มิตซูบิชิ ปีหน้าคงต้องโฟคัสไปที่อีโคคาร์ 4 ประตูซีดานแล้ว เฉพาะโมเดลที่มีจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ปิดยอดเดือนพฤศจิกายนด้วยตัวเลข 14,552 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 10.4 % อยู่ในอันดับที่ 5
ในส่วนของยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีมา อีซูซุ อยู่ในอันดับ 2 และมิตซูบิชิ อยู่ในอันดับที่ 4 เปลี่ยนแปลงจากอันดับรายเดือน มกราคมถึงพฤศจิกายน โตโยตา นำโด่งไปที่ 475,137 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37.3 % อีซูซุ ตามมาอย่างห่างๆ ด้วยยอดรวม 191,897 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.1 % ฮอนดา น่าจะพึงพอใจพอสมควรกับอันดับที่ 3 อย่างแน่นอนในปี 2555 หลังจากที่ผ่านวิกฤตครั้งใหญ่มา มียอดสะสมอยู่ที่ 150,745 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 11.8 % มิตซูบิชิ มียอดสะสมรวม 11 เดือน 116,197 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.1 % และนิสสัน ปลอดภัยไร้กังวลกับอันดับที่ 5 จากยอดจำหน่ายรวมตั้งแต่ต้นปี 108,832 คัน รับส่วนแบ่งตลาด 8.6 %
สำหรับยอดจำหน่ายรถยนต์ประเภทพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนพฤศจิกายน ปี 2555 เทียบกับเดือนพฤศจิกายนปี 2554 แล้วคนละเรื่องเดียวกันเลย ปี 2554 ยอดจำหน่ายหายไปกับสายน้ำเหลืออยู่เพียง 7,000 กว่าคัน แต่เดือนพฤศจิกายนปี 2555 ท้องถนนแห้งผาก บางพื้นที่ของประเทศต้องประกาศเป็นเขตวิบัติจากภัยแล้วเสียด้วย แต่ยอดจำหน่ายยังงดงามมาก ปิดยอดจำหน่ายของเดือนพฤศจิกายนที่ 48,620 คัน สูงกว่ากันถึง 568.3 % เลยทีเดียว โตโยตา ไฮลักซ์ วีโก แชมพ์ เกือบจะไม่ได้เป็นแชมพ์เสียแล้วในเดือนนี้ โดน อีซูซุ ดี-แมกซ์ ใหม่ ไล่กวดเกือบทัน ยอดจำหน่ายห่างกันอยู่เพียง 200 กว่าคันเท่านั้น โตโยตา ทำได้ 18,354 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37.7 % ขณะที่ อีซูซุ ปิดยอดเดือนนี้ที่ 18,068 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37.2 % เกือบเสียตำแหน่งแชมพ์รายเดือนเสียแล้ว สำหรับ มิตซูบิชิ ไร้ปัญหากับอันดับที่ 3 มียอดจำหน่ายเพิ่มเข้ามา 5,275 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 10.8 % อันดับที่ 4 เป็นของค่าย เชฟโรเลต์ กับยอดจำหน่ายที่ทำได้ 2,778 คัน รับส่วนแบ่งตลาด 5.7 % ส่วน นิสสัน ถึงจะโมเดลเก่าคร่ำสังเวียนในตลาดนี้ แต่ความไว้เนื้อเชื่อใจ ประกอบกับพโรโมชันยังน่าสนใจ ได้อันดับที่ 5 ไปเหมือนเคยกับยอดจำหน่าย 1,904 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.9 % รวมตั้งแต่ต้นปีมาตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ตลาดนี้มียอดรวมสะสมที่ 497,616 คัน สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 65.9 % และเป็น มาซดา ที่มี บีที-50 พโร ใหม่ เป็นตัวเดินตลาด ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมถีบตัวขึ้นมาอยู่ใน 5 อันดับแรกได้ ส่งผลให้ นิสสัน หายไปจากทอพไฟว์ พิคอัพขับ 2 ล้อของ โตโยตา มียอดสะสมถึงเดือนพฤศจิกายนที่ 190,406 คัน ส่วนแบ่งตลาด 38.3 % อีซูซุ 157,233 คัน ส่วนแบ่งตลาด 31.6 % มิตซูบิชิ มีตุนไว้แล้วที่ 53,007 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.7 % เชฟโรเลต์ ผลงานเยี่ยมไม่เบากับอันดับที่ 4 ด้วยยอด 31,628 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.4 % และมาซดา ที่เก็บเล็กผสมน้อยไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 ทำยอดรวมตั้งแต่ต้นปีได้แล้ว 21,706 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 4.4 %
พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ นี่ก็เป็นอีกตลาดหนึ่งที่ โตโยตา เกือบพลาดท่าโดนสอยร่วงจากบัลลังก์แชมพ์รายเดือน และเป็น อีซูซุ เจ้าเดิมเหมือนกันที่เกือบทำสำเร็จ แต่ก็ยังได้แค่เกือบจากยอดรวมทั้งตลาดของเดือนพฤศจิกายน 2555 ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 3,153 คัน เพิ่มสูงขึ้นจากพฤศจิกายนปี 2554 ถึง 1,213.8 % จาก 8 ทางเลือกเป็น โตโยตา ที่มีผู้เลือกใช้สูงสุดเป็นจำนวน 1,263 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 40.1 % อีซูซุ มีผู้ให้ความไว้วางใจเลือกใช้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ขายได้ 1,166 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37.0 % ฟอร์ด ใหม่ ตัวใหญ่บึกบึน ที่ทำเอาเจ้าของหลายคนปวดหัวเวลาจอดเหมือนกัน อยู่ในอันดับ 3 ได้ไป 324 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.3 % อันดับที่ 4 เป็นของ เชฟโรเลต์ มีผู้เป็นเจ้าของไป 205 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 6.5 % ส่วนอันดับที่ 5 เป็น มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 146 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 4.6 %
รวมตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงเดือน 11 ยอดรวมของรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปรับตัวสูงกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่ไม่ต้องออกไปลอยกระทงนอกบ้าน เพราะหย่อนลงจากหน้าต่างบ้านชั้น 2 ได้เลยถึง 212.5 % ยอดจำหน่ายรวมสูงถึง 45,646 คัน ความนิยมสูงสุดในรถยนต์ประเภทนี้เป็นไปตามปกติไม่เปลี่ยนแปลง โตโยตา 24,511 คัน ส่วนแบ่งตลาด 53.7 % อีซูซุ 13,779 คัน ส่วนแบ่งตลาด 30.2 % เชฟโรเลต์ 2,131 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.7 % เป็นยอดจำหน่ายที่ปรับตัวสูงสุดในตลาดรถยนต์ประเภทนี้ ฟอร์ด จำหน่ายไปแล้ว 2,052 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.5 % และมิตซูบิชิ 1,672 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.7 %
รถเอสยูวี ที่ปัจจุบันมีทั้งตัวใหญ่เบิ้มสำหรับงานลุยจริงๆ กับตัวหย่อมลงมา ได้ทั้งสวย หรู ลุย ในเวลาเดียวกัน เป็นตลาดรถยนต์ที่มาแรงทั้งในตลาดโลกและตลาดไทยในเวลานี้ ยอดจำหน่ายเดือนพฤศจิกายน รวมกันอยู่ที่ 9,810 คัน ปรับตัวสูงขึ้นจากพฤศจิกายน ปี 2554 ถึง 234.4 % เชฟโรเลต์ ทำผลงานได้ดีเป็นพิเศษในเดือนนี้ ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 2 แทน มิตซูบิชิ ส่วนหัวแถวเป็น โตโยตา เหมือนเดิม ทำยอดได้ 4,116 คัน ส่วนแบ่งตลาด 42.0 % เชฟโรเลต์ อันดับที่ 2 จำหน่ายได้ 1,637 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.7 % อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 1,605 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.4 % ฮอนดา ที่ได้เลือดใหม่ของ ซีอาร์-วี มาทำตลาดในช่วงปลายปี เดือนนี้มียอดจำหน่าย 1,541 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.7 % อีซูซุ อันดับ 5 เช่นเดิม 638 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.5 % ยอดรวม 11 เดือน อยู่ที่ 85,319 คัน ปรับตัวสูงขึ้น 73.4 % 5 ผู้นำตลาดเมื่อผ่าน 11 เดือน ประกอบด้วย โตโยตา 33,224 คัน ส่วนแบ่งตลาด 38.9 % มิตซูบิชิ 23,971 คัน ส่วนแบ่งตลาด 28.1 % เชฟโรเลต์ 14,917 คัน ส่วนแบ่งตลาด 17.5 % ฮอนดา 6,068 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.1 % และอีซูซุ 4,202 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.9 % เป็นเพียงเจ้าเดียวใน 5 อันดับแรกที่ยอดรวมยังสู้ตัวเลขที่ทำไว้ในปีที่แล้วไม่ได้ คงต้องรอให้ มิว-7 ตัวใหม่ มาช่วยกู้สถานการณ์ในปีหน้าฟ้าใหม่เสียกระมัง
รถเอมพีวี ตลาดนี้ถึงตัวเลขจะไม่สูงมากเหมือนตลาดอื่น แต่การปรับตัวในเดือนพฤศจิกายนปี 2555 ก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจากปี 2554 เช่นกัน ปี 2554 ยอดอยู่ที่ 771 คัน พอมาปี 2555 ทำได้ถึง 2,437 คัน เพิ่มขึ้นถึง 216.1 % ขณะที่ยอดรวมตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้น 112.8 % จากยอดจำหน่ายรวม 24,453 คัน ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็นรถตลาดที่ซื้อง่ายขายพอไหว โตโยตา, ฮอนดา, ปโรตอน, ซังยง, ซูซูกิ จะมียี่ห้ออื่นแทรกเข้ามาบ้างเป็นบางเดือน เช่น วูลิง และเกีย ในเดือนพฤศจิกายนนี้
เดือนธันวาคม สงสัยจะร้อนแรงสุดๆ เพราะเป็นเดือนสุดท้าย โอกาสสุดท้าย สำหรับโครงการรถยนต์คันแรกโดยเฉพาะในงาน MOTOR EXPO 2012 ที่มีสถิติใหม่เกิดขึ้น และยอดจำหน่าย 140,310 คัน ในเดือนพฤศจิกายน มีโอกาสที่จะถูกทำลายลงไปด้วยสถิติใหม่อย่างแน่นอน
เรื่องโดย : ขุนสัญจร 4wheels@autoinfo.co.th
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/31721