ขออนุญาตตั้งชื่อคอลัมน์หนนี้เป็นภาษาอังกฤษหน่อยนะครับ เพราะจะดูขลังกว่าใช้ภาษาไทย ไทยแลนด์ โอนลี

ขออนุญาตตั้งชื่อคอลัมน์หนนี้เป็นภาษาอังกฤษหน่อยนะครับ เพราะจะดูขลังกว่าใช้ภาษาไทย ไทยแลนด์ โอนลี คงไม่ต้องบอกว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร เพราะเป็นข่าวกันใหญ่โต กรณีกรมสรรพสามิต ประกาศรายชื่อรถรุ่นใหม่เอี่ยมล่าสุด ขึ้นเวบไซท์ของกรม ฯ เมื่อกลางเดือน ให้รถ โตโยตา วีออส 7 รุ่น ได้รับสิทธิเข้าโครงการคืนภาษีรถคันแรก เพราะขึ้นไลน์การผลิต และเสียภาษีเรียบร้อยแล้ว 70 คัน ก็เป็นเรื่องแน่นอนว่า งานนี้มีการโวยวายกันเกิดขึ้น แต่ท่านข้าราชการ ท่านก็ยืนยันเป็นมั่นเหมาะ ว่าไปตรวจดูแล้ว ทาง โตโยตา มีการขึ้นไลน์การผลิตรถยนต์รุ่นดังกล่าวแล้วจริง และทางบริษัท ฯ ได้ทำการแจ้งราคาเพื่อเสียภาษีอย่างถูกต้องแล้ว เข้าหลักเกณฑ์ 1. ผลิตจริง 2. เสียภาษีจริง และ 3. วางจำหน่ายแล้ว ส่วนผู้ที่จองซื้อไปก่อนหน้านี้ในงาน MOTOR EXPO ชัดเจนว่าเป็นการจองซื้อก่อนที่จะมีการตั้งไลน์การผลิต ก็จะหมดสิทธิ์ได้รับการคืนเงิน 1 แสนบาท เพราะกฎหมายจะไม่มีผลย้อนหลังให้ ไอ้ข้อหลังนี่แหละขอรับ ท่านวางจำหน่ายกันด้วยบโรชัวร์ มีแต่พนักงานในสายการผลิตเท่านั้น ที่เห็นเจ้ารถรุ่นที่ว่านี้ แต่สาธารณชนจะได้เห็นกันก็ ในงานแสดงรถยนต์ปลายเดือนมีนาคม โน่น THAILAND ONLY ไปเรื่องที่น่าจะสนุกกว่านี้ดีกว่า ว่ากันด้วยเรื่องภาคการผลิต กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) คาดว่าในปี 2556 จะมียอดการผลิตรถยนต์สำเร็จรูปสูงถึง 2.5 ล้านคัน จากในปี 2555 ที่คาดว่าจะมียอดการผลิตรถยนต์สำเร็จรูป 2.45 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ถึง 65 % ล่าสุด ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ มกราคม-พฤศจิกายน 2555 มียอดการผลิตรถยนต์แล้ว 2.23 ล้านคัน โดย สอท. ประเมินยอดการผลิตรถยนต์ในเดือนธันวาคม 2555 ไว้ที่ 2.1 แสนคัน พร้อมกันนี้ยังเชื่อว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2560 จะมียอดการผลิตรถยนต์สำเร็จรูปสูงถึง 3 ล้านคัน ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตตามทิศทางเศรษฐกิจ ในส่วนการขาย ก็เห็นๆ กันอยู่ ว่าเดี๋ยวนี้มีปริมาณรถบนท้องถนนมากขนาดไหน เอาแค่ยอดจองในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ที่ผ่านมา ปาเข้าไป 85,904 คัน เป็นประวัติศาสตร์ของงานไปเสียแล้ว แต่กว่าจะส่งมอบกันได้หมด เห็นท่าว่าจะถึงปลายปี 2556 โน่น ดังนั้น กรุณาอย่าบ่นว่ารถติด เพราะคนแถวๆ นี้ก็มีรถป้ายแดงกันตั้งหลายคัน แถมบางคนที่บ้านมีรถตั้ง 3 คัน ตราบเท่าที่ภาครัฐ ยังไม่เริ่มให้ความสนใจกับการขนส่งมวลชน แถมการก่อสร้างรถไฟฟ้า ก็กระหึ่มกันทั่วกรุงเทพมหานคร ยังอีกหลายปีกว่าจะแล้วเสร็จ ทนรถติดกันไปก่อนน่ะ ส่วนโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก ว่า ยอด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2555 มีจำนวนผู้ขอคืนภาษีทั้งสิ้น 1,010,854 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 595,430 คัน รถกระบะ 202,191 คัน รถดับเบิลแคบ 210,956 คัน และไม่ระบุประเภทอีก 2,277 คัน คิดเป็นเงินคืนภาษีวงเงินกว่า 73,992 ล้านบาท เกินล้านคันไปแล้วจ้า ปีหน้านี่ท่าทางว่าเตนท์รถมือสอง จะเจริญรุ่งเรืองแน่นอน เพราะมีรถยึดจากไฟแนนศ์มากมาย เงินเดือนหมื่นเดียว ผ่อนรถครึ่งหนึ่งแล้ว ที่เหลือต้องใช้ทั้งเดือน แล้วชีวิตจะดำรงอยู่ได้อย่างไรล่ะเนี่ย ไปเรื่องดีๆ อีกเรื่อง สถาบันยานยนต์ เปิดเผย แผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ ฉบับที่ 3 ปี 2555-2559 มุ่งสู่วิสัยทัศน์การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2564 คือ “ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์โลก พร้อมด้วยห่วงโซ่อุปทานที่สร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ภายใต้ยุทธศาสตร์การดำเนินงาน 5 ประการ ที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศใน 3 ด้าน ได้แก่ ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยี การวิจัย การพัฒนา ความเป็นเลิศด้านบุคลากร และเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ ประกอบกับสิ่งแวดล้อมที่ดีในการดำเนินธุรกิจ 2 ประการ ด้านปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน และการสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีด้วยกฎระเบียบ นโยบายภาครัฐ นั่นเป็นแผนแม่บทที่เขียนลงในกระดาษ แต่การจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสัมฤทธิ์ผล เป็นรูปธรรม สามารถจับต้องได้ นั่นเป็นเรื่องยากกว่า ก็ได้แต่หวังว่าวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย จะก้าวไปข้างหน้าดั่งที่หวังไว้ได้อย่างทัดเทียมกับนานาอารยะประเทศเขาก็แล้วกัน กลับมาคุยเรื่องยอดการขาย ปีนี้มีแววว่าตัวเลขจะพุ่งไปถึง หนึ่งล้านสี่แสนคัน มาจากตัวเร่งปฏิกิริยา โครงการรถคันแรก แต่ลองดูว่าปีหน้าจะเป็นอย่างไรกัน ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศทั้งปี 2556 อาจลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1,340,000 ถึง 1,410,000 คัน หรือหดตัวเพียงร้อยละ 2 ถึง 7 ก็ยังนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับยอดขายรถยนต์ในอดีตก่อนหน้านี้ของไทย โดยรถยนต์นั่งมีโอกาสจะขยับสัดส่วนขึ้นมาใกล้เคียงหรือเท่ากันกับรถเพื่อการพาณิชย์ โดยเฉพาะเจ้ารถตัวเล็ก หรือบรรดารถที่เข้าข่ายโครงการรถคันแรก ที่วิ่งกันเพ่นพ่านอยู่บนถนนขณะนี้ ส่วนตลาดส่งออกในปี 2556 นอกจากจะได้รับอานิสงส์จากสภาพเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว การปรับสัดส่วนกำลังการผลิตรถยนต์ของค่ายรถกลับมาผลิตเพื่อรองรับตลาดส่งออกมากขึ้น คาดว่าการส่งออกรถยนต์ของไทยปี 2556 น่าจะขยับขึ้นไปแตะระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ต่อที่ระดับ 1,230,000 ถึง 1,290,000 คัน หรือขยายตัวสูงร้อยละ 20 ถึง 26 จะส่งผลให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ในประเทศยังขยายตัวได้ดี และขยับขึ้นไปสู่ระดับที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ได้อีกปีที่ตัวเลขระหว่าง 2,500,000 ถึง 2,600,000 คัน หรือขยายตัวร้อยละ 5 ถึง 9 ส่วนบรรดาโรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหม่ คาดว่าจะยังไม่สามารถเร่งกำลังการผลิตได้เต็มที่ เพราะเพิ่งจะเริ่มโครงการกันปีนี้ แต่คอยดูตัวเลขการผลิตของปี 2557 ว่าจะพุ่งสูงปรี๊ด จากโรงงานแห่งใหม่ๆ อีกอย่างน้อย 5 โรงงาน ที่กำลังขยับขยายกันอยู่เวลานี้ เห็นท่าว่าจะได้ฉลอง 3 ล้านคันกันในเร็ววัน รวมทั้งฉลองโบนัสกันอย่างสนุกสนาน ขอแสดงความยินดีกับค่ายรถยนต์ทุกค่ายไว้ล่วงหน้า