เดือนตุลาคม 2555 ข่าวคราวของรถยนต์หน้าใหม่ ที่ใช้ช่วงเวลานี้เสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ต้องการใช้รถยนต์ใหม่ ออกจะเงียบๆ เหงาๆ ไปบ้าง อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงเวลาการเตรียมเนื้อเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดก่อนจะไปใช้เวทีงาน MOTOR EXPO 2012 ช่วงเดือนธันวาคม เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป็นไพ่ใบสุดท้ายที่จะหงายออกมาให้เห็นกันก่อนที่จะอำลาจากฤดูกาลซื้อขายปี 2555

เดือนตุลาคม 2555 ข่าวคราวของรถยนต์หน้าใหม่ ที่ใช้ช่วงเวลานี้เสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ต้องการใช้รถยนต์ใหม่ ออกจะเงียบๆ เหงาๆ ไปบ้าง อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงเวลาการเตรียมเนื้อเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดก่อนจะไปใช้เวทีงาน MOTOR EXPO 2012 ช่วงเดือนธันวาคม เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป็นไพ่ใบสุดท้ายที่จะหงายออกมาให้เห็นกันก่อนที่จะอำลาจากฤดูกาลซื้อขายปี 2555 แต่ที่ยังคึกคักเป็นตัวช่วยเร่งให้ผู้ที่กำลังรีๆ รอๆ ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้น เป็นแคมเปญส่งเสริมการขายพิเศษที่ค่ายรถยนต์หลายค่ายนำมาใช้ในเดือนนี้ บางค่ายบางแคมเปญยิงยาวไปจนถึงงาน MOTOR EXPO 2012 เลยก็มี หลายแคมเปญที่น่าสนใจ อาทิเช่น แคมเปญพิเศษของค่าย ฟอร์ด ที่เกทับพโรโมชันของภาครัฐด้วยสโลแกน "รัฐบาลให้ 100,000 บาท ฟอร์ด ให้อีก 100,000 บาท" แคมเปญพิเศษที่ทำให้โชว์รูมของ ฟอร์ด คึกคักหัวบันไดไม่แห้ง กันเลยทีเดียว ส่วนทางค่าย นิสสัน ไม่จำเพาะเจาะจงว่าจะต้องเป็นรุ่นไหนอย่างไร ขอแค่ซื้อรถยนต์ นิสสัน รุ่นใดก็ได้ รับสิทธิ์ลุ้น นิสสัน ซิลฟี ใหม่ ถึง 5 คัน เท่านั้นยังไม่พอ พลาดจาก ซิลฟี ยังมีอีโคคาร์ อัลเมรา ให้ลุ้นอีก 5 คัน ใจป้ำจริงๆ ทางด้านของ โวลโว จัดพโรโมชันพิเศษ ซื้อ โวลโว วี 50 วันนี้ ลุ้นโชคทอง 80 บาท มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท สำหรับ มิตซูบิชิ ให้แล้วให้อีก ด้วยข้อเสนอพิเศษ ทุกรุ่นฟรีประกันภัยชั้น 1 ค่าบำรุงรักษา 30,000 กม. หรือ 18 เดือน และค่าแรง 100,000 กม. นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรายละเอียดของแต่ละแคมเปญพิเศษต้องเข้าไปเสาะหาด้วยตัวเองตามโชว์รูมผู้จำหน่ายรถยนต์แต่ละยี่ห้อ เผลอๆ อาจมีพิเศษนอกเหนือไปจากนี้ก็เป็นได้ เรื่องของแคมเปญพิเศษตัดสินใจซื้อปุ๊ปรับปั๊ป แต่ถ้าเป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมโดยเฉพาะบรรดาอีโคคาร์ทั้งหลาย เรื่องการได้รถมาใช้จริงคงต้องรอเวลาอยู่บ้าง ช้าเร็วขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละโมเดลอีกด้วย หลายกระแสบอกว่าบางรุ่นบางยี่ห้อรอรถ 6 เดือน ยังถือว่าได้เร็วเสียด้วยซ้ำ สำหรับรถใหม่ป้ายแดงที่ออกไปวิ่งบนท้องถนนทั่วประเทศ ในเดือนตุลาคม 2555 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 134,336 คัน เพิ่มขึ้นกว่าเดือนตุลาคม 2554 ถึง 213.3 % โดยที่ยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นของพี่ใหญ่ โตโยตา มีส่วนแบ่งตลาดถึง 36.5 % จากยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 48,979 คัน ตามด้วยค่าย ฮอนดา ที่ช่วงครึ่งปีหลังมามีรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาให้เลือกใช้กันหลายรุ่น หลายโมเดล แถมยังมีอีโคคาร์คันใหม่ ออกมาให้เลือกใช้ในช่วงปลายปีอีก 1 โมเดลด้วย ฮอนดา ทำยอดจำหน่ายในเดือนตุลาคมได้ 21,265 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 15.8 % อันดับที่ 3 เป็นค่าย อีซูซุ ที่พลังศรัทธามาจากความเป็นเลิศในเรื่องของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ล้วนๆ ไม่มีรถยนต์นั่งมาเจือปน จำหน่ายไปได้ 20,170 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 15.0 % อันดับที่ 4 และ 5 เป็น มิตซูบิชิ และนิสสัน ตามลำดับ โดย มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 13,787 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.3 % นิสสัน 12,701 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.5 % เมื่อรวมตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือนตุลาคม ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศทำสถิติผ่านหลักล้านคัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ยานยนต์ไทย โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 1,125,283 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2554 ที่ 57.6 % โตโยตา จำหน่ายไปได้แล้วถึง 429,195 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 38.1 % อันดับที่ 2 เป็นของ อีซูซุ 170,173 คัน มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 15.1 % อันดับที่ 3 เป็นของ ฮอนดา จากยอด 127,709 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.3 % อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ จำหน่ายไปได้แล้วทั้งสิ้น 101,645 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 9.0 % ส่วนอันดับที่ 5 เป็นของค่าย นิสสัน จำหน่ายไปทั้งหมด 92,737 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 8.2 % รถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนตุลาคม 2555 มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 48,668 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 205.4 % จากเดือนตุลาคม 2554 แน่นอนแล้วว่าพิคอัพสายพันธุ์ ไฮลักซ์ วีโก ของ โตโยตา ยังเหนียวแน่นกับความเป็นทางเลือกอันดับ 1 ของรถยนต์ประเภทนี้ ถึงแม้ว่าคู่แข่งจะมีการปรับเปลี่ยนไปสู่ความเป็นเจเนอเรชันใหม่กันไปเกือบหมดแล้ว แต่ความเยี่ยมยอดของ โตโยตา ยังคงดึงลูกค้าให้ตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของได้อย่างไม่เคอะเขิน เดือนตุลาคม 2555 โตโยตา จำหน่ายไปได้ 21,843 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 44.9 % อีซูซุ ปิดยอดเข้ามาในอันดับที่ 2 ขายได้ 16,431 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 33.8 % โดย มิตซูบิชิ ตามมาในอันดับที่ 3 ด้วยยอด 4,554 คัน มีส่วนแบ่ง 9.4 % อันดับที่ 4 เป็น เชฟโรเลต์ 2,683 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.5 % อันดับที่ 5 นิสสัน 1,352 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.8 % ผ่าน 10 เดือนไป มียอดจำหน่ายสะสมอยู่ที่ 445,908 คัน ปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2554 ถึง 52.4 % สัดส่วนการตลาดสูงที่สุดเป็นของ โตโยตา ที่ 38.6 % จากตัวเลขยอดจำหน่ายรวม 172,052 คัน ตามด้วย อีซูซุ ส่วนแบ่งการตลาด 31.2 % จากยอดจำหน่าย 139,165 คัน มิตซูบิชิ กับความเป็นเบอร์ 3 ของตลาดอีกปีหนึ่ง มียอดจำหน่ายสะสมที่ 47,732 คัน ทำให้มีส่วนแบ่งตลาด 10.7 % อันดับที่ 4 เชฟโรเลต์ ได้ส่วนแบ่งการตลาด 6.5 % จากยอดจำหน่าย 28,850 คัน และอันดับที่ 5 มาซดา ส่วนแบ่งการตลาด 4.2 % ยอดจำหน่าย 18,618 คัน พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนตุลาคม มียอดรวมทั้งสิ้น 3,564 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม ปี 2554 ถึง 253.2 % ที่มียอดจำหน่ายสูงเกิน 1,000 คัน มีเพียง โตโยตา เจ้าเดียวเท่านั้น จำหน่ายได้ 1,940 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 54.4 % ขณะที่ขับ 4 ยกสูงของ อีซูซุ มาเป็นอันดับ 2 ด้วยยอด 993 คัน ส่วนแบ่งตลาด 27.9 % ฟอร์ด มาแรง ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 ในเซกเมนท์นี้ จำหน่ายไป 275 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.7 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 159 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.5 % อันดับที่ 5 เป็นของ เชฟโรเลต์ 147 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 4.1 % รวมทั้งตลาดตั้งแต่เดือนมกราคม ยอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 42,466 คัน เพิ่มสูงขึ้นจาก 10 เดือนของปี 2554 ถึง 195.6 % จากยอดจำหน่ายรายเดือน มาสู่ยอดจำหน่ายรวมตั้งแต่ต้นเดือน มีความเปลี่ยนแปลงอยู่บ้างพอสังเขป โดยที่อันดับ 1 แน่นอนว่าเป็น โตโยตา 23,248 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 54.7 % เช่นเดียวกับอันดับ 2 ที่ยังคงเป็น อีซูซุ ที่มียอดจำหน่ายรวม 12,613 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 29.7 % แต่อันดับที่ 3 ตอนนี้เป็น เชฟโรเลต์ 1,926 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.5 % อันดับ 4 เป็นของ ฟอร์ด 1,728 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.1 % และอันดับ 5 มิตซูบิชิ 1,526 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.6 % รถเอสยูวี มีน้องใหม่แต่ความนิยมสูงเข้าตลาดอีก 1 โมเดล เป็นเจเนอเรชันที่ 4 ของ ฮอนดา ซีอาร์-วี ที่ได้รับการต้อนรับอย่างดีเหมือนรุ่นพี่ๆ ตลาดนี้มียอดจำหน่ายรวม 9,538 คัน ในเดือนตุลาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 176.7 % อันดับ 1 เป็น โตโยตา 3,550 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37.2 % ตามด้วย มิตซูบิชิ 1,989 คัน ส่วนแบ่งตลาด 20.9 % ฮอนดา 1,599 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.8 % เชฟโรเลต์ 1,452 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.2 % และอีซูซุ 524 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.5 % ยอดรวมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม ของตลาดนี้ 75,508 คัน เพิ่มขึ้น 63.2 % ตลาดรถเอมพีวี เดือนตุลาคมจำหน่ายได้ทั้งสิ้น 2,290 คัน เพิ่มขึ้น 252.3 % รวม 10 เดือน จำหน่ายได้ 22,016 คัน เพิ่มขึ้น 105.4 % เฉพาะเดือนตุลาคม รถที่จำหน่ายได้สูงสุดเป็น โตโยตา 1,432 คัน ส่วนแบ่งตลาด 62.5 % ฮอนดา ได้ ฟรีด ใหม่ มาดันยอดเช่นกัน จำหน่ายได้อยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยยอด 715 คัน ส่วนแบ่งตลาด 31.2 % อันดับ 3 ปโรตอน 107 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.7 % ยอดสะสม 10 เดือนผ่านไป โตโยตา จำหน่ายได้ 13,077 คันส่วนแบ่งตลาด 59.4 % ฮอนดา 7,085 คัน ส่วนแบ่งตลาด 32.2 % ปโรตอน 1,270 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.8 % เดือนพฤศจิกายน มีอีโคคาร์คันใหม่ ผลงานของค่าย ฮอนดา ออกสู่ตลาดอีก 1 โมเดล ยอดขายจะร้อนแรงขนาดไหน ต้องติดตามกันต่อไป