นิพพอนเพนท์ เป็นสีที่ได้รับความไว้วางใจ จากทั้งผู้ผลิตรถยนต์และอู่ซ่อมสี มานานเกือบ 50 ปี "ฟอร์มูลา" สนทนากับ ทวีชัย ตังธนาวิรุตม์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอ็น พี ที มาร์เก็ตติ้ง จำกัด

นิพพอนเพนท์ เป็นสีที่ได้รับความไว้วางใจ จากทั้งผู้ผลิตรถยนต์และอู่ซ่อมสี มานานเกือบ 50 ปี "ฟอร์มูลา" สนทนากับ ทวีชัย ตังธนาวิรุตม์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอ็น พี ที มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ฟอร์มูลา : คุณวางนโยบาย ทิศทางและแผนงานของสี นิพพอนเพนท์ ไว้อย่างไร ? ทวีชัย : นิพพอนเพนท์ เริ่มเปิดตลาดในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2506 เริ่มเติบโตและประสบความสำเร็จจนปัจจุบัน โดยที่ผ่านมาได้มีการคิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดย นิพพอนเพนท์ เป็นผู้นำอันดับ 1 สีอุตสาหกรรมรถยนต์ที่จำหน่ายให้แก่โรงงาน จนกระทั่งบริษัท ฯ มองเห็นโอกาสการขยายธุรกิจสู่สีพ่นซ่อม จึงได้พัฒนาสีพ่นซ่อม 1K ซึ่งช่วงแรกทำตลาดไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีคู่แข่งขันในตลาดที่แข็งแกร่งมาก แต่ได้ใช้กลยุทธ์ด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพผลิตภัณฑ์ การบริการหลังการขาย จนสามารถทำให้สีพ่นซ่อม นิพพอนเพนท์ 1 เค เป็นผู้นำในตลาด มีเฉดสีให้เลือกกว่า 400 สี จนมาถึงปี 2523 ตลาด 2 เค เริ่มแพร่หลาย ซึ่งเป็นตลาดพรีเมียม บริษัท ฯ นำเข้าสินค้ามาจากญี่ปุ่น แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร ดังนั้นจึงได้คิดค้นพัฒนา พรีมิลา 2 เค สร้างตลาดจนสามารถเป็นผู้นำจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นศูนย์การคิดค้นและพัฒนา สำหรับ ออโทรีฟินิช ในภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นจีน ซึ่งนอกจากเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาแล้ว ยังเป็นศูนย์ทเรนิงเซนเตอร์ อีกด้วย เนื่องจากสินค้าที่ผลิตจำหน่ายในประเทศแล้วยังส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศด้วย หลังจากนั้น ได้คิดค้นพัฒนาสูตรพ่นสีระบบใหม่อย่างต่อเนื่อง จนก้าวสู่ระบบสีพ่นซ่อมรถยนต์สูตรน้ำ แนกซ์ พรีมีลา 2 โดยศูนย์บริการรถยนต์ที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ฯ คือ โตโยตา และฮอนดา ขณะนี้มีศูนย์บริการรถยนต์ที่ใช้สี นิพพอนเพนท์ อยู่ประมาณ 30 แห่ง มีการขยายอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่เร่งรีบเนื่องจากจะต้องมีการผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพก่อนที่จะเร่งขยายงาน เพราะบริษัท ฯ ต้องการเน้นที่คุณภาพ และการบริการหลังการขายที่มีมาตรฐาน ปัจจุบัน บริษัท ฯ อยู่ในอันดับ 5 ของโลก หมายถึงรวมทุกประเทศ และในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอันดับ 3 ของโลก ฟอร์มูลา : ในประเทศไทยมีส่วนแบ่งการตลาดเท่าใด ? ทวีชัย : สีพ่นซ่อมรถยนต์ นิพพอนเพนท์ เป็นผู้นำอันดับ 1 มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ประมาณ 20 % ซึ่งการเป็นผู้นำอันดับทำให้บริษัท ฯ ไม่สามารถที่จะหยุดนิ่งได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเพิ่มศักยภาพในทุกด้าน แต่ถ้าเแบ่งเป็นตลาดเออาร์ (ออโทรีฟินิช) นิพพอนเพนท์ จะมีส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 28-30 % จากมูลค่าตลาดรวมที่ประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท ส่วนตลาดโออีเอมมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ประมาณ 50 % ด้านยอดขายตั้งเป้าเติบโตปีละไม่น้อยกว่า 25 % ฟอร์มูลา : นิพพอนเพนท์ เป็นผู้นำทั้งตลาดโออีเอมและเออาร์ ใช่หรือไม่ ? ทวีชัย : นิพพอนเพนท์ เป็นผู้นำทั้ง 2 ตลาดในประเทศไทย และเป้าหมายต่อไปคือ การเป็นผู้นำทั้ง 2 ตลาดในเอเชีย โดยเฉพาะสีพ่นซ่อมที่เมืองไทยรับผิดชอบอยู่ ฟอร์มูลา : คุณคิดว่าเพราะเหตุใด นิพพอนเพนท์ จึงประสบความสำเร็จในประเทศไทย ? ทวีชัย : อันดับแรกเป็นเพราะทีมงานที่ร่วมกันสร้างความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งยอดขาย กำไร การบริการหลังการขาย รวมถึงมีการวิจัยและพัฒนาทีดี ทำให้สร้างพื้นฐานสร้างความสามารถในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ นิพพอนเพนท์ ยังมีจุดเด่นเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตลาดสีพ่นซ่อมตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีสีโป๊ สีรองพื้น สีทับหน้า เคลียร์ทับหน้า ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นบริษัท ฯ เดียวที่มีสีครบทุกไลน์ ทุกขั้นตอน ถ้าเทียบกับโออีเอม ซึ่งหมายความว่าถ้าคุณมีปัญหาเรื่องนี คุณเข้ามาหาเราเพียงรายเดียวก็จะได้ครบทุกกระบวนการของการพ่นซ่อมสีรถยนต์ ฟอร์มูลา : การแข่งขันของตลาด ปัจจุบันรูปแบบมีการเปลี่ยนแปลง หรือว่าการแข่งขันเพิ่มขึ้นไหม ? ทวีชัย : ถ้าเทียบในอดีตช่วง 20-30 ปี เปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนผู้แข่งขันในตลาด จำนวนสินค้าในตลาด หรือกระทั่งการให้การสนับสนุนบริการหลังการขายในตลาด แล้วก็จำนวนลูกค้าที่มีความต้องการในบริการหลังการขายที่มีการเปลี่ยนแปลง ถ้าเทียบกับในอดีตผมว่าเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว นั่นหมายความว่า บริษัทสีไหนที่ไม่สามารถพัฒนาทีมงานให้ตอบสนองความต้องการของตลาดได้ อาจจะไม่สามารถทำยอดขายให้เพิ่มขึ้น ฟอร์มูลา : การลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะสั้น และระยะยาว ? ทวีชัย : ในช่วง 3-5 ปี บริษัท ฯ จะเน้นการเป็นศูนย์กลางการผลิต โดยจะมีการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการขยายเรื่องของทเรนิง ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณการลงทุนประมาณ 40-50 ล้านบาท ฟอร์มูลา : ปัจจุบันมีกำลังการผลิต และจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าไร ? ทวีชัย : ปัจจุบันมีกำลังการผลิตประมาณ 200 กว่าตัน/เดือน คาดว่าจะลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตอีกอย่างน้อย 30-40 % ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยที่ผ่านมาจะมีการวางแผนเป็นระยะ 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี แต่เนื่องจากปัจจุบันมักจะมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เป็นปัจจัยภายนอก ทำให้ขณะนี้เน้นที่แผนงานระยะสั้นใน 2-3 ปีก่อน ฟอร์มูลา : ปีนี้จะมีสินค้าใหม่หรือไม่ ? ทวีชัย : ปีนี้ไม่มีแล้ว แต่ต้นปีหน้าจะมีสินค้าใหม่แนะนำออกสู่ตลาดอย่างแน่นอน เพราะการแนะนำสินค้าใหม่จะมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้แนะนำ แนกซ์ 2 เค เอกซ์ตรา ฟาย พัทที 869 (NAX 2K EXTRA....PUTTY 869) เป็นสีโป๊ เนื้อละเอียดคุณภาพสูง และ แนกซ์ พรีมิลา 2 เค 210 อาร์พี ฮาร์เดเนอร์ ราพีด (NAX PREMILA 2K 210 RP HARDENER RAPID) ฟอร์มูลา : นอกจากช่องทางศูนย์บริการรถยนต์ มีช่องทางอื่นอีกหรือไม่ ? ทวีชัย : ในอู่ซ่อมรถยนต์ทั่วไปอีกประมาณ 600-700 อู่ โดยบริษัท ฯ จะเข้าไปร่วมกับบริษัทประกันภัย และสมาคมอู่ซ่อมสีต่างๆ แต่ปัจจุบันผู้ใช้ส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าสีที่ใช้นั้นเป็นบแรนด์อะไร ฟอร์มูลา : คุณวางแผนงานไว้อย่างไร เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้สี นิพพอนเพนท์ ? ทวีชัย : ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า เจ้าของรถสนใจแต่สีที่พ่นเสร็จแล้ว จึงไม่ได้เลือกบแรนด์ แต่บริษัท ฯ มองที่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเจ้าของอู่ โดยนโยบาย 3 ปีที่ผ่านมาเน้นให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายนี้ เพราะในอดีตจากที่ไม่รู้จัก นิพพอนเพนท์ แต่เราใช้เวลาสร้างบแรนด์ ซึ่งมั่นใจว่าปัจจุบันทุกคนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับศูนย์ซ่อมสีรู้จัก นิพพอนเพนท์ ซึ่งแผนงานต่อไปบริษัท ฯ จะเน้นไปทำความรู้จักกับผู้ใช้รถ โดยการโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น สนับสนุนทีมแข่งรถ ซึ่งจะช่วยสร้างการจดจำของบแรนด์ให้ได้เร็วยิ่งขึ้น ล่าสุดพัฒนาพโรแกรมแอพพลิเคชัน สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ ไอโฟนและไอพอด สำหรับการดูสูตรสีผสม จากเดิมที่ดูผ่านช่องทางคัลเลอร์คาร์ด เวบไซท์ หรือการโทรศัพท์ เพิ่มช่องทาง INAX COLOUR EXPERT ที่ช่วยให้สามารถค้นหาสูตรสีผสมได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น