บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนร่วมงาน มหกรรมยานยนต์โตเกียว ครั้งที่ 42 จัดขึ้น ณ TOKYO BIG SIGHT CONVENTION CENTER กรุงโตเกียว ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2554

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนร่วมงาน มหกรรมยานยนต์โตเกียว ครั้งที่ 42 จัดขึ้น ณ TOKYO BIG SIGHT CONVENTION CENTER กรุงโตเกียว ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2554 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น นำสุดยอดยนตรกรรม 15 คัน ร่วมแสดง โดยมี 2 รุ่นที่เปิดตัวครั้งแรกของโลก คือ มิตซูบิชิ มิราจ (MITSUBISHI MIRAGE) และ มิตซูบิชิ คอนเซพท์ พีเอกซ์-เมียฟ ทู (MITSUBISHI CONCEPT PX-MIEV II) ซึ่งพัฒนาขึ้นตามแผนกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ในแผนธุรกิจระยะกลาง JUMP 2013 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ระดับโลก สำหรับตลาดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่และผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสีเขียว รถยนต์ขนาดเล็ก มิตซูบิชิ มิราจ เป็นผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ระดับโลก ในขณะที่รถต้นแบบเอสยูวี มิตซูบิชิ คอนเซพท์ พีเอกซ์-เมียฟ ทู มาพร้อมเทคโนโลยีสีเขียว ซึ่งโดดเด่นจากระบบขับเคลื่อนแบบ PLUG-IN HYBRID สำหรับรถในตระกูล มิราจ ได้รับการพัฒนาขึ้น เพื่อการประหยัดทรัพยากร พลังงาน พื้นที่ ประสิทธิภาพของรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม พศ. 2521 ส่วน มิราจ รุ่นใหม่ ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้สืบทอดคุณสมบัติเด่นดังกล่าวของ มิราจ รุ่นแรก คือ สมรรถนะที่เป็นเยี่ยมและฟังค์ชันการใช้งานครบครัน แม้จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก ส่วน มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ออกแบบโดยเน้นความกะทัดรัด ราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย และประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดเศรษฐกิจใหม่ รวมไปถึงตอบสนองความต้องการของตลาดในกลุ่มที่พัฒนาแล้ว จากการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยมและปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ มิราจ ยังง่ายในการขับขี่ พร้อมการควบคุมที่เป็นเยี่ยมในแบบฉบับชองรถยนต์ขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังให้ความสะดวกสบาย จากห้องโดยสารที่กว้างขวาง รองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง พร้อมกันนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ตั้งเป้าให้รถดังกล่าวเป็นรถที่ให้การประหยัดน้ำมันสูงสุดในรถระดับเดียวกัน (รุ่นที่ทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น) ที่ 30 กม./ลิตร ผ่านการใช้วิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความพยายามการลดน้ำหนักในเกือบทุกชิ้นส่วนของตัวรถ การลดแรงต้านทานหลักในการเคลื่อนที่ รวมไปถึงการพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อให้รถมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน เบรค และยาง และตัวถังตามหลักแอโรไดนามิค ที่ลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานและแรงฉุด โดย มิราจ มีแผนที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทย เดือนมีนาคม 2555 ส่วนรถต้นแบบ เอสยูวี มิตซูบิชิ คอนเซพท์ พีเอกซ์-เมียฟ ทู เป็นแนวคิดสำหรับรถยนต์ PLUG-IN HYBRID (PHEV) ขนาดกลาง ซึ่งให้ระยะการขับขี่ที่มากกว่ารถยนต์ขนาดกลาง และใหญ่ มาพร้อมความล้ำสมัย ระบบขับเคลื่อนจากเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า ที่ให้สมรรถนะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการทำงานที่เงียบ ซึ่งถ่ายทอดมาจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาไว้ในรถ เอสยูวี สำหรับระบบ PLUG-IN HYBRID ใช้แบทเตอรีความจุสูง ที่ให้ระยะทางวิ่งได้ไกลกว่า 50 กม. เมื่อใช้โหมดขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวตลอดเวลา ซึ่งสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เครื่องยนต์จะสตาร์ทอัตโนมัติ เหมือนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ขึ้นอยู่กับอัตราการบริโภคพลังงานและแบทเตอรีที่เหลือ พร้อมกันนี้ มิตซูบิชิ ยังมีการจัดแสดงรถ MINICAB-MIEV ซึ่งเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และมีกำหนดเปิดตัวในญี่ปุ่นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รวมไปถึง I-MIEV รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดขายอย่างเป็นทางการในตลาดต่างๆ ทั่วโลก รวมไปถึงกลุ่มประเทศในยุโรปและพร้อมจะทำตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังจัดแสดงรถ RVR ซึ่งเป็นรถ เอสยูวี ขนาดเล็ก (ASX หรือ OUTLANDER SPORT ในบางประเทศ) ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ MIVEC ใหม่ ซึ่งทำงานประสานกันระหว่างเทคโนโลยี AUTO STOP & GO (AS&G) IDLE-STOP TECHNOLOGY ของ มิตซูบิชิ และยังมี ปาเจโร (มอนเทโร ของโชกุน ในบางประเทศ) ซึ่งเป็นรถ เอสยูวี ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลสะอาด MIEV HOUSE ต้นแบบของบ้านอัจฉริยะ ที่จัดการกับพลังงานและภาวะโลกร้อนระหว่างตัวบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบ PLUG-IN HYBRID (PHEV) และระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ “SMART GRIDS” ในเวลาเดียวกัน ผ่านระบบ HEMS (HOME ENERGY MANAGEMENT SYSTEM) และระบบ EIS (ELECTRIC VEHICLE INTEGRATION SYSTEM) ของ มิตซูบิชิ สำหรับ HEMS จะช่วยให้การใช้ชีวิตในบ้านสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยการตรวจสอบกำลังไฟฟ้าสำหรับการใช้งานที่มีอยู่ และช่วยให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดผลกระทบจากการขาดแคลนพลังงาน และลดรายจ่ายด้านพลังงาน สำหรับการเชื่อมโยงบ้านอัจฉริยะ “SMART HOME” ผ่านระบบ HEMS นั้น ระบบ EIS จะตรวจสอบการใช้งานและประสิทธิภาพแบทเตอรีของ EV/PHEV (ซึ่งแปรผันตามการขับเคลื่อน EV/PHEV) และส่งข้อมูลนี้ไปยัง HEMS ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จพลังงานจากบ้านเพื่อที่จะให้ EV/PHEV มีพลังงานที่เพียงพอตลอดเวลา นอกเหนือจาก MIEV HOUSE ยังมี MIEV CAFE ซึ่งเป็นพื้นที่พักผ่อนที่ใช้พลังงานจากแบทเตอรีของรถยนต์ไฟฟ้าที่จอดอยู่ใกล้ๆ โดยรถไฟฟ้าจะให้พลังงานกับ MIEV CAFE ผ่านตัวจ่ายไฟขนาดใหญ่ (นำมาจัดแสดงด้วย) ที่สามารถจ่ายพลังงานได้มากถึง 1,500 วัตต์ จากแบทเตอรี EV และ PHEV สำหรับตัวจ่ายไฟขนาดใหญ่จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่น ภายในปีงบประมาณนี้ มิตซูบิชิ ยังได้นำชมสถานที่ต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น เช่น FUJIKO F FUJIO MUSEUM พิพิธภัณฑ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเก็บรักษา และเผยแพร่ผลงานของนักเขียนการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่น FUJIKO F FUJIO มีชื่อจริงว่า HIROSHI FUJIMOTO ผู้สร้างสรรค์การ์ตูนชื่อดัง เช่น โดราเอมอน ผีน้อยคิวทาโร นินจาฮาโตริ ปาร์แมน เป็นต้น รวมถึงการเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ราเมน ตั้งอยู่ที่ โยโกฮามา แหล่งรวมร้านราเมนที่มีชื่อเสียงจากทั่วประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับการชอพพิงที่ MINATO MIRAI 21 ย่านเศรษฐกิจที่สร้างใหม่ ภายใต้ชื่อที่หมายถึง "ท่าเรือแห่งอนาคต" ปิดท้ายก่อนกลับเมืองไทย ด้วยการร่วมรับประทานอาหารค่ำกับ โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด