ทดสอบ
เสน่ห์เย้ายวนจากบอดีการ์ดโฉมงาม
โวลโว เอส 60 เบนซิน เทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ 203 แรงม้า 2,990,000 บาท
คู่แข่ง
บีเอมดับเบิลยู 320 ดี เอสอี ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบ 184 แรงม้า 2,899,000 บาท
เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี 200 ซีจีไอ เบนซิน เทอร์โบ 1.8 ลิตร 4 สูบ 184 แรงม้า 2,849,000 บาท
เลกซัส ไอเอส 250 เบนซิน 2.5 ลิตร 4 สูบ 212 แรงม้า 2,990,000 บาท
จุดเด่น
- รูปทรงสวยลงตัว
- ภายในนั่งสบาย
- สมรรถนะน่าพอใจ
- ระบบความปลอดภัยเยี่ยมยอด
จุดด้อย
- น่าจะประหยัดเชื้อเพลิงดีกว่านี้
- ไม่มีระบบ จีพีเอส
- ระบบแจ้งเตือนอาจทำความรำคาญแก่ผู้ขับได้
ฟันธง
- รูปโฉมที่อ่อนช้อย กับการปกป้องที่แข็งแกร่ง
หลังจากที่พิจารณาระดับความปลอดภัยของบรรดารถเล็กทั้งหลายทั้งปวงมาแล้ว ส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปที่การปกป้องผู้โดยสาร หลังเกิดอุบัติเหตุแล้ว (ACTIVE SAFETY) ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างแบบซับแรงกระแทก ถุงลมนิรภัยตามจุดต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม เรามีความเชื่อว่า ผู้ใช้รถหลายๆ คน คงต้องการระบบความปลอดภัย เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ (PASSIVE SAFETY) มากกว่า
ควรหลีกเลี่ยง หรืออย่างน้อยลดความรุนแรงขณะเกิดอุบัติเหตุ และที่คุ้นเคยกันดี คือ เบรค เอบีเอส จนกระทั่งปัจจุบันนี้ เริ่มมีรถระดับคอมแพคท์ บี-เซกเมนท์ ที่นำระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) และระบบป้องกันการลื่นไถล (TRC) นำมาติดตั้งแล้ว อย่างไรก็ตาม เราได้มีโอกาสทดสอบรถ ที่มีภาพลักษณ์ของระบบความปลอดภัยที่ล้ำหน้าไปกว่าเดิม นั่นคือ โวลโว เอส 60 (VOLVO S60)
ภายนอก 5 ดาว
รูปทรงสวยชวนมอง
นึกย้อนเวลาเมื่อหลาย 10 ปีก่อนหน้านี้ โวลโว ออกแบบรถ เน้นเหลี่ยมสัน เพื่อสื่อถึงภาพลักษณ์ความปลอดภัย และแข็งแกร่ง เช่น (โวลโว 960 และ 460) ในยุคถัดมา เส้นสายต่างๆ เพิ่มความโค้งมนมากขึ้น เพื่อเข้าถึงลูกค้าในวงกว้าง เช่น (โวลโว เอส 40 ปี 1995 และ เอส 60 ปี 2000) มาถึงปัจจุบันค่ายรถจากสวีเดน เพิ่มความสปอร์ทให้กับรูปทรงองค์เอวของรถในสายการผลิต และ 1 ในที่กล่าวมา คือ เอส 60 รุ่นล่าสุดคันนี้
ความปราดเปรียว จะเห็นได้จากไฟหน้าทรงหยดน้ำ ฝากระโปรงที่ลาดเทโค้งลงมา เพื่อรับกันกับกระจังหน้า 6 เหลี่ยม คาดเฉียงด้วยแท่งโครเมียมพาดผ่านโลโกของ โวลโว ที่คุ้นตามาช้านาน ความปราดเปรียวด้วยเส้นสายด้านข้างที่ต่อเนื่องจากโคมไฟหน้า โค้งตัวเล็กน้อย ผ่านซุ้มล้อ ลากผ่านประตูทั้ง 2 บาน และโค้งบรรจบกับจุดไฟท้ายรูปตัว แอล นอกจากนี้แนวหลังคาที่ลาดเท ทำให้รถซีดานคันนี้ ดูคล้ายกับรถสปอร์ทคูเปเข้าไปอีก ส่วนล้อแมกขนาดกำลังเหมาะที่ 17 นิ้ว
สำหรับมิติตัวถัง (ยาว/กว้าง/สูง/ระยะฐานล้อ) ของ เอส 60 คือ 4,628/1,865/1,484/2,776 มม. เมื่อเทียบกับบรรดาคู่แข่งทั้งหลายอย่าง บีเอมดับเบิลยู 325 ไอ (BMW 325I) กับมิติ 4,531/1,817/1,421/2,760 มม. เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี 250 ซีจีไอ คือ 4,581/1,770/1,447/2,760 มม. และ เลกซัส ไอเอส 250 มิติตัวถัง 4,585/1,800/1,425/2,730 มม. เห็นได้ว่าสปอร์ทซีดานทรงสวย โวลโว มีขนาดที่ใหญ่กว่าคู่แข่งพอประมาณ
ภายใน 4 ดาว
เรียบหรู นั่งสบาย
การปฏิวัติด้านรูปทรงของ โวลโว ยังรวมไปถึงภายใน แผงคอนโซลกลางเรียบหรู ในสไตล์ "โมเดิร์น" ฐานคอนโซลเรียวบาง รอบห้องโดยสารเน้นโทนสีดำ สลับวัสดุโครเมียม แวววาว เติมอารมณ์สปอร์ทด้วยสีส้มสดที่แผงข้าง และเบาะนั่งคู่หน้าโอบสรีระพอสมควร พร้อมกับพนักพิงศีรษะที่มีระบบป้องกันอาการบาดเจ็บที่คอหากถูกชนจากด้านหลัง ปรับระดับด้วยไฟฟ้าสำหรับคู่หน้าด้านคนขับ บันทึกความจำได้ 3 ตำแหน่ง เบาะหลังนั่งสบายไม่แพ้คู่แข่งระดับเดียวกัน เราพบว่าหลังคาที่ลาดเทจากที่เห็นในทีแรก ไม่มีผลต่อพื้นที่เหนือศีรษะแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะเบาะที่วางตำแหน่งในระดับต่ำเล็กน้อย และสามารถพับได้แบบ 60:40 มีสลักสำหรับพับเบาะอยู่บริเวณเพดานห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายสำหรับผู้ที่ขนของทรงยาว
จอมอนิเตอร์ขนาด 7 นิ้วตรงด้านบนคอนโซล แสดงผลของระบบมัลทิมีเดียจากเครื่องเล่น ดีวีดี (ไม่มีระบบจีพีเอส) ทัศนวิสัยของกล้องมองหลัง (กล้องหน้าเป็นอุปกรณ์ติดตั้งเพิ่มเติม) และระยะห่างด้านหน้า/หลังขณะเข้าจอด หรืออยู่ในที่แคบ ถือว่าใช้งานได้หลากหลายพอตัว แต่ระบบเสียงที่ถูกปรับแต่งจากโรงงานเหมือนจะเน้นความนุ่มนวลมากกว่า ใครที่ชอบเสียงเบสส์หนักๆ คงต้องหาเครื่องเสียงติดตั้งเพิ่มเติม ส่วนช่องต่อ USB และ AUX จะถูกซ่อนไว้ในช่องเก็บที่พักของตรงกลาง
ด้านล่างคอนโซลกลางติดตั้งปุ่มเปิด/ปิดการทำงานของระบบความปลอดภัย อย่างเช่น สัญญาณเตือนมุมอับสายตา (BLIS) ระบบเตือนระยะห่างระหว่างคันหน้า และสัญญาณเตือนระยะห่างวัตถุที่อยู่ด้านหน้า/หลัง พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันด้านขวาสำหรับปรับระบบเสียง และด้านซ้ายควบคุมระบบครูสคอนทโรลแบบแปรผันความเร็วอัตโนมัติทั้งความเร็ว และระยะห่างระหว่างรถคันหน้าที่ต้องการ แสดงผลบริเวณตรงกลางของมาตรวัดความเร็ว
เครื่องยนต์ 4 ดาว
บุคลิกคล้ายดีเซล ช่วงปลายดี
เอส 60 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 203 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 30.6 กก.-ม. ที่ 1,750-4,000 รตน. แรงบิดมาก และมีช่วงการทำงานที่กว้าง ทำให้บุคลิกคล้ายเครื่องยนต์ดีเซลไม่น้อย รถที่เรานำมาเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่มีอยู่ คือ บีเอมดับเบิลยู 325 ไอ คูเป เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 218 แรงม้า แม้ตัวถังจะต่างกัน แต่พิกัดแรงม้าถือว่าใกล้เคียง
เริ่มกันด้วยอัตราเร่ง จากเครื่องมือวัดสมรรถนะดาทรอน ที่ 0-100 กม./ชม. เอส 60 ใช้เวลา 9.7 วินาที ถูกสปอร์ทคูเปอย่าง 325 ไอ ทิ้งห่างเล็กน้อยกับเวลา 8.9 วินาที แต่เมื่อลองอีกครั้ง กับความเร็วที่มากขึ้น ช่วง 0-160 กม./ชม. ความต่างกลับลดลง เอส 60 ทำได้ 22.1 วินาที จี้ใกล้ 325 ไอ เข้ามาอีก กับเวลาที่ทำได้ 21.9 วินาที
เมื่อวัดกันด้วยอัตราเร่ง 0-1,000 ม. เอส 60 ใช้เวลา 30.2 วินาที (ที่ความเร็ว 182.8 กม./ชม.) ขณะที่ 325ไอ ยังนำหน้าเพียงเล็กน้อยกับเวลา 29.7 วินาที (ที่ความเร็ว 180.5 กม./ชม.) สังเกตดูว่าซีดานจาก โวลโว กลับทำได้ดีกว่าสปอร์ทคูเปจากแคว้นบาวาเรีย แม้เวลารวมจะตามกันมาไม่ห่าง
เรามีความรู้สึกว่า ช่วงออกตัว และรอบต่ำ เอส 60 จะไม่ฉุดกระชากรุนแรงนัก ราวกับแรงอัดจากเทอร์โบยังไม่ทำงาน แต่หลังจากนั้นจนถึงความเร็วช่วงปลาย อัตราเร่งกลับทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในส่วนของอัตราเร่งยืดหยุ่น ช่วงความเร็ว 60-100 กม./ชม. เอส 60 ทำเวลาได้ 4.9 วินาที เฉียดฉิวกับ 325ไอ ที่ทำเวลาได้ 4.7 วินาที เมื่อขยับช่วงความเร็วเป็น 80-120 กม./ชม. สปอร์ทซีดานจาก โวลโว ทำเวลาแซงหน้าได้กับเวลา 5.7 วินาที เกือบเท่ากันกับสปอร์ทคูเปของ บีเอมดับเบิลยู กับเวลาที่ทำได้ 5.9 วินาที
การตอบสนองของเครื่องยนต์ เอส 60 ขณะแล่น ถือว่าทำได้ดีมาก มีความกระฉับกระเฉงต่างจากช่วงออกตัว และความเร็วตีนต้นอย่างชัดเจน สามารถทำเวลาเบียดกับสปอร์ทคูเปที่มีขนาดใหญ่กว่าด้วยซ้ำ ยิ่งผนวกเข้ากับเกียร์กึ่งอัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 จังหวะ แบบ "POWERSHIFT" ทำให้การส่งกำลังต่อเนื่อง และลื่นไหลด้วยข้อจำกัดบางอย่าง เราไม่สามารถวัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ เอส 60 ได้ จากตัวเลขที่ผู้ผลิตระบุมาโดยเฉลี่ย คือ 12.04 กม./ลิตร กับมาตรฐานไอเสียระดับ ยูโร 5 ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ สำหรับเครื่องยนต์ระดับนี้
ระบบรองรับ 5 ดาว
อารมณ์กลางๆ ความปลอดภัยจัดเต็ม
แม้รูปทรงภายนอก และการตอบสนองของเครื่องยนต์ในบางช่วง จะทัดเทียมรถสปอร์ท แต่บุคคลิกขณะขับขี่ยังเผื่อเหลือให้ความสะดวกสบาย พวงมาลัยมีน้ำหนักปานกลาง แต่การตอบสนองจะไม่ฉับไวมาก เหมาะกับการบังคับเลี้ยวที่ค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ช่วงล่างยังให้ความรู้สึกกึ่งกลางระหว่างความหนึบของ บีเอมดับเบิลยู และความนุ่มสบายของ เมร์เซเดส-เบนซ์
เราได้ทำการทดสอบระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (PASSIVE SAFETY) ที่น่าสนใจ และความแตกต่างจากคู่แข่งเจ้าอื่นๆ นั่นคือ ระบบเตือนเพื่อป้องกันการชน และช่วยในการหยุดรถแบบเต็มแรงเบรคพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (COLLISION WARNING WITH FULL AUTO BRAKE AND PEDESTRAIN DETECTION) งานนี้ทาง โวลโว ถึงกับส่งตุ๊กตายางสำหรับการทดสอบมาให้ลองโดยเฉพาะ
เราขับรถที่ความเร็วคงที่ 30 กม./ชม. แล่นตรงตามถนนเรื่อยๆ โดยมีหุ่นยางวางตรงกลางเลนเสมือนคนข้ามถนน จนกระทั่งระยะห่างประมาณ 5-6 ม. ระบบสัญญาณไฟเตือนก็กะพริบขึ้นมา (ไฟ แอลอีดี สีแดง สะท้อนกระจกบังลมหน้า) พร้อมกับเสียงเตือน แต่เรายังคงรักษาความเร็วคงที่เอาไว้ โดยไม่แตะเบรค เมื่อเข้าใกล้ระยะ 3-4 ม. ระบบค่อนข้างแน่ใจแล้วว่า ไม่มีการชะลอความเร็วแน่ๆ จึงทำการเบรคโดยอัตโนมัติอย่างกะทันหัน จนกระทั่งรถหยุดสนิท ห่างจากหุ่นยางทดสอบไป 1.5-2 ม. เท่านั้น ดูเป็นระยะที่เฉียดฉิวมาก แต่ระบบแสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถใช้งานได้จริง
การเบรคอัตโนมัติจนกระทั่งหยุดสนิท ยังถูกนำมาใช้กับระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ (CITY SAFETY) โดยจะตรวจจับรถคันหน้าหากเคลื่อนตัวช้าลงจนกระทั่งหยุดสนิท ระบบก็สามารถชะลอความเร็ว และหยุดรถได้สนิทเช่นกัน หากเข้าใกล้ระยะอันตรายเหมือนกับระบบก่อนหน้านี้
ถัดมาคือระบบครูสคอนทโรลแบบปรับความเร็ว และระยะห่างจากคันหน้า (ADAPTIVE CRUISE CONTROL WITH QUEUE ASSIST & DISTANCE ALERT) เริ่มจากการตั้งค่าความเร็วตามที่ต้องการ และขับบนทางหลวง หากมีรถคันหน้าที่ขับช้ากว่า และเราเข้าใกล้ในระยะทำการของระบบ (สามารถตั้งระยะห่างกับคันหน้าได้จากปุ่มด้านซ้ายบนพวงมาลัย) รถจะชะลอความเร็วลงโดยอัตโนมัติ จนกระทั่งเท่ากันกับรถคันหน้า และขับต่อท้ายแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่ารถคันหน้าจะหลบออกจากระยะตรวจจับของเรดาห์ หรือเราเปลี่ยนเลนออกจากรถคันดังกล่าว ระบบครูศคอนทโรลจะค่อยๆ เพิ่มความเร็วอีกครั้ง จนกระทั่งถึงความเร็วที่เราตั้งเอาไว้ในทีแรก ทั้งหมดที่ว่ามา คือ ระบบอัตโนมัติที่ผู้ขับไม่ต้องออกแรงเบรค หรือเหยียบคันเร่งช่วยแต่อย่างใด
ระบบความปลอดภัยล้ำหน้า แต่ลองหันมาดูความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน ของระบบเบรคกันบ้าง ที่ความเร็ว 60, 80 และ 100 กม./ชม. โวลโว เอส 60 ทำระยะเบรคได้ 14.4, 25.0 และ 40.1 ม. ตามลำดับ ถือว่าเป็นระยะเบรคในระดับ "ดีมาก" ทุกย่านความเร็ว ถือว่ารถคันนี้อัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมรอบคันทีเดียว
สรุป
สปอร์ทซีดานไว้ใจได้ ทั้งการป้องกัน และปกป้อง
โวลโว ยังคงรักษามาตรฐานระบบความปลอดภัยที่เป็นเหมือน จุดเด่น ของรถยี่ห้อนี้ มาแต่ไหนแต่ไร แม้แต่กับ เอส 60 ซีดานขนาดกลาง กับราคาค่าตัว 2,990,000 บาท ถือว่าไม่แพงเลย (สำหรับคนที่มีงบมากพอ) ด้วยทรวดทรงที่สวยงาม สะดุดตา ภายในห้องโดยสารให้ความสะดวกสบาย พร้อมสมรรถนะที่ขับสนุกอย่างน่าพอใจ และระบบความปลอดภัยที่ชาญฉลาด สามารถทำงานโดยอัตโนมัติอย่างแท้จริงตามที่เราพิสูจน์มาแล้วในการทดสอบครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญเหนือระบบความปลอดภัยที่ล้ำหน้า คือ การขับขี่อย่างระมัดระวัง และมีสติอยู่กับตัวเสมอของผู้เป็นเจ้าของรถนี้ ไม่เช่นนั้นแล้ว คงไม่มีระบบความปลอดภัยใดๆ จะช่วยเหลือเราได้ หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินกว่าจะแก้ไข
ข้อมูลจำเพาะ โวลโว เอส 60
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท โวลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2319-9820
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,628/1,865/1,484
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,588/1,585
ฐานล้อ (มม.) 2,776
น้ำหนัก (กก.) 1,586
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 68
เครื่องยนต์
แบบ เบนซิน เทอร์โบ 4 สูบ
ความจุ (ซีซี) 1,999
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 87.5/83.1
อัตราส่วนกำลังอัด 10.0:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 203/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 30.6/1,750-4,000
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) กึ่งอัตโนมัติ 6
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี อีบีเอ
หน้า จาน
หลัง จาน
ราคา (บาท) 2,990,000
อัตราเร่ง (วินาที) โวลโว เอส60
0-60 กม./ชม. 4.8
0-80 กม./ชม. 7.0
0-100 กม./ชม. 9.7
0-120 กม./ชม. 12.8
0-140 กม./ชม. 16.7
0-160 กม./ชม. 22.1
0-180 กม./ชม. 29.3
0-400 ม. ที่ความเร็ว กม./ชม. 16.9/140.8
0-1,000 ม. ที่ความเร็ว กม./ชม. 30.2/182.8
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
60-100 กม./ชม. 4.9
80-120 กม./ชม. 5.7
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม. 14.4/0.98
80-0 กม./ชม. 25.0/1.01
100-0 กม./ชม. 40.1/0.98
ระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง)
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม.
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม.
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม.
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม.
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม.
ความคลาดเคลื่อนของมาตรวัดความเร็ว (กม./ชม.)
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 57
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 78
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 98
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 117
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. 138
หมายเหตุ: รถใหม่
เรื่องโดย : ภูเขม หน่อสวรรค์ poukhem@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : ทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/29718