ซีดาน หรือ แฮทช์แบค ? ทางเลือกชวนปวดหัวของคนเน้นฟังค์ชันมากกว่าดีไซจ์น ทดลองเปรียบเทียบการใช้งาน และทดสอบความต่างทั้งสมรรถนะ และความประหยัด

ซีดาน หรือ แฮทช์แบค ? ทางเลือกชวนปวดหัวของคนเน้นฟังค์ชันมากกว่าดีไซจ์น ทดลองเปรียบเทียบการใช้งาน และทดสอบความต่างทั้งสมรรถนะ และความประหยัด รถ 4 ประตู ซีดาน เป็นรถที่ชาวเอเชีย โดยเฉพาะคนไทยเรานิยมใช้กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เมื่อใครพูดถึงรถ “เก๋ง” สมองของเราจะรีบสั่งการวาดภาพของรถ ซีดาน ทรง 3 กล่องขึ้นมาเป็นลำดับแรก รถ 5 ประตู แฮทช์แบค มักนิยมใช้ในฟากฝั่งยุโรปมากกว่า จากเหตุผลที่ “เขาเล่าว่า” เพราะประเทศแถบนั้นมี ตรอก ซอกซอย ยุบยับ ถนนก็ทั้งเล็กทั้งแคบ จึงหาที่จอดยาก รถที่ใช้จึงต้องมีมิติที่สั้นไว้ก่อน แม้รถซีดานจะเป็นที่นิยมชมชอบของคนใช้รถบ้านเรามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ตาม แต่วันนี้กระแสรถแฮทช์แบค ในบ้านเราเริ่มมาแรงขึ้นเป็นลำดับ ไม่เชื่อลองดูยอดขายรถขนาด บี-เซกเมนท์ 4 รุ่นฮิท ตลอดปี 2553 ในบ้านเราดูก็ได้ ฮอนดา ซิที 48,853 คัน แจซซ์ 17,710 คัน/โตโยตา วีออส 67,309 คัน ยารีส 12,494 คัน/ฟอร์ด ฟิเอสตา ซีดาน...คัน แฮทช์แบค...คัน/มาซดา 2 ซีดาน 11,397 คัน แฮทช์แบค 11,137 คัน จากตัวเลข เห็นได้ชัดว่ามันแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกซีดาน ขายได้มากกว่าแฮทช์แบค หลายเท่า ได้แก่ เจ้าเก่าอย่าง โตโยตา และ ฮอนดา กับกลุ่ม 2 แฮทช์แบค ขายได้มากกว่า ซีดาน นิดหน่อย ได้แก่ ฟอร์ด และ มาซดา ที่เพิ่งเริ่มลุยตลาดเก๋งเล็กปีสองปีมานี่เอง กลุ่มตัวอย่างที่ยกมา พอจะทำให้เห็นถึงสัญญาณความนิยมชมชอบรถแฮทช์แบคในบ้านเราที่ชัดเจนขึ้น เป็นที่มาว่าปัจจุบันทำไมค่ายรถ จึงต้องมีตัวถังทั้ง 2 รูปแบบขายควบคู่กันเสมอ โดยเฉพาะรถเล็กๆ ประจำค่ายที่เรา เพิ่งยกตัวอย่างไป ทีนี้ปัญหาจึงเกิดขึ้นตอนที่เราจะเลือกซื้อรถใหม่สักคัน... ซีดาน หรือ แฮทช์แบค ดีล่ะ ? เรากำลังทำอะไร คอลัมน์นี้เป็นการทดลองเปรียบเทียบประโยชน์ใช้สอย และสมรรถนะของตัวอย่างรถ 4 คู่ ได้แก่ ฟอร์ด ฟิเอสตา ซีดาน และแฮทช์แบค/ฮอนดา ซิที และ แจซซ์/มาซดา 2 ซีดาน และแฮทช์แบค กับ โตโยตา วีออส และ ยารีส โดยตัด “อคติ” (BIAS) คือ เรื่องความชอบหรือไม่ชอบการดีไซจ์นระหว่างรถทั้ง 2 รูปแบบออกไป พูดง่ายๆ ก็คือ เราทดลองแต่เรื่อง ฟังค์ก์ชัน ส่วนเรื่อง ดีไซจ์น ไปตัดสินใจกันเอง ทั้งนี้ เราแบ่งการทดลองออกเป็น 4 คู่ ทดลองและทดสอบเปรียบเทียบกันเองระหว่าง ซีดาน และ แฮทช์แบค ในค่าย แต่ละคู่แบ่งออกเป็น 2 หัวข้อหลัก ได้แก่ ทดลองเปรียบเทียบประโยชน์ใช้สอย และทดสอบเปรียบเทียบสมรรถนะ สิ่งที่เราตั้งใจจะให้คุณได้จากการทดลองนี้ก็คือ การเป็นตัวช่วย และข้อมูลในการตัดสินใจเลือก ซีดาน หรือ แฮทช์แบค คันใหม่ของคุณ...แต่ถ้าใครอยากพลิกหน้ากระดาษไปมาเพื่อเปรียบเทียบระหว่างยี่ห้อ/ยี่ห้อ นั่นก็เป็นสิทธิ์ของคุณแล้วล่ะ อุปกรณ์ และบุคคลที่ใช้ทดลอง กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ กลาง และเล็ก กล่องกระดาษใบใหญ่มาก กว้างxยาวxสูง (มม.) = 610x810x650 กล่องกระดาษใบใหญ่ กว้างxยาวxสูง (มม.) = 525x645x530 ร่มสนาม ยาว (มม.) 2,350 นายแบบสูง (ซม.) 170 น้ำหนัก (กก.) 80 FORD FIESTA SEDAN VS HATCHBACK ข้อมูลพื้นฐาน: รถ 2 รุ่นนี้ ใช้โครงสร้างหลัก และวัสดุร่วมกัน 100 % ตั้งแต่กันชนหน้าจนถึงเสา บี ถัดจากนั้นเป็นต้นไป จึงมีความแตกต่างของโครงสร้างและเส้นสาย โดยยังคงความยาวระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,489 มม. ซีดาน ตัวถังยาว 4,291 มม. แฮทช์แบค ตัวถังยาว 3,950 มม. ประโยชน์ใช้สอย ความสบายของเบาะหลัง เมื่อทดลองโดยการให้นายแบบไปนั่งเบาะหลังฝั่งซ้าย พบว่า ระยะหัวเข่าจนถึงผนังด้านหลังเบาะหน้า (LEG ROOM) มีระยะเหลือเท่ากันเป๊ะ เลื่อนเบาะไปด้านหน้าสุด หัวเข้าห่างจากเบาะหน้า 260 มม. เลื่อนเบาะไปด้านหลังสุดเหลือ 50 มม. ส่วนระยะศีรษะจนถึงเพดานรถ (HEAD ROOM) เราพบว่าซีดานมีระยะเหลือเหนือศีรษะ (100 มม.) มากกว่าแฮทช์แบค (95 มม.) นิดเดียวจนแทบไม่มีความต่าง หัวข้อนี้เสมอกัน 1:1 ใส่ของใหญ่ ทดลองกับซีดาน ห้องสัมภาระไม่สามารถใส่กล่องทั้งขนาดใหญ่มาก และขนาดใหญ่ได้เลย จึงต้องเปิดประตูบานหลัง แล้วยัดกล่องเข้าไปโดยไม่ต้องพับเบาะ พบว่า กล่องใบใหญ่มากไม่สามารถใส่เข้าไปได้ แต่กล่องใบใหญ่ใส่ได้แบบคับๆ เพราะประตูบานหลังมีทางเข้าไม่กว้างสักเท่าไร เนื่องจากแนวหลังคาต่อเนื่องกระจกบานหลังลาดเท เหลือที่นั่งให้ผู้โดยสารตอนหลัง 1 คน ทดลองกับแฮทช์แบค จำเป็นต้องถอดแผงบังสิ่งของด้านหลังออก (ถอดง่าย) สามารถใส่กล่องใหญ่เข้าไปได้สบายๆ จากปากทางเข้าที่กว้าง 995 มม. และสูง 760 มม. กว่า ซีดาน (945/490 มม. ตามลำดับ) ผู้โดยสารนั่งกันได้ครบ แถมเมื่อพับเบาะหลังให้ราบ ยังสามารถใส่กล่องขนาดใหญ่มากเข้าจากประตูหลัง ตามด้วยกล่องขนาดใหญ่เข้าไปได้อีก แต่ต้องยอมสูญเสียพื้นที่นั่งด้านหลังไป และต้องเลื่อนเบาะหน้าทั้ง 2 ฝั่งไปข้างหน้าอีกนิดหน่อย หัวข้อนี้ แฮทช์แบค ชนะขาด 0:1 ใส่ของยาว ทั้ง 2 คัน สามารถพับเบาะหลังได้ทั้งคู่ ฉะนั้นจึงไม่มีปัญหากับการใส่ร่มสนาม ต่างกันตรงที่เมื่อพับเบาะไปแล้วซีดาน จะมีความยาวตั้งแต่คอนโซลจนถึงประตูบานท้ายมากกว่า พับเบาะด้านซ้ายเพียงด้านเดียว ก็สามารถใส่ร่มได้โดยไม่กินบริเวณไปถึงคันเกียร์ ประโยชน์อีกด้าน คือ ไม่เสียที่นั่งด้านหลังฝั่งขวา แต่แฮทช์แบคมีระยะคอนโซลจนถึงประตูบานท้ายสั้นกว่า ต้องพับเบาะลงราบทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อเอียงด้ามร่มไปที่เบาะซ้ายนิดหน่อย จึงจะปิดประตูหลังได้ และต้องสูญเสียที่นั่งเบาะหลังฝั่งขวาไปด้วย หัวข้อนี้ ซีดาน ชนะ 1:0 ใส่ของเยอะ ทดลองกับซีดาน สามารถใส่กระเป๋าเดินทาง 3 ใบได้สบายๆ แต่ต้องคอยหลบก้านฝากระโปรงหลังฝั่งซ้ายและขวานิดหน่อย แถมยังมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยให้ยัดของเล็กๆ ได้เป็นหย่อมๆ ส่วน แฮทช์แบค สามารถใส่กระเป๋าใบใหญ่และใบกลางได้ 2 ใบ เท่านั้น ยังพอมีที่เหลืออีกหน่อย ลองจัดวางแนวขวางก็แคบไป แนวยาวก็ล้นขอบประตู แนวตั้งวางได้ แต่ปิดประตูหลังไม่ได้เพราะชนกระจก เนื่องจากเสา ซี มีความลาดเอียงพอสมควร หัวข้อนี้ ซีดาน จึงชนะไปอีกแล้ว 1:0 ซีดานชนะ 3:2 5-6 สมรรถนะและความประหยัด HONDA CITY VS JAZZ ข้อมูลพื้นฐาน : ด้านโครงสร้างตัวถัง รถ 2 คันนี้ ใช้พื้นฐานร่วมกันเพียงพื้นตัวถัง (PLAT FROM) เท่านั้น ภายในและภายนอกมีความแตกต่างกันเกือบ 100 % (ไม่ใช่ แฮทช์แบค “ต่อตูด” ให้เป็น ซีดาน) ระยะฐานล้อยังยืดยาวต่างกัน ซิที 2,550 มม. แจซซ์ 2,500 มม. ตัวถัง ซิที ยาว 4,395 มม. แจซซ์ ยาว 3,915 มม. ประโยชน์ใช้สอย ความสบายของเบาะหลัง เมื่อทดลองโดยการให้นายแบบไปนั่งเบาะหลังฝั่งซ้าย พบว่า เลกรูม ของ ซิที มีมากกว่า แจซซ์ เฉลี่ย 50 มม. เลื่อนเบาะไปด้านหน้าสุด ซิที หัวเข่าห่างจากเบาะหน้า 365 มม. แจซซ์ 310 มม. เลื่อนเบาะไปด้านหลังสุด ซิที เหลือ 115 มม. แจซซ์ 70 มม. เฮดรูม ซิที มีระยะเหลือ 60 มม. น้อยกว่า แจซซ์ ที่เหลือถึง 150 มม. มากกว่ากันถึง 90 มม. หมายความว่า เลกรูม ซิที มีให้มากกว่า แต่ เฮดรูม แจซซ์ กลับมากกว่า หัวข้อนี้จึงเสมอกัน 1:1 ใส่ของขนาดใหญ่ ทดลองกับ ซีดาน ห้องสัมภาระไม่สามารถใส่กล่องทั้งขนาดใหญ่มาก และขนาดใหญ่ได้เลย จึงต้องเปิดประตูบานหลังแล้วใส่กล่องเข้าไปโดยไม่ต้องพับเบาะ พบว่า กล่องใบใหญ่มากไม่สามารถใส่เข้าไปได้ แต่กล่องใบใหญ่ใส่ได้แบบสบายๆ เนื่องจากประตูบานหลังมีขนาดใหญ่ ทางเข้ากว้างมาก (เปิดได้กว้างเกือบ 90 องศา) เหลือที่นั่งให้ผู้โดยสารตอนหลัง 1 คน ทดลองกับ แฮทช์แบค แจซซ์ ไม่มีแผงบังสิ่งของด้านหลังแบบ แฮทช์แบค คันอื่นๆ เพราะส่วนท้ายใหญ่โตแทบจะกลายเป็นรถแวกอนไปแล้ว สามารถใส่กล่องใหญ่เข้าไปได้สบายๆ จากปากทางเข้าที่กว้าง 1,090 มม. และสูง 850 มม. ทั้งเบาะยังสามารถพับราบให้เป็นแนวเดียวกับพื้นห้องสัมภาระที่เตี้ยมาก ห้องสัมภาระกว้างและสูงกว่า ซีดาน (1,060/450 มม. ตามลำดับ) จึงสามารถเพิ่มพื้นที่จุของได้มากที่สุดใน แฮทช์แบค ขนาดเล็กทุกรุ่น ผู้โดยสารนั่งกันได้ครบ แถมเมื่อพับเบาะหลังลงราบ ยังสามารถใส่กล่องขนาดใหญ่มากเข้าไปจากประตูหลัง ตามด้วยกล่องขนาดใหญ่เข้าไปได้อีก โดยไม่ต้องเลื่อนเบาะหน้าไปด้านหน้าจนชิดเหมือน แฮทช์แบค รุ่นอื่นๆ จัดที่ทางดีๆ เสียพื้นที่นั่งด้านหลังไป 2 คน เหลือยังนั่งได้ 1 คนอีกต่างหาก หัวข้อนี้ แฮทช์แบค ชนะขาดลอย 0:1 ใส่ของยาว ทั้ง 2 คัน สามารถพับเบาะหลังและมีห้องโดยสารที่ยาวทั้งคู่ จึงไม่มีปัญหากับการใส่ร่มสนาม แม้ ซิที จะมีความยาวตั้งแต่คอนโซลจนถึงประตูบานท้ายมากกว่าก็ตาม แต่ทั้ง 2 คัน ก็สามารถพับเบาะด้านซ้ายเพียงด้านเดียว แล้วใส่ร่มได้โดยไม่กินบริเวณไปถึงคันเกียร์ และไม่ต้องเสียที่นั่งด้านหลังฝั่งขวา หัวข้อนี้จึงเสมอกัน 1:1 ใส่ของเยอะ ทดลองกับ ซิที สามารถใส่กระเป๋าเดินทาง 3 ใบได้สบายๆ แถมยังมีพื้นที่เหลือไว้ใส่ของได้อีกเพียบ แม้ต้องคอยหลบก้านฝากระโปรงหลังฝั่งซ้ายและขวาก็ตาม โดย ซิที ออกแบบให้ลำโพงหลังย้ายไปอยู่ที่ประตูหลัง จึงทำให้ห้องสัมภาระมีส่วนสูงขึ้นอีก ส่วน แจซซ์ สามารถใส่กระเป๋าใบใหญ่ และใบกลางได้ 3 ใบเช่นกัน ซึ่งเป็นรุ่นเดียวของแฮทช์แบค ที่เรานำมาทดลองที่ทำได้ เนื่องจาก แจซซ์ มีแนวเสาประตูหลังที่ไม่ลาดเอียงจนแทบจะเป็นทรงตั้งด้วยซ้ำไป จึงทำให้ไม่ต้องพะวงกับการปิดประตูหลังไม่ได้เพราะชนกระจก แต่มันก็แทบจะไม่เหลือที่ให้ใส่อะไรอีกแล้ว หัวข้อนี้ ซีดาน จึงชนะ 1:0 เสมอกัน 3:3 8-10 สมรรถนะและความประหยัด MAZDA 2 SEDAN VS HATCHBACK ข้อมูลพื้นฐาน: รถ 2 รุ่นนี้ ใช้โครงสร้างหลัก และวัสดุร่วมกันเกือบ 100 % ตั้งแต่กันชนหน้าจนถึงเสา บี ถัดจากนั้นเป็นต้นไป จึงมีความแตกต่างของโครงสร้างและเส้นสาย โดยยังคงความยาวระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,490 มม. ซีดาน ตัวถังยาว 4,244 มม. แฮทช์แบค ตัวถังยาว 3,913 มม. ประโยชน์ใช้สอย ความสบายของเบาะหลัง เมื่อทดลองโดยการให้นายแบบไปนั่งเบาะหลังฝั่งซ้าย พบว่าเลกรูมของซีดาน มีมากกว่าแฮทช์แบค เฉลี่ย 13 มม. เลื่อนเบาะไปด้านหน้าสุด ซีดาน หัวเข่าห่างจากเบาะหน้า 345 มม. แฮทช์แบค 325 มม. เลื่อนเบาะไปด้านหลังสุด ซีดาน เหลือ 85 มม. แฮทช์แบค 80 มม. เฮดรูม ซีดาน มีระยะเหลือ 90 มม. มากกว่าแฮทช์แบค ที่เหลือเพียง 40 มม. ต่างกัน 50 มม. เนื่องจากรูปทรงของ มาซดา 2 แฮทช์แบค ออกแบบให้เป็นแนวสปอร์ท และระยะที่ว่านี้ยังเหลือน้อยที่สุดในแฮทช์แบค ขนาดเล็กที่ขายในตลาดด้วย ฉะนั้น หัวข้อนี้ ซีดานจึงชนะไป 1:0 ใส่ของใหญ่ ทดลองกับซีดาน ห้องสัมภาระไม่สามารถใส่กล่องทั้งขนาดใหญ่มาก และขนาดใหญ่ได้ จึงต้องเปิดประตูบานหลังแล้วยัดกล่องเข้าไปโดยไม่พับเบาะ พบว่า กล่องใบใหญ่มาก ไม่สามารถใส่เข้าไปได้ แต่กล่องใบใหญ่ใส่ได้แบบฟิทมาก เนื่องจากประตูบานหลังมีทางเข้าไม่กว้าง เพราะออกแบบให้เป็นทรงสปอร์ท เมื่อเอากล่องใส่ไปแล้วยังเหลือที่นั่งให้ผู้โดยสารตอนหลังนั่งได้ 1 คน ทดลองกับแฮทช์แบค ถอดแผงบังสิ่งของด้านหลังออก สามารถใส่กล่องใหญ่เข้าไปได้สบายๆ จากปากทางเข้าที่กว้าง 1,020 มม. และสูง 860 มม. มากกว่า ซีดาน (960/490 มม. ตามลำดับ) ผู้โดยสารนั่งกันได้ครบ ทดลองพับเบาะหลังให้ราบ ยังสามารถใส่กล่องขนาดใหญ่มากเข้าไปจากประตูหลัง ตามด้วยกล่องขนาดใหญ่เข้าไปได้อีก แต่ต้องยอมสูญเสียพื้นที่นั่งด้านหลังไป และต้องเลื่อนเบาะหน้าทั้ง 2 ฝั่งไปข้างหน้าอีกนิดหน่อย หัวข้อนี้ แฮทช์แบค ชนะ 0:1 ใส่ของยาว ทั้ง 2 คัน สามารถพับเบาะหลังได้ทั้งคู่ ฉะนั้นจึงไม่มีปัญหากับการใส่ร่มสนาม ต่างกันตรงที่เมื่อพับเบาะไปแล้ว ซีดาน จะมีความยาวตั้งแต่คอนโซลจนถึงประตูบานท้ายมากกว่า พับเบาะด้านซ้ายเพียงด้านเดียว ก็สามารถใส่ร่มได้โดยไม่กินบริเวณไปถึงคันเกียร์ ประโยชน์อีกด้าน คือ ไม่เสียที่นั่งด้านหลังฝั่งขวา แต่ แฮทช์แบค มีระยะคอนโซลจนถึงประตูบานท้ายสั้นกว่า ต้องพับเบาะลงราบทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อเอียงด้ามร่มไปที่เบาะซ้ายนิดหน่อย จึงจะปิดประตูหลังได้ และต้องสูญเสียที่นั่งเบาะหลังฝั่งขวาไปด้วย หัวข้อนี้ ซีดาน ชนะ 1:0 ใส่ของเยอะ ทดลองกับซีดานสามารถใส่กระเป๋าเดินทาง 3 ใบได้สบายๆ และไม่ต้องหลบก้านฝากระโปรงหลังฝั่งซ้ายและขวา เนื่องจากระบบเปิดฝากระโปรงหลังของ มาซดา 2 ซีดาน เป็นแบบบานพับ พร้อมชอคอับแบบรถยุโรป ซึ่งไม่มีส่วนใดเข้าไปเกะกะภายในห้องสัมภาระแม้แต่น้อย แถมยังมีพื้นที่เหลืออีกพอสมควรให้ยัดของเล็กๆ น้อยๆ ส่วนแฮทช์แบคสามารถใส่กระเป๋าใบใหญ่ และใบกลางได้ 2 ใบ เท่านั้น พื้นที่เหลือน้อยมาก เนื่องจากรูปทรงสปอร์ท เสา ซี จึงมีความลาดเอียงมากมาย หัวข้อนี้ ซีดาน จึงชนะไปอีก 1:0 ซีดานชนะ 3:1 13-14 สมรรถนะและความประหยัด TOYOTA VIOS VS YARIS ข้อมูลพื้นฐาน: ด้านโครงสร้างตัวถัง รถ 2 คันนี้ ใช้ พแลทฟอร์ม เดียวกัน แต่ภายในและภายนอกมีความแตกต่างกันมากกว่า 80 % แต่ก็ไม่ใช่ แฮทช์แบค ที่เอาไป “ต่อตูด” ให้เป็น ซีดาน แน่นอน ระยะฐานล้อยังยืดยาวต่างกัน วีออส 2,550 มม. ยารีส 2,460 มม. ตัวถัง วีออส ยาว 4,300 มม. แจซซ์ ยาว 3,785 มม. ประโยชน์ใช้สอย ความสบายของเบาะหลัง เมื่อทดลองโดยการให้นายแบบไปนั่งเบาะหลังฝั่งซ้าย แปลกใจที่พบว่า เลกรูม ของ ซีดาน มีน้อยกว่า แฮทช์แบค เฉลี่ย 50 มม. ทั้งที่ฐานล้อยาวกว่า ซึ่งอาจเป็นผลจากการออกแบบเบาะนั่งที่ต่างกัน และ ยารีส กระเถิบเบาะหลังออกไปได้ไกลกว่า จนเหลือที่ใส่สัมภาระไม่มากก็เป็นได้ เลื่อนเบาะไปด้านหน้าสุด วีออส หัวเข่าห่างจากเบาะหน้า 380 มม. ยารีส 390 มม. เลื่อนเบาะไปด้านหลังสุด วีออส เหลือ 120 มม. ยารีส 130 มม. เฮดรูม ซีดาน มีระยะเหลือ 70 มม. น้อยกว่า แฮทช์แบค ที่เหลือ 90 มม. ต่างกัน 20 มม. ทั้งนี้รางเลื่อนเบาะของ โตโยตา ทั้ง 2 คันนี้ ออกแบบมายาวกว่ารถรุ่นอื่น จึงสามารถเลื่อนไปด้านหน้า และถอยมาด้านหลังได้มากกว่าใครเพื่อน หัวข้อนี้ แฮทช์แบค ชนะไป 0:1 ซะงั้น ใส่ของใหญ่ ทดลองกับ วีออส ห้องสัมภาระไม่สามารถใส่กล่องทั้งขนาดใหญ่มาก และขนาดใหญ่ได้ จึงต้องเปิดประตูบานหลังแล้วยัดกล่องเข้าไปโดยไม่พับเบาะ พบว่า กล่องใบใหญ่มากไม่สามารถใส่เข้าไปได้ แต่กล่องใบใหญ่ใส่ได้แบบสบาย เนื่องจากประตูบานหลังใหญ่และเปิดได้กว้างพอสมควร เมื่อเอากล่องใส่ไปแล้ว ยังเหลือที่นั่งให้ผู้โดยสารตอนหลังนั่งได้ 1 คน ทดลองกับ ยารีส ถอดแผงบังสิ่งของด้านหลังออก สามารถใส่กล่องใหญ่เข้าไปได้สบายๆ จากปากทางเข้าที่กว้าง 1,120 มม. ซึ่งแคบกว่า วีออส ที่กว้าง 1,150 มม. แต่ ยารีส มีความสูงของปากทางมากกว่า คือ 830 มม. ส่วน วีออส สูงเพียง 510 มม. ผู้โดยสารนั่งกันได้ครบ ทดลองพับเบาะหลังให้ราบ ยังสามารถใส่กล่องขนาดใหญ่มากเข้าไปจากประตูหลัง ตามด้วยกล่องขนาดใหญ่เข้าไปได้อย่างลำบากยากเย็น เนื่องจากพื้นห้องสัมภาระตื้นกว่า แฮทช์แบค รุ่นอื่น และตัวรถสั้น และต้องยอมสูญเสียพื้นที่นั่งด้านหลังไป ทั้งต้องเลื่อนเบาะหน้าทั้ง 2 ฝั่งไปข้างหน้าอีกนิดหน่อย อย่างไรก็ตามหัวข้อนี้ แฮทช์แบค ก็ยังชนะไป 0:1 ใส่ของยาว วีออส ไม่สามารถพับเบาะหลังลงมาได้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นล่าง หรือรุ่นทอพก็ตาม ฉะนั้น จึงไม่สามารถใส่ร่มสนามเข้าไปได้ ส่วน ยารีส พับเบาะได้ แต่มีระยะคอนโซลจนถึงประตูบานท้ายสั้นมาก เนื่องจากตัวรถสั้นที่สุดในกลุ่ม ต้องพับเบาะลงราบทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อเอียงด้ามร่มไปที่เบาะซ้ายมากพอสมควรจึงจะปิดประตูหลังได้ และกินพื้นที่คนนั่งเบาะหน้าฝั่งซ้ายนิดหน่อย ทั้งยังต้องสูญเสียที่นั่งเบาะหลังฝั่งขวาไปด้วย อย่างไรก็ตาม หัวข้อนี้ ยารีส ก็ยังชนะอีก 0:1 ใส่ของเยอะ ทดลองกับ วีออส สามารถใส่กระเป๋าเดินทาง 3 ใบแบบเกือบไม่ได้ เพราะห้องสัมภาระจุน้อยกว่า ซีดานรุ่นอื่นอย่างเห็นได้ชัด สิ่งสำคัญ คือ ต้องพยายามให้กระเป๋าหลบก้านฝากระโปรงหลังฝั่งซ้ายและขวาให้ได้ ซึ่งลำบากพอสมควรกว่าจะปิดฝากระโปรงหลังได้ แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ให้ใส่ของเล็กๆ ได้เป็นหย่อมๆ ส่วน ยารีส หากใส่กระเป๋าใบใหญ่ จะใส่ได้เพียงใบเดียว แต่ถ้าต้องการใส่ 2 ใบ สามารถใส่กระเป๋าใบกลาง และใบเล็กได้ ยังพอมีที่เหลือน้อยมาก หัวข้อนี้ ซีดาน จึงกลับมาชนะไปได้ 1:0 แฮทช์แบค ชนะ 1:3 17-18 สมรรถนะและความประหยัด อภิปราย และสรุปผลการทดลองกันดีกว่า จากการทดลองเปรียบเทียบประโยชน์ใช้สอย และทดสอบเปรียบเทียบสมรรถนะ สามารถอภิปราย และสรุปผลได้ดังนี้ ด้านประโยชน์ใช้สอย: ซีดาน 4 หัวข้อการทดลองของทั้ง 4 คู่ มีคะแนนเต็มทั้งสิ้น 16 คะแนน ซีดาน ทำได้ 10 คะแนน ส่วน แฮทช์แบค ทำได้ 9 คะแนน ต่างกันเพียงคะแนนเดียว แม้เราจะให้ ซีดาน ชนะ แต่ แฮทช์แบค ก็ทำผลงานได้สูสี ตัวเลขต่างกันไม่เท่าไร จึงถือได้ว่า “เกือบเสมอ” โดยแต่ละหัวข้อที่ทดลอง สามารถอภิปรายได้ ดังนี้ ความสบายของเบาะหลัง (เสมอ 3:3) ซีดาน และ แฮทช์แบค ของ ฟอร์ด และ มาซดา มี ระยะฐานล้อที่ไม่แตกต่างกัน จึงทำให้พื้นที่เลกรูมแทบไม่ต่างกัน แต่ ซีดาน ของ ฮอนดา และ โตโยตา มีการยืดระยะฐานล้อออกไปอีก จึงทำให้เลกรูมเพิ่มขึ้น แต่ก็มีเรื่องเดียวที่นอกตำรา คือ ยารีส มีเลกรูมมากกว่า วีออส นิดหน่อย อาจเป็นเพราะการออกแบบภายในที่ต่างออกไป ส่วน เฮดรูม มีความแตกต่างกันตามลักษณะของการออกแบบว่าจะมุ่งเน้นไปที่ความเป็นสปอร์ท หรือความอเนกประสงค์ หัวข้อนี้ คะแนนจึงออกมาเสมอกัน หัวข้อนี้ต้องพิจารณาเป็นคันๆ ว่าคุณต้องการ เลกรูม หรือ เฮดรูม และรูปแบบเบาะว่านั่งสบายแค่ไหน บางคันอาจเหลือพื้นที่เยอะ แต่เบาะนั่งไม่สบายก็มีถมไป ใส่ของใหญ่ (แฮทช์แบค ชนะ 0:4) แม้ ซีดาน จะมีห้องสัมภาระที่จุกว่าแฮทช์แบคทั้งสิ้น แต่ด้วย “ปากทาง” ที่แคบกว่า จึงทำให้ไม่สามารถใส่ของใหญ่ๆ ได้เหมือนแฮทช์แบค ฉะนั้น ถ้าคุณไม่มีรถพิคอัพ หรือรถตู้ และต้องการขนของใหญ่ๆ เป็นประจำแฮทช์แบค ก็อเนกประสงค์ เป็นทางเลือกที่ดีที่ถูกต้องอย่างเอกฉันท์ ใส่ของยาว (ซีดานชนะ 3:2) สำหรับ ซีดาน ที่พับเบาะหลังได้ มีความได้เปรียบตรงที่ระยะตั้งแต่คอนโซลมาถึงฝากระโปรงท้ายยาวกว่าแฮทช์แบค จึงสามารถใส่ของยาวโดยเกะกะคนขับน้อยกว่า และไม่เสียพื้นที่เบาะหลังทั้งหมดเหมือนแฮทช์แบค ซึ่งสามารถพับเบาะได้ทุกรุ่น ฉะนั้น อยากใส่ของยาวๆ ได้สะดวก เลือก ซีดาน ที่พับเบาะหลังได้ ใส่ของเยอะ (ซีดานชนะ 4:0) ถึงจะเป็น ซีดาน ขนาดเล็ก แต่รถยุคใหม่ก็ให้ห้องสัมภาระกว้างขวางใหญ่โตกันเกือบทั้งสิ้น นอกจากจุมากกว่าแฮทช์แบค เห็นๆ ข้อสำคัญที่คนไทยไม่ควรมองข้าม ก็คือ ความเป็นสัดส่วนระหว่างห้องโดยสารกับสัมภาระ และความที่มันเป็น “รถจ่ายกับข้าว” ใครใช้ก็รู้ว่า ซีดาน เก็บกลิ่นกว่าเป็นไหนๆ (แม้ยังมีเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารบ้างก็เถอะ) ฉะนั้น ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องบรรทุกสัมภาระบ่อยๆ มีของจุกจิกเยอะแยะ ซีดาน เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุด ด้านสมรรถนะ สรุปได้ว่า ด้านประโยชน์ใช้สอย ซีดาน ยังเด่นกว่า แฮทช์แบค นิดหน่อย ส่วน ด้านสมรรถนะถือว่าไม่แตกต่าง...