ทดสอบ
สปอร์ทเล็ก ขับเท่ แต่งแข่ง
บริษัท นิช คาร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายสปอร์ทเล็ก โลทัส (LOTUS) จากประเทศอังกฤษ จัดงานทดลองขับ เอกซีจ คัพ 260 (EXIGE CUP 260) พร้อมแนะนำ เอลิส (ELISE) รุ่นปี 2011 กับ เอโวรา (EVORA) สปอร์ทแบบ 2+2 ที่นั่ง เจ้าของรางวัล CAR PERFORMANCE OF THE YEAR ปีที่แล้วเอกซีจ คัพ โมเดลแรกของอนุกรม เกิดขึ้นในปี 2006 ด้วยรุ่น เอกซีจ คัพ 240 และในปี 2009 ก็มาเป็น เอกซีจ คัพ 260 ตัวแรก ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจาก เอกซีจ จีที ทรี (EXIGE GT3) คอนเซพท์ ที่เปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา 2007
ภายนอก
แต่งเต็มสูตร เบากว่าเดิม
โลทัส เอกซีจ คัพ 260 โมเดลล่าสุด มีกันชนหน้าที่ต่ำลงมา โดยการเสริมพาร์ทชายลิ้นหน้าสีดำขึ้นรูปด้วยคาร์บอน มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ 3 ช่อง เพื่อนำอากาศเข้าสู่แผงออยล์คูเลอร์ และสปอยเลอร์หลังใหม่ ที่มีความกว้าง 181 มม. ซึ่งกว้างกว่าเดิม และเปลี่ยนจากขายึดคู่กลางฝากระโปรงหลัง มาเป็น 2 ขาริมกระโปรงหลังซ้าย/ขวา เพื่อให้ตัวรถมีเสถียรภาพในช่วงความเร็วสูงได้ดีขึ้น ลดการลื่นไถล เพิ่มแรงกดตัวรถให้แนบพื้นผิวถนนมากขึ้น (DOWNFORCE) ซึ่ง โลทัส ให้ข้อมูลว่า แรงกดนี้คิดเป็นน้ำหนักถึง 42 กก. ที่ความเร็ว 160 กม./ชม.
โลทัส นำแผงจัดระเบียบการไหลกระแสลม หรือ แผงรีดลม (DIFFUSER) ซึ่งถูกพัฒนาต่อเนื่องจากรถแข่งมาใช้ โดยติดตั้งอยู่ที่ด้านท้ายใต้กันชนและแผงข้างหน้าซุ่มล้อหลัง
ถึงแม้ว่าจะเสริมแต่งใหม่หลายส่วน แต่การเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ช่วยให้ โลทัส เอกซีจ คัพ 260 มีน้ำหนักลดลงจากตัวเก่าถึง 38 กก.
ภายใน
ลดน้ำหนัก พร้อมแข่ง
โลทัส ไม่ได้หยุดอยู่แค่โครงสร้างน้ำหนักเบาเท่านั้น แต่ทุกชิ้นส่วนของตัวถัง สามารถเลือกลดน้ำหนักเฉพาะตามต้องการได้ เพื่อการนำรถไปลงสนามแข่ง เช่น ชุดคาร์บอนไฟเบอร์ (CARBON FIBER) ลดน้ำหนัก 12 กก. จากหลังคารถ เบาะคนขับและผู้โดยสาร แผงด้านบนของแดชบอร์ดแบบชิ้นเดียว และขายึดแผงสปอยเลอร์หลัง เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีชุดอุปกรณ์ลดน้ำหนักอีก 1 ชุด เช่น แบทเตอรี ฟลายวีล สำหรับแข่งขัน แผงกั้นห้องโดยสารด้านหลัง ติดตั้งแทนกระจก และท่อระบบอัดอากาศอลูมิเนียม ที่ลดน้ำหนักได้ถึง 22 กก.
เครื่องยนต์
แรง จัดจ้าน แต่ขับง่าย
เครื่องยนต์ 2ZZ-GE แบบ 4 สูบแถวเรียง VVTL-I วางกลางลำ ติดซูเพอร์ชาร์จ พร้อมอินเตอร์คูเลอร์ใหม่ให้กำลังสูงสุดถึง 260 แรงม้า ที่ 8,000 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พร้อมลิมิเทดสลิพ ซึ่งผู้ผลิตแจ้งตัวเลข อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 4.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 11.7 กม./ลิตร และอัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 199 ก./กม.
เท่าที่ได้ทดลองขับ 2 รอบ เอกซีจ คัพ 260 แรง และเร็วจริง สมราคาคุย หลังติดเบาะทุกครั้งที่กดคันเร่ง ทางตรงรถไปได้เกินร้อย และขับง่าย เพราะจังหวะการเปลี่ยนเกียร์เหมือนรถบ้านมากกว่ารถแข่ง
ระบบรองรับ
เกาะหนึบ แบบรถแข่ง
น้ำหนักรถเปล่าเพียง 890 กก. เสริมความหนึบแน่นด้วยชอคอับ OHLINS แบบปรับระดับได้ 2 ทิศทาง (ค่าความหนืดยุบตัว 60/ยืดตัว 20) และระบบช่วยการทรงตัว LOTUS LAUNCH CONTROL และ LOTUS TRACK TRACTION CONTROL ช่วยส่งกำลังสู่ล้อ และยาง ลดอาการล้อฟรีและท้ายปัดขณะออกตัว
เราสามารถใช้ความเร็วได้ถึง 60 กม./ชม. การขับในโค้งแคบๆ ของสนามแข่งโกคาร์ท PTT MOTOR SPORT (แดนเนรมิตเก่า) ได้ไม่ยาก และสนุกกับการขับไม่ต่างอะไรกับโกคาร์ท หลังคาปิดติดแอร์ระบบเบรคเป็นจานเบรค 4 ล้อ มีร่องระบายความร้อน คู่หน้าขนาด 308 มม. ทำงานร่วมกับคาลิเพอร์แบบ 4 สูบของ AP RACING แบบก้ามปู 2 ชิ้น คู่หลัง 282 มม. ใช้คาลิเพอร์ของ BREMBO ทำงานแบบเคลื่อนที่ไปมาของก้ามปูบังคับผ้าเบรคในคาลิเพอร์ (SLIDING CALIPER) ใช้ผ้าเบรค PAGID RS14 SPORT และมีระบบเอบีเอส แบบ 4 แชนแนล 4 เซนเซอร์ ป้องกันล้อลอคและระบบควบคุมการกระจายแรงเบรคด้วยอีเลกทรอนิคเข้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทำให้หยุดรถได้ในระยะสั้นและสามารถควบคุมได้แบบไม่ต้องใช้ทักษะระดับนักแข่งแต่อย่างใด
สรุป
รถสปอร์ทพร้อมแข่ง
โลทัส เอกซีจ คัพ 260 เป็นรถสปอร์ทเล็ก ที่ได้รับการปรับแต่งสมรรถนะให้พร้อมลงแข่งโดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติม อีกทั้งอุปกรณ์ทั้งหมดยังติดตั้งจากโรงงานและผ่านการรับรองจาก สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) เทียบกับราคา 5.9 ล้านบาทถือว่า พอสมน้ำสมเนื้อ
ข้อมูลจำเพาะ โลทัส เอกซีจ คัพ 260
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท นิช คาร์ จำกัด
โทร. 0-2379-4422
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,785/1,719/1,117
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,457/1,506
ฐานล้อ (มม.) 2,300
น้ำหนัก (กก.) 890
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 43.5
เครื่องยนต์
แบบ เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ซูเพอร์ชาร์จ
ความจุ (ซีซี) 1,796
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 82.0/85.0
อัตราส่วนกำลังอัด 11.5:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 260/8,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 24.1/6,000
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) ธรรมดา 6
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หลัง
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ ปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง อิสระ ปีกนกคู่
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง
ระบบห้ามล้อ
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน มีช่องระบายความร้อน
ราคา (บาท) 5,900,000
เรื่องโดย : ธนสาร เสาวมล thanasan@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน เมษายน ปี 2554
คอลัมน์ Online : ทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/29449